PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

โรงเรียนเป็นส่วนสำคัญของชีวิตเพราะมันช่วยให้คุณกำหนดได้ว่าคุณจะทำอะไรในอนาคต และการเรียนรู้วิธีเรียนที่ดีก็จะทำให้คุณอยู่ในจุดที่สามารถเรียนรู้ได้ดีไปตลอดชีวิต มีวิธีเพิ่มเกรดหลายวิธีที่จะทำให้คุณเรียนหนังสือดีขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กสอบตกที่ได้แต่ภาวนาให้เกรดดีขึ้น หรือเด็กไม่เอาไหนที่พยายามจะไปถึงจุดสุดท้ายให้ได้หรือแค่อยากจะก้าวไปจากจุดที่ได้คะแนนพอประมาณไปอยู่จุดที่ได้คะแนนสูงบ้างก็ตาม คำแนะนำง่ายๆ ต่อไปนี้อาจเป็นประโยชน์กับคุณ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 8:

เตรียมอุปกรณ์การเรียนให้พร้อม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณคงไม่ชอบความรู้สึกไม่พร้อมเวลาที่ต้องจดโน้ตโดยทันทีหรือถ้าจู่ๆ ก็มีสอบย่อยโผล่มาแล้วพบว่าคุณลืมเอาดินสอ/ปากกา/ยางลบมา และถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้คุณจะเสียเวลาและอาจจะพลาดข้อมูลสำคัญไปเลยก็ได้
  2. การจัดระเบียบจะช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้น ผ่อนคลายมากขึ้น และพร้อมสำหรับการหาและส่งงานได้ตรงเวลา มีหลายวิธีที่ช่วยให้คุณได้จัดระเบียบตัวเองและคุณควรหาวิธีที่เหมาะกับคุณที่สุดจะดีกว่า กุญแจสำคัญคือคุณต้องสามารถหาสิ่งที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการดึงข้อมูลและโน้ตต่างๆ ตั้งระบบเก็บสิ่งต่างๆ ให้เร็วที่สุดทั้งระบบการจัดไฟล์คอมพิวเตอร์ที่ดี ระบบจัดการแฟ้มเอกสารที่ดี และนโยบายจัดโต๊ะ (อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง) และตั้งเรียงหนังสือเรียน สมุด คู่มือ และหนังสืออ้างอิงที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อย
    • ใช้ปากกาไฮไลต์ แถบโพสต์อิตสีสันสดใน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ช่วยแปะป้ายและทำให้ของที่คุณจัดระเบียบไว้หาง่ายขึ้น ระบบสีได้ผลดีเยี่ยมกับหลายคน โดยเฉพาะคนที่ตารางเวลาแน่นเอี้ยดและคนที่ทนอ่านป้ายรายการหนังสือไม่ได้!
  3. เลือกปฏิทินที่ใส่ในแฟ้มสอดหรือแฟ้มห่วงของคุณได้เพื่อที่คุณจะได้ย้อนกลับไปดูได้ง่ายและหาเจอเมื่อต้องใช้ ในปฏิทินนี้ให้เขียนการสอบและการประเมินทั้งหมดลงไป และถ้าโรงเรียนของคุณมีเรียนวิชาต่างๆ ในวันที่ต่างกัน ก็ให้เขียนลงไปด้วย นอกจากนี้ให้เขียนโน้ตช่วงหรือเวลาทบทวนที่คุณจะเอาไว้ใช้ทำการบ้าน วิธีนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่าจะมีการสอบและเหตุการณ์อะไรมาถึงบ้าง เพื่อที่คุณจะได้ทบทวนและเตรียมตัวได้อย่างเต็มที่
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 8:

ตั้งเป้าหมาย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตั้งเป้าหมายระยะยาวหรือระยะสั้น . แม้ว่าคุณจะไม่รู้ว่าโตขึ้นจะอยากทำอะไรหรืออยากเข้ามหาวิทยาลัยไหน เป้าหมายของคุณอาจแค่เพื่อให้คุณมีโอกาสให้มากที่สุดก็ได้
  2. การเข้าเรียนสำคัญสำหรับการเรียน ถ้าคุณไม่เข้าเรียน เกรดของคุณจะตกลงอย่างรวดเร็วแน่นอนเพราะจะเกิดช่องว่างระหว่างเนื้อหาที่ย้อนกลับมาเติมได้ยาก ถ้าคุณป่วยจริงๆ หรือมีปัญหาอื่นที่ทำให้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ ให้พ่อ/แม่ ผู้ปกครอง หรือเพื่อนคุยกับครูเรื่องการทำงานย้อนหลังจากที่บ้าน
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 8:

เรียนรู้ทักษะ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. จดโน้ต . โน้ตจะช่วยกลั่นกรองข้อมูลในหัวของคุณและยังเป็นเครื่องมือทบทวนก่อนสอบที่สำคัญด้วย คุณต้องจดสิ่งสำคัญที่ครูพูดทุกอย่างลงไป ถ้าช่วยได้ให้ขอเอกสารประกอบการเรียนล่วงหน้าเพื่อที่คุณจะได้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ครูพูด ไม่ใช่แค่ลอกสิ่งที่อยู่บนกระดานลงไป ถ้าครูเขียนอะไรบางอย่างบนกระดานแล้วขีดเส้นใต้ เป็นไปได้ว่ามันสำคัญหรือไม่ก็ต้องออกข้อสอบในภายหลัง
  2. ตอบ/ถามคำถามอย่างน้อย 1 คำถามต่อคาบ . วิธีนี้จะทำให้ครูเห็นว่าคุณมีส่วนร่วมในชั้นเรียนอย่างจริงจัง แต่ที่มากไปกว่านั้นคือมันยังบังคับให้คุณต้องสนใจเรียนมากพอที่จะถาม/ตอบคำถามด้วย ซึ่งผลที่ตามมาคือคุณจะทำข้อสอบและสอบย่อยได้ดีกว่าเดิม ความสามารถในการถามคำถามเป็นทักษะที่คุณต้องใช้ไปตลอดชีวิต และเป็นสิ่งที่รับประกันว่าคุณจะสามารถย้อนกลับมาหาแรงบันดาลใจและความคิดที่คุณประสบพบเจอในสาขาวิชาชีพต่างๆ ได้
    • เวลาเลือกคำถามที่จะตอบ ต้องแน่ใจว่าคุณรู้คำตอบและคำถามไม่ได้ง่ายจนเกินไป อย่ากังวลว่าจะถามมากเกินไป เพราะมันเป็นหน้าที่ของครูที่จะต้องช่วยคุณอยู่แล้ว
    • บ่อยครั้งที่การมีส่วนร่วมในชั้นเรียนเป็นปัจจัยสำคัญของเกรด การยกมือครั้งสองครั้งในห้องเรียนไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณจำไว้ว่า เมื่อเป็นเรื่องของการเรียนในห้องเรียนแล้ว "คำถามโง่ๆ ไม่มีอยู่จริง" หลายครั้งที่คนอื่นก็สงสัยในสิ่งเดียวกันแต่ไม่กล้าพอที่จะถาม!
  3. อย่าแค่ถามคำถามหรือพูด แต่ให้เรียนรู้ที่จะฟังด้วย 80% ของคำถามที่คุณจะเจอในข้อสอบได้อธิบายไว้ในห้องเรียนแล้ว กุญแจสำคัญของการเข้าใจเนื้อหาหลายๆ อย่างที่ครูพูดในห้องเรียนนั้นมักจะมาจากการฟังคำอธิบายของครู
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 8:

การบ้านและการทบทวน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาที่เงียบๆ ที่ไม่มีสิ่งรบกวน ถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณอยู่ในห้องนอน ให้ย้ายไปข้างนอกหรือไปอีกห้องหนึ่ง อย่าอ่านหนังสือพร้อมกับเปิดวิทยุไปด้วย! เพราะมันอาจจะช่วยให้คุณเขียนอะไรได้เยอะก็จริง แต่พอถึงวันสอบแล้วสิ่งเดียวที่คุณจะจำได้คือเนื้อเพลง
    • จัดตาราง การกำหนดตารางของตัวเองช่วยให้คุณประหยัดเวลาสำหรับการศึกษา/อ่านทบทวนด้วยตัวเอง และยังทำให้คุณรู้อยู่เสมอว่ากำลังทำอะไรและจะต้องทำอะไรต่อ
    • จดโน้ตใหม่อีกครั้ง ใช่แล้ว มันอาจฟังดูน่าเบื่อและกินเวลามาก แต่มีการพิสูจน์แล้วว่ามันช่วยให้คุณจำสิ่งที่คุณเขียนลงไปได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาที่คุณอาจมีระหว่างเรียนในห้องด้วย
  2. แม้จะฟังดูเหมือนเป็นเครื่องทรมาน แต่การบ้านเป็นวิธีควบคุมและเสริมสร้างพัฒนาการนอกห้องเรียน ถึงมันจะไม่ได้ทำให้คุณสบายใจนักในคืนที่คุณต้องเขียนเรียงความ 2 ชิ้นและแก้โจทย์พีชคณิตก็เถอะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมทำการบ้านและตรวจสอบว่ามีงานเท่าไหร่ด้วย ถ้าคุณมีปัญหาร้ายแรงจริงๆ ให้พูดคุยกับครูและพ่อแม่เพื่อสร้างตารางทำการบ้านให้คุณ
  3. แทนที่จะทำหลายอย่างพร้อมกัน ให้แบ่งช่วงเวลาสำหรับทำการบ้าน พอหมดเวลาทำการบ้านแล้ว ก็ให้พัก 20-30 นาทีเพื่อไม่ให้สมองล้า พอหมดเวลาพักแล้วก็ค่อยกลับไปทำการบ้านให้เต็มที่ 100%
  4. ถ้าคุณมีเวลาทำโปรเจ็กต์ 2 สัปดาห์ แทนที่จะผัดไปจนถึง 3 วันสุดท้ายก่อนส่ง ให้เริ่มทำแต่เนิ่นๆ วิธีนี้จะทำให้คุณมีเวลามากพอที่จะวางแผน ค้นคว้า และตั้งคำถามเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ แล้วประสบการณ์การทำโปรเจ็กต์ทั้งหมดนี้จะเครียดน้อยลงมากเพราะคุณไม่ต้องเร่งทำให้เสร็จ นอกจากนี้คุณยังมีเวลาเหลือเฟือในการที่จะทำให้โปรเจ็กต์ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งก็หมายความว่าคุณจะได้เกรดดีขึ้น
  5. ทำแบบทดสอบก่อนสอบเพื่อให้เข้าใจมากขึ้นว่าคุณต้องกลับไปทบทวนเรื่องอะไร. แต่ก็ระวังให้ดีว่าการทำแบบทดสอบหลายสิบชุดเป็นวิธีทบทวนที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าการผสมผสานการทบทวน 1 หรือ 2 รูปแบบเข้าด้วยกัน
  6. ถ้าหลังจากวันหยุดคุณมีสอบและไม่ได้ทบทวนในช่วงวันหยุด สมองของคุณจะ ปิดการทำงาน และคุณจะลืมหลายเรื่องที่เรียนไปตอนก่อนวันหยุด ดังนั้นคุณจึงมีแนวโน้มที่จะสอบตกหรือทำได้ไม่ดี
    • นำหนังสือวิชาใหม่ๆ ตามระดับชั้นที่คุณจะต้องเรียนในเทอมหน้า เช่น เคมี และอ่านหรือไล่ดูอย่างละเอียด ดูที่ภาพประกอบ แผนภูมิ คำนิยาม และเรียนรู้สิ่งต่างๆ อย่างสัญลักษณ์ทางเคมี (C = คาร์บอน H = ไฮโดรเจน Zn = สังกะสี Au = ทอง Ag = เงิน) แล้วอ่านบทสรุปของแต่ละบท
    • ทำให้ช่วงปิดเทอมเป็นเหมือนวันสุดสัปดาห์ทั่วไป ใช่แล้ว คุณสามารถผ่อนคลายและสนุกสนานได้ แต่ให้ทบทวนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้งเพื่อที่คุณจะได้ไม่ลืมสิ่งที่เรียนไป
    • ขอให้พ่อแม่หรือเพื่อนๆ มานั่งข้างๆ แล้วทบทวนสิ่งที่คุณไม่ค่อยเข้าใจ หรือสิ่งที่คุณต้องจำแล้วนำมาท่อง
    โฆษณา
ส่วน 5
ส่วน 5 ของ 8:

ติวเป็นกลุ่ม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การทบทวนบทเรียนกับเพื่อนๆ ในเวลาว่างช่วยให้คุณมีสมาธิ
    • คุณต้องแน่ใจว่าคุณติวกับคนที่ช่วยให้คุณมีสมาธิจดจ่อ เพราะถ้าเป็นเรื่องของการติวเป็นกลุ่มแล้ว เวลาที่ใช้ไปกับการคุยเล่นแทนที่จะอ่านหนังสือถือเป็นเวลาที่เสียเปล่า
    • สำหรับบางคน การอ่านหนังสือเป็นกลุ่มอาจเป็นเรื่องยากเพราะเพื่อนจะคอยทำให้คุณวอกแวกจากการเรียน หรือคุณอาจจะเป็นคนที่อ่านหนังสือคนเดียวโดยไม่มีคนอื่นล้อมรอบได้ดีกว่า ซึ่งอย่ามองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะมันเป็นแค่ลักษณะส่วนบุคคล เช่น คุณอาจจะเป็นคนคิดลุ่มลึกที่ต้องการเวลาและพื้นที่ในการย่อยประเด็นได้อย่างเต็มที่ รู้ไว้ว่ามันไม่ได้หมายความว่าคุณทำงานเป็นทีมไม่ได้ แต่ในทางที่เกือบจะตรงกันข้าม คุณมีแนวโน้มจะเป็นผู้เล่นในทีมที่ดีหากคุณเข้าใจประเด็นได้อย่างถูกต้อง
ส่วน 6
ส่วน 6 ของ 8:

แก้ปัญหา

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การขอความช่วยเหลือเมื่อไม่ "เข้าใจ" ว่าคำถามถามอะไรเป็นวิธีเดียวที่คุณจะรู้ได้ว่าคุณต้องทำอะไร การทำเป็นรู้และหาคำตอบไปในระหว่างนั้นมีแต่จะยืดเวลาของความทุกข์จากการไม่เข้าใจและอาจทำให้เสียคะแนนได้
  2. อย่ามองความผิดพลาดว่าเป็นจุดอ่อนของตัวเรา เพราะความล้มเหลวเป็นแนวทางที่บอกให้เรารู้ว่าเราจะพัฒนาให้ดีขึ้นได้อย่างไร สนใจฟังในห้องเรียนเมื่อครูแก้ไขอะไรบางอย่าง ทำเครื่องหมายในงานของตัวเองอย่างชัดเจนและระมัดระวังเพื่อให้ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำในอนาคต คุณจะได้เรียนรู้อีกมากหากคุณใช้ข้อผิดพลาดและความล้มเหลวชี้นำคุณไปสู่วิธีการและผลลัพธ์ที่ถูกต้อง
  3. ถ้าคุณไม่เข้าใจแนวคิดระหว่างเรียน การไปพบครูนอกห้องเรียนจะช่วยให้คุณเข้าใจมากขึ้นและยังเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างคุณกับครูให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย
  4. การอ่านคู่มืออาจจะช่วยให้คุณเข้าใจสิ่งที่คุณไม่ค่อยเข้าใจในห้องเรียนได้ แต่ก็ยังมีทางเลือกอื่นๆ คือคุณสามารถไปขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากครู ให้เพื่อนติวให้ หรือให้พ่อแม่จ้างติวเตอร์มาสอนได้
    • อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากติวเตอร์ พวกเขาสามารถช่วยคุณได้ไม่ว่าจะวิชาไหน และคุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าตัวเองโง่หรืออายที่ต้องการความช่วยเหลือ
  5. อย่าท่าดีทีเหลว ปฏิบัติตามแผนการเรียนของคุณอย่างสม่ำเสมอและพยายามทำให้สำเร็จ ให้รางวัลตัวเองเมื่อคุณทำได้ดี
    โฆษณา
ส่วน 7
ส่วน 7 ของ 8:

การสอบและช่วงเวลาสอบ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผ่อนคลาย . อย่าตื่นตระหนกเรื่องสอบ เริ่มทบทวนก่อนสอบมากกว่า 1 วันเพื่อที่คุณจะได้มีเวลาถามคำถามเมื่อคุณไม่เข้าใจได้อีกมาก
ส่วน 8
ส่วน 8 ของ 8:

ความเป็นอยู่ที่ดีทั่วไป

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การนอนจะช่วยพัฒนาทักษะการจำและการจดจ่อ ซึ่งในท้ายที่สุดจะทำให้คุณเรียนหนังสือได้ดีขึ้น
  2. อาหารคือพลังสมองและการรับประทานอาหารก่อนเข้าเรียนช่วยให้คุณมีสมาธิและจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เรียน ถ้าคุณไม่สามารถรับประทานอาหารเช้าได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ให้พยายามจัดสรรเวลารับประทานอาหารก่อนเข้าเรียนให้ได้ เช่น ตื่นให้เช้าขึ้น หรือรับประทานอาหารเช้าในรถ
  3. วิธีนี้จะทำให้คุณได้คบเพื่อนมากขึ้น ได้ทำอะไรสนุกๆ และมีอะไรใส่เพิ่มลงไปในประวัติการศึกษาหรือแม้กระทั่งประวัติการทำงานเพื่อแสดงให้คนอื่นเห็นว่าคุณเป็นคนมีความรู้รอบด้าน
    • หาอะไรที่คุณชอบทำมาเฉลี่ยกับการทำการบ้านเพื่อรักษาสมดุล แต่ก็อย่าเสียเวลาไปกับสิ่งนั้นมากเกินไปจนไม่ได้ทำการบ้าน
  4. ต้องทบทวนและตั้งมั่นที่จะเรียนหนังสือให้ดี. ไม่จำเป็นต้องมีเวลาหลายชั่วโมงหลังเรียนจบเทอม แต่ให้ดูว่าคุณมีเวลาเท่าไหร่จนถึงเวลาสอบและแบ่งเวลาเท่าๆ กันเพื่อทบทวนบทเรียน อย่าลืมรักษาสมดุลด้วย ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์และอาจจะในวันธรรมดาอีก 1 วัน แต่คุณต้องไม่ลืมทำการบ้าน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือมากกว่าความบันเทิง ปิดแท็บเกม วิดีโอ หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อที่คุณจะได้ไม่วอกแวก
  • อย่ากังวลเรื่องเด็กคนอื่นในห้องไม่ทำการบ้าน เพราะมันไม่ใช่ปัญหาของคุณ ถ้าคุณใส่ใจงานของตัวเอง คนที่ได้เกรดดีก็คือคุณไม่ใช่เด็กพวกนั้น
  • อ่านหนังสือทุกประเภท วิธีนี้จะทำให้คุณได้เรียนรู้วิธีทำความเข้าใจเนื้อหาประเภทต่างๆ และมันก็จะเริ่มน่าสนใจ
  • คุณต้องเห็นกระดานหรือสื่อวิดีทัศน์ในทุกคาบเรียน เพราะการมองเห็นย่อมดีกว่านั่งชะโงกดูแค่เพราะอยากนั่งกับเพื่อนสนิท
  • อ่านให้มากขึ้นเพื่อเพิ่ม ความเร็วในการอ่าน และความเข้าใจ ถ้าคุณ อ่านหนังสือ ไม่แตก ให้หาติวเตอร์เป็นนักเรียนที่เรียนชั้นสูงกว่า ครู หรือใครก็ได้ที่เต็มใจฟังคุณอ่าน
  • การเป็นคนฉลาดคือความเท่ อย่าตื่นตระหนกถ้าคุณคิดว่าแค่เพราะคุณฉลาดคุณก็กลายเป็นคนเด๋อแล้ว คนฉลาดคือคนที่ใช้ชีวิตได้ดี ถ้าพวกอันธพาลมาระรานเพราะคุณฉลาด ให้ยืนหยัดเพื่อตัวเองและพูดออกไปว่า "ก็ พอถึงตอนที่ฉันประสบความสำเร็จแล้ว แค่พวกแกพยายามจะตามให้ทันก็ยากแล้ว!"
  • ขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่ ขอให้พ่อแม่ช่วยตรวจงานให้หน่อย บางทีคุณหรือครูอาจจะตรวจงานผิดก็ได้
  • กลับไปตรวจคำตอบอีกครั้งถ้าคุณไม่แน่ใจว่าทำถูกหรือเปล่า
  • และที่สำคัญที่สุดคือต้องผ่อนคลาย!
  • ถ้าคุณมีเพื่อนที่ทำให้คุณวอกแวกระหว่างเรียน บอกเพื่อนว่าคุณจะไปเจอเขาตอนพักหรือพักเที่ยง แล้วนั่งข้างคนที่ไม่กวนคุณแทน เพื่อนที่ทำให้คุณวอกแวกจะเป็นหายนะต่อเกรดของคุณ
  • ตั้งใจเรียนในห้องและฟังสิ่งที่ครูพูดอย่างตั้งใจ
  • อย่านั่งข้างคนที่คุณรู้ว่าจะชวนคุย คุณควรตั้งใจเรียนมากกว่า
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าโกง เพราะคุณอาจจะต้องเจอปัญหาที่โรงเรียนและโดนลงโทษ คุณจะไม่ได้เรียนรู้อะไรและทำให้เกรดกับค่าขนมสำหรับอีก 4 สัปดาห์ข้างหน้าต้องตกอยู่ในอันตราย นี่ยังรวมถึงเพื่อนลอกเพื่อนและการคัดลอกจากคอมพิวเตอร์โดยตรงด้วย
  • ถ้ามีเรื่องยากเกิดขึ้นกับคุณ อย่าไปกังวล แค่คิดถึงเรื่องที่ทำให้คุณมีความสุขแล้วมันจะโอเค จำไว้ว่าไม่ใช่คุณคนเดียวที่รู้สึกแบบนี้
  • อย่าผัดวันประกันพรุ่ง เพราะมันจะทำให้คุณยิ่งเครียดและทำให้คุณภาพของงานต่ำลงด้วย
  • คุณต้องมีเพื่อนที่คอยสนับสนุนคุณไม่ว่าคุณจะทำอะไรและเป็นเพื่อนแท้ของคุณจริงๆ การทบทวนตัวเองกับเพื่อนอาจช่วยให้คุณรู้และพัฒนาส่วนที่คุณยังอาจขาดความมั่นใจไป
  • คุณจะสนุกหรือพักบ้างก็ได้ แต่ไม่ใช่ล่วงหน้า! ถ้าคุณผัดเวลาทำการบ้านออกไป สุดท้ายคุณอาจจะต้องเสียเวลานอนไป 3 ชั่วโมงหรือไม่เกรดของคุณก็อาจจะตกเพราะไม่ได้ส่งงาน ซึ่งมักจะมาคู่กับการลงโทษในบางรูปแบบ (ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายเนื่องจากคุณพักผ่อนไม่เพียงพอ พ่อแม่เพราะคุณได้เกรดไม่ดี หรือครูเพราะไม่ส่งงาน)
  • สงบสติและอย่าสติแตกเรื่องการสอบหรือการบ้าน ความวิตกกังวลเป็นเรื่องปกติ แต่อย่าให้ความวิตกกังวลมาทำให้ความสามารถที่แท้จริงของคุณลดลง
  • ใช้ตารางทบทวนบทเรียน รูปแบบที่พิมพ์ออกมาได้มีอยู่ทั่วไปในอินเทอร์เน็ต
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,553 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา