ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แม้ว่าแทบไม่มีใครอยากให้เกิดสงคราม แต่ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าที่มีผู้คนต้องเผชิญกับสงครามไม่เว้นแต่ละวัน สงครามเป็นสิ่งที่สร้างความตึงเครียดและเป็นอันตรายอย่างมหาศาล แต่คุณก็สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้หากคุณตั้งสติและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง รวบรวมและรักษาเสบียงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หาแหล่งอาหารและน้ำที่พึ่งพาได้ในช่วงอาหารขาดแคลน หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าให้ได้มากที่สุด และย้ายไปยังพื้นที่ปลอดภัยเมื่อจำเป็น และสุดท้ายคือเรียนรู้ทักษะการปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐานเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บหรือเจ็บไข้ได้ป่วยที่คุณอาจจะต้องเผชิญ หากคุณทำตามวิธีการเหล่านี้ได้ทั้งหมด ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้คุณและคนที่คุณรักปลอดภัยในสถานการณ์ที่ต้องเอาชีวิตรอดได้ตลอดรอดฝั่ง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ดูแลความปลอดภัย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าทำได้ให้ย้ายไปอยู่ในพื้นที่ที่ห่างจากการต่อสู้. โชคร้ายที่บ้านของคุณอาจจะไม่ปลอดภัยในช่วงสงคราม ถ้าบริเวณที่คุณอาศัยอยู่ไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว ให้พยายามย้ายที่อยู่และหาที่อยู่ใหม่อย่างเต็มที่ คุณจะลงหลักปักฐานที่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าสงครามบานปลายไปถึงไหนแล้ว ติดตามข่าวสารเรื่องการต่อสู้และพยายามวิเคราะห์ให้ดีว่าบริเวณไหนที่สงครามยังไปไม่ถึง [1]
    • พยายามหาบริเวณที่อยู่ห่างจากสมรภูมิรบหลัก อาจจะเป็นแถบชนบทหรือในเมืองที่ไม่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์
    • อาจมีการกำหนดเขตพื้นที่ปลอดภัยสำหรับพลเรือนเอาไว้อยู่แล้ว ให้เดินทางไปยังเขตพื้นที่ปลอดภัยหากมีเขตไหนที่อยู่ใกล้
    • แถบชนบทอาจจะปลอดภัยกว่าเพราะการต่อสู้มักเกิดขึ้นรอบเมืองและศูนย์กลางประชาชน อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าคุณจำเป็นต้องมีทักษะการเอาชีวิตรอดในป่าจึงจะอยู่ที่นั่นได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้คุณก็ขอความช่วยเหลือได้ยากขึ้นด้วย เพราะองค์กรบรรเทาทุกข์ต่างก็เน้นตัวเมืองเป็นหลัก
  2. หาอาคารอิฐแข็งแรงที่มีชั้นใต้ดินเพื่อเป็นที่หลบภัย. อาคารประเภทนี้สามารถทนต่อการปะทะได้ดีที่สุดและยังคงอยู่ได้ พยายามมองหาอาคารที่มีชั้นใต้ดิน เพราะชั้นใต้ดินจะเป็นเกราะกำบังและเป็นสถานที่หลบซ่อนหากคุณต้องอยู่ให้รอดพ้นสายตาคนอื่น ค้นหาอาคารที่เหมาะสมลักษณะนี้ในพื้นที่ของคุณและย้ายเข้าไปอยู่ที่นั่นให้เร็วที่สุด [2]
    • พยายามหาอาคารที่คุณสามารถปิดช่องทางระบายอากาศได้ในกรณีที่มีการรั่วไหลของสารเคมีหรือการปะทะ มองหาหน้าต่างที่ยังติดอยู่ที่คุณสามารถปิดและใช้ผ้าขนหนูหมาดปิดช่องทางระบายอากาศได้
    • ถ้าในบริเวณของคุณมีอาคารที่เหมาะสมอยู่หลายแห่ง ให้จดรายการอาคารและสถานที่ตั้งไว้ทั้งหมด วิธีนี้จะเป็นประโยชน์มากหากคุณต้องหนีจากที่ซ่อนปัจจุบันและหาที่ซ่อนใหม่โดยเร็ว
    • ถ้าไม่มีอาคารในลักษณะนี้ ให้หาสิ่งก่อสร้างอะไรก็ได้ที่มีชั้นใต้ดินเพื่อปกป้องคุณจากการต่อสู้
  3. สร้างที่พักกันฉนวนหากคุณเข้าไปอาศัยในบริเวณที่เป็นป่า. ถ้าคุณย้ายหนีจากเมืองไปหลบซ่อนอยู่ในป่า ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของคุณก็อาจจะเป็นสภาพอากาศ สร้างที่พักที่เหมาะสมทันทีที่คุณเข้าไปยังบริเวณที่แห่งใหม่เพื่อป้องกันคุณจากความหนาว ฝน และแสงแดด ดูแลรักษาที่พักอาศัยแห่งนี้ด้วยการแก้ปัญหาใดๆ ก็ตามทันที [3]
    • ตั้งที่พักในจุดที่สามารถซ่อนตัวได้ง่าย เผื่อมีคนร้ายผ่านเข้ามาในบริเวณนี้
    • เพื่อให้งานง่ายขึ้น พยายามสร้างที่พักรอบๆ ลักษณะเด่นธรรมชาติ เช่น ต้นไม้ที่โค่นลงมาสามารถใช้รองรับสิ่งก่อสร้างได้
  4. แม้ว่าสงครามอาจจะทำให้คุณคิดเรื่องการต่อสู้ แต่ในความเป็นจริงแล้วพลเรือนมักจะเอาชีวิตรอดจากสงครามได้ด้วยการหลีกเลี่ยงการปะทะให้ได้มากที่สุด เพราะในกรณีส่วนใหญ่การไม่เผชิญหน้าจะช่วยให้คุณปลอดภัยมากกว่ายกเว้นว่าคุณจะอยู่ในกองทัพ อยู่เฉยๆ และอย่าทะเลาะกับใคร ดูแลครอบครัว เพื่อนๆ และตัวเองให้ดี แต่พยายามอย่าเข้าไปข้องเกี่ยวกับปัญหาที่ไม่ได้มีผลกับคุณ [4]
    • ถ้ากองกำลังฝ่ายตรงข้ามเข้ามาในบริเวณนี้ ให้หลบซ่อนตัวหรือหลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาจะดีที่สุด และแสดงออกอย่างชัดเจนว่าคุณไม่มีพิษภัย
    • อย่าพยายามขโมยของหรือทำร้ายผู้อื่นนอกจากจะเป็นการป้องกันตัว ซึ่งจะนำไปสู่การเผชิญหน้าในที่สุดเพราะคนที่จนตรอกจะป้องกันตัวเอง
    • นอกจากนี้การหลีกเลี่ยงการปะทะยังอาจหมายถึงการหลบหนีจากบริเวณที่ไม่ปลอดภัยด้วย เตรียมตัวเองให้พร้อมรับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เพื่อป้องกันตัวเองและคนที่คุณรักให้ปลอดภัย
  5. แม้ว่าคุณควรพยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง แต่ก็ให้เตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งจะง่ายขึ้นมากหากคุณมีอาวุธติดบ้านและรู้วิธีใช้อยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ให้รวบรวมอาวุธที่หาได้และเรียนรู้วิธีการใช้ วางอาวุธไว้ใกล้มือในที่พักเผื่อคุณต้องใช้ [5]
    • ถ้าคุณมีปืน กระสุนก็อาจจะขาดแคลนในสถานการณ์ที่ต้องเอาชีวิตรอด และการฝึกยิงปืนก็อาจทำให้คุณตกเป็นเป้าสายตาได้ เรียนรู้วิธีการใช้ปืนให้มากที่สุดโดยไม่ต้องยิงหากคุณไม่เคยใช้ปืนมาก่อน
    • อย่ามองข้ามสิ่งที่อาจใช้เป็นอาวุธได้ เช่น คันธนู ขวาน ไม้เบสบอล หรือมีด ทั้งหมดนี้สามารถช่วยให้คุณต่อสู้กับคนที่บุกมาทำร้ายได้
    • ฝึกให้สมาชิกในครอบครัวหรือกลุ่มใช้อาวุธด้วยเช่นกัน เพราะกลุ่มของคุณจะเสียเปรียบทันทีถ้ามีแค่สมาชิกคนเดียวที่สู้เป็น
  6. แม้ว่าคุณควรหลีกเลี่ยงความรุนแรง แต่ในบางสถานการณ์คุณก็อาจจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้ เพราะบางคนก็พยายามที่จะทำร้ายหรือเอาเปรียบคนอื่นในช่วงวิกฤต ถ้ามีใครพยายามทำร้ายคุณหรือคนที่คุณรัก หรือขโมยเสบียงที่คุณต้องใช้ในการเอาชีวิตรอด ให้สู้กับเมื่อทำได้ พยายามขับไล่คนที่พยายามจะทำร้ายคุณออกไปให้ได้ [6]
    • การมีอาวุธใกล้มือจะเป็นประโยชน์อย่างมากในสถานการณ์นี้ เก็บอาวุธทั้งหมดไว้ในที่ปลอดภัย ห่างจากมือเด็ก และหยิบใช้ได้ทันที
    • ถ้าคุณจำเป็นต้องปกป้องตัวเองหรือครอบครัว การมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีกับชุมชนจะช่วยได้มาก เพราะชุมชนสามารถรวมตัวกันเพื่อปกป้องตัวเองจากคนร้ายหรือคนที่พยายามจะสร้างความเดือดร้อนได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

หาเสบียง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตุนทรัพยากรและของมีค่าทั้งหมดทันทีที่สงครามเริ่มขึ้น. บ่อยครั้งที่สัญญาณเตือนล่วงหน้าก่อนสงครามเริ่มต้นนั้นมีน้อยมาก เพราะฉะนั้นคุณอาจจะไม่มีโอกาสได้ตุนเสบียง ลงมืออย่างรวดเร็วทันทีที่คุณได้ข่าว รวบรวมของมีค่า เงิน อาหาร และน้ำไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย นำของมีค่าไปซ่อนเผื่อว่าถ้าบ้านคุณโดนค้น มันก็จะยังไม่โดนขโมยไป ถ้าทำได้ให้ออกไปตามหาเสบียงมาให้ได้มากที่สุด อย่าชักช้าเพราะเมื่อถึงเวลาจำเป็นขึ้นมาทุกอย่างอาจจะไม่เหลือแล้ว [7]
    • โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ตุนอาหารกระป๋องหรืออาหารบรรจุห่อและน้ำดื่มบรรจุขวดเอาไว้ เก็บอาหารเหล่านี้ไว้ยามฉุกเฉินเผื่อน้ำสะอาดและอาหารสดเริ่มหายาก
    • เตรียมยาและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดไว้ด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้จำเป็นต่อการรักษาสุขภาพในสถานการณ์ที่ตึงเครียด
    • อย่าลืมรวบรวมเอกสารสำคัญไว้ด้วยเช่นกัน เก็บสูติบัตร ทะเบียนสมรส บัตรประกันสังคม และเอกสารอื่นๆ ที่ต้องใช้ในการยืนยันตัวตน เอกสารเหล่านี้สำคัญมากหากคุณต้องหนีออกนอกประเทศ เพราะประเทศอื่นอาจจะไม่อนุญาตให้คุณเข้าประเทศหากคุณไม่แสดงตัวตนและความสัมพันธ์ในครอบครัว
    • ถอนเงินจากบัญชีมาเป็นเงินสดไว้ติดตัว เพราะคุณอาจจะไม่สามารถเข้าถึงธนาคารด้วยช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
  2. น้ำเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดสำหรับมนุษย์ และน้ำสะอาดก็อาจจะขาดแคลนในช่วงสงคราม ส่วนน้ำดื่มบรรจุขวดไม่นานก็หมด ทันทีที่สงครามเริ่มต้น ให้หาแหล่งน้ำในบริเวณที่อยู่อาศัย และหาแหล่งน้ำใหม่ทุกครั้งที่คุณย้ายที่อยู่ [8]
    • ทะเลสาบและลำธารใกล้ๆ อาจใช้เป็นแหล่งน้ำได้ แต่คุณอาจจะนำไปฆ่าเชื้อก่อนดื่ม
    • ถ้าคุณอยู่ใกล้มหาสมุทร อย่าดื่มน้ำเค็ม มันอาจจะห้ามใจยาก แต่น้ำเค็มทำให้เกิดโรคร้ายแรงได้
    • ถ้าคุณเจอแหล่งน้ำสะอาดแล้ว ให้ใช้น้ำจากที่นั่นและพยายามเก็บน้ำดื่มบรรจุขวดไว้ในยามฉุกเฉิน
    • ถ้าไม่มีแหล่งน้ำใกล้ๆ เลย ให้รองน้ำฝนไว้ดื่มและอาบ วางถังน้ำและอ่างน้ำไว้รองน้ำฝนเวลาที่ฝนตกลงมา อย่าลืมนำน้ำฝนไปฆ่าเชื้อก่อนดื่ม
  3. คุณอาจจะไม่สามารถหาซื้อเสบียงอาหารได้ตามปกติ เพราะฉะนั้นอาหารที่ไม่เน่าเสียจึงสำคัญมาก ทันทีที่คุณรู้ข่าวว่าสงครามเริ่มต้นแล้ว ให้รวบรวมอาหารกระป๋องและอาหารที่ไม่เน่าเสียให้ได้มากที่สุด หาซื้อจากร้านค้าหรือแหล่งจำหน่ายที่คุณบังเอิญเจอ วิธีนี้จะทำให้คุณมีเสบียงอาหารสม่ำเสมอหากอาหารเริ่มขาดแคลน [9]
    • หลังจากที่สงครามเริ่มไปแล้ว อาหารกระป๋องอาจจะมีหลงเหลืออยู่ตามร้านค้าที่ถูกทิ้งร้าง เมื่อไหร่ก็ตามที่เจอกระป๋องที่ยังไม่ได้เปิด ให้เก็บเอาไว้ เพราะคุณไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเจออาหารอีก
    • พยายามเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณเกลือสูงที่ทำให้คุณหิวน้ำ เพราะจะทำให้คุณดื่มน้ำมากกว่าปกติ
    • ตามหลักการแล้วคุณควรมีอาหารที่ไม่เน่าเสียติดบ้านไว้สำหรับรับประทานได้ 3 วันตลอดเวลาเผื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ถ้าคุณเตรียมเสบียงไว้พร้อมแล้ว คุณก็ไม่ต้องแก่งแย่งกับคนอื่นที่ร้านอาหารซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อสงครามเริ่มต้น
  4. ฝึกล่าสัตว์และตกปลาเพื่อเป็นแหล่งเนื้อสัตว์เพิ่มเติม. หากอาหารเริ่มขาดแคลน คุณจะได้เปรียบหากคุณล่าสัตว์และตกปลาเป็น ฝึกทักษะการติดตามและการล่าสัตว์เพื่อหาแหล่งเนื้อสัตว์อื่นๆ และฝึกตกปลาเพื่อให้มีเสบียงเนื้อปลาที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารอยู่ตลอด สองทักษะนี้สามารถช่วยให้คุณผ่านพ้นช่วงขาดแคลนอาหารไปได้ [10]
    • เรียนรู้วิธีการลอกหนัง เอาเลือดออก และกำจัดส่วนที่ไม่รับประทานทิ้งไปให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้เนื้อสัตว์เน่าเสียก่อนที่จะได้รับประทาน [11]
    • ถึงไม่อยู่ในชนบทก็ล่าสัตว์ได้ ในเขตเมืองมีสัตว์ต่างๆ มากมาย ลองทำกับดักไว้เพื่อจับสัตว์เล็กๆ
  5. ในสถานการณ์ที่ต้องเอาชีวิตรอด แม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับสุขลักษณะมากนัก แต่มันสำคัญกว่าที่คุณคิด การรักษาสุขลักษณะที่ดีสามารถป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและการติดเชื้อได้ และยังช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นขึ้นด้วย เวลาที่รวบรวมเสบียง ให้เตรียมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้มากที่สุดเท่าที่จะหิ้วไหว และคอยมองหามาเพิ่มหากคุณไปขอหรือไปหาเสบียง [12]
    • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำคัญที่ต้องมีได้แก่กระดาษชำระ น้ำยาล้างมือ ยาสีฟันและแปรงสีฟัน สบู่ก้อนหรือสบู่เหลว ผลิตภัณฑ์อนามัยสำหรับสตรี และน้ำยาฆ่าเชื้อ
    • ผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นน้อยกว่าแต่ก็สำคัญได้แก่หวีหรือแปรง มีดโกน ครีมโกนหนวด และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย มันอาจไม่ได้ช่วยให้คุณรอดชีวิต แต่การรักษาร่างกายให้ดูสะอาดสะอ้านจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นมากในสถานการณ์ที่ตึงเครียด
  6. ดูว่าพืชชนิดไหนในบริเวณที่รับประทานได้บ้าง. เกือบทุกพื้นที่จะมีพืชท้องถิ่นที่อาจจะรับประทานได้ การรู้ว่าพืชชนิดไหนที่รับประทานได้สามารถช่วยชีวิตคุณในสถานการณ์ที่สิ้นหวังได้ ศึกษาบริเวณท้องถิ่นและหาพืชที่สามารถรับประทานได้ จากนั้นก็ไปเก็บพืชชนิดนั้นเป็นประจำเพื่อให้คุณมีเสบียงอาหารตลอด [13]
    • ถ้าคุณไม่รู้ว่ามันคือพืชอะไรหรือว่ารับประทานได้หรือไม่ ให้ดมก่อน ถ้ากลิ่นเหม็น ก็เป็นไปได้มากกว่ามันไม่สามารถรับประทานได้ จากนั้นก็วางไว้บนผิวหนัง 15 นาทีและดูว่าคุณรู้สึกคันหรือแสบไหม ถ้าไม่ก็วางไว้บนริมฝีปาก 15 นาที จากนั้นก็ลองกัดคำเล็กๆ ดู ถ้าผ่านไปแล้ว 15 นาทีคุณไม่รู้สึกแสบหรือปวดท้อง ก็เป็นไปได้ว่าพืชชนิดนั้นอาจจะรับประทานได้
    • ถ้าเป็นไปได้คุณอาจจะเริ่มทำแปลงผักในที่ดินของคุณเพื่อให้มีพืชผลเพิ่มขึ้น แต่พยายามซ่อนไว้ เพราะถ้าอาหารขาดแคลน คนจะพยายามขโมยพืชผลของคุณแน่นอน
  7. ทรัพยากรทุกอย่างล้วนมีค่าในช่วงสงคราม เพราะฉะนั้นพยายามเก็บรักษาทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ นำผ้าขี้ริ้วเก่าๆ มาทำเป็นเสื้อผ้า เก็บเศษอาหารไว้ทำน้ำสต็อก รองน้ำฝน อย่าให้อะไรสูญเปล่า [14]
  8. โชคร้ายที่บางครั้งคนเราก็ต้องทำเรื่องร้ายแรงเพื่อเอาชีวิตรอด ถ้าคุณบังเอิญไปเจอเสบียงหรือร้านค้าที่ไม่มีใครเฝ้าอยู่หรือทิ้งร้าง ให้โกยทุกอย่างที่จำเป็น มันอาจจะผิดศีลธรรม แต่คุณและครอบครัวต้องเอาตัวรอด [15]
    • ถ้าคุณอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีประชากรหนาแน่น คุณอาจจะเจอร้านค้าที่ถูกทิ้งร้างหลายร้าน อย่าลังเลที่จะค้นหาเสบียงและคว้าสิ่งจำเป็น
    • ถ้าคุณกำลังหาที่อยู่ใหม่ ให้เช็กอาคารทุกหลังที่คุณเจอ เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าคนอาศัยก่อนหน้าเขาทิ้งอะไรไว้บ้าง
    • อย่างไรก็ตามอย่าพยายามขโมยอาหารหรือเสบียงที่มีคนเฝ้า เพราะคุณอาจจะได้รับบาดเจ็บหรือโดนฆ่าเพราะเรื่องนี้ก็ได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บและโรคภัยไข้เจ็บ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ. โชคร้ายที่อาการบาดเจ็บเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และมันก็มีตั้งแต่อาการบาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงร้ายแรง เรียนรู้ทักษะการปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐานเป็นอย่างน้อยเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นกับคุณหรือคนรัก และเวลาที่ไปหาเสบียง ให้หยิบอุปกรณ์ปฐมพยาบาลที่คุณเจอและนำไปประกอบเป็น ชุดปฐมพยาบาล [16]
    • ใช้น้ำสะอาดล้างแผลเท่านั้น อย่าใช้น้ำสกปรกหรือน้ำที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อทำความสะอาดแผลเด็ดขาด
    • ใช้ผ้าพันแผลที่สะอาดปิดแผลไว้ และถ้าเป็นไปได้ให้เปลี่ยนผ้าพันแผลเป็นประจำ
    • การฝึกทำ CPR ก็สามารถช่วยชีวิตคนในสถานการณ์ฉุกเฉินได้
  2. อยู่ให้ห่างจากอาวุธยุทโธปกรณ์ที่คุณบังเอิญเจอ. เหมืองที่ยังไม่ระเบิด ลูกระเบิด และอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ เป็นสาเหตุหลักของการบาดเจ็บและการเสียชีวิตของพลเรือนในช่วงสงคราม ถ้าคุณอยู่ใกล้เขตสู้รบ ก็อาจจะมีวัตถุอันตรายกระจายอยู่ทุกที่ อย่าแตะต้องอะไรทั้งนั้น เพราะถ้าโชคดีคุณก็อาจจะแค่โดนของมีคมบาด แต่ถ้าโชคร้ายมันก็อาจจะเป็นอาวุธที่ยังไม่ระเบิดที่อาจทำให้คุณบาดเจ็บสาหัสได้ [17]
  3. แม้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่การรักษาความสะอาดของร่างกายเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คุณสุขภาพแข็งแรง อาบน้ำเร็วๆ ถ้ายังมีน้ำประปาอยู่ แต่ถ้าไม่มีให้หาวิธีกักเก็บน้ำเพื่อให้มีน้ำพอสำหรับทำความสะอาดร่างกาย [18]
    • รองน้ำฝนใส่ไว้ในถังน้ำ จากนั้นจุ่มผ้าขนหนูลงในถังและถูสบู่ลงบนผ้าขนหนู ใช้ผ้าขนหนูถูร่างกาย จากนั้นก็ล้างสบู่ด้วยน้ำฝน
    • พยายามอย่านำน้ำดื่มบรรจุขวดมาอาบให้เสียของ คุณสามารถใช้น้ำที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้ออาบน้ำได้ยกเว้นว่าคุณจะมีแผลเปิด ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นต้องนำน้ำไปฆ่าเชื้อก่อน
  4. ฆ่าเชื้อ น้ำดื่มที่ไม่ได้มาจากขวดที่ยังไม่เคยเปิดฝามาก่อน. โรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากน้ำอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตในสถานการณ์ที่ต้องเอาตัวรอด ถ้าจำเป็นต้องดื่มน้ำที่ไม่ใช้น้ำดื่มบรรจุขวดที่ยังไม่ได้เปิดฝา ต้องฆ่าเชื้อก่อนเสมอ วิธีการที่ใช้บ่อยที่สุดก็คือต้มน้ำ 1 นาทีเพื่อฆ่าเชื้อโรค จากนั้นก็เทน้ำลงในตาข่ายถี่หรือผ้าเพื่อกรองสิ่งสกปรกชิ้นใหญ่ออกมา [19]
    • เราไม่สามารถรู้ได้แน่ชัดว่าน้ำมีสิ่งปนเปื้อนมาหรือเปล่า เพราะฉะนั้นให้ต้มน้ำจากลำธารและแม่น้ำเสมอเพื่อป้องกันไว้ก่อน
    • ถ้าคุณไร้หนทางจริงๆ คุณอาจจะอยากดื่มน้ำไม่สะอาดเพื่อดับกระหาย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามอย่าดื่มน้ำสกปรกโดยไม่ฆ่าเชื้อก่อน เพราะคุณอาจจะได้รับเชื้อโรคหรือปรสิตที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
  5. รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพให้ได้มากที่สุด. ขั้นตอนนี้อาจจะทำไม่ได้เสมอไปและคุณก็ต้องเอาตัวรอดให้ได้ไม่ว่าจะหาอะไรประทังชีวิตได้ก็ตาม แต่ถ้ายังพอจะทำได้ ให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อรักษาสุขภาพ การมีอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และกรดไขมันเตรียมไว้อยู่เสมอจะช่วยรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บได้ [20]
    • พยายามให้อาหารแต่ละมื้อสมดุลให้ได้มากที่สุด มีทั้งผักสด ผลไม้ และโปรตีนหากสามารถหาได้
    • หาอาหารที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ เช่น ผักใบเขียว ปลา มันฝรั่ง และถั่วเปลือกแข็ง อาหารเหล่านี้เพิ่มคุณประโยชน์ให้อาหารแต่ละมื้อ [21]
    • ถ้าคุณไม่สามารถหาอาหารสดได้ พยายามรับประทานอาหารเสริมเพื่อเพิ่มปริมาณคุณค่าทางอาหารที่ร่างกายได้รับ ซึ่งอาจจะมีอยู่ตามร้านค้าและบ้านเรือนที่ถูกทิ้งร้าง
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ตั้งสติให้ดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ข่าวสารคือสิ่งสำคัญในการเอาตัวรอดจากสงคราม ติดตามว่าสงครามบานปลายไปถึงไหนแล้วเพื่อหาว่าบริเวณไหนปลอดภัยและไม่ปลอดภัย และคุณจะสามารถหาทรัพยากรได้ที่ไหน ข่าวสารเหล่านี้อาจจะมีน้อย แต่มันก็มีวิธีที่ช่วยให้คุณยังติดตามข่าวสารได้อยู่ [22]
    • โซเชียลมีเดียเป็นทางเลือกใหม่ที่ดีในการรับข้อมูลข่าวสาร ตรวจสอบความเคลื่อนไหวใน Twitter และ Facebook จากผู้คนในบริเวณอื่นๆ ใช้คีย์เวิร์ดหรือแฮชแทกหาข้อมูลที่คุณต้องการ
    • วิทยุมือถือแบบใส่ถ่านก็อาจเป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารที่เชื่อถือได้เช่นเดียวกัน ลองดูว่าคุณสามารถรับสัญญาณจากสถานีข่าวท้องถิ่นที่รายงานเรื่องสงครามได้ไหม
    • สอบถามข้อมูลจากคนนอกที่ผ่านเข้ามาในบริเวณ ถามว่าพวกเขามาจากไหนและมีข่าวอะไรไหม
  2. รักษาความสัมพันธ์ส่วนตัวกับครอบครัวและเพื่อนบ้าน. ความสัมพันธ์ส่วนตัวเหล่านี้จะช่วยให้คุณผ่านพ้นวิกฤตไปได้ การมีคนในครอบครัวอยู่ด้วยช่วยบรรเทาความตึงเครียด และการได้ปกป้องพวกเขายังทำให้คุณมีเป้าหมายที่ผลักดันให้คุณพยายามมากขึ้นในสถานการณ์อันน่าตึงเครียดนี้ด้วย เครือข่ายเพื่อนบ้านก็อาจจะมีการแบ่งปันอาหารและทรัพยากร เพราะฉะนั้นจงดีกับคนรอบข้าง ความสัมพันธ์เหล่านี้อาจช่วยชีวิตคุณไว้ได้ [23]
    • ถ้าคุณย้ายไปที่ใหม่ แนะนำตัวเองกับคนท้องถิ่น คุณไม่ต้องสนิทกับพวกเขาก็ได้ แค่อย่าเป็นคนแปลกหน้า เพราะคุณอาจต้องพึ่งพาพวกเขาหากการต่อสู้เข้ามาถึงบริเวณที่คุณอยู่
  3. สร้าง ทัศนคติทางใจเชิงบวก . ในสถานการณ์ที่ต้องเอาชีวิตรอด การรักษาสติสัมปะชัญญะและความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผลคือหัวใจสำคัญ การปล่อยให้ความสิ้นหวังและความเศร้าโศกมาครอบงำจิตใจจะทำให้คุณคิดเป็นเหตุเป็นผลได้ยาก ขั้นตอนนี้อาจจะยากเป็นพิเศษในช่วงสงคราม แต่คุณต้องรักษาทัศนคติที่เป็นบวกเอาไว้ให้ได้ พยายามทุกวิถีทางเพื่อจะคิดบวกให้ได้มากที่สุด [24]
    • การวางแผนและปรับปรุงแผนฉุกเฉินจะช่วยให้คุณคิดบวกได้ เพราะมันทำให้คุณมั่นใจว่าคุณมีแผนการพร้อมเสมอหากมีอะไรเกิดขึ้น
    • หาวิธีลดความวิตกกังวลหรือทำหัวให้โล่งในสถานการณที่ตึงเครียด
    • การสร้างและรักษาความสัมพันธ์ส่วนตัวช่วยให้คุณสามารถคิดบวกได้
    โฆษณา

คำเตือน

  • จำไว้ว่านี่ไม่ใช่ภาพยนตร์หรือวิดีโอเกม อย่าทำอะไรเลียนแบบภาพยนตร์ การเอาชีวิตรอดต้องอาศัยการแก้ปัญหาและกลยุทธ์ตามความเป็นจริง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 14,047 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา