ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การรู้สึกอิจฉาใครขึ้นมานานๆ ทีนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าคุณอิจฉาคนอื่นจนหน้ามืดตามัวและเอาแต่นั่งมโนอยากให้ตัวเองมีสิ่งที่คนอื่นมีจนถึงขั้นลืมให้ความสำคัญกับสถานะของตัวเอง คุณก็คงมีปัญหาแล้วล่ะ ถ้าคุณอยากเอาชนะความอิจฉาและก้าวต่อไปได้ก็ลองอ่านบทความนี้ดูสิ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

เข้าใจความอิจฉาของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนที่คุณจะจัดการความอิจฉาของตัวเองได้ คุณต้องยอมรับเสียก่อนว่าความอิจฉานั้นเป็นปัญหาใหญ่ที่ก่อกวนชีวิตคุณและทำให้คุณไม่รักตัวเอง ความอิจฉาอาจทำให้ชีวิตคุณตกต่ำได้สุดๆ และอาจทำให้คุณพลาดเป้าหมายชีวิตและไม่อาจเป็นคนที่ดีกว่าเดิมได้ สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังปล่อยให้ความอิจฉาครอบงำชีวิต ได้แก่:
    • คุณหมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งฝันอยากมีสิ่งที่คนอื่นมีแทนที่จะพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่
    • คุณมัวแต่เปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อน สมาชิกในครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน และคิดว่าตัวเองยังขาดอะไรอยู่เสมอ
    • คุณอิจฉาใครซักคนเป็นพิเศษและไม่สามารถอยู่ใกล้คนๆ นั้นเกินห้านาทีได้โดยไม่นึกอยากมีเสื้อผ้า รูปลักษณ์ และทัศนคติเหมือนคนๆ นั้น
    • คุณอิจฉาความสัมพันธ์ของเพื่อนๆ และหวังว่าความสัมพันธ์ของตัวเองจะดีได้สักครึ่งของเพื่อนๆ บ้าง
    • คุณมีแฟนแล้วและทนไม่ได้เลยเวลาเห็นแฟนไปข้องเกี่ยวกับเพื่อนต่างเพศ คุณเชื่อว่าพวกสาวๆ ล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือพรากแฟนไปจากอกคุณ
    • คุณหมกมุ่นจนต้องเช็คเฟสบุ๊ก โทรศัพท์หรืออีเมลของแฟนตลอดเวลาเพื่อดูว่าเขานอกใจคุณหรือเปล่า
    • คุณไม่อาจเลิกเปรียบเทียบความสัมพันธ์ หน้าที่การงานหรือครอบครัวของตัวเองกับความสัมพันธ์ หน้าที่การงานและครอบครัวของทุกคนที่คุณพบได้เลย
    • คุณรู้สึกอิจฉาตาร้อนเมื่อเพื่อนคนใดคนหนึ่งออกไปเที่ยวกับเพื่อนใหม่จนต้องถามตัวเองว่า “นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย?”
  2. หลังจากยอมรับแล้วว่าตัวเองกำลังมีปัญหาในการควบคุมความอิจฉาและอยากที่จะสงบจิตสงบใจลง คุณต้องทำความเข้าใจว่าทำไมคุณถึงเกิดนึกอิจฉาคนอื่นขึ้นมา ถ้าคุณรู้สึกขาดในสิ่งที่คนอื่นมีก็แสดงว่าชีวิตของคุณต้องขาดอะไรไปซักอย่าง คุณสามารถทำความเข้าใจว่าความรู้สึกอิจฉานั้นมีต้นตอจากอะไรได้ดังนี้:
    • คุณอิจฉาชีวิตเพื่อนแค่ในเรื่องใดเรื่องนึงหรือเปล่า? เช่น ถ้าคุณแค่อิจฉาเพื่อนที่มีความรักหวานชื่นกับแฟนเพราะความสัมพันธ์ของคุณกับแฟนเทียบกันไม่ติด คุณก็ต้องพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์ของตัวเองให้ดีขึ้นไม่ก็เลิกรากันไปถ้าคบไปก็ไม่ได้อะไร หรือถ้าคุณเกิดอิจฉาเพื่อนสนิทที่เดินตามความฝันเพื่อเป็นศิลปินในขณะที่ตัวเองไม่กล้าพอจะทำตาม นี่ก็อาจเป็นสัญญาณว่าคุณควรทบทวนเรื่องหน้าที่การงานของตัวเองใหม่อีกครั้งนึงแล้วล่ะ
    • คุณอิจฉาคนอื่นไปซะทุกเรื่องเลยใช่ไหม? ถ้าคุณคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรที่น่าอิจฉาบ้างเลย คุณก็กำลังประสบกับความไม่มั่นคงในชีวิตและขาดความมั่นใจซะแล้วล่ะ คุณต้องพยายามปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อตัวเองเสียก่อนที่จะหาทางก้าวพ้นความอิจฉานะ
    • คุณอิจฉารูปร่างหน้าตาของเพื่อนหรือเปล่า? คุณรู้สึกว่าชีวิตคงจะดีกว่านี้ถ้าคุณหน้าตาเหมือนเพื่อนไหม? ถ้าใช่ก็ลองพยายามหาสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์และใส่ใจรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายซะบ้างสิ ไม่ก็หันกลับมารักส่วนที่ดีของตัวเองด้วยการมองกระจกและย้ำเตือนถึงสิ่งต่างๆ ที่คุณรักเกี่ยวกับตัวเองทุกวันดู
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ปรับปรุงสถานการณ์ของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สาเหตุที่ทำให้คุณมัวแต่อิจฉาคนอื่นอาจเป็นเพราะคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าพอที่ใครจะมาชื่นชมเพราะคุณไร้ความน่าตื่นเต้น ความน่าสนใจและความมีชีวิตชีวา ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องพยายามทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่ไม่จำเป็นต้องอิจฉาใครเพราะคุณมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเป็น ลองทำตามขั้นตอนด้านล่างดูสิ:
    • พัฒนาความมั่นใจ เขียนสิ่งที่คุณชอบเกี่ยวกับตัวเองและไล่เรียงจุดบกพร่องต่างๆ ของตัวเองออกมา พยายามทำความเข้าใจข้อบกพร่องของตัวเองให้มากที่สุดแล้วคุณจะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นเอง เช่น ถ้าคุณรู้สึกว่าสีผิวของตัวเองก็ไม่ได้แย่อะไร คุณก็จะอิจฉาคนอื่นน้อยลงเอง
    • เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เรารู้สึกอิจฉาคนอื่นก็คือเรื่องของนอกกาย ถ้าคุณอิจฉาเพื่อนที่มีเงินเยอะหรือมีครอบครัวที่ร่ำรวยในขณะที่คุณไม่มี คุณควรจะยอมรับความจริงว่าคุณคงไม่มีปัญญาซื้อของทุกอย่างตามเพื่อนมีและควรรู้จักใช้เงินให้สมตัว ลองพยายามเก็บเงินเพื่อซื้อเสื้อเสื้อผ้าหรือข้าวของเจ๋งๆ มาใส่ตู้หรือประดับห้องเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดีกับสิ่งที่มีดูสิ
    • ใส่ใจดูแลร่างกายของตัวเอง ถ้าคุณอิจฉาเพื่อนที่มีกล้ามเนื้อฟิตปั๋งก็หัดเข้ายิมให้บ่อยขึ้นสิ จำไว้ว่าถึงเราจะเกิดมามีรูปร่างแตกต่างกันแต่ตัวคุณเองก็เป็นส่วนสำคัญในการควบคุมลักษณะของร่างกายตัวเองนะ อย่างไรก็ตาม หากคุณรู้สึกว่าทุกคนรอบกายดูดีกว่าตัวเองและไม่มีทางไหนที่คุณจะเปลี่ยนแปลงร่างกายตัวเองได้ คุณอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับรูปลักษณ์และอาจต้องได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์แล้วล่ะ
    • รักษาตัวตนไว้เสมอ คุณไม่สามารถเอาชนะความอิจฉาได้หรอกหากยังหมกมุ่นกับการทำอะไรตามเพื่อน ทำตัวให้ดูเหมือนเพื่อนหรือมีความสัมพันธ์เลียนแบบเพื่อน โลกนี้ไม่มีใครที่เหมือนกันไปซะทุกอย่างและการทำตัวเลียนแบบคนอื่นมีแต่จะทำให้คุณรู้สึกแย่ขึ้น ถึงแต่ละคนจะให้แรงบันดาลใจแก่เราแตกต่างกันไป แต่คุณก็ต้องไม่ลืมว่าตัวคุณเองก็เป็นคนที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครและไม่ควรเปรียบเทียบตัวเองกับใครอื่น
  2. ปรับปรุงสิ่งที่ตัวเองทำ คุณอาจจะอิจฉาคนอื่นเพราะคุณไม่ชอบสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ในแต่ละวัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ คุณควรภูมิใจที่ตัวเองทำงานหนักและกระตือรือร้นในการทำสิ่งที่ตัวเองสนใจ ถ้าคุณยุ่งอยู่กับการบรรลุเป้าหมายและทำตามความฝัน คุณก็จะไม่มีเวลามากพอมาอิจฉาสิ่งที่คนอื่นทำ
    • ทำสิ่งที่รักให้มากขึ้น ถ้าคุณหมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝันอยากเป็นเหมือนเพื่อน สาเหตุอาจเกิดจากการที่คุณไม่ได้ทำสิ่งที่สร้างความภูมิใจให้ตัวเองมากพอ ทำตัวศิวิไลซ์มากขึ้นด้วยการด้วยการอ่านบทกวี บทละครหรือนวนิยายและพยายามพัฒนาทักษะที่มีประโยชน์ เช่น ถักนิตติ้งหรือซ่อมเฟอร์นิเจอร์ ยิ่งคุณปรับปรุงตัวเองมากเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นมากขึ้นเท่านั้น
    • ตั้งอกตั้งใจทำงาน ถ้าคุณอิจฉาคนอื่นที่ได้เดินตามความฝันหรืออิจฉาเพื่อนร่วมงานที่ได้เลื่อนตำแหน่ง คุณก็ควรจะทำงานให้หนักขึ้นไม่ก็เปลี่ยนงานซะจะได้ทำสิ่งที่อยากทำซักที
    • ตั้งเป้าหมายส่วนตัวและพยายามทำให้สำเร็จ เริ่มจากเป้าหมายเล็กๆ ก่อน ถ้าคุณไม่เคยวิ่งมาก่อนเลยก็ลองตั้งเป้าว่าจะวิ่งให้ได้ซักห้ากิโลเมตรโดยไม่หยุดเดิน ถ้าคุณทำเป้าหมายนี้สำเร็จ คุณก็จะรู้สึกภูมิใจในความสามารถของตัวเองและจะตั้งเป้าหมายอื่นๆ ให้ตัวเองเพิ่มขึ้นเอง
  3. สาเหตุที่คุณอิจฉาคนอื่นที่มีเพื่อนเยอะและรักษาความสัมพันธ์ดีๆ ไว้ได้อาจเป็นเพราะความสัมพันธ์ที่คุณมีอยู่ยังขาดอะไรไป ลองใช้เวลามากขึ้นเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นอันเป็นสาระหรือทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกับเพื่อนและพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่เปิดเผยและจริงใจกับคนอื่นดูนะ
    • ถ้าคุณพอใจกับเพื่อน ๆ และคนสำคัญที่ตัวเองมีแล้ว คุณก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องอยากมีความสัมพันธ์แบบคนอื่น ถ้าความสัมพันธ์ที่คุณมีอยู่แข็งแกร่งพอ คุณก็คงรู้สึกมั่นคงและอุ่นใจแล้วล่ะ
      • ถ้าเพื่อนที่คบอยู่เอาแต่ทำให้คุณอิจฉา คงถึงเวลาที่คุณต้องเลิกคบคนๆ นั้นแล้วล่ะ ถ้าคุณมีเพื่อนที่พยายามทำให้คุณรู้สึกอิจฉาด้วยการโม้ถึงสิ่งที่ตัวเองมีตลอดเวลา นี่คงถึงเวลาที่คุณต้องก้าวต่อไปแล้วล่ะ
    • ปรับปรุงความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ถ้าคุณไม่ได้ใช้เวลาร่วมกับคนในครอบครัวมากพอ คุณอาจจะอิจฉาคนอื่นที่มีครอบครัวที่สนิทสนมกลมเกลียวกัน ลองพยายามโทรหาที่บ้านและออกไปเที่ยวกับคนในครอบครัวให้บ่อยขึ้นแล้วคุณจะรู้สึกดีขึ้นกับครอบครัวที่ตัวเองมีเอง
    • ปรับปรุงชีวิตรัก ถ้าคุณกำลังคบใครจริงจังก็ลองพยายามคุยกับคนๆ นั้นอย่างซื่อตรงและเปิดใจเพื่อที่จะได้แก้ไขสิ่งที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ถ้าคุณยังโสดอยู่ก็พยายามทำตัวให้มีความสุขโดยไม่ต้องพึ่งพาใครและตั้งตารอคนที่จะเข้ามาในอนาคตแทนที่จะเสียเวลาไปกับการอิจฉาทุกคนที่มีความสัมพันธ์จริงจังนะ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ปรับปรุงทัศนคติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อความอิจฉาครอบงำจนหูหนวกตาบอด คุณจะไม่มีทางมองสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริงและเข้าใจว่าตัวเองโชคดีขนาดไหนหรอก เตือนตัวเองว่าแค่มีน้ำใช้ มีอาหารไว้กินตลอดเวลา มีสุขภาพดีและมีคอมพิวเตอร์ใช้ก็โชคดีแค่ไหนแล้ว ลองทำตามวิธีด้านล่างนี้ดูสิ:
    • ตระหนักว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนเมื่อเทียบกับผู้คนส่วนใหญ่ในโลก เตือนตัวเองว่ายังมีคนอีกมากมายในโลกนี้ที่ขาดสิ่งจำเป็นพื้นฐานที่คุณละเลยความสำคัญไป ความจริงก็คือ คุณอาจไม่เคยต้องต่อสู้กับความหิวโหยจริงๆ เลย คุณอาจจะสุขภาพดีและจะไปหาหมอเมื่อไหร่ก็ได้ คุณอาจจะมีเสื้อผ้ามากพอที่จะทำให้ร่างกายอุ่นและคุณก็อาจจะไม่เคยรู้สึกว่าโดนกดขี่ในสถานที่ที่ตัวเองอาศัย แค่ที่คุณมีก็เกินกว่าที่ใครหลายคนนึกใฝ่ฝันแล้วนะ
    • ตระหนักว่าคุณมีอะไรหลายอย่างที่คนอื่นอิจฉา ไล่เรียงสิ่งที่คุณมีและคนอื่นอยากมีบ้างออกมาซักยี่สิบอย่าง อาจเป็นเรื่องธรรมดาสามัญเช่น “มีน้ำใช้” หรืออะไรที่ซับซ้อนขึ้นเช่น “มีความสามารถในการทำให้คนหัวเราะได้” ก็ได้
    • ตระหนักว่าคนที่คุณอิจฉานั้นไม่ได้มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบหรอก มองคนที่คุณอิจฉาตามความเป็นจริง ไล่เรียงสิ่งที่คนเหล่านั้นมีซึ่งทำให้คุณอิจฉาออกมาและถามตัวเองว่าคุณมีอะไรที่คน ๆ อยากมีไหม เช่น คุณอาจจะอิจฉาเพื่อนที่มีความสัมพันธ์อันยอดเยี่ยม แต่เพื่อนคนนั้นอาจจะอยากมีพ่อแม่ที่รักและเอาใจใส่ลูกแบบสุดๆ อย่างที่คุณมีก็ได้ คุณอาจจะอิจฉาเพื่อนที่ได้เลื่อนตำแหน่งในขณะที่เพื่อนอาจจะอิจฉาคุณที่เป็นศิลปินเปี่ยมพรสวรรค์ก็ได้นะ
  2. ถ้าคุณใช้เวลาช่วยเหลือคนอื่นมากขึ้น คุณจะไม่เพียงแต่รู้สึกดีที่เป็นคนมีน้ำใจมากกว่าเคยแต่คุณยังจะได้เรียนรู้มากขึ้นว่าตัวเองทำประโยชน์แก่คนอื่นได้อย่างไรด้วยนะ
    • ทำงานอาสาในชุมชน. คุณอาจทำงานอาสาในชุมชนเพื่อที่จะได้เข้าใจแจ่มแจ้งว่าตัวเองโชคดีเพียงใด เช่น คุณอาจช่วยสอนภาษาอังกฤษ ช่วยอ่านหนังสือ หรือช่วยบริจาคอาหารให้แก่ครัวสำหรับผู้ยากไร้ การได้ใช้เวลากับคนที่ยังขาดสิ่งจำเป็นพื้นฐานจะช่วยย้ำเตือนให้คุณเห็นว่าชีวิตตัวเองโชคดีขนาดไหนแล้ว
    • ช่วยเหลือคนที่คุณรู้จัก เช่น ช่วยเพื่อนที่กำลังมีปัญหาความสัมพันธ์หรือเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนที่มีปัญหาในการเรียนเรียนจนจบ เมื่อคุณเข้าอกเข้าใจความยากลำบากของคนอื่น คุณก็จะเห็นว่าทุกคนล้วนมีปัญหาที่ต้องต่อสู้กันทั้งนั้นและคุณเองไม่ใช่คนเดียวที่อยากจะปรับปรุงชีวิตให้ดีขึ้น
    • ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้คนที่คุณรัก ช่วยซักผ้าให้เพื่อนที่กำลังมีปัญหาหรือขับรถไปส่งเพื่อนที่รถเสีย คุณจะได้รู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์และเห็นค่าสิ่งที่ตัวเองมีมากขึ้นไงล่ะ
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ใช้ชีวิตเชิงบวก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณอาจจะต้องใช้เวลาแก้ปัญหานานกว่าจะทบทวนความอิจฉาของตัวเองและทำตัวดีขึ้นได้ อย่างไรก็ดี คุณต้องเข้าใจว่าไม่ว่าคุณจะทำอย่างไร คุณก็ไม่มีทางสมบูรณ์แบบและคุณจะยังมีสิ่งที่ต้องการอยู่ดี
    • ทำความเข้าใจว่าชีวิตมันก็ไม่ยุติธรรมอย่างนี้แหละ. คุณไม่มีทางมีทุกอย่างที่ต้องการได้ไม่ว่าจะพยายามหนักแค่ไหนและถึงอย่างไรก็จะมีคนที่โชคดีกว่าคุณอยู่ดี แต่เมื่อคุณยอมรับความจริงข้อนี้ได้ คุณจะปล่อยวางและเลิกพยายามที่จะมีครบทุกอย่างเอง
    • สนุกกับการเป็นตัวเอง. คุณอาจจะมีข้อเสียไม่ต่างจากใคร แต่ยังไงก็อย่าลืมหาเวลาสนุกสนานกับความประหลาดของตัวเองและเรียนรู้ที่จะรักตัวเองด้วยล่ะ ลองหาเวลาส่วนตัวออกไปสนุกสนานกับเพื่อนๆ ของคุณดูสิ
    • สนใจคุณสมบัติดีๆ ของตัวเอง ถึงคุณจะยังไม่ดีพร้อม แต่ก็ลองให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆ ที่คุณรักในชีวิต เช่น ความสัมพันธ์ต่างๆ หรือหน้าที่การงานอันยอดเยี่ยม สนใจสิ่งที่ตัวเองมีและรักแทนที่จะคิดถึงแต่สิ่งที่คุณอยากได้อยากมีนะ
  2. เมื่อคุณได้พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเอาชนะความอิจฉาที่ครอบงำชีวิตแล้ว คุณต้องระวังไม่ให้ความอิจฉากลับมาเยือนอีกในอนาคต สิ่งที่คุณทำได้เพื่อที่จะได้แน่ใจว่าคุณจะไม่อิจฉาตาร้อนอีกในอนาคต ได้แก่:
    • ไม่ละเลยสิ่งต่างๆ ในชีวิต หลังตื่นนอนทุกเช้า ย้ำเตือนตัวเองว่าคุณโชคดีที่มีอะไรอย่างน้อยสิบอย่าง ทำอย่างนี้เป็นประจำเพื่อย้ำเตือนตัวเองว่าคุณไม่เห็นต้องอิจฉาใคร
    • หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจทำให้คุณเกิดความอิจฉา ถ้าคุณอดหึงหวงแฟนนิดๆ หน่อยๆ ตามประสาแฟนสาวไม่ได้ก็อย่าไปคบกับผู้ชายที่ชอบออกไปเที่ยวกับพวกสาวๆ ถ้าคุณมีเพื่อนที่มีพร้อมทุกอย่างจนไม่อาจหยุดอิจฉาได้ก็ใช้เวลากับเพื่อนคนนี้ให้น้อยลงถ้าการคบกันทำให้คุณรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง
    • ตระหนักถึงความอิจฉาของตัวเอง ทันทีที่คุณรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังอิจฉาใครอีกแล้ว กลับบ้านและเขียนทบทวนตัวเองลงสมุดโน้ตว่าทำไมคุณถึงอิจฉาคนๆ นี้และนึกดูว่าคุณจะหยุดความอิจฉาก่อนที่จะลุกลามไปกันใหญ่ได้อย่างไร
    • จำไว้ว่าการอิจฉาบ้างนานๆ ครั้งก็มีข้อดีเหมือนกัน อย่าตีอกชกหัวเมื่อไม่อาจหยุดอิจฉาคนอื่นในทุกเรื่องได้ เช่น ถ้าเพื่อนของคุณออกรถใหม่เอี่ยม คุณก็อาจจะอยากมีรถแบบนี้บ้าง หรือถ้าเพื่อนของคุณประกาศแต่งงาน คุณก็อาจจะรู้สึกอยากมีแฟนบ้าง การอิจฉาคนอื่นบ้างนานๆ ครั้งไม่ใช่เรื่องเสียหายหรอก แต่ถ้าความอิจฉาครอบงำชีวิตและเกี่ยวพันกับทุกเรื่องที่คุณทำ คุณก็มีปัญหาใหญ่แล้วล่ะ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าบอกคนอื่นว่าพวกเขาโชคดีแค่ไหนอยู่ตลอดเวลาเพราะคุณอาจจะสร้างบรรยากาศชวนอึดอัดทำให้ผู้คนรอบกายทำตัวไม่ถูกได้
  • ความอิจฉาเป็นคุณสมบัติที่ไม่ดึงดูดใจเลยซักนิด ถ้าคุณคบกับใครอยู่ เตือนตัวเองว่าไม่มีอะไรที่ไม่ดึงดูดใจไปกว่าการทำตัวขี้หึงอยู่ตลอดอีกแล้ว ความหึงหวงจะแสดงให้เห็นว่าคุณรู้สึกไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองมีและจะเป็นสิ่งที่ทำให้คนที่คุณเดทด้วยอยากจะชิ่งหนีไปเลยล่ะ
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณลองทุกวิธีแล้วแต่ยังรู้สึกว่าชีวิตตัวเองไม่มีอะไรดีพอที่จะทำให้ใครสนใจและรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้สถานการณ์ของคุณดีขึ้นได้ คุณอาจจะกำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและต้องการความช่วยเหลือซะแล้วล่ะ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 15,853 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา