ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
เครื่องเสียงติดรถยนต์ส่วนใหญ่สมัยนี้ คุณเสียบต่อ iPhone แล้วใช้งานได้เลย จะฟังเพลงโปรดหรือรับสายแบบ hands-free ระหว่างขับรถก็ทำได้ตลอดเวลา ขั้นตอนการเชื่อมต่อ iPhone กับเครื่องเสียงรถยนต์ก็แสนง่ายดาย เรียกว่าพร้อมใช้แทบจะในทันที
ขั้นตอน
-
เช็คว่าเครื่องเสียงในรถมี Bluetooth ไหม. ลองอ่านคู่มือดู ว่าเครื่องเสียงในรถของคุณเชื่อมต่อ Bluetooth ได้หรือเปล่า หรือจะมองหาสัญลักษณ์ Bluetooth ที่ตัวเครื่องเสียงก็ได้ ถ้ามีก็แปลว่าใช้ฟีเจอร์นี้ได้
-
เปิด Bluetooth Pairing Mode ในเครื่องเสียง. กดปุ่มเมนูที่เครื่องเสียง เพื่อค้นหาเมนู Bluetooth pairing หรือการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ ถ้าไม่รู้วิธีเปิดบลูทูธในเครื่องเสียงรถ ลองอ่านคู่มือดูก่อน
-
เปิด Bluetooth ใน iPhone. ปกติบลูทูธในเครื่องจะปิดไว้เพื่อประหยัดแบต แต่คุณเปิดใช้ Bluetooth ได้โดย
- เปิดแอพ Settings แตะ "Bluetooth" แล้วเลื่อนสวิตช์ Bluetooth ไปที่ on
- ปัดหน้าจอขึ้นไปจากด้านบน แล้วแตะปุ่ม Bluetooth เพื่อเปิดใช้
-
เลือกเครื่องเสียงรถจากในรายชื่ออุปกรณ์ Bluetooth ใน iPhone. ถ้าเครื่องเสียงเปิด pairing mode ไว้ เครื่องเสียงจะขึ้นในรายชื่ออุปกรณ์ Bluetooth ที่ใช้ได้แน่นอน บางทีก็ขึ้นเป็นชื่อเครื่องเสียง บางทีก็เป็น "CAR_MEDIA"
-
ใส่ passcode ของ Bluetooth ใน iPhone ถ้าถูกถาม. ถ้าเครื่องเสียงมีให้ใส่ passcode ก่อนเชื่อมต่อ จะขึ้นในหน้าจอของเครื่องเสียงระหว่างขั้นตอนการเชื่อมต่อ และมีให้ใส่ passcode ใน iPhone เพื่อเชื่อมต่อด้วย
-
เปิดเพลงฟังหรือต่อสายได้เลย. เปิดแอพฟังเพลงใน iPhone เพื่อเริ่มเล่นเพลงในเครื่องเสียงรถยนต์ หรือถ้าจะโทรออกรับสาย เสียงก็จะออกทางลำโพงรถยนต์ แทนลำโพง iPhone ได้ยินเสียงปลายสายชัดเจนโฆษณา
-
เช็คว่าเครื่องเสียงรถมีพอร์ท auxiliary ไหม. ดูที่แผงหน้าปัดเครื่องเสียงรถ ว่ามีพอร์ท audio แบบ 3.5 มม. ไหม เป็นรูแบบเดียวกับที่ใช้เสียบหูฟัง iPhone นั่นแหละ ปกติเครื่องเสียงรถจะมีพอร์ท auxiliary ในตัว ใช้เสียบเครื่องเล่น MP3 สมาร์ทโฟน หรือเครื่องเล่นเพลงอื่นๆ ได้
- ลองอ่านคู่มือเครื่องเสียงรถดู ถ้าหาไม่เจอหรือไม่แน่ใจว่าเครื่องเสียงที่ใช้มีพอร์ท auxiliary ไหม
-
หาสาย audio auxiliary. สาย audio auxiliary เป็นสายชนิดหนึ่งที่จะมีหัวเสียบที่ปลาย ใช้เสียบเครื่องเล่นเพลงกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีพอร์ท auxiliary ได้ หาซื้อสายนี้ได้ตามร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในราคาประมาณ 100 - 150 บาท
-
เสียบสายที่ช่องเสียบหูฟังของ iPhone กับพอร์ท auxiliary ของเครื่องเสียง. เสียบสาย audio auxiliary ข้างหนึ่งที่ช่องเสียบหูฟังของ iPhone แล้วเสียบอีกข้างที่พอร์ท auxiliary ของเครื่องเสียงรถ
-
ให้เครื่องเสียงรถเข้า Auxiliary mode. กดปุ่มเมนูที่เครื่องเสียงรถ แล้วตั้งเป็น auxiliary (AUX) mode เพื่อให้เครื่องเสียงรถรับข้อมูลจาก iPhone ได้
- ลองอ่านคู่มือเครื่องเสียงรถดู ถ้าไม่รู้วิธีเปิด auxiliary mode ของเครื่องเสียงที่ใช้
-
เปิดเพลงฟังหรือต่อสายได้เลย. เปิดแอพฟังเพลงใน iPhone เพื่อเริ่มเล่นเพลงในเครื่องเสียงรถยนต์ หรือถ้าจะโทรออกรับสาย เสียงก็จะออกทางลำโพงรถยนต์ แทนลำโพง iPhone ได้ยินเสียงปลายสายชัดเจนโฆษณา
-
เช็คว่าเครื่องเสียงรถเชื่อมต่อ iPhone ได้ไหม. สำรวจแผงหน้าปัดของเครื่องเสียงรถดู ว่ามีพอร์ท USB ไหม จะเหมือนกับของคอม เครื่องเสียงรถใหม่ๆ บางรุ่น จะมีพอร์ท USB ในตัว เปิดเพลงฟังจากแฟลชไดรฟ์ได้เลย
- ลองอ่านคู่มือของเครื่องเสียงรถดู ว่าเชื่อมต่อ iPhone ได้หรือไม่ ถ้าทำได้ ก็เสียบ iPhone กับเครื่องเสียงได้โดยตรงด้วยสาย data หรือ lightning แต่ไม่ใช่เครื่องเสียงทุกรุ่นจะมีพอร์ท USB ที่ใช้เสียบ iPhone ได้ เพราะงั้นต้องลองศึกษาคู่มือดูก่อน
- รถรุ่นใหม่ๆ จะมี infotainment center ที่รองรับ CarPlay เรียกว่าเป็นวิธีเชื่อมต่อ iPhone แบบล้ำๆ กว่าการใช้สาย Lightning USB
-
เสียบ iPhone กับเครื่องเสียงรถ. เสียบสาย data หรือ lightning ของ iPhone ข้างหนึ่งที่พอร์ทด้านล่างของ iPhone จากนั้นเสียบปลายสายอีกข้างที่พอร์ท USB ของเครื่องเสียงรถ
-
ให้เครื่องเสียงรถเข้า iPhone/USB mode. กดปุ่มเมนูที่เครื่องเสียงรถ แล้วตั้ง USB หรือ iPhone เพื่อให้เครื่องเสียงรถรับข้อมูลจาก iPhone ได้ ปกติเครื่องเสียงถส่วนใหญ่จะเปลี่ยนเป็น iPhone หรือ USB mode โดนอัตโนมัติ หลังเชื่อมต่อกับ iPhone
- ถ้า infotainment center ของเครื่องเสียงใช้ CarPlay ได้ ให้แตะหรือเลือก CarPlay ที่โผล่มาในเมนูหลังเชื่อมต่อ iPhone
- ลองอ่านคู่มือของเครื่องเสียงรถดู ถ้าไม่รู้วิธีตั้ง USB หรือ iPhone mode ของเครื่องเสียง
-
เปิดเพลงฟังหรือต่อสายได้เลย. เปิดแอพฟังเพลงใน iPhone เพื่อเริ่มเล่นเพลงในเครื่องเสียงรถยนต์ หรือถ้าจะโทรออกรับสาย เสียงก็จะออกทางลำโพงรถยนต์ แทนลำโพง iPhone ได้ยินเสียงปลายสายชัดเจน
- ถ้าใช้ CarPlay infotainment center ก็ทำได้อีกหลายอย่าง นอกจากการเปิดเพลงฟังและโทรออกรับสาย ถ้ายังไงลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมดู
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าเครื่องเสียงในรถของคุณไม่รองรับ 3 วิธีการที่ว่ามา อาจจะต้องอัพเกรดเครื่องเสียงในรถให้ทันสมัยขึ้น
- ลองเข้าเว็บยี่ห้อเครื่องเสียงที่ใช้ แล้วดาวน์โหลดคู่มือของเครื่องเสียงมาศึกษาก็ได้ ถ้าตอนแรกไม่มี
โฆษณา
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,272 ครั้ง
โฆษณา