PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

อาการคันหนังศีรษะเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งอาการน่าอึดอัดนี้สามารถรักษาได้ง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลเส้นผม อย่างไรก็ตาม หากอาการยังคงไม่ดีขึ้น แสดงว่านั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคได้ อาการคันหนังศีรษะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ผิวที่แห้งหรือการตกค้างของผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม โดยคุณสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างง่ายดายโดยการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิว นอกจากนี้ ลองตรวจหาดูว่ามีเหาหรือไรหรือไม่ และควรมั่นใจว่าผิวหนังไม่ถูกแสงแดดมากเกินไปและดื่มน้ำอย่างเพียงพอ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลเส้นผม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. แชมพูและครีมนวดผมที่ล้างออกไม่หมดอาจเหลือตกค้างอยู่บนหนังศีรษะและก่อให้เกิดอาการคันได้ [1] ลองเปลี่ยนแชมพูและครีมนวดผม โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันทีทรี น้ำมันมะพร้าว น้ำมันโจโจ้บา หรือซิงก์ ไพริไธออน [2]
    • มองหาแชมพูที่ดีต่อสุขภาพผมได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านอาหารเพื่อสุขภาพ
  2. เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ปราศจากน้ำหอม. น้ำหอมในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมเป็นสาเหตุทำให้เกิดการระคายเคืองบนหนังศีรษะและก่อให้เกิดอาการคันได้ ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่ระบุไว้บนฉลากว่า “ปราศจากน้ำหอม” หากคุณไม่สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอมได้ ให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “ไฮโปอัลเลอร์เจนิก” แทน [3]
    • คุณยังสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมสำหรับเด็กหรือผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
  3. หวีหรือแปรงผมวันละ 2-3 ครั้งเพื่อกระจายน้ำมันธรรมชาติให้ทั่วหนังศีรษะ การแปรงผมด้วยแปรงที่สะอาดและนุ่มมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและกระจายน้ำมันธรรมชาติ ช่วยให้อาการคันหนังศีรษะบรรเทาลง [4]
    • แปรงผมเบาๆ เนื่องจากการแปรงผมอย่างรุนแรงอาจครูดถูกหนังศีรษะหรือก่อให้เกิดการระคายเคือง ทำให้อาการคันหนังศีรษะแย่ลงได้
  4. หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ประกอบด้วยแอลกอฮอล์. การหลีกเลี่ยงไม่ให้แอลกอฮอล์สัมผัสถูกหนังศีรษะเป็นวิธีที่ช่วยลดรังแค (ซึ่งเป็นสัญญาณของอาการคันหนังศีรษะ) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ประกอบด้วยแอลกอฮอล์ในปริมาณมากยังก่อให้เกิดอาการคันและเจ็บหนังศีรษะ (หรือทำให้อาการที่มีอยู่แล้วแย่ลง) เช่น เอ็กซีมา ซีบอเรีย หรือซีบอร์ริค เดอร์มาไตติส [5]
    • แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติในการทำให้แห้ง จึงทำให้หนังศีรษะแห้งและเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรง
  5. น้ำมันมะพร้าวจะสร้างเกาะป้องกันที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น จึงช่วยบรรเทาอาการคันหนังศีรษะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชโลมน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อยบนหนังศีรษะที่สะอาด (หลังสระผมเสร็จแล้ว) และทิ้งไว้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง จากนั้นล้างออกให้สะอาดด้วยแชมพูสูตรปราศจากน้ำหอม [6] ทำตามขั้นตอนนี้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง
    • อีกวิธีหนึ่งคืออุ่นน้ำมันมะพร้าวให้ละลายและผสมกับแชมพูก่อนนำไปสระผม
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ดูแลหนังศีรษะ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เหาเป็นปัญหาน่ากวนใจที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่ปัญหาเหานี้สามารถกำจัดได้อย่างง่ายดาย วานให้ใครสักคนตรวจหาดูว่ามีเหาหรือไข่เหาเกาะแน่นบริเวณโคนผมหรือไม่ อาการคันที่เกิดขึ้นเมื่อถูกเหารังควานเกิดจากการที่ผิวหนังมีปฏิกิริยากับน้ำลายของเหา [7]
    • ในการกำจัดเหา ให้ใช้แชมพูยาตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์ และนำผ้าปูที่นอนและเสื้อผ้าทั้งหมดไปซักให้สะอาด
    • สำหรับสิ่งของที่ไม่สามารถนำไปซักได้ ให้นำไปซักแห้งแทน (เช่น ตุ๊กตายัดนุ่น)
    • ดูดฝุ่นบนพรมและเฟอร์นิเจอร์ที่หุ้มเบาะ
    • นำอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม (เช่น หวี แปรง ยางรัดผม กิ๊บติดผม เป็นต้น) ไปแช่ในแอลกอฮอล์หรือแชมพูยานาน 1 ชั่วโมง
  2. ในระหว่างหน้าร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกๆ ที่มีแดดจัด หนังศีรษะของคุณจะเกิดอาการไหม้แดดได้ง่าย และเมื่อผิวที่ถูกแดดเผาเริ่มฟื้นฟูดีขึ้น หนังศีรษะของคุณก็จะเริ่มมีอาการคัน คุณสามารถบรรเทาอาการคันนี้ได้โดยใช้แชมพูหรือครีมนวดผมจากว่านหางจระเข้ [8]
    • หากคุณรู้ว่าจะต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานานกว่าชั่วโมง ให้สวมหมวกหรือทาครีมกันแดดบนหนังศีรษะของคุณ
  3. หากคุณมีผมที่ยาว อย่ารวบผมในขณะที่ผมยังเปียกอยู่ ควรปล่อยให้ผมของคุณแห้งสนิทก่อนแล้วจึงรวบผมขึ้น การหมกผมที่เปียกชื้นบนหนังศีรษะตลอดทั้งวันจะก่อให้เกิดอาการคันได้ [9]
    • และในทำนองเดียวกัน คุณอาจต้องเช็ดผมและหนังศีรษะให้แห้งหลังออกแดดเป็นเวลานานหลายชั่วโมง และเมื่อคุณอยู่กลางแดดเป็นเวลานานจนกระทั่งเหงื่อเริ่มออกบนหนังศีรษะ การขับเหงื่อนี้ก็เป็นสาเหตุทำให้หนังศีรษะเกิดการคันได้เช่นกัน
  4. ใช้ยาทาเฉพาะที่เพื่อกำจัดโรคสะเก็ดเงินบนหนังศีรษะ. โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดจากการแบ่งตัวเร็วกว่าปกติของเซลล์ผิว และทำให้เกิดเป็นปื้นนูนแดงขึ้นมา ซึ่งการสะสมของเซลล์ผิวส่วนเกินจะก่อให้เกิดอาการคันและความเจ็บปวดได้ โรคสะเก็ดเงินสามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาทาเฉพาะที่หรือแชมพูยาที่ประกอบด้วยกรดซาลิไซลิก [10]
    • หากกำลังสงสัยว่าคุณเป็นโรคสะเก็ดเงิน ให้ลองปรึกษาแพทย์ทั่วไปหรือแพทย์ผิวหนัง แพทย์จะสั่งจ่ายยาทาหรือแชมพูยาหรือแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องมีใบสั่งจ่ายยาให้กับคุณ
  5. หากอาการคันยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคผิวหนังที่รุนแรงยิ่งขึ้น เช่น โรคงูสวัด การติดเชื้อราที่ผิวหนังอย่าง Tinea Amiantacea หรือ Lichen Planopilaris โรคผิวหนังอักเสบ หรือโรคกลาก อาการที่มักเกิดขึ้นของโรคดังกล่าวเกือบทั้งหมดนี้คือการตกสะเก็ดหรือมีของเหลวไหลซึมบนหนังศีรษะหรือผื่นที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด [11]
    • ลองปรึกษาแพทย์ แพทย์ของคุณจะทำการวินิจฉัยโรคและสั่งจ่ายยาที่เหมาะสมกับการรักษา
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หนังศีรษะของคุณจำเป็นต้องระบายอากาศเช่นเดียวกับผิวหนังส่วนอื่นๆ เพื่อให้มีสุขภาพดี หากคุณสวมหมวกตลอดเวลาหรือสวมวิกผมอยู่บ่อยครั้ง หนังศีรษะของคุณอาจระบายอากาศไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดอาการคันบนหนังศีรษะได้ [12]
    • หากคุณสังเกตเห็นว่าอาการคันจะเกิดมากขึ้นเมื่อคุณสวมหมวกหรือวิกผม ให้ถอดหมวกหรือวิกผมออกและปล่อยหนังศีรษะของคุณได้ระบายอากาศ
  2. การขาดน้ำสามารถส่งผลกระทบต่อผิวหนังของคุณ และผิวหนังที่ได้รับน้ำไม่เพียงพอจะเริ่มแห้งและมีอาการคัน นอกจากการคงความชุ่มชื้นบนเส้นผมโดยการใช้แชมพูที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นและไม่ทำให้ผมแห้งแล้ว คุณยังสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นบนหนังศีรษะได้ด้วยการหลีกเลี่ยงภาวะการขาดน้ำของร่างกาย [13]
    • ลองปรึกษาแพทย์ แพทย์ของคุณจะแนะนำปริมาณน้ำที่คุณควรดื่มในแต่ละวันเมื่อเทียบกับอายุและน้ำหนักตัว โดยเฉลี่ยแล้วผู้ใหญ่ทั้งเพศชายและเพศหญิงควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 13 แก้ว (3 ลิตร) และ 9 แก้ว (2.2 ลิตร) ตามลำดับ [14]
  3. จัดการความเครียดและความกังวลเพื่อลดอาการคัน. ความเครียดและความกังวลจะส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณ รวมถึงก่อให้เกิดผลกระทบต่อหนังศีรษะด้วย หากคุณมีอาการคันตามใบหน้าและลำคอทั้งที่ไม่มีผื่นคัน ความเครียดและความกังวลอาจเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดอาการเหล่านี้ก็เป็นได้ [15] วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยขจัดความเครียดและความกังวลในแต่ละวันมีดังนี้
    • ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนให้มากขึ้น
    • พูดคุยกับเพื่อนสนิทหรือนักบำบัดโรคเกี่ยวกับความเครียดและความกังวลของคุณ
    • ทำกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบอย่างโยคะหรือการทำสมาธิ
    • งดใช้งานหน้าจอ (มือถือ คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ แล็ปท็อป) ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พยายามอย่าเกาหนังศีรษะแม้ว่าคุณจะรู้สึกคันจนอยากเกา เพราะการเกาเป็นสาเหตุที่ทำให้ปัญหาแย่ลง
  • รักษาความสะอาดของเล็บอยู่เสมอ เพราะคุณอาจเผลอเกาหนังศีรษะของคุณในขณะที่คุณกำลังนอนหลับ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,624 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา