ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การเป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนดีเลิศไม่ได้หมายถึงการเอาแต่มุ่งเรียนเพียงอย่างเดียวโดยไม่สุงสิงกับใครเลย! คนเรานั้นยังมีจุดต้องพัฒนาอยู่เสมอ ฉะนั้นจึงควรหมั่นตรวจสอบสิ่งที่ตนเองทำอยู่ตลอด การทำแบบนี้จะทำให้เรามีความสุขและมีความพึงพอใจไม่ใช่แค่ตนเองเท่านั้นแต่สิ่งที่เรากำลังทำให้กับชีวิตด้วย ผลแห่งความสำเร็จจะอยู่คู่ชีวิตของเรานาน! ถ้าเรามีผลการเรียนที่ดี เราก็จะมีโอกาสเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ และมีโอกาสได้งานดีๆ ทำ ลองอ่านบทความนี้แล้วจะได้รู้ว่าวิธีเรียนให้ได้เกรดเอต้องทำอย่างไร

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ทำตามหลักการทั่วไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าเรียนรู้เท่าที่ครูสอน ไม่อย่างนั้นเราจะไม่ได้รู้อะไรมากขึ้นหรือขาดเครื่องมือวิเคราะห์ที่จำเป็นต่อการสอบได้คะแนนเต็ม ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จในการเรียน เราต้องหมั่นถามว่าทำไม เรียนรู้ว่าทำไมสิ่งต่างๆ ถึงแบบนี้ ทำไมสิ่งต่างๆ ถึงสำคัญ และจากนั้นเราจะสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ได้อย่างกว้างขว้างและคาดเดาเรื่องต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง แม้เรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่ตนเองยังไม่เคยเรียนรู้เลยก็ตาม
  2. การทำแบบนี้ไม่ใช่การขโมยความคิดผู้อื่น การนำความรู้ของผู้อื่นมาใช้หมายถึงเราควรไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อน สมาชิกในครอบครัว และคุณครูในหัวข้อที่กำลังศึกษาอยู่ รับฟังความคิดเห็นของบุคคลเหล่านี้ ดูสิว่าบุคคลเหล่านี้แก้ปัญหาเรื่องต่างๆ อย่างไร หรือเรียนรู้วิธีการทำสิ่งต่างๆ จากพวกเขา การเปิดใจที่จะเรียนรู้วิธีการคิดและวิธีการใหม่ๆ อาจทำให้เราได้วิธีคิดและวิธีการต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาในการเรียนได้
  3. เข้าร่วมกลุ่มติวหนังสือ ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นเมื่อจำเป็น ค่อยๆ ทบทวนบทเรียนแทนการคร่ำเคร่งก่อนสอน ที่จริงแล้วการได้เกรดเอทุกวิชานั้นยาก (ถ้าง่าย ทุกคนก็จะได้เอกันหมด) ฉะนั้นเราจึงต้องขยัน ถ้าเราอยากได้เกรดเอทุกวิชาจริงๆ
  4. มีระเบียบ . เก็บการบ้านหรืองานที่คุณครูส่งคืนมา หรือเอกสารประกอบการเรียนทุกอย่างแยกกันไปตามวิชาและเรียงไปตามลำดับเวลา การทำแบบนี้ไม่เพียงทำให้สามารถนำมาใช้งานได้ง่ายเท่านั้นแต่ยังมีประโยชน์ในตอนที่การสอบกำลังจะมาถึง ไม่ว่าจะเป็นการสอบเก็บคะแนน การสอบกลางภาค หรือการสอบปลายภาค ควรจัดเวลาทบทวนบทเรียนและเวลาพักผ่อนไว้มากๆ จัดโน้ตต่างๆ และสถานที่ทบทวนบทเรียนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ถ้าบริเวณนั้นรก อาจทำให้เราวุ่นวายใจเพราะหาของที่ต้องการไม่พบได้
    • แบ่งงานในการทบทวนบทเรียนและทำการบ้านออกเป็นส่วนๆ ถ้ามีเวลาทำการบ้านสองวัน ทำการบ้านให้เสร็จมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในวันแรกแล้วค่อยทำส่วนที่เหลือในวันที่สอง หรือถ้ามีเวลาจำคำศัพท์ 10 คำหนึ่งสัปดาห์ ให้จำคำศัพท์วันละสองสามคำและทบทวนคำที่จำได้แล้ว การแบ่งงานออกเป็นส่วนๆ จะทำให้เราเหนื่อยน้อยลงและทำให้ไม่ต้องคร่ำเคร่งอ่านหนังสือมากเกินไป
    • พกสมุดจดบันทึกตารางเวลา จดการบ้านที่คุณครูมอบหมายลงไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าคุณครูบอกวันกำหนดส่งหรือกำหนดสอบ ให้จดลงไปในนั้น ภารกิจที่จดไว้ในสมุดจดบันทึกตารางเวลาจะช่วยให้เรารู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป
  5. เลือกเรียนสาขาวิชาที่เราชอบและสามารถทุ่มเทให้กับวิชาต่างๆ ของสาขานั้นได้โดยไม่เบื่อ ถ้าสามารถเลือกได้ เราจะเรียนได้ดียิ่งขึ้น ถ้าตนเองมีความสนใจในวิชานั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นี้เป็นเหตุผลว่าทำไมผลการเรียนวิชาโปรดถึงออกมาดี
    • จำไว้ว่าเราต้องศึกษาเรียนรู้ทั้งเรื่องที่เราชอบและเรื่องที่ต้องรู้
  6. รู้จักนาฬิกาชีวิตของตนเอง . ร่างกายมนุษย์สามารถเรียนรู้ได้ดีที่สุดเฉพาะบางช่วงเวลา บางคนอาจเรียนรู้ได้ดีที่สุดตอนเช้า ถ้ารู้ว่าตนเองเป็นแบบนั้น ก็ให้ใช้เวลาช่วงเช้าทบทวนบทเรียนวิชาที่สำคัญก่อน ส่วนเวลาที่เหลือให้ใช้ทำกิจกรรมที่มีความสำคัญน้อยกว่า เช่น ออกไปพบปะเพื่อนฝูง ไม่ควรทบทวนบทเรียนตอนที่เหนื่อย อีกทั้งควรพยายาม นอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แปดชั่วโมง
  7. ถึงแม้เราจะมีความรู้ในเรื่องที่กำลังศึกษาอยู่ก็จริง แต่การพยายามกลับไปทบทวนเนื้อหาจนกว่าจะมั่นใจว่าสามารถตอบข้อสอบได้ถูกต้องก็สำคัญ ถ้าไม่เข้าใจคำถาม ให้อ่านและพยายามทำความเข้าใจอีกครั้ง เขียนออกมาเพื่อจะได้รู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ตั้งใจเรียนในห้อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตั้งใจฟังที่คุณครูสอน . แค่ตั้งใจฟังและตั้งใจเรียนอย่างสม่ำเสมอ เราก็สามารถเรียนรู้อะไรได้มากแล้ว จงเรียนอย่างชาญฉลาด! เราควรเข้าใจบทเรียนต่างๆ ได้เป็นอย่างดีและเข้าใจสิ่งที่คุณครูสอนก่อนที่จะทำข้อสอบ
    • กินอาหารเช้าและถ้าต้องกินยาหรือวิตามิน กินให้เรียบร้อยก่อนไปโรงเรียน อาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยเพิ่มพลังสมองและทำให้เรามีสมาธิกับการเรียนตลอดทั้งวัน
  2. รู้จักถาม . ถ้ามีอะไรสงสัยเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังเรียนอยู่นั้น ถามคุณครู ถ้าไม่เข้าใจเนื้อหาวิชานั้น ให้เขียนลงไปว่าไม่เข้าใจตรงส่วนไหนและถามคุณครู ถ้าเรามีเวลาพอที่จะขอให้คุณครูอธิบายเพิ่มเติม
    • อย่าอายที่จะถามคุณครู คุณครูยินดีช่วยเหลือนักเรียนที่ตั้งใจเรียนเสมอ
  3. อ่านประมวลวิชาที่ได้รับมา ทำความรู้จักวิชาต่างๆ อย่างคร่าวๆ และรู้ว่าจะได้เรียนอะไรบ้างในแต่ละวิชา.
    • ตัวอย่างเช่น สมมติในภาคเรียนนี้เราเรียนวิชาประวัติศาสตร์ไทย และกำลังเรียนเกี่ยวกับการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งสอง แต่ต่อมาเราเห็นว่าบทต่อไปจะเป็นการสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี ลองคิดสิว่าเหตุการณ์ทั้งสองนี้เชื่อมโยงกันอย่างไร
  4. เขียนออกมาเป็นเค้าโครงและเติมข้อมูลสำคัญลงไปทีละนิด เขียนสรุปเนื้อหาที่ได้รับจากการเรียนในห้องและใช้มาเป็นหลักอ้างอิงในอนาคต
    • จดเนื้อหาที่เรายังไม่เข้าใจเอาไว้ เราจะได้รู้ว่าไม่เข้าใจเนื้อหาตรงไหน และตั้งใจฟังเมื่อคุณครูอธิบายตรงส่วนนั้นหรือสามารถนำเนื้อหาส่วนนั้นไปถามคุณครูได้ในภายหลัง
  5. อย่าขาดเรียนเพราะจะทำให้เรียนตามเพื่อนไม่ทันและกระทบต่อผลการเรียน. ถ้าเราป่วยและไม่สามารถมาเรียนในวันนั้นได้ อาจขอให้คุณครูช่วยสอนเนื้อหาของวันนั้นเพื่อเราจะได้เรียนตามเพื่อนทัน แต่ถ้าคุณครูติดภารกิจสำคัญ ขอให้เพื่อนช่วยสอนเนื้อหาของวันที่เราขาดเรียนไป
  6. อาจถามว่าคุณครูมีเกณฑ์การให้คะแนนงานแต่ละงานอย่างไรบ้างและงานของเรามีข้อบกพร่องตรงไหน พยายามแก้ไขข้อบกพร่องของตนเองและถามคุณครูว่าขอทำงานเพิ่มเติมเพื่อเป็นคะแนนเก็บได้ไหม
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ขยันแม้อยู่ที่บ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำการบ้าน . อาจารย์บางท่านอาจไม่คอยตรวจสอบอยู่ตลอดว่าเราทำการบ้านตามที่สั่งไหม ฉะนั้นเราจึงต้อง กระตุ้นตนเอง ให้ทำการบ้าน การบ้านจะช่วยให้เรารู้เนื้อหาที่ได้เรียนไปแล้วเพิ่มเติม และทำให้รู้ว่าตนเองไม่เข้าใจเนื้อหาตรงส่วนไหน ถ้าวิชาไหนไม่มีการบ้าน ให้อ่านเนื้อหาที่ตนเองจดไว้หรืออ่านตำราเรียนของวิชานั้น
    • การบ้านเป็นส่วนหนึ่งของคะแนนรวมในแต่ละวิชา แต่คะแนนจากส่วนนี้จะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับคุณครูกำหนด
  2. จะช่วยให้เนื้อหาต่างๆ ค่อยๆ ปะติดปะต่อเข้าไปในหัวและเราจะไม่กังวลมากนัก ถ้าเกิดคุณครูให้สอบในห้องโดยไม่บอกล่วงหน้าหรือประกาศสอบกะทันหัน
  3. จะช่วยให้ตนเองรู้ว่าไม่เข้าใจเนื้อตรงส่วนไหนเร็วขึ้น
  4. อย่าผัดวันประกันพรุ่ง . อย่าทำการบ้านจนดึกดื่นยกเว้นเห็นว่าตนเองอาจทำการบ้านเสร็จไม่ทันและใกล้กำหนดส่งแล้ว ถ้ามีเวลาทำงานที่ได้รับมอบหมายสองสัปดาห์ ให้ใช้เวลาสัปดาห์แรกร่างงานและทำแต่ละส่วนให้เสร็จก่อน ตลอดสัปดาห์นั้นให้รวบรวมแต่ละส่วนเข้าไว้ด้วยกัน สัปดาห์ต่อไปเก็บรายละเอียดต่างๆ จนงานเสร็จสมบูรณ์ ตรวจแก้งานและปรินต์งานออกมา ส่งคุณครูก่อนกำหนดส่งหนึ่งวัน นี้เป็นการแสดงถึงความทุ่มเทและทำให้คุณครูมีเวลาตรวจมากขึ้น
    • การเริ่มลงมือทำงานก่อนล่วงหน้ายังทำให้เรามีเวลาพบคุณครูและปรึกษาหากพบปัญหาใดๆ ระหว่างการทำงาน คุณครูจะได้ให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาและให้งานเพิ่มเติมเพื่อเราจะได้ทำส่งเป็นคะแนนเก็บ แค่มาปรึกษาปัญหาและขอคำแนะนำก็สามารถทำให้เราทำงานออกมาได้ถูกต้องและได้คะแนนดี
  5. เมื่อมีเพื่อนมาขอให้อธิบายเนื้อหาที่เรียนไป ให้ช่วยเขา อาจหาสถานที่เงียบสงบและจินตนาการว่าตนเองเป็นคุณครูซึ่งกำลังอธิบายเนื้อหาให้ลูกศิษย์ฟัง การสอนผู้อื่นเป็นวิธีวัดความเข้าใจของเราที่ดี และการอธิบายให้เพื่อนที่ไม่เข้าใจเลยฟังอาจช่วยให้เราเข้าเนื้อหาที่อธิบายไปได้ดียิ่งขึ้น เราอาจช่วยติวหนังสือให้เพื่อนเพื่อวัดความเข้าใจเนื้อหาของตนเอง ได้ช่วยทั้งผู้อื่นและตนเองให้เข้าใจเนื้อหาที่เรียนมากขึ้นด้วย
  6. ควรมีสถานที่ไว้ทบทวนบทเรียนโดยเฉพาะ การมีมุมไว้ทบทวนบทเรียนโดยเฉพาะจะช่วยให้เราวอกแวกน้อยลงและทบทวนบทเรียนได้อย่างต่อเนื่อง การทบทวนบทเรียนเป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่ง ฉะนั้นถ้าเราฝึกสมองให้รู้ว่าโต๊ะหรือห้องนั้นมีไว้สำหรับทบทวนบทเรียนเท่านั้น เราก็จะมีจิตใจจดจ่อกับการทบทวนบทเรียนได้ง่ายขึ้นและทำได้สำเร็จ
  7. เราสามารถสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตหรือไปห้องสมุด และหาหนังสือหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่เรียนอยู่ได้เสมอ การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมไม่ว่าจะตามความสนใจหรือตามที่คุณครูบอกและตอบข้อสอบได้อย่างถูกต้อง ผลการเรียนที่ออกมาย่อมทำให้คุณครูเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของเรา
  8. ถ้ามีกำลังทรัพย์พอ การเรียนเพิ่มเติมกับติวเตอร์ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด นอกจากนี้อาจทำให้ผลการเรียนดีขึ้นด้วย
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ใช้กลเม็ดและเคล็ดลับอื่นๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้ามีปัญหาในการจดเรื่องที่เรียน ให้ใช้วิธีอ่านเนื้อหา ปิดหนังสือ เขียน ตรวจสอบความถูกต้องของสิ่งที่เขียน ช่วยสมองให้สามารถจดจำเนื้อหาที่กำลังเรียนได้
  2. เขียนโครงร่าง . การเขียนโครงร่างช่วยให้เข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้นโดยการแบ่งเนื้อหาออกเป็นหัวข้อต่างๆ ที่สามารถเข้าใจได้ง่าย พยายามทำความเข้าใจเนื้อหาทีละส่วนดีกว่าพยายามทำความเข้าใจเนื้อทุกส่วนในคราวเดียว
  3. สะกดคำให้ถูกต้อง . ถ้าอยากทำงานที่คุณครูมอบหมายให้ออกมาดี เราจะต้องมั่นใจว่างานต่างๆ นั้นไม่มีการสะกดคำและใช้ไวยากรณ์ที่ผิดเลยสักจุด
  4. ถึงแม้การเรียนนั้นสำคัญ แต่ก็อย่าลืมหาเวลาทำกิจกรรมร่วมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ไปด้วย เช่น ไปทัศนศึกษา เข้าค่ายวิทยาศาสตร์ เข้าแข่งขันตอบปัญหา เป็นต้น เมื่อเราได้เข้าร่วมทำกิจกรรมต่างๆ เราจะไม่เพียงได้รับความรู้เท่านั้นแต่ยังได้รับความสนุกด้วย
  5. วิกิฮาวก็มีหัวข้อช่วยเหลือในวิชาต่างๆ เช่น บทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ บทความเกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์ และคำแนะนำในการเรียน ภาษาอังกฤษ ถ้าอยากรู้เพิ่มเติมลองเข้าเมนูการสื่อสารและการศึกษา
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เขียนเหตุผลออกมาว่าทำไมตนเองถึงอยากเรียนได้เกรดเอทุกวิชา นำเหตุผลเหล่านั้นมาเรียงลำดับตามความสำคัญ พอเขียนเสร็จแล้วติดไว้ที่ผนังหรือโต๊ะเรียนก็ได้ ทุกครั้งที่เห็นจะได้มีแรงบันดาลใจ
  • ลองหาวิธีการกระตุ้นตนเองให้ขยันหมั่นเพียร ตัวอย่างเช่น พยายามมองเกรดที่ได้เป็นจำนวนเงิน ยิ่งได้คะแนนสูง ก็ยิ่งได้เงินมาก ยิ่งได้คะแนนต่ำก็ยิ่งได้เงินน้อย
  • อย่าลืมอ่านประมวลรายวิชา เราจะไม่มีโอกาสได้เกรดเอ ถ้าเราไม่รู้ว่าต้องทำงานออกมาอย่างไรให้สมกับเกรดที่อยากได้
  • ถึงโอกาสได้เกรดเอทุกวิชานั้นจะยาก แต่ให้พยายามจนถึงที่สุด ผลการเรียนจะสะท้อนความพยายามของเราเอง
  • จดเนื้อหาที่คุณครูสอน เมื่อใกล้ถึงเวลาสอบ จะได้นำสิ่งที่จดไว้มานั้นมาอ่านทบทวน บางครั้งข้อสอบก็ออกเนื้อหาส่วนที่คุณครูเน้นย้ำบ่อยๆ
  • ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายทุกอย่างและทำให้เสร็จเรียบร้อย พยายามตั้งใจทำงานแต่ละอย่างให้ออกมาดีที่สุด เกินความคาดหมายทั้งในคุณภาพและการนำเสนอ
  • เริ่มทบทวนบทเรียน 8-10 สัปดาห์ก่อนสอบเพื่อให้สมองของเราจดจำข้อมูลที่สำคัญทุกอย่างได้แม่น เราจะได้ไม่เครียดมากในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนสอบ
  • จดเนื้อหาให้อ่านง่าย ถ้าเป็นคนลายมือแย่ ให้พิมพ์เนื้อหาใส่คอมพิวเตอร์ไว้ ถ้ามีกฎไม่อนุญาตให้เอาคอมพิวเตอร์มาใช้ในห้องเรียน เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว พิมพ์เนื้อหาที่จดไว้ลงคอมพิวเตอร์ให้เร็วที่สุด
  • ถึงแม้การสอบครั้งแรกจะไม่ได้คะแนนเต็มอย่างที่หวัง ก็อย่าท้อ ถามคุณครูว่าเราทำผิดตรงส่วนไหน จะได้รู้และแก้ไขในคราวหน้า
  • เรียนอาทิตย์ละบทล่วงหน้าก่อนเปิดเทอม ถ้าอยากได้เกรดเอทุกวิชา เราจะเตรียมตัวล่วงหน้าในช่วงปิดเทอม ดูเอกสารประมวลรายวิชาที่จะเรียนในเทอมหน้า จะได้รู้ว่าต้องเรียนเรื่องอะไรบ้าง และไปตามอ่านล่วงหน้า พยายามจดจำสูตรสำคัญต่างๆ ไว้ด้วย
โฆษณา

คำเตือน

  • ถึงแม้เราจะได้คะแนนเต็มทุกวิชาหรือเป็นนักเรียนดีเด่นก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเรานั้นเก่งที่สุด ฉะนั้นอย่าดูถูกเพื่อนที่เรียนอ่อนกว่าเรา
  • อย่าเอาเกรดของเราไปโอ้อวดคนอื่น จะทำให้ผู้อื่นขุ่นเคืองและเจ็บช้ำน้ำใจได้ เก็บความภาคภูมิใจนี้ไว้กับตนเองก็พอ
  • ถ้ามีปัญหาด้านการเรียน ไปปรึกษาและขอความช่วยเหลือจากคุณครู
  • อย่าขาดเรียน อ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอและทำงานที่คุณครูมอบหมายส่งให้ครบ ไม่อย่างนั้นเราจะลำบากและเครียดช่วงใกล้สอบ ต้องมานั่งทำงานส่งให้ทันกำหนดและทบทวนบทเรียนอย่างหนัก ไม่ได้ทำกิจกรรมสนุกๆ อย่างอื่น
  • อย่านำความมานะพยายามมาเปรียบเทียบกับเกรดที่ได้
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน ถ้าเรานอนไม่พอ เราจะจดจ่อกับการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ยาก อีกทั้งการนอนไม่พอยังทำให้ความสามารถในการจำเนื้อหาต่างๆ ลดลง [1] .
  • อย่าคาดหวังว่าเมื่อนำวิธีการต่างๆ ในบทความมาใช้ในเดือนสุดท้ายหรือสัปดาห์สุดท้ายของการเรียนแล้วจะได้ผลตามที่ต้องการ ผลการเรียนนั้นต้องดูที่ผลคะแนนของต้นเทอมและกลางเทอมด้วย
  • ถ้า "การเป็นที่หนึ่ง" ได้คะแนนสูงที่สุดในชั้นเป็นเพียงเป้าหมายเดียวที่สำคัญสำหรับเรา ขอให้หยุดคิดตรองดูสักหน่อย คนเรานั้นไม่สามารถเป็นที่หนึ่งได้ตลอดไป
  • อย่าทุจริตในการสอบหรือลอกการบ้านคนอื่น การทุจริตในการสอบอาจทำให้ถูกปรับตกในวิชานั้นและอาจเสี่ยงที่จะถูกไล่ออกจากสถานศึกษา ถ้าถูกจับได้
  • หาเวลาพบปะเพื่อนฝูงบ้าง อย่าเรียนเพียงอย่างเดียว ยกเว้นว่าเป็นช่วงสัปดาห์สอบ อย่าลืมหาเวลาทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ เล่นกีฬา และทำงานอดิเรก การละทิ้งกิจกรรมเหล่านี้ไปและมุ่งเรียนแต่เพียงอย่างเดียวจะทำให้ชีวิตด้านอื่นของเราขาดหายไป ฉะนั้นเราจึงควรหาเวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,350 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา