ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การเลือกอาชีพที่ใช่สำหรับตัวเอง ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครหลายคน แต่อย่างน้อยถ้าพอมีแนวทาง ก็จะช่วยให้ หางาน ที่ถูกใจได้ในที่สุด ขอแค่ขยัน รู้จักวางแผน และสำรวจตัวตนของคุณ คุณก็จะเจออาชีพที่ทำแล้วมีความสุข แถมเจริญเติบโตต่อไปในสายงานนั้น หาเลี้ยงได้ทั้งตัวเองและครอบครัว
ขั้นตอน
-
คุณฝันอยากเป็นอะไร. ก็อย่างที่เขาพูดกัน ว่าอาชีพที่ใช่ ก็คืออาชีพในฝันของคุณ ลองถามตัวเองว่าถ้าไม่ติดปัญหาเรื่องเงิน คุณอยากทำงานอะไรให้มีความสุข สมมติว่าคุณมีเงินเป็นร้อยล้านพันล้าน จะทำอะไรตามใจก็ได้ คุณจะเลือกทำอะไร? คำตอบนั้นอาจไม่ใช่อาชีพที่ดีที่สุดหรือเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ แต่อย่างน้อยก็พอจะเป็นแนวทางให้คุณได้แน่นอน
- ถ้าคุณฝันอยากเป็นนักดนตรีชื่อดัง อาจเบนเข็มไปทาง sound engineer ควบคุมการอัดเสียง หรือเป็นนักแต่งเพลงก็น่าสนใจ อาชีพที่ว่าจะเป็นไปได้กว่าในแง่ของความเป็นจริง แถมรายได้ดีซะด้วย
- ถ้าคุณฝันอยากเป็นดารา อาจลองพิจารณาทำงานเบื้องหลังดู ตอนเรียนก็เข้าคณะนิเทศศาสตร์ หรือไต่เต้ามาจากนักข่าวท้องถิ่น หรือเป็นเด็กฝึกงานในสตูดิโอ
- ถ้าคุณฝันอยากท่องเที่ยวรอบโลก ทำไมไม่ลองสมัครเป็นแอร์/สจ๊วต นี่แหละอาชีพที่เลี้ยงปากท้องได้แถมพาคุณลัดฟ้าไปทั่วโลก
-
พิจารณาจากงานอดิเรก. อะไรที่ชอบทำหรือว่างเมื่อไหร่เป็นต้องทำ อาจต่อยอดไปเป็นอาชีพก็ได้ เดี๋ยวนี้งานอดิเรกหลายอย่างก็เป็นที่ต้องการในสายอาชีพต่างๆ เพราะงั้นลองสำรวจดูว่าคุณชอบเล่นชอบทำอะไรเป็นพิเศษ บางทีอาจเจออาชีพที่ใช่ไม่รู้ตัว
- เช่น คุณชอบเล่นวีดีโอเกม ก็อาจต่อยอดไปเป็นนักออกแบบเกม โปรแกรมเมอร์ หรือ QA specialist (เจ้าหน้าที่ควบคุมคุณภาพ) ซะเลย
- ถ้าคุณรักศิลปะ ชอบวาดรูป ก็เป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์ได้
- ถ้าคุณชอบเล่นกีฬา โดยเฉพาะคนเล่นเก่งๆ สามารถสอนหรือสอบเป็นโค้ชได้ด้วย
-
ชอบเรียนวิชาอะไรที่สุด. วิชาต่างๆ ที่เราร่ำเรียนกันมาก็เพื่อใช้หางานนี่นา แต่วิชาบังคับพวกนี้มักต้องต่อยอดไปถึงระดับปริญญาตรีหรือโทก่อนถึงจะมากพอสำหรับการทำงาน ยังไงลองนึกย้อนดูว่าสมัยเรียนชอบวิชาอะไรที่สุด แล้วหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อใช้สมัครงานต่อไป
- เช่น ถ้าชอบเรียนเคมี ก็อาจไปทางนักเทคนิคการแพทย์ (หมอแล็บ) หรือเภสัชกร
- ถ้าชอบภาษาอังกฤษ หรือภาษาไทย ก็ต้องไปสายนักเขียน นักแปล copywriter หรือบรรณาธิการ
- แต่ถ้าชอบเลข นักบัญชีหรือนักคณิตศาสตร์ประกันภัยน่าจะเป็นอาชีพที่ใช่สำหรับคุณ
โฆษณา
-
สมัยเรียนเก่งวิชาไหนที่สุด. พูดง่ายๆ คือวิชาไหนได้เกรดดีที่สุดนั่นเอง ถึงจะไม่ใช่วิชาที่ชอบ แต่อาชีพที่คุณทำได้ดี มีทักษะ น่าจะไปได้ไกลและชีวิตมั่นคงกว่า
- ลองย้อนกลับไปดูตัวอย่างข้างบนน่าจะพอได้ไอเดีย
-
ทักษะไหนของคุณโดดเด่นที่สุด. ถ้าคุณเชี่ยวชาญด้านใดเป็นพิเศษ เช่น ซ่อมแซมหรือสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ นั่นอาจเป็นทางสว่างของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องจบสูงแต่อย่างใด เพราะทักษะสายอาชีพมักเป็นที่ต้องการเสมอ
- เช่น ช่างไม้ ช่างยนต์ ช่างก่อสร้าง และช่างไฟ พวกนี้เป็นอาชีพที่ต้องอาศัยทักษะและความเชี่ยวชาญ แถมงาน (และเงิน) เข้าเรื่อยๆ ไม่มีตกงานแน่นอน
- ทักษะอื่นๆ เช่น การทำอาหาร ก็เป็นทักษะที่ไม่ทำคุณตกอับแน่นอน
-
ทักษะในการติดต่อสื่อสาร. ถ้าคุณเก่งด้านติดต่อสื่อสารและช่วยเหลือผู้อื่น ก็ไม่ตกงานเหมือนกัน เพราะนั่นเป็นทักษะสำคัญของนักสังคมสงเคราะห์ รวมถึงคนในสายธุรกิจและการตลาดด้วย
- ถ้าคุณเป็นพวกชอบดูแลเอาใจใส่คนอื่น อาชีพที่เหมาะกับคุณก็คือพยาบาล เจ้าหน้าที่ธุรการ และผู้จัดการสำนักงาน เป็นต้น
-
ปรึกษาคนอื่นเพิ่มเติม. บางทีเราก็บอกไม่ได้ว่าเราเก่งเรื่องไหน ถ้าหาจุดเด่นหรือเรื่องที่ถนัดของตัวเองไม่เจอ ให้ลองถามพ่อแม่ผู้ปกครอง ญาติๆ เพื่อนฝูง หรือครูอาจารย์ดู เผื่อจะได้คำแนะนำเพิ่มเติม ดีไม่ดีจะแปลกใจน่าดู!
- เพื่อนและครอบครัวสามารถช่วยให้คุณมีเครือข่ายและได้ใกล้ชิดกับคนที่อยู่ในแขนงที่คุณเลือก คุณยังสามารถเข้าร่วมใน MeetUp เพื่อเจอกับคนอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานที่คุณต้องการ
โฆษณา
-
สำรวจชีวิตตัวเอง. ก่อนจะรู้ว่าต้องทำอะไรต่อไปดี อาจต้องหาให้เจอก่อนว่าตัวเองเป็นใครกันแน่ ถ้าอยากได้งานที่ทำแล้วมีความสุข ก็ต้องรู้ว่าคุณต้องการอะไร และอะไรคือความสุขของคุณ สำหรับบางคนถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องขอเวลานอกเลยทีเดียว ถึงจะบอกได้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิตตัวเอง
- อย่ากลัวที่จะหยุดทำอะไรเดิมๆ แล้วเริ่มใหม่ เพราะเป็นเรื่องสำคัญกว่าที่คุณควรหาเส้นทางชีวิตเจอโดยเร็วที่สุด ดีกว่าทนทำงานเดิมๆ ไปนานๆ จนเกลียดชีวิตตัวเอง แต่ก็คิดว่ามาไกลเกินย้อนกลับ
-
คำนึงถึงสภาพคล่องทางการเงิน. บางทีที่เปลี่ยนเส้นทางชีวิตไม่ได้ก็เพราะไม่ค่อยจะมีเงินนี่แหละ ซ้ำร้ายบางอาชีพยังต้องเรียนเพิ่มเติมแพงๆ แต่อย่าปล่อยให้ความจนมาขัดขวางความเจริญของคุณ
- เดี๋ยวนี้มีทุนการศึกษา รวมถึงกองทุนหรือโครงการให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และหลักสูตรฝึกอบรมต่างๆ ให้เลือกมากมาย
-
วุฒิการศึกษาคุณถึงไหม ต้องเรียนอะไรเพิ่มหรือเปล่า. ต้องรู้ก่อนว่าวุฒิการศึกษาของคุณเพียงพอไหม ถ้าเลือกอาชีพที่ว่าต้องเรียนอะไรเพิ่มเติมบ้าง ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องทุนการศึกษา อาจต้องพิจารณาจากวุฒิหรือทักษะที่มีก่อน เช่น ตอนนี้คุณจบม.6 หรือปริญญาตรี แล้วต้องการหางานด่วน ก็ต้องเลือกจากตำแหน่งที่เหมาะสมกับวุฒิการศึกษาของคุณ
- แต่ถ้าตำแหน่งงานนั้นๆ ไม่ถูกใจ ให้ลองปรึกษาบริษัทจัดหางานหรือหาข้อมูลว่ามีตัวเลือกอื่นเพิ่มเติมไหม
-
พิจารณากลับไปศึกษาต่อ. ถ้ามีโอกาสและทุนทรัพย์พอจะกลับไปศึกษาหาความรู้หรือทักษะเพิ่มเติมได้ ก็น่าสนใจ ไม่ใช่ทุกคนที่สอบได้เกรดดีๆ หรือบางทีก็มีอาชีพที่เน้นทักษะมากกว่าการศึกษาภาคบังคับ ให้ศึกษาว่าสายงานของคุณต้องมีความรู้อะไรเพิ่มเติมถึงจะไปได้ไกล แล้วฝึกฝนไปตามนั้น
- ถ้าไม่สนใจการเรียนสายสามัญ หรือสายงานเน้นทักษะมากกว่าความรู้ในตำรา ก็ให้ลงเรียนสายอาชีพแทน
-
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม. ถ้ายังสับสน ไม่แน่ใจ ให้อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมใน เว็บนี้ หรือ เว็บนี้ ไม่ก็ปรึกษาครูแนะแนวหรือผู้ใหญ่ที่ไว้ใจโฆษณา
-
คว้าโอกาสใกล้ตัว. งานไหนสมัครง่าย มีโอกาสมากกว่า ก็คว้าเลย หรือก็คืออาชีพที่คุณมีทักษะพร้อมมูลแถมมี “เส้นสาย” หรือ “โอกาส” มากกว่าอาชีพอื่นๆ
- ตัวอย่างเช่น สมัครทำงานในบริษัทเดียวกับพ่อ/แม่ รับช่วงกิจการของครอบครัวต่อ หรือทำงานกับเพื่อน แต่ถ้าไม่ค่อยจะมีโอกาสเหมือนใครเขา คงต้องเลือกอาชีพที่มีแนวโน้มว่าเขาจะรับคุณเข้าทำงานมากที่สุด
-
เงินเดือนพอใช้หรือเปล่า. หนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกงาน ก็คืองานนั้นจะทำให้คุณมีเงินพอกินพอใช้ (หรือมากกว่านั้น) ในแต่ละเดือนหรือเปล่า พูดง่ายๆ คือเลือกอาชีพนี้แล้วเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่านั่นเอง
- ทำการบ้านหาดูว่าค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องอยู่ที่เท่าไหร่ อย่าลืมนับเงินค่าประกันสุขภาพและเงินออมหลังเกษียณไว้ด้วย คุณอาจต้องขอคำปรึกษาจากผู้ให้คำปรึกษาด้านการเงินก่อนทำการตัดสินใจ
- ไม่ต้องถึงขนาดสมัครกะรวย หรือเงินเดือนสูงในสายตาคนอื่น แค่ให้เพียงพอกับชีวิตประจำวัน รวมถึงตรงตามความคาดหวังของคุณก็พอ
-
งานนั้นมั่นคงแค่ไหน. ไม่ใช่ว่าทำไม่กี่เดือนก็ต้องหางานใหม่อีกแล้ว ตลาดงานเปลี่ยนแปลงตลอดตามความต้องการของคนในสังคมนั่นเอง บางอาชีพก็เป็นที่ต้องการตลอด แต่บางอาชีพก็ลุ่มๆ ดอนๆ คุณต้องพิจารณาว่างานที่คุณจะทำนั้นมั่นคงแค่ไหนในระยะยาว
- เช่น เด็กสมัยนี้นิยมเรียนหมอหรือกฎหมายกัน ถึงกู้เรียนแพงๆ ก็ไม่ใส่ใจ เพราะคิดว่าเป็นอาชีพที่มีโอกาสกอบโกยหาทุนคืน แต่ 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดงานด้านกฎหมายก็ใช่ว่าจะเฟื่องฟูเหมือนแต่ก่อน ทีนี้บางคนเลยมีหนี้หัวโตตั้งแต่ยังไม่ทันทำงานเลยทีเดียว
- อีกตัวอย่างสุดคลาสสิคคือ "นักเขียน" หรือ "ฟรีแลนซ์" จริงอยู่ว่านี่เป็นยุคสมัยแห่งฟรีแลนซ์ แต่ก็ใช่ว่าจะมือขึ้นกันทุกคน และมีงานเข้ามาในทุกเดือน สายงานนี้ต้องอาศัยความมุ่งมั่นตั้งใจและระเบียบวินัยอย่างสูง ไม่เหมาะกับทุกคนเสมอไป
-
ลองอ่านคู่มือของกรมการจัดหางานดู. หนึ่งในแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจไว้อ่านประกอบการเลือกอาชีพ ก็คือ คู่มือของกรมการจัดหางาน จะเป็นแนวทางให้คุณค้นหาตัวเองและอาชีพที่ใช่ รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
-
5จัดทำกระดานความฝัน. กระดานความฝันคืออุปกรณ์ที่ดีเยี่ยมสำหรับการจัดระเบียบแรงบันดาลใจ มันจะช่วยให้คุณสามารถไต่เต้าไปสู่เป้าหมาย หารูปภาพมาแปะไว้บนกระดาน เลือกคำคมที่ปลุกเร้าใจและเพิ่มเติมสีสันดึงดูดใจตามต้องการโฆษณา
เคล็ดลับ
- เป็นธรรมดาที่คนเราต้องใช้เวลาค้นหากว่าจะเจออาชีพที่ใช่ บางทีก็หลงทางหรือต้องฝึกฝนและอดทนอยู่หลายปี เพราะงั้นอย่าน้อยใจว่าชีวิตคุณเสียเวลาจัง!
- ถ้าไม่ชอบงานที่ทำอยู่ก็เปลี่ยนงานซะ! อาจต้องใช้เวลาและลำบากหน่อย โดยเฉพาะถ้าคุณอายุมากแล้ว แต่คนเราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
- ถึงโตมาจะไม่ได้ทำอาชีพที่ฝันไว้ตอนเด็กๆ ก็ไม่ได้แปลว่าชีวิตคุณจบสิ้นแล้ว ถึงจะไม่ใช่งานที่ทำแล้วชอบสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นงานที่มั่นคง รายได้ดี เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้ สุดท้ายแล้วคุณจะมีความสุขกว่าเยอะเลย
- ถามใจตัวเองดู
- อยู่ๆ คนเราไม่รู้หรอกว่าตัวเองเก่งอะไร! ลองใช้เวลาค้นหาตัวตนที่แท้จริงของคุณดู
- ยิ่งรู้จักตัวเองมากแค่ไหน ก็ยิ่งตัดสินใจได้แม่นยำขึ้นเท่านั้น
โฆษณา
คำเตือน
- ระวังอย่าไปข้องเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่หรือพวกต้มตุ๋นหลอกลวงอื่นๆ นอกจากสุดท้ายจะตกงานแล้วยังแถมหนี้ท่วมหัวและติดคุกอีกต่างหาก
- ไม่มีของฟรีแถมดีในโลก งานง่ายๆ แต่เงินดีไม่ค่อยมีหรอก
- ใครชวนไปทำงานต่างประเทศต้องศึกษาและเช็คข้อมูลให้ดี โดยเฉพาะตัวตนและความน่าเชื่อถือของบริษัทนั้นๆ ก่อนตัดสินใจออกเดินทาง โชคดีก็แค่ถูกหลอก สูญเงิน แต่ถ้าโชคร้ายอาจอันตรายถึงชีวิต
โฆษณา
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 15,765 ครั้ง
โฆษณา
