ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ในโลกนี้ไม่มีใคร "ความจำแย่" จะมีก็แต่คนที่สูญเสียความทรงจำด้วยสาเหตุทางการแพทย์ ที่จริงแล้ว เราทุกคนสามารถที่จะฝึกฝนความจำให้ดีขึ้นได้ด้วยหลากหลายวิธี ตั้งแต่การกินผลบลูเบอร์รีเยอะๆ ไปจนถึงการใช้เทคนิคช่วยจำ ทั้งนี้ หากคุณมีความหวัง เชื่อมั่น และหมั่นฝึกฝน คุณก็จะสามารถพัฒนาความจำให้ดีขึ้น โดยคุณอาจนำทักษะดังกล่าวไปใช้จำว่า เก็บกุญแจบ้านไว้ที่ไหน หรือนำไปท่องหนังสือสอบ แม้กระทั่งเข้าแข่งขันทดสอบความจำชิงแชมป์โลก ก็ยังได้
ขั้นตอน
-
ใช้เทคนิคเชื่อมโยงความจำ. การเชื่อมโยงความจำก็คือการใช้ภาพบางอย่างเพื่อเชื่อมโยงไปยังรายละเอียดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความหรือภาพอื่นๆ หากคุณมักลืมประวัติศาสตร์ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใด ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการบุกยึดอ่าวหมู (Bay of Pigs Invasion) ก็แค่จำภาพประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ (JFK) กำลังดำน้ำพร้อมกับมีหมูรายล้อมอยู่ ซึ่งอาจดูเหมือนตลก แต่มันจะช่วยให้คุณนึกออกทันที เวลาที่เจอข้อสอบคำถามดังกล่าว [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
- สมองของคุณจะจดจำข้อมูลให้แม่นยำได้ ด้วยการสร้างภาพในหัวสักอย่าง ซึ่งพอนึกถึงมันปุ๊บ รายละเอียดข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับภาพนั้น จะหลั่งไหลพรั่งพรูออกมาทันที เช่น คุณผู้หญิงที่ชอบพกกระเป๋าหลายใบ หากคุณชอบลืมว่าเก็บกุญแจรถไว้ในใบไหน ก็ลองหมั่นนึกภาพว่า กระเป๋าใบนั้นมีล้อรถงอกออกมาแล้ววิ่งฉิวออกไป ฝึกการจินตนาการภาพแปลกๆ เช่นนี้เพียงไม่นาน ทุกครั้งที่คุณจะหยิบกุญแจรถ ก็จะนึกถึงเจ้ากระเป๋าใบดังกล่าวโดยอัตโนมัติ
- ยิ่งภาพมีความเป็นเอกลักษณ์และแปลกมากเท่าไร สมองคุณก็จะจำได้ดียิ่งขึ้น [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้เทคนิคเชื่อมโยงความจำในการจดจำตัวเลข. สมมุติว่า คุณต้องกรอกเลขประจำตัวนักเรียน หรือเลขประจำตัวพนักงานบ่อยๆ ด้วยสาเหตุใดก็ตาม แต่คุณก็จำไม่ได้เสียที คุณก็แค่แตกย่อยตัวเลขออกเป็นกลุ่มๆ เช่น ตัวเลข 12-7575-23 คุณก็หาความหมายมาเติมให้ตัวเลขแต่และกลุ่ม สมมุติว่า 12 เป็นเลขที่บ้านคุณ และ 75 เป็นอายุของคุณยาย ส่วน 23 เป็นหมายเลขข้างหลังเสื้อนักกีฬาคนโปรดของคุณ เช่น ไมเคิล จอร์แดน คุณก็อาจใช้จินตภาพดังนี้ช่วยจำตัวเลขทั้งหมด:
- นึกภาพบ้านของคุณ โดยมีคุณยาย สอง คนยืนอยู่ด้านขวาของบ้าน และถัดจากคุณยายคือไมเคิล จอร์แดน ตามลำดับ แค่นี้คุณก็จะได้ตัวเลขทั้งหมด คือ 12 (บ้าน) 7575 (ยายสองคน) 23 (ไมเคิล จอร์แดน) โดยจำภาพแค่ภาพเดียว
-
ใช้เทคนิคจับแยก. เทคนิคดังกล่าวคือ การจัดกลุ่มสิ่งที่คุณต้องการจะจำ โดยเฉพาะสิ่งที่อยู่กระจัดกระจายกัน เช่น รายการสิ่งที่ต้องซื้อเวลาไปซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งคุณจะจำได้ง่ายขึ้น โดยจัดกลุ่มแบ่งตามประเภทเป็น ผัก ผลไม้ เครื่องดื่ม ขนม ฯลฯ หรือคุณอาจแบ่งตามตัวอักษรนำหน้า เช่น หากต้องซื้อกาแฟ ไข่ ขนมปัง เบคอน คุณก็จำแค่ 1ก, 2ข, 1บ ซึ่งเชื่อเถอะว่าแค่คุณคิดถึงตัวเลขและตัวย่อ สมองคุณก็จะนึกออกเองว่าตัวอักษรแต่ละตัวแทนรายการสินค้าใด ซึ่งจะช่วยให้คุณจ่ายตลาดได้เร็วขึ้น [3] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
- หากคุณจำเป็นต้องซื้อผัก 4 ชนิด ก็จะยิ่งจำง่ายเข้าไปใหญ่ เมื่อใช้เทคนิคดังกล่าว
- เทคนิคจับแยกเป็นวิธีการเดียวกัน กับการที่เรามักขีดคั่นหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อให้จำง่าย คุณว่าแบบไหนจำง่ายกว่ากันล่ะระหว่าง 832657782 กับ 083-265-7782
- คุณอาจคิดว่าไม่มีทางจำเลขพวกนี้ 17761812184818651898 แต่หากคุณลองแบ่งสี่ และเติมความหมายเลขทั้ง 5 กลุ่มเป็นปีคริสตศักราช จากนั้น ก็ลองกูเกิ้ลดูว่าในตัวเลขแต่ละปีนั้น มีเหตุการณ์สำคัญใดเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งในกรณีนี้ คุณก็อาจจะจดจำให้เป็นเหตุการณ์หรือชื่อสงครามทั้งหมด มาร้อยเรียงกันคือ สงครามประกาศอิสรภาพ – สงครามปี 1812 – สงครามเม็กซิกัน อเมริกัน – สงครามกลางเมือง – สงครามสแปนิช อเมริกัน
-
เทคนิคคำคล้องจอง. โดยคุณอาจจะใช้คำตามแบบของคุณเอง ไม่ต้องสนใจว่ามันจะถูกไวยากรณ์หรือไม่ หรือฟังดูตลกเพียงใด เพราะจุดประสงค์คือ คุณจำได้ก็พอแล้ว เช่น หากจะจำว่าเดือนไหนมี 30 หรือ 31 วัน ก็แต่งกลอนแบบง่ายๆ เช่น "สามสิบลงท้ายด้วยยน เดือนไหนคมก็มีสามเอ็ด" นอกจากนี้ คุณอาจดูตัวอย่างต่อไปนี้เพิ่มเติม: [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองกูเกิ้ลหาเพลงของอัสนี – วสันต์ ชื่อเพลง “กรุงเทพมหานคร” มาฟังกันดู เพราะนั่นเป็นเพลงที่ช่วยให้คนทั้งประเทศ สามารถจำชื่อเต็มๆ ของกรุงเทพมหานคร ด้วยการนำชื่อดั้งเดิมมาใส่ทำนอง และแบ่งวรรคแบบใหม่ เพื่อให้เราจำได้อย่างคล้องจองลงตัว: กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรา- ยุธยามหาดิลก – ภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ – อุดมราชนิเวศน์ - มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์
- เพลงกล่อมเด็กอันเป็นที่นิยมไปทั่วโลกอย่างเพลง ทวิงเกิล ทวิงเกิล ลิตเติ้ล สตาร์ (Twinkle, Twinkle, Little Star) ก็ใช้หลักการเดียวกันนี้ ซึ่งได้ผลดีทีเดียวล่ะ
-
เทคนิคอักษรย่อ. การใช้อักษรย่อช่วยจำ มีประโยชน์และเป็นวิธีที่สร้างสรรค์มากวิธีหนึ่ง คล้ายๆ กับวิธีที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างการทำแผนธุรกิจโดยใช้หลัก SWOT (Strength-Weakness-Opportunity-Threat) โดยหากคุณต้องการจดจำสิ่งของที่ต้องซื้อ คุณก็สามารถกำหนดตัวย่อให้เป็นคำอะไรก็ได้ เช่น ไข่ มาม่า และนมสด คุณก็เอาตัวย่อมาเรียงสลับกันนิดหน่อยเป็น ข.น.ม. หรือขนมนั่นเอง และเรายังมีตัวอย่างอีกมากมาย:
- HOMES. คำว่าโฮมส์ เป็นคำที่คนอเมริกันใช้จำชื่อแม่น้ำหลักทั้ง 5 สายคือ: Huron, Ontario, Michigan, Erie และ Superior.
- อุอีบูอาทักหอปะพา คำดังกล่าวอาจฟังดูแปลก แต่มันเป็นเทคนิคที่คนไทยเราในสมัยก่อน ใช้จดจำทิศทั้ง 8 ของไทย ได้แก่ อุดร อีสาน บูรพา อาคเนย์ ทักษิณ หรดี ปัจฉิม และพายัพ
- นอกจากนี้ ยังมีคำที่คนไทยคุ้นเคยกันดีอย่าง คตินักปราชญ์ “สุจิปุลิ” ซึ่งย่อมาจาก สุตะ จินตะ ปุจฉา และลิขิต (ฟัง คิด ถาม เขียน) นั่นเอง
-
เทคนิคสร้างประโยค. การสร้างประโยคจะคล้ายคลึงกับการใช้ตัวย่อ ต่างกันตรงที่เราจะเอาอักษรแรกมาเปลี่ยนเป็นคำใหม่ และเมื่อนำแต่ละคำมาเรียบเรียง ก็จะเป็นประโยคๆ หนึ่ง ให้จำได้ง่ายๆ เช่น เวลาที่ชาวตะวันตกเขาจะจำชื่อดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ดวง ซึ่งก็คือ Mercury, Venus, Earth, Mars, Jupiter, Saturn, Uranus และ Neptune พวกเขาก็มักจะจำว่าเป็นประโยคว่า "My very eager mother just sent us noodles." หรือ “คุณแม่ผู้ทุ่มเทของฉัน เพิ่งส่งบะหมี่มาให้” มาดูตัวอย่างกันอีกสักนิด: [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- Every Good Boy Does Fine (เด็กดีทุกคนทำได้ดี) ประโยคนี้ ฝรั่งเขาเอาไว้จำตัวโน้ตบนบรรทัด 5 เส้น ซึ่งก็คือ EGBDF นั่นเอง
- ส่วนของไทยเรา ก็มีตัวอย่างการสร้างประโยค ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่า เช่นประโยคที่ว่า “ชิดชัยมิลังเล เพียงพบอนงค์” ซึ่งใช้จำจังหวัดทางภาคเหนือของไทยทั้ง 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง แพร่ พะเยา อุตรดิตถ์ และน่าน
- นอกจากนี้ ยังมีการจำหมวดอักษรในภาษาไทยเรา เช่นที่เราได้ยินกันบ่อยที่สุด คือ อักษรกลาง ด้วยประโยคที่ว่า “ไก่จิกเด็ก(ฎ)ตาย(ฏ)บนปากโอ่ง”
- ส่วนอักษรหมวดที่เหลือ ซึ่งอาจได้ยินกันไม่บ่อยนัก คือ อักษรสูง “ผีฝากถุง(ฐ)ข้าว(ฃ)สาร(ษ ศ)ให้ฉัน” และอักษรต่ำคู่ “พ่อ(ภ)ค้า(ฅ ฆ)ฟัน ทอง(ธ ฐ ฒ)ซื้อช้าง(ฌ)ฮ่อ และสุดท้ายคือ อักษรต่ำเดียว “งูใหญ่นอนอยู่ ณ วัดโมรีโลก(ฬ)” เป็นต้น
-
เทคนิคโลซาย (Loci). เทคนิคนี้เป็นวิธีที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ โดยใช้สถานที่ในการเชื่อมโยงข้อมูลในความทรงจำ โดยเริ่มจากการจินตภาพสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งที่คุณรู้สึกคุ้นเคย ให้แจ่มชัดอยู่ในใจ จากนั้น หากคุณต้องการจดจำสิ่งใด ก็ให้นึกภาพว่า มีสิ่งของเหล่านั้นอยู่ตามจุดต่างๆ ในสถานที่ดังกล่าว [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- สมมุติว่า คุณต้องจำหมวดอักษรสูง กลาง และต่ำ ในคราวเดียวกัน หากคุณต้องการให้ง่ายขึ้นไปอีก คุณก็สามารถใช้วิธีโลซายนี้ ด้วยการจินตภาพเป็นภาพวัดเอาไว้ในใจ โดยสมมุติเอาว่าเป็น วัดโมรีโลกฯ โดยมีงูใหญ่นอนอยู่ และมีผีฝากถุงข้าวสารกำลังยื่นให้คุณ ส่วนอีกมุมหนึ่ง ก็มีภาพไก่กำลังจิกเด็กตายบนปากโอ่ง ซึ่งภาพทั้งหมดนี้อาจดูเหลวไหล แต่จุดประสงค์ก็เพื่อจดจำข้อมูลจำนวนมาก ด้วยการนึกภาพเพียงภาพเดียวเท่านั้น ซึ่งคุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่นๆ ได้ ตามแบบของตัวเอง
- บางครั้งเวลาที่คุณจัดเรียงข้อมูลบางอย่าง โดยเอ่ยว่า “ลำดับหนึ่ง” และ “ลำดับสอง” ไปตามลำดับนั้น ก็เป็นวิธีการที่มีรากฐานคล้ายคลึงกับเทคนิคโลซายนี้เหมือนกัน
โฆษณา
-
เลิกคิดว่าตัวเอง "ความจำไม่ดี." หากคุณเอาแต่บอกตัวเองว่าเป็นคนความจำไม่ดี หรือจำอะไรไม่ค่อยได้เลย ก็ขอให้บอกตัวเองใหม่ว่า คุณมีความจำดีและแถมยังพัฒนาได้อีกเรื่อยๆ และให้รางวัลตัวเองบ้าง ในเวลาที่คุณรู้สึกว่าทำได้สำเร็จ เพื่อสร้างแรงจูงใจต่อไป
-
หมั่นลับสมอง. การ "ลับสมอง" เป็นประจำ จะช่วยให้สมองของคุณเติบโต และเร่งการแผ่ขยายของเซลล์ประสาทที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งส่งผลต่อการมีความจำดีนั่นเอง ดังนั้น การลับสมองอย่างเช่น เรียนรู้ภาษาที่สาม หรือหัดเล่นเครื่องดนตรีใหม่ๆ แม้กระทั่งการเล่นเกมทั่วๆ ไป ก็ยังสามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพของสมอง และทำให้มันตื่นตัวอยู่เสมอ
- คุณควรมีเกมอย่าง ครอสเวิร์ด ซูโดกุ หรือเกมที่ต้องใช้ความคิดอื่นๆ ติดบ้านเอาไว้ลับสมองกันเป็นประจำ เพราะมันเล่นได้ทุกเพศทุกวัย
- พยายามทดลองสิ่งใหม่ๆ บ้าง โดยหัดเล่นพวกบอร์ดเกมทั่วๆ ไป เช่น หมากรุก หรืออะไรก็ได้ที่เล่นได้สะดวก ซึ่งมันจะช่วยบริหารสมองได้ดีทีเดียว
- สมองส่วนใหญ่ของคุณจะถูกกระตุ้น ทุกครั้งที่คุณกำลังเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ส่วนการจดจำข้อมูลใหม่ๆ ก็ยิ่งดี เพราะมันต้องใข้ทั้งการรับและส่งข้อมูลภายในสมอง ซึ่งถือเป็นเสมือนการลับสมองมากกว่าเดิมเสียอีก
-
ให้เวลาตัวเองซึมซับความจำบ้าง. ความทรงจำเป็นสิ่งที่เปราะบางในระยะสั้น ซึ่งสิ่งรบกวนใจเพียงนิดเดียว ก็สามารถทำให้คุณลืมเรื่องที่กำลังจะจำได้แล้ว กุญแจสำคัญในการจำให้ได้ก่อนที่จะลืมก็คือ พยายามใช้เวลาเท่าที่จำเป็น ในการจดจำสิ่งเหล่านั้น โดยหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนใจสักพัก
-
ทำภาพให้แจ่มชัด. บ่อยครั้งที่เราลืมเพียงเพราะเราไม่ใส่ใจเท่าที่ควร ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับมีความจำแย่แต่อย่างใด เช่น เวลาที่เราพบเพื่อนใหม่ๆ ซึ่งเรามักจะจำชื่อเสียงเรียงนามของแต่ละคนไม่ได้ โดยเฉพาะในแว้บแรกที่พบหน้ากันอีกครั้ง แต่พอลองรวบรวมสติขึ้นมา ก็กลับนึกขึ้นได้ ซึ่งมันบ่งบอกว่าคุณควรใส่ใจกับการจำให้มากกว่าเดิมเท่านั้นเอง
- วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณรู้จักช่างสังเกตมากขึ้น ก็คือการหารูปภาพอะไรสักอย่างมาดู สัก 2-3 วินาที จากนั้น ให้ปิดคว่ำมันไว้ และเขียนรายละเอียดทั้งหมดที่คุณพอจะจำได้ลงไปบนกระดาษ โดยพยายามหลับตาและนึกภาพให้ถึงที่สุด โดยคุณควรลองสลับรูปภาพและฝึกแบบนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งไม่นานนัก คุณก็จะเริ่มจำได้มากขึ้น แม้ได้เห็นรูปเพียงแค่แวบเดียวก็ตาม
-
ใช้ประสาทสัมผัสอื่นๆ ช่วย. ยิ่งใช้ประสาทสัมผัสมากเท่าไร คุณก็ยิ่งสามารถกระตุ้นสมองได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณดึงข้อมูลความจำออกมาได้มากขึ้น ทุกครั้งที่พยายามนึกถึงสิ่งๆ นั้น
- เขียนมันออกมา เพราะการเขียนจะช่วยให้คุณกระตุ้นสมองไปในตัว ทำให้จำได้แม่นยำขึ้น แต่ทั้งนี้ การพิมพ์ดีดหรือแป้นคีย์บอร์ด จะส่งผลน้อยกว่า
- เวลาที่เขียนรายละเอียดต่างๆ คุณอาจลองเขียนด้วยลายมือแปลกๆ จากนั้น จึงนำมาอ่านทวน ซึ่งยิ่งตัวอักษรอ่านยากมากเท่าไร สมองคุณก็จะพยายามจำมากขึ้นเท่านั้น
- ซักซ้อมการจำรายละเอียดต่างๆ ด้วยการบอกรายละเอียดเหล่านั้นกับตัวเองหรือใครสักคน ซึ่งจะเป็นการเอาประสาทด้านการได้ยินเข้าไปร่วมจดจำด้วยอีกแรง ยิ่งหากคุณจำเป็นต้องพูดหรืออธิบายให้ใครสักฟัง สมองคุณก็จะยิ่งจำรายละเอียดเหล่านั้นได้แม่นยำขึ้น
-
อาศัยอุปกรณ์แวดล้อมช่วย. โดยการลองเปลี่ยนตำแหน่งของสิ่งต่างๆ ให้ไม่เหมือนเดิม เช่น หากคุณกลัวลืมที่จะต้องทานยาทุกเช้า ก็ลองหาอุปกรณ์บางอย่าง เช่น แก้วกาแฟที่คุณใช้ดื่มทุกเช้า มาวางไว้ข้างถุงยาดังกล่าว โดยหลังจากทานยาเรียบร้อยแล้ว จึงจะนำแก้วดังกล่าวไปไว้ที่ประจำของคุณเหมือนเดิม ดังนั้น หากเช้าวันไหนคุณไม่เห็นแก้วกาแฟดังกล่าว ก็จะเอะใจได้ว่ายังไม่ได้ทานยา [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณไม่อยากพลาดวันเกิดคนรัก เมื่อถึงช่วงใกล้ๆ วันเกิดดังกล่าวแล้ว คุณก็อาจจะสวมนาฬิกาสลับกับข้างที่คุณสวมประจำ ซึ่งเมื่อคุณยกแขนผิดข้าง เวลาที่จะดูนาฬิกา คุณก็จะนึกได้ว่าต้องรีบหาซื้อของขวัญไว้แล้ว
- คุณควรจะนึกถึงรายละเอียดที่คุณต้องการจำ ในทุกครั้งที่คุณเคลื่อนไหวอุปกรณ์ช่วย มิฉะนั้น วิธีดังกล่าวอาจไม่ได้ผล นั่นคือ คุณอาจจะไม่เอะใจอะไร
-
ใช้แฟลชการ์ด (Flashcard) ช่วย. แฟลชการ์ดเป็นการ์ดสี่เหลี่ยมที่คุณสามารถแปะคำถามไว้ด้านหนึ่ง และมีคำตอบแปะไว้อีกด้าน อันจะเป็นประโยชน์มาก หากคุณต้องจำเรื่องเกี่ยวกับเนื้อหาการเรียน แต่ก็อาจนำมาประยุกต์ใช้ในการจำเรื่องอื่นๆ ได้ โดยเอารูปภาพแปะไว้ด้านหนึ่ง และเอาข้อมูลที่ต้องการเชื่อมโยงกับรูปภาพนั้น แปะไว้อีกด้าน ทั้งนี้ เมื่อคุณใช้แฟลชการ์ดทดสอบความจำตัวเองในแต่ละเรื่อง หากคุณจำใบไหนได้แล้ว ก็ให้วางแยกไว้ต่างหาก เพื่อที่จะมาทดสอบตัวเองอีกครั้งภายหลัง
- แยกใบที่จำได้ไว้ด้านหนึ่ง และแยกใบที่คุณยังต้องฝึกจำไว้อีกด้านหนึ่ง จากนั้นก็พยายามไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจำได้ครบทุกใบ ซึ่งคุณอาจจะพักเบรกได้ตามความเหมาะสม
- เว้นช่วงสักสองสามวัน จากนั้นลองไปเล่นแฟลชการ์ดเพื่อทดสอบตัวเองดูอีกครั้งว่า ยังจำได้อยู่หรือไม่
-
อย่ายัดข้อสอบใส่หัว. หากคุณมาเร่งอ่านเพื่อจะเข้าสอบแบบกะทันหัน โดยพยายามยัดแบบฝึกหัดเก็งข้อสอบเข้าไปมากๆ ก็อาจพอทำได้ในกรณีที่มีการสอบวันรุ่งขึ้น แต่หากไกลกว่านั้น มีโอกาสสูงมากที่คุณจะลืมเมื่อถึงเวลาสอบ ดังนั้น คุณควรเผื่อเวลาให้สมองบ้าง ด้วยการอ่านหรือจำล่วงหน้าตามความเหมาะสม อันจะทำให้จำได้ในระยะยาวกว่าโฆษณา
-
พูดถึงสิ่งที่คุณต้องการจำ ออกมาดังๆ. หากคุณมักลืมว่าได้ทานยาตอนเช้าไปหรือยัง ในครั้งต่อไปคุณอาจพูดออกมาดังๆ หลังทานยาว่า “ฉันกินยาไปแล้ว!” เพื่ออัดความจำดังกล่าวเข้าไปในสมอง การพูดดังๆ เช่นนี้ จะช่วยให้คุณจำได้ว่าคุณทานยาไปแล้ว
- วิธีนี้สามารถใช้ในกรณีที่คุณต้องการจะจดจำชื่อของใครบางคน ที่เพิ่งพบกันให้ได้ด้วย โดยคุณอาจพูดชื่อเขาหรือเธอออกมาแบบเนียนๆ เช่น “สวัสดีครับ คุณต่าย ยินดีที่ได้รู้จัก”
- นอกจากนี้ ยังใช้ในกรณีต้องการจำสถานที่หรือเวลานัดหมายได้อีก โดยคุณสามารถทวนรายละเอียดทันทีที่นัดกัน เช่น “วงเวียนใหญ่ ตอนทุ่มนึงนะ โอเคตามนั้น”
-
หายใจเข้าลึกๆ เวลาต้องการจำเรื่องใด. หากคุณต้องจำเรื่องอะไรใหม่ๆ พยายามหายใจเข้าช้าๆ และลึกกว่าปกติ เพื่อปรับการทำงานของสมองให้มีวงจรไฟฟ้าแบบคลื่นเธต้า ซึ่งเป็นคลื่นแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในสมอง เวลาที่ใครบางคนกำลังถูกสะกดจิตให้หลับ
- เพื่อกระตุ้นให้เกิดคลื่นเธต้า เปลี่ยนมาหายใจให้ลึกลงไปถึงบริเวณท้องน้อย หรือที่เรียกว่าการหายใจจากช่องท้องนั่นเอง และควรตั้งใจหายใจให้ช้าลงด้วย
- หลังจากผ่านไปสักพัก คุณจะรู้สึกสงบลง เนื่องจากคลื่นเธต้าไหลผ่านไปทั่วสมอง และเป็นภาวะที่จะช่วยให้คุณพร้อมจดจำรายละเอียดต่างๆ ได้ดีขึ้น
-
จำชื่อบุคคล. ใช้เทคนิคที่ได้รับความนิยม ซึ่งคัดมาจากหนังสือคู่มือของประธานาธิบดี แฟรงคลิน ดี. รูสเวลท์ (FDR) ในการจำชื่อบุคคล นั่นคือ เมื่อใครกำลังแนะนำตัว คุณก็นึกภาพชื่อของคนๆ นั้น แปะอยู่บนหน้าผากพวกเขา ซึ่งจะช่วยให้นึกชื่อออกทันทีเมื่อเห็นหน้าเขาหรือเธอ
-
บีบลูกบอลคลายเครียด. ผลการวิจัยพบว่า การบีบลูกบอลคลายเครียดลูกเล็กๆ หรือแค่เพียงกำมือให้แน่นเฉยๆ เวลากำลังจำเรื่องอะไร จะช่วยให้คุณจดจำได้ดียิ่งขึ้น [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ก่อนจะจดจำอะไร บีบลูกบอลดังกล่าวด้วยมือข้างที่คุณใช้บ่อยกว่า เช่น หากคุณถนัดขวา ก็บีบด้วยมือข้างขวา
- เมื่อต้องการนึกเรื่องดังกล่าว ก็บีบลูกบอลคลายเครียดด้วยมือด้านตรงข้าม ประมาณ 45 วินาที ซึ่งวิธีง่ายๆ นี้ ก็พอจะช่วยให้คุณจดจำเรื่องต่างๆ ได้
-
เคี้ยวหมากฝรั่ง. วิธีธรรมดาๆ นี้จะช่วยกระตุ้นสมอง และทำให้คุณจดจ่อมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคุณต้องจำอะไรเป็นเวลามากกว่า 30 นาที
- ผลการศึกษาบางแห่งพบว่า ความจำด้านจักษุและโสตประสาท จะดีขึ้นเมื่อคนเราเคี้ยวหมากฝรั่ง โดยจะช่วยให้เราจดจ่อมากขึ้น
- เมื่อคุณต้องการจำอะไรเป็นเวลาน้อยกว่า 30 นาที การเคี้ยวหมากฝรั่ง ไม่ใช่ตัวช่วยที่เหมาะสม
-
กรอกลูกตาไปมา. ผลการศึกษาพบว่า การกรอกลูกตาไปมาซ้ายขวาๆ แค่ 30 วินาทีต่อวัน จะเป็นการช่วยเชื่อมการทำงานของสมองทั้ง 2 ซีก และทำให้ความจำคุณทำงานดีขึ้น ลองทำตอนที่คุณตื่นนอนดูก็ได้ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ดมกลิ่นโรสแมรี่. ผลการศึกษาพบว่า การดมกลิ่นโรสแมรี่ จะช่วยให้คุณนึกอะไรออกง่ายขึ้น คุณสามารถนำช่อโรสแมรี่มาประดับใกล้ๆ หรือดมน้ำมันหอมกลิ่นโรสแมรี่ เพียงวันละครั้งก็ได้ ทั้งนี้ ชาวกรีกโบราณมักนำดอกโรสแมรี่มาทัดหูเอาไว้ เวลาที่มีการสอบ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความจำ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองเคล็ดลับฉลาดๆ. เริ่มด้วยการจำรายชื่อสิบคำนี้ มันง่ายมาก เพราะแต่ละคำเป็นคำที่สัมผัสกับอันดับตัวเลขในรายชื่อ เวลาที่คุณต้องจำสิ่งต่างๆ ให้ใช้รูปแบบสัมผัสคล้องจองแบบนี้ เช่น ถ้าต้องทำความสะอาดแว่นตา คำเอกพจน์ของแว่นตา (glasses) คือ 'glass' ก็จำไปเช่นนี้ ถ้านี่เป็นสิ่งแรกในรายชื่อของคุณ ให้นึกภาพปืน (gun) ซึ่งคล้องจองกับ one กำลังยิงกระจก (glass) อยู่ โดยการเชื่อมโยงเช่นนี้จะทำให้ภาพกิจกรรมที่ต้องทำดั้งเดิมผุดขึ้นมาในหัว รายชื่อก็ว่ากันตามด้านล่างนี้เลย:
- Gun
- Shoe
- Flea
- Door
- Dive
- Sticks
- Heaven
- Date
- Blind
- Pen
โฆษณา
-
จัดระเบียบชีวิต. พยายามวางสิ่งที่คุณต้องหยิบใช้บ่อยๆ เช่น กุญแจ หรือแว่นตา ไว้ในที่เดียวกันทุกครั้ง และใช้สมุดจดหรือออร์กาไนเซอร์ในอุปกรณ์สื่อสาร ช่วยเตือนการนัดหมาย กำหนดชำระหนี้ รวมถึงงานอื่นๆ และจดหมายเลขโทรศัพท์กับที่อยู่เอาไว้ในสมุดบันทึก หรือในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ การจัดการเรื่องต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยให้คุณมีพลังจดจ่อเรื่องอื่นมากขึ้น และเสียเวลาจำเรื่องในชีวิตประจำวันน้อยลง
- ต่อให้การจัดการบริหารชีวิตประจำวัน ไม่ได้ช่วยให้ความจำดีขึ้น แต่ก็ย่อมเป็นผลดีในด้านอื่นๆ (เช่น คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลาตามหากุญแจอีกต่อไป)
-
พยายามมีสติกับเรื่องที่อยู่ตรงหน้า ดีกว่าทำหลายอย่างพร้อมกัน. การทำหลายๆ เรื่องในเวลาเดียวกัน ดูเหมือนกับจะช่วยให้คุณได้ผลงานออกมาเร็วขึ้น แต่ผลการศึกษาพบว่า การทำเช่นนั้นกลับยิ่งทำให้สมองทำงานช้าลง ซึ่งการจดจ่อในสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จะช่วยให้คุณจดจ่อมากกว่า ซึ่งส่งผลดีต่อความจำและยังทำให้สมองทำงานเร็วขึ้น
- การจดจำบางอย่างเข้าไปในสมอง ปกติแล้วจะใช้เวลาอย่างน้อย 8 วินาที ซึ่งหากคุณทำหลายอย่างพร้อมกัน รายละเอียดมันมักจะหลุดลอยไปก่อนจะครบ 8 วินาที นั่นคือสาเหตุที่คุณมีแนวโน้มจะลืมรายละเอียดดังกล่าว
- การฝึกเจริญสติ คุณแค่ต้องหัดมีสมาธิและจดจ่อในสิ่งที่ทำครั้งละเรื่องเท่านั้น หากคุณต้องการจะจำข้อมูลรายละเอียดเรื่องใด ก็พยายามใช้เวลาอย่างน้อย 8 วินาทีในการจดจำเรื่องนั้น
-
ออกกำลังกายทุกวัน. การแอโรบิกทุกวันจะช่วยเสริมสร้างระบบไหลเวียนเลือดลมทั่วร่างกาย รวมถึงสมองด้วย และยังป้องกันการสูญเสียความจำที่มักเกิดขึ้นในวัยชรา นอกจากนี้ การออกกำลังยังช่วยให้ผ่อนคลายและตื่นตัว ซึ่งช่วยให้คุณจำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น เนื่องจากมีจินตภาพที่แจ่มชัดขึ้น
- การเดินแค่ 30 นาทีต่อวัน ก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่สุดยอดแล้ว
- เซลล์ประสาทจะสร้างนิวโรโทรปิค (Neurotropic) ขึ้นมา ระหว่างที่เราออกกำลังกาย อันเป็นโปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง
- การออกกำลังยังช่วยให้เลือดสูบฉีดไปสู่สมองดีขึ้น ซึ่งจะทำให้สมองได้รับออกซิเจนมากขึ้นด้วย
- มีผลการศึกษาพบว่า การออกกำลังกายเป็นประจำ ทั้งแบบพอเหมาะและแบบโหมหนัก จะช่วยเพิ่มศูนย์กลางความจำในสมองให้มากขึ้นประมาณ 1-2 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่หากไม่หมั่นออกกำลังกาย สมองส่วนดังกล่าวจะคงที่หรืออาจมีประสิทธิภาพลดลงด้วย
-
ลดความเครียด. ความเครียดเรื้อรังมีผลกระทบทางกายภาพต่อสมอง และทำให้จำเรื่องต่างๆ ได้ยากขึ้น หลังจากเครียดเป็นเวลานานๆ สมองจะได้รับผลกระทบและเสื่อมลง ถึงแม้ว่าความเครียดอาจเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่เราสามารถควบคุมมันได้ เพราะหากปล่อยให้เครียดแม้เพียงชั่วคราว ก็ยังสามารถทำให้สมองจดจ่อและสังเกตการณ์ได้ยากขึ้น ซึ่งในกรณีที่เครียดเรื้อรัง สมองส่วนฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) หรือส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความจำ ก็จะได้รับความเสียหาย
- พยายามผ่อนคลาย และยืดเส้นยืดสาย หรือฝึกโยคะ และไปปรึกษาแพทย์ทันทีที่คุณมีอาการเครียดเรื้อรังและรุนแรง
- ทำสมาธิอย่างน้อย 15 นาทีต่อวัน จะช่วยให้คุณมีจังหวะการหายใจช้าลง และช่วยผ่อนคลาย ทำให้คุณโฟกัสได้ดีขึ้น
- ลดการดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีน ซึ่งมีผลทำให้คุณเครียดและวิตกกังวลได้ง่าย
- ลองนวดตัวเอง หรือให้คนรอบข้างนวดให้ จะช่วยให้ร่างกายคุณผ่อนคลาย
- ลดความเครียดด้วยการไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ ให้มากขึ้น การเข้าสังคมและพูดคุยกับคนอื่นมากขึ้น จะช่วยพัฒนาความจำของคุณ
- ความเครียดและวิตกกังวลยังส่งผลให้คุณจดจำและจดจ่อได้ยากขึ้น ดังนั้น หากคุณเป็นโรคเกี่ยวกับความวิตกกังวลหรือซึมเศร้า คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางออกให้กับเรื่องนี้
-
หัวเราะบ่อยๆ. [11] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล การหัวเราะจะช่วยให้สมองหลายๆ ส่วน ผ่อนคลาย รวมถึงส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความจำด้วย
- การหัวเราะจะมีผลดีมากยิ่งขึ้น หากมีผู้อื่นร่วมด้วย ผลการศึกษาพบว่า การสังสรรค์กับเพื่อน ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่กับสัตว์เลี้ยง จะช่วยลดอัตราความจำเสื่อมเมื่อถึงวัยชรา
-
ทานอาหารที่มีประโยชน์และสมบูรณ์. มีสมุนไพรสกัดมากมายในท้องตลาด ที่อวดอ้างว่าช่วยในการเสริมสร้างความจำ แต่ยังไม่มีผลการวิจัยยืนยันในเรื่องดังกล่าวเลยสักชิ้นเดียว แต่แน่นอนว่า อาหารที่อุดมโภชนาการย่อมส่งผลดีต่อสมอง และอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น บร็อคโคลี่ บลูเบอร์รี่ และผักโขม และกรดไขมันโอเมก้า-3 ก็มีส่วนในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เสริมอาหารให้สมองของคุณด้วยแร่ธาตุไธอามีน ไนอาซิน และวิตามินบี 6
- อาหารอื่นๆ ที่ดีต่อสมอง ก็อย่างเช่น ชาเขียว กะหรี่ ขึ้นฉ่าย บร็อคโคลี่ กะหล่ำดอก วอลนัท ปู ถั่วลูกไก่ เนื้อแดง บลูเบอร์รี่ และไขมันที่มีคุณค่าทางโภชนาการ (เช่น เนยออร์แกนิค น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว ถั่ว อะโวคาโด ปลาแซลมอน และปลาอื่นๆ ที่อุดมด้วยไขมัน) อาหารที่ว่ามาทั้งหมดนี้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องสมอง และเสริมสร้างเซลล์ประสาท
- เพิ่มขนาดการบริโภคกรดไขมันโอเมก้า-3 แต่ลดขนาดบริโภคอาหารที่มีไขมันโอเมก้า-6 ลง ทั้งนี้ ไขมันโอเมก้า-3 มีอยู่มากในปลาแซลมอน รวมถึงสัตว์จากแหล่งเดียวกัน ในขณะที่ไขมันโอเมก้า-6 ส่วนใหญ่จะพบน้ำมันพืชแปรรูปต่างๆ
- คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตประเภทเมล็ดต่างๆ เพราะอาหารดังกล่าวอาจมีผลเสียต่อสมองของคุณ นอกจากนี้ พวกอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและให้กำลังงานสูง ก็เชื่อกันว่ามีผลเสียต่อความจำระยะยาวเช่นกัน
- ไวน์แดงสามารถช่วยในเรื่องความจำ หากดื่มแต่พอประมาณ โดยผู้หญิงไม่ควรเกินหนึ่งแก้ว และผู้ชายไม่ควรเกินสองแก้วต่อวัน มิฉะนั้น ให้ส่งผลเสียต่อความทรงจำ การดื่มแต่เพียงน้อย สารเรสเวอราทรอล ฟลาโวนอยด์ (resveratrol flavonoid) ที่อยู่ในไวน์ จะเพิ่มการสูบฉีดเลือดและออกซิเจนในสมอง ทั้งนี้ น้ำองุ่น น้ำแครนเบอร์รี่ เบอร์รี่สด และถั่วลิสง ก็ให้ผลเช่นเดียวกัน
- การทานอาหารแต่เพียงน้อย โดยแบ่งเป็น 5-6 มื้อต่อวัน โดยเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ แทนที่จะทานหนักๆ 3 มื้อ มีผลช่วยในการพัฒนาการทำงานของสมองส่วนความจำ ด้วยการลดระดับน้ำตาลในเลือดอันส่งผลเสียต่อสมอง
-
พยายามเพิ่มปริมาณวิตามินดี ในการบริโภคอาหาร. มีผลการศึกษาพบว่า หากร่างกายได้รับวิตามินดีน้อยไป จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการคิด [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง หากตัวรับวิตามินดีในสมองได้รับการกระตุ้น เซลล์ประสาทในสมองจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งระบบเผาผลาญวิตามินดีในร่างกาย จะอยู่ในบริเวณสมองส่วนที่เสริมสร้างความทรงจำใหม่ๆ
- การตากแดดมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อผิวหนัง แต่การได้รับแสงแดดอย่างพอเหมาะ จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดีตามธรรมชาติ ซึ่งจำเป็นต่อการเติบโตในผู้ใหญ่
- การทานวิตามินดี 3 เสริมในแต่ละวัน เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดีอย่างพอเพียง
-
นอนหลับให้เพียงพอ. การนอนหลับจะช่วยเสริมสร้างภาวะยืดหยุ่นของสมอง หรือศักยภาพในการเติบโตของสมองนั่นเอง ซึ่งทำให้สมองส่วนควบคุมพฤติกรรมและความจำทำงานได้ดีขึ้น ระยะเวลาในการนอนของคนเราจะส่งผลต่อความสามารถในการนึกรายละเอียดต่างๆ ที่สมองเพิ่งได้รับรู้ ผลการศึกษาจาก Harvard Medical School ระบุว่า เราควรนอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อผลดีต่อความจำระยะสั้นและความจำระยะยาวที่เกี่ยวเนื่องกัน
- พยายามนอนหลับประมาณ 7-10 ชั่วโมงต่อคืน ซึ่งระยะเวลาที่เหมาะที่สุด สำหรับผู้ใหญ่ คือ 8 ชั่วโมง
- พยายามเข้านอนและตื่นนอนเวลาเดียวกันทุกวัน จะช่วยให้คุณรู้สึกได้พักผ่อนเต็มที่
- ใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงบนเตียง เพื่ออ่านหนังสือหรือผ่อนคลายก่อนเข้านอน ปิดโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ และสิ่งเร้าอื่นๆ อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงก่อนเข้านอน
- การงีบหลับระหว่างวัน จะช่วยให้คุณสดชื่นและเสริมประสิทธิภาพการจำได้
- สมองของคุณจะทำการบีบอัดข้อมูลต่างๆ ลงไปเป็นความทรงจำระยะยาว ในระหว่างที่คุณกำลังหลับ ซึ่งหากคุณไม่ยอมหลับยอมนอน กระบวนการดังกล่าวก็เกิดขึ้นไม่ได้
โฆษณา
เคล็ดลับ
- เวลาเรียนหรือติวหนังสือ พยายามพักเบรกบ่อยๆ จากนั้น ยืดเส้นยืดสาย เช่น เดินขึ้นลงบันไดสักสองสามรอบ ประมาณสิบนาทีจึงค่อยกลับไปต่อ
- เกมส์บางประเภทช่วยเสริมสร้างความจำ คุณควรหามาเล่นบ้าง จะช่วยได้มากทีเดียว
- พยายามฝึกจำเพลงหรือกลอนโปรด จนกว่าคุณจะจำและท่องได้อย่างชำนาญ และหากคุณชอบแต่งเพลงหรือกลอน ก็อาจจะใช้ทักษะดังกล่าวในการช่วยจำด้วยการแต่งเพลงหรือบทกลอนเกี่ยวกับมัน
- พยายามจดงานหรือเหตุการณ์ที่คุณต้องการจำลงไปทันที แต่หากคุณไม่มีอะไรที่ใช้จดได้ ก้สามารถใช้วิธีตั้งนาฬิกาให้เวลาไม่ตรง ซึ่งเมื่อคุณมาเห็นภายหลัง คุณก็จะเอะใจ และนึกถึงเรื่องที่คุณจำเป็นต้องทำขึ้นมาได้เอง ทั้งนี้ คุณอาจจะใช้วิธีสวมนาฬิกากลับด้าน ก็ได้เหมือนกัน
- คุณอาจฝากข้อความทางโทรศัพท์ถึงตัวเอง เพื่อเตือนเกี่ยวกับงานสำคัญที่คุณ “ต้องทำ”
- เอาปากกาดำทำจุดไว้ที่ปลายฝ่ามือ หรือบริเวณใกล้ๆ ข้อมือคุณ เพื่อช่วยในการจำเรื่องที่คุณต้องทำในวันนั้น หรือวันถัดไป เมื่อคุณเห็นจุดดำดังกล่าว ก็จะนึกขึ้นได้เอง
- เขียนบันทึกเรื่องราวต่างๆ ลงในบันทึกส่วนตัวทุกวัน อย่าให้ขาด เพื่อให้มั่นใจว่า คุณไม่พลาดแม้แต่เรื่องเล็กน้อยของชีวิต
- พยายามฝึกจำลำดับของไพ่ในสำรับ ซึ่งถึงแม้จะดูไร้วัตถุประสงค์ แต่มันเป็นกระบวนการที่จะช่วยให้คุณค้นพบวิธีการจำที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
- พยายามนึกให้ออกด้วยตัวเองว่า อ่านหนังสือหรือไฟล์เอกสารถงหน้าไหนแล้ว แทนที่จะใช้แต่บุ๊คมาร์คหรือที่คั่นหนังสือ
- ฝึกจินตภาพสิ่งที่คุณต้องทำ ให้เห็นเป็นภาพเดียวกับสิ่งที่คุณเห็นอยู่ทุกวัน เช่น หากคุณต้องให้สุนัขของคุณทานยา ก็สามารถใช้การจินตภาพว่า สุนัขของคุณอยู่ในตู้เย็น ทุกครั้งที่คุณเดินผ่านหรือเปิดตู้เย็น จะช่วยให้คุณคำนึงถึงสุนัขของคุณอยู่เสมอ
โฆษณา
คำเตือน
- พยายามจัดการปัญหาต่างๆ ในชีวิตให้เรียบร้อย เพราะการมีจิตใจสงบ เป็นรากฐานที่ดีของความจำที่ดี
- หากคุณรู้สึกว่า ความจำของตัวเองเสื่อมอย่างรุนแรงหรือกะทันหัน ควรไปปรึกษาแพทย์ด่วน เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์หรือภาวะความจำเสื่อม
- พยายามใช้ความรอบคอบในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ช่วยเสริมสร้างความจำ โดยการค้นหาข้อมูลให้ละเอียด และตัดสินใจให้ดีว่า แบบไหนได้ผลและเหมาะกับคุณที่สุด จำไว้ว่า การเสริมสร้างความจำที่ดีที่สุด จำเป็นต้องใช้เวลาและการฝึกฝน หากผลิตภัณฑ์ใดอวดอ้างว่าเห็นผลในทันที พยายามระวังเอาไว้ก่อน เพราะอาจจะเป็นการหลอกลวง
- ผลิตภัณฑ์สมุนไพรบางประเภทที่อ้างสรรพคุณเสริมสร้างความจำ อาจจะได้ผลจริง แต่ก็ยังไม่มีผลการวิจัยรองรับ และแม้ส่วนใหญ่จะไม่มีผลข้างเคียง แต่บางผลิตภัณฑ์ก็อาจมีผลข้างเคียง แถมยังอาจไม่ได้มีส่วนผสมตามที่ระบุไว้ด้วย
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.helpguide.org/life/improving_memory.htm
- ↑ http://www.discovery.com/tv-shows/curiosity/topics/10-ways-to-improve-memory.htm
- ↑ http://www.helpguide.org/life/improving_memory.htm
- ↑ http://www.clubtnt.org/my_collegian/memory_tips_&_tricks.htm
- ↑ http://www.thememoryinstitute.com/poems-acronyms-rhymes-and-acrostics.html
- ↑ http://www.web-us.com/memory/mnemonic_techniques.htm
- ↑ http://dsc.discovery.com/tv-shows/curiosity/topics/10-ways-to-improve-memory.htm
- ↑ http://theweek.com/article/index/248180/11-simple-ways-to-improve-your-memory
- ↑ http://www.livescience.com/1473-moving-eyes-improves-memory-study-suggests.html
โฆษณา