วิธีการ แก้ปัญหาผมร่วง

ดาวน์โหลดบทความ
ร่วมเขียน โดย Erik Kramer, DO, MPH

ข้อมูลอ้างอิง

ดาวน์โหลดบทความ

เป็นเรื่องปกติที่เส้นผมจะร่วงวันละ 50 ถึง 100 เส้น หากคุณมีผมร่วงมากกว่านี้ คุณอาจกำลังมีปัญหาผมร่วง การมีผมร่วงจำนวนมากเกินไป หรือโรคผมร่วง (Alopecia) เกิดขึ้นเมื่อวงจรการงอกและการหลุดร่วงของเส้นผมถูกขัดขวาง หรือรูขุมขนของคุณถูกทำลาย และถูกแทนที่ด้วยเนื้อเยื่อแผลเป็น ผมร่วงอาจส่งผลกระทบต่อหนังศีรษะหรือทั่วร่างกายของคุณได้ คุณอาจสูญเสียเส้นผมเนื่องจากกรรมพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน สาเหตุด้านสุขภาพต่างๆ หรือการรักษาด้วยยา ไม่ว่าผู้ชาย ผู้หญิง หรือเด็กต่างสามารถประสบปัญหาผมร่วงได้ทั้งนั้น [1] อย่างไรก็ตาม เราสามารถลดผลกระทบจากผมร่วงได้ โดยรักษาด้วยยาและเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิต

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ป้องกันไม่ให้ผมร่วงเพิ่มมากขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/8\/88\/Reduce-Hair-Loss-Step-1.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-1.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/8\/88\/Reduce-Hair-Loss-Step-1.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-1.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    การมีระดับความเครียดสูงอาจนำไปสู่อาการผมร่วงเฉพาะที่บางชนิดได้ [2] จงพยายามให้ตัวคุณผ่อนคลาย ฝึกทำสมาธิ ออกเดิน หรือเล่นโยคะ จงพิจารณาเขียนบันทึกความจำ เพื่อช่วยจัดประเภทของความเครียดที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ผมร่วงจากความเครียดไม่จำเป็นต้องเป็นถาวร หากคุณสามารถลดระดับความเครียดลงได้ เส้นผมก็อาจจะงอกกลับคืนมา [3] ผมร่วงชนิดต่างๆ ดังต่อไปนี้เป็นผลมาจากความเครียดที่มากเกินไป:
    • หากคุณมีภาวะผมร่วงจากภาวะเครียดของร่างกาย หรือการปรับตัวของฮอร์โมนมากกว่าปกติ (Telogen effluvium) ความเครียดมากๆ จะกดดันให้รูขุมขนจำนวนมากบนผิวหนังอยู่ในระยะหยุดพัก และภายในสองสามเดือน เส้นผมที่ได้รับผลกระทบจะร่วงในทันทีที่คุณหวีหรือสระผม
    • โรคดึงผมตัวเอง (Trichotillomania) คือการที่คุณมีแรงกระตุ้นอันไม่อาจจะต่อต้านได้ที่จะดึงทึ้งผมออกจากหนังศีรษะ รวมทั้งขนคิ้ว หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกายคุณ คุณอาจจะทำสิ่งนี้เพื่อรับมือกับแรงกดดัน ความตึงเครียด ความเปล่าเปลี่ยว ความเบื่อหน่าย หรือความคับข้องใจ
    • แรงกดดันอาจทำให้เกิดผมร่วงเป็นหย่อมๆ (Alopecia areata) ได้เช่นกัน เมื่อคุณมีอาการนี้ ระบบภูมิคุ้มกันจะโจมตีรูขุมขนของคุณ ซึ่งทำให้ผมร่วง [4]
  2. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/e\/ee\/Reduce-Hair-Loss-Step-3.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/e\/ee\/Reduce-Hair-Loss-Step-3.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    หลีกเลี่ยงการทำผมทรงที่แน่นตึง เช่น ผมเปีย ผมมวย หรือผมม้า อย่าบิด ถู หรือดึงผมมากจนเกินไป จงอ่อนโยนเวลาสระผมด้วยน้ำอุ่น (ไม่ใช่น้ำร้อน) อย่าแปรงผมแรงเกินไป หวีผมซี่ห่างๆ สามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการดึงรั้งเส้นผมรุนแรงเกินไป และจงลดการกระทำรุนแรงกับเส้นผม เช่น ใช้โรลม้วนผมไฟฟ้า (Hot rollers) เครื่องม้วนผมไฟฟ้า (Curling irons) การหมักผมด้วยน้ำมันร้อน และการจัดการชนิดถาวรต่างๆ กับเส้นผม [5]
  3. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/a\/a2\/Reduce-Hair-Loss-Step-4.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-4.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/a\/a2\/Reduce-Hair-Loss-Step-4.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-4.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    เส้นผมประกอบด้วยน้ำ 25% จงดื่มน้ำอย่างน้อยหกสิบสี่ออนซ์ (ถ้วยละ 8 ออนซ์จำนวน 8 ถ้วย) ต่อวัน จะช่วยให้คุณไม่ขาดน้ำ และช่วยเรื่องการงอกของเส้นผม [6]
  4. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/3\/3e\/Reduce-Hair-Loss-Step-5.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-5.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/3\/3e\/Reduce-Hair-Loss-Step-5.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-5.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    เชื่อกันว่าใบเสจช่วยเพิ่มให้ผมหนา ในขณะที่โรสแมรี่อาจกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม คุณสามารถปรุงอาหารด้วยสมุนไพรทั้งสองชนิด พยายามรับประทานให้ได้ทุกสัปดาห์ และหากทำได้ สมควรซื้อโรสแมรี่ชนิดที่สดใหม่ดีกว่าชนิดตากแห้ง [7] การกินอาหารที่มีสารอาหารสมดุลจะช่วยป้องกันผมร่วงด้วย [8]
    • คุณยังสามารถผสมโรสแมรี่กับน้ำมันอัลมอนด์ได้ด้วย. ใส่ส่วนผสมลงโดยตรงบนหนังศีรษะ [9]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ใช้วิธีรักษาตามธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/3\/3b\/Reduce-Hair-Loss-Step-6.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-6.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/3\/3b\/Reduce-Hair-Loss-Step-6.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-6.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    การใช้น้ำคั้นจากหอมหัวใหญ่กับหนังศีรษะ พิสูจน์แล้วว่าช่วยรักษาผมร่วงแบบเป็นหย่อมๆ ได้ [10] กำมะถันในหอมหัวใหญ่ช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจน และช่วยเรื่องการงอกของเส้นผมของคุณ [11] เหล่านักวิจัยเชื่อว่าสารฟลาโวนอยด์ในหัวหอมอาจมีประสิทธิผลด้านลดการอักเสบ [12] แม้คุณอาจหาซื้อน้ำหอมหัวใหญ่ได้ในร้านค้า แต่หากจะทำไว้ใช้เอง จงปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้: [13]
    • สับหอมหัวใหญ่ให้ละเอียด
    • บีบเอาน้ำออกด้วยมือของคุณ หรือใช้เครื่องคั้นน้ำ
    • ชโลมน้ำคั้นหอมใหญ่ใส่หนังศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
    • สระผมอย่างอ่อนโยน
    • ทำซ้ำสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์
  2. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/1\/13\/Reduce-Hair-Loss-Step-7.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-7.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/1\/13\/Reduce-Hair-Loss-Step-7.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-7.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    กระเทียมก็เหมือนกับพืชตระกูลหัวหอม กล่าวคือเต็มไปด้วยกำมะถันซึ่งสามารถช่วยให้เส้นผมงอกขึ้นมาใหม่ ส่วนน้ำมันมะพร้าวก็อุดมไปด้วยไขมันที่จำเป็น แร่ธาตุ และโปรตีน ซึ่งช่วยลดการแตกหักและการหลุดร่วงของเส้นผม ระดับของธาตุเหล็กและโปตัสเซี่ยมทำให้เส้นผมของคุณแข็งแรงมากขึ้น [14] เพื่อผลิตยาขี้ผึ้งจากกระเทียม จงทำดังต่อไปนี้: [15]
    • นำกระเทียมมาหลายๆ กลีบ พร้อมกับน้ำมันมะพร้าว
    • บดกลีบกระเทียมด้วยที่บดกระเทียม
    • ผสมกระเทียมกับน้ำมันมะพร้าวหนึ่งช้อนชา
    • ต้มส่วนผสมนานสี่ถึงห้านาที คนเบาๆ
    • หลังจากส่วนผสมเย็นลง ให้รินใส่หนังศีรษะแล้วนวดอย่างอ่อนโยน ทำซ้ำสัปดาห์ละสองถึงสามครั้ง
  3. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/6\/65\/Reduce-Hair-Loss-Step-8.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-8.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/6\/65\/Reduce-Hair-Loss-Step-8.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-8.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    ผลการวิจัยเกี่ยวกับโกรทฮอร์โมน และไอจีเอฟ ( Growth Hormone & IGF Research) แสดงให้เห็นว่าแคปไซซิน ซึ่งเป็นสารในพริกที่ทำให้เผ็ดร้อน กระตุ้นปัจจัยการเติบโตที่เกี่ยวกับการงอกของเส้นผม หลังจากผู้เข้าร่วมการทดลองกินอาหารเสริมจำนวน 6 มิลลิกรัมทุกวันเป็นเวลานานห้าเดือน จงคุยกับแพทย์ของคุณเรื่องจะกินอาหารเสริมชนิดนี้ [16]
  4. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/2\/20\/Reduce-Hair-Loss-Step-9.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-9.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/2\/20\/Reduce-Hair-Loss-Step-9.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-9.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    นวดหนังศีรษะและผมด้วยน้ำมันดังกล่าว เน้นเป็นพิเศษตรงจุดที่กำลังมีปัญหาผมร่วง น้ำมันโจโจบามีฤทธิ์ในทางลดการอักเสบ [17] ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ว่าเหตุใดมันสามารถช่วยลดอาการผมร่วงบางชนิดได้ คุณสามารถหาน้ำมันโจโจบาได้ตามร้านขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี กับในร้านขายของชำบางแห่ง [18]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ต่อสู้กับอาการผมร่วงด้วยการบำบัดแบบมืออาชีพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/4\/43\/Reduce-Hair-Loss-Step-10.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-10.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/4\/43\/Reduce-Hair-Loss-Step-10.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-10.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    หากคุณวิตกเรื่องผมร่วง จงไปพบแพทย์เพื่อหารือเรื่องทางเลือกต่างๆ ในการรักษา มีทางเลือกหลากหลาย รวมทั้งการรักษาด้วยยา การบำบัดด้วยเลเซอร์ และการทำศัลยกรรม คุณจะเลือกทางเลือกใดก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณ ความรุนแรงของผมร่วง และเวลาที่คุณมี
    • ในบางกรณีนั้น ผมร่วงเกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมนเอสโตเจน หรือปัญหาที่ต่อมไทรอยด์ การแยกแยะและบำบัดปัญหาที่อยู่เบื้องหลังเหล่านี้อาจช่วยแก้ไขปัญหาได้ โดยช่วยลดหรือยุติอาการผมร่วงของคุณ
  2. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/c\/c7\/Reduce-Hair-Loss-Step-11.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-11.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/c\/c7\/Reduce-Hair-Loss-Step-11.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-11.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ FDA ได้อนุมัติยาสองขนานเพื่อใช้รับมือกับโรคผมร่วง ขนานแรกคือยาไมนอกซิดิล (Minoxidil) หรืออีกชื่อคือโรเกน (Rogaine) ซึ่งอยู่ในรูปของโฟม หรือยาน้ำที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาโดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ ทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างสามารถได้ประโยชน์จากยาชนิดนี้ โดยสำหรับผู้หญิง ยาขนานนี้เป็นยารักษาโรคผมร่วงขนานเดียวที่ผ่านการอนุมัติ คุณต้องใช้ยาขนานนี้ทาบนหนังศีรษะวันละสองครั้ง มันทำงานโดยปลูกผมให้ขึ้นมาใหม่ และ/หรือป้องกันไม่ให้ผมร่วงเพิ่มเติม สำหรับยาอีกขนานหนึ่งคือ ฟิแนสเตอไรด์ (Finasteride) หรืออีกชื่อหนึ่งคือโพรพีเซีย (Propecia) เป็นยาที่ต้องซื้อโดยใช้ใบสั่งแพทย์ และใช้ได้เฉพาะกับผู้ชายเท่านั้น รับประทานวันละหนึ่งเม็ด พบว่าผู้ใช้ยาฟิแนสเตอไรด์จำนวนมากชะลออาการผมร่วงลง และบางคนอาจมีผมขึ้นใหม่ด้วย สำหรับยาทั้งสองขนานนี้ คุณต้องใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ยังคงมีประสิทธิภาพต่อไป [19]
    • ผลข้างเคียงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ของยาไมนอกซิดิล ก็คือ มีอาการระคายเคืองบนหนังศีรษะ มีผมและขนที่ไม่พึงปรารถนางอกบนใบหน้าและมือ กับชีพจรเต้นเร็ว [20]
    • ผลข้างเคียงที่ไม่ธรรมดาบางประการของการใช้ยาฟิแนสเตอไรด์ (Finasteride) ก็คือ ความต้องการทางเพศลดลง การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และการเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนผู้หญิงที่อาจจะกำลังตั้งครรภ์ไม่สมควรแตะต้องเม็ดยาที่แตกหัก [21]
  3. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/5\/56\/Reduce-Hair-Loss-Step-12.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-12.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/5\/56\/Reduce-Hair-Loss-Step-12.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-12.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    สำหรับกรณีศีรษะล้านในระยะยาว มีการทำศัลยกรรมฟื้นฟูสภาพผม หรือการปลูกผมเป็นทางเลือก หากคุณเข้ารับการบำบัดนี้ ศัลยแพทย์จะตัดเอาหนังศีรษะชิ้นเล็กๆ ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีเส้นผมติดอยู่สองสามเส้นออกมา หลังจากนั้น ก็จะนำไปใส่ตรงจุดที่ศีรษะล้าน
    • แพทย์อาจขอให้คุณรักษาอาการผมร่วงด้วยยา ทั้งก่อนและหลังการทำศัลยกรรมเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ให้ดีขึ้น
    • การทำศัลยกรรมเพื่อแก้ปัญหาศีรษะล้านมีราคาแพง และอาจทำให้เจ็บปวดเป็นอย่างมากได้ คุณอาจจบลงด้วยการติดเชื้อ หรือมีแผลเป็น [22]
  4. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/3\/36\/Reduce-Hair-Loss-Step-13.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-13.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/3\/36\/Reduce-Hair-Loss-Step-13.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-13.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    ทั้งผู้หญิงและผู้ชายสามารถรักษาอาการศีรษะล้านแบบมีแบบแผน (Pattern baldness)โดยใช้หวีเลเซอร์ความถี่ต่ำ (Low-level laser combs) เช่น หวีเลเซอร์ยี่ห้อแฮร์แม็กซ์ (HairMax Laser comb) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐ หรือ FDA ให้การรับรอง. [23] จงหวีช้าๆ จากด้านหน้าของหนังศีรษะไปทางด้านหลัง และหลังจากนั้น คือจากด้านข้างๆ เข้ามาตรงกลาง จะมีเสียงเตือนทุกสี่วินาทีเพื่อช่วยให้รู้ว่าเมื่อไรสมควรขยับหวี ผลศึกษาทางวิทยาศาสตร์เมื่อเร็วๆ นี้ พิสูจน์ว่าการใช้หวีเลเซอร์ (ใช้สามครั้งต่อสัปดาห์) ปรับปรุงการงอกของเส้นผมได้จริงๆ [24]
    • การบำบัดแต่ละครั้งใช้เวลาสิบถึงสิบห้านาที คุณสมควรบำบัดเส้นผมของคุณสัปดาห์ละสามครั้ง
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

เข้าใจปัญหาผมร่วงของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/d\/dd\/Reduce-Hair-Loss-Step-14.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-14.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/d\/dd\/Reduce-Hair-Loss-Step-14.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-14.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    ผมด้านบนอาจจะค่อยๆ บางลง หรือร่วงเป็นวงๆ หรือศีรษะล้านเป็นหย่อมๆ ผมร่วงเป็นกำมือใช่ไหม? คุณกำลังมีผมร่วงจากศีรษะ หรือมีผมกับขนร่วงทั่วทั้งร่างกาย? คุณมีผมร่วงเป็นหย่อมๆ บนหนังศีรษะใช่ไหม? [25] โปรดสังเกตว่าอาการจะช่วยให้คุณวินิจฉัยโรคได้ว่าอะไรกำลังเป็นสาเหตุให้ผมร่วง
  2. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/0\/01\/Reduce-Hair-Loss-Step-15.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-15.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/0\/01\/Reduce-Hair-Loss-Step-15.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-15.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    ผมร่วงอาจเกิดขึ้นในตอนใดก็ได้ในชีวิตของใครสักคน โดยขึ้นอยู่กับหลายๆ เหตุผล การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความเจ็บป่วย แผลไหม้ และแผลบาดเจ็บอาจทำให้ผมร่วงได้ทั้งนั้น ครอบครัวที่มีประวัติผมร่วงที่เกิดจากกรรมพันธุ์ (Androgenetic alopecia) หรือศีรษะล้านที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในฮอร์โมนเพศคือฮอร์โมนดิไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นปัจจัยร่วมอย่างหนึ่ง [26] อย่างไรก็ตาม ผมร่วงไม่ได้เกิดจากการไหวเวียนที่ไม่ดีของเส้นเลือดฝอยบนหนังศีรษะ โรคขาดวิตามิน รังแค หรือการสวมหมวกหรือหมวกแก็ปมากเกินไป ยิ่งกว่านั้น ไม่เป็นความจริงที่ว่ามีการส่งผ่านยีนจากคุณตาของบุคคลหนึ่งทำให้บุคคลผู้นั้นมีศีรษะล้าน [27]
    • ผมร่วงที่เกิดจากกรรมพันธุ์ (ปัญหาศีรษะล้านตามรูปแบบ) ส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ชายและผู้หญิง ในผู้ชายนั้น ผมจะเริ่มเถิกจากหน้าผากเป็นเส้นที่คล้ายกับอักษรตัวเอ็ม ส่วนผู้หญิงนั้น ตามปกติจะไม่มีปัญหาแถวไรผม แต่รอยแสกบนผมจะกว้างขึ้น
    • ผมร่วงเป็นหย่อมๆ ซึ่งปรากฏเป็นหย่อมผมล้านขนาดเท่าเหรียญบนหนังศีรษะนั้น ตามปกติสามารถบ่งชี้ว่าบุคคลนั้นเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมๆ (Alopecia areata) [28]
    • หากคุณกำลังประสบปัญหาการเปลี่ยนแปลงสำคัญเกี่ยวกับฮอร์โมน เช่นคุณอาจเป็นสตรีผู้กำลังอยู่ในช่วงหมดประจำเดือน คุณอาจมีปัญหาผมร่วง จงพูดคุยกับแพทย์เรื่องการบำบัดอาการผมร่วงของคุณ ตามระดับฮอร์โมน
    • ภาวะช็อกที่มีสาเหตุจากโรคทางกายหรือทางอารมณ์สามารถทำให้ผมร่วงได้ คุณอาจมีผมร่วงจำนวนหลายกำมือเวลาหวีผมหรือสระผม โดยทั่วไป ผมของคุณจะรู้สึกและมองดูบางลงโดยรวม ไม่น่าที่จะล้านเป็นหย่อมๆ
    • โรคไฮโปไทรอยด์ (Hypothyroidism) หรือต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติอาจทำให้ผมร่วงได้ [29] หากรักษาโรคนี้ก็อาจทำให้ผมของคุณหยุดร่วงได้
    • หากคุณมีอาการผมและขนร่วงทั้งตัว อาจเป็นผลจากการบำบัดทางการแพทย์บางประการ เช่น การรักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัด ตามปกตินั้น ผมจะงอกกลับคืนมาเมื่อเวลาผ่านไป
    • โรคกลากเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของผมร่วง. ผื่นที่ลอกเป็นขุยสามารถลุกลามไปทั่วหนังศีรษะของคุณ อาการของโรคที่เพิ่มมากขึ้นคือ ผมแตกปลาย เป็นสีแดง และมันเยิ้ม [30]
  3. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/d\/d0\/Reduce-Hair-Loss-Step-16.jpg\/v4-460px-Reduce-Hair-Loss-Step-16.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/d\/d0\/Reduce-Hair-Loss-Step-16.jpg\/v4-728px-Reduce-Hair-Loss-Step-16.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    จงตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวกับอาการศีรษะล้าน. หากคุณเป็นโรคผมร่วงที่เกิดจากกรรมพันธุ์ (Androgenetic alopecia) ไม่ใช่ผมร่วงที่เกิดจากอาการป่วย หรือภาวะบาดเจ็บ จงเข้าใจปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผู้ชายที่มีผมร่วงเป็นหย่อมๆ มีโอกาสมากกว่าที่จะมีปัญหาจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Coronary heart disease) โรคต่อมลูกหมากโตและมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคความดันโลหิตสูง ส่วนผู้หญิงผู้เป็นโรคผมร่วงที่เกิดจากกรรมพันธุ์มีความเสี่ยงมากขึ้นจากกลุ่มอาการรังไข่มีถุงน้ำหลายใบ (Polycystic ovary syndrome) หรือ PCOS [31]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • คุณอาจพิจารณาใช้วิกผม หรือผ้าพันคอเพื่อปกปิดอาการผมร่วง หากอาการผมร่วงของคุณเกิดจากสาเหตุด้านสุขภาพ กรมธรรม์ประกันภัยของคุณอาจครอบคลุมค่าวิกผม แต่แพทย์ของคุณจะต้องเขียนใบสั่งแพทย์สำหรับวิกผมด้วย [32]
โฆษณา

คำเตือน

  • หากคุณได้พยายามใช้วิธีบำบัดที่บ้านทุกอย่างแล้ว และดูเหมือนจะไม่มีวิธีไหนที่จะรักษาได้ จงปรึกษาแพทย์ของคุณ และจงปรึกษาแพทย์ด้วยหากว่าลูกของคุณมีปัญหาผมร่วงโดยไม่ทราบสาเหตุ ในบางกรณีนั้น ผมร่วงอาจเป็นอาการหนึ่งของปัญหาที่รุนแรงมากกว่า
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

วิธีการ
รู้ว่าหุ่นของคุณเป็นแบบไหน
วิธีการ
เปิดขวดโดยไม่มีที่เปิดขวด
วิธีการ
ลอกตัวรีดติดเสื้อ
วิธีการ
นวดแบบโรแมนติก
วิธีการ
ทำรอยบากที่คิ้ว
วิธีการ
ล้างยาย้อมผมที่ติดมือ
วิธีการ
วัดรอบเอว
วิธีการ
อาบน้ำหลังไปสักมาใหม่
วิธีการ
เล็มขนบริเวณจุดซ่อนเร้น
วิธีการ
กำจัดกลิ่นหนัง
วิธีการ
รีดผ้า
วิธีการ
กำจัดต่อมไขมัน
วิธีการ
แช่น้ำในอ่างให้สบาย
วิธีการ
ยักคิ้วข้างเดียว
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hair-loss/basics/definition/con-20027666
  2. ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/stress-management/expert-answers/stress-and-hair-loss/faq-20057820
  3. ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/stress-management/expert-answers/stress-and-hair-loss/faq-20057820
  4. ↑ http://www.mayoclinic.orgealthy-lifestyle/stress-management/expert-answers/stress-and-hair-loss/faq-20057820
  5. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hair-loss/basics/prevention/con-20027666
  6. ↑ http://livinggreenmag.com/2013/03/25/food-health/ten-natural-ways-to-grow-hair-and-reduce-hair-loss/#W8K5Zbf6pzsg0T47.99
  7. ↑ http://www.prevention.com/beauty/hair/5-natural-hair-loss-cures
  8. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hair-loss/basics/prevention/con-20027666
  9. ↑ https://www.organicfacts.net/health-benefits/other/home-remedies-for-hair-loss-in-women.html
  1. ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/12126069
  2. ↑ http://www.newhealthguide.org/Home-Remedies-To-Regrow-Hair.html
  3. ↑ http://www.prevention.com/beauty/hair/5-natural-hair-loss-cures
  4. ↑ http://www.newhealthguide.org/Home-Remedies-To-Regrow-Hair.html
  5. ↑ http://www.newhealthguide.org/Home-Remedies-To-Regrow-Hair.html
  6. ↑ http://www.newhealthguide.org/Home-Remedies-To-Regrow-Hair.html
  7. ↑ http://www.prevention.com/beauty/hair/5-natural-hair-loss-cures
  8. ↑ http://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1043661804001148
  9. ↑ https://www.organicfacts.net/health-benefits/other/home-remedies-for-hair-loss-in-women.html
  10. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hair-loss/basics/definition/con-20027666
  11. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hair-loss/basics/definition/con-20027666
  12. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hair-loss/basics/definition/con-20027666
  13. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hair-loss/basics/definition/con-20027666
  14. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hair-loss/basics/definition/con-20027666
  15. ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/24474647
  16. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hair-loss/basics/definition/con-20027666
  17. ↑ http://ghr.nlm.nih.gov/condition/androgenetic-alopecia
  18. ↑ http://dermatology.columbia.edผู้u/conditions/baldness.html
  19. ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/12126069
  20. ↑ http://www.endocrineweb.com/conditions/thyroid/hypothyroidism-too-little-thyroid-hormone
  21. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hair-loss/basics/definition/con-20027666
  22. ↑ http://ghr.nlm.nih.gov/condition/androgenetic-alopecia
  23. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hair-loss/basics/treatment/con-20027666

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

ในภาษาอื่น
มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,276 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา