PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

การแปรงฟันไม่ใช่แค่ช่วยเรื่องกลื่นปากหรือทำให้ยิ้มฟันขาวเท่านั้น แต่มันยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมด้วย [1] เวลาที่คุณแปรงฟัน คราบจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียที่รวมตัวกันจนเป็นฟิล์มบางๆ เกาะตามผิวฟันก็จะหายไป ไม่เช่นนั้นมันจะทำให้ฟันผุ เป็นโรคเหงือก และหากคุณปล่อยไว้นานเกินไป ฟันก็จะร่วง ส่วนลมหายใจเน่าๆ อันเกิดจากปากที่มีกลิ่นเหม็น ก็อาจทำให้ผู้คนรอบข้างออกห่างคุณไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะบรรดาพี่ๆ ของคุณ ทั้งนี้ คุณอาจรู้ว่า ทำไม จึงควรแปรงฟัน แต่หากคุณอยากรู้ว่า จะแปรงฟันอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร คำแนะนำด้านล่างก็ช่วยตอบได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ใช้เครื่องมือให้ถูกต้อง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to แปรงฟัน
    เลือกแปรงแบบที่มีขนแปรงไนลอนนุ่มๆ มันจะช่วยกำจัดคราบจุลินทรีย์และเศษอาหารออกจากฟันของคุณ โดยไม่ระคายเหงือกหรือกร่อนให้ฟันสึก เวลาที่คุณถูแปรงไปมาแนวนอน ด้ามแปรงก็ควรจะจับพอดีมือคุณด้วย และมีหัวแปรงเล็กเพียงพอที่จะเข้าถึงทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะฟันซี่หลังสุด หากคุณรู้สึกว่าแปรงเข้าถึงลำบาก แสดงว่ามันอาจจะใหญ่เกินไป [2]
    • แปรงสีฟันไฟฟ้า ก็เป็นทางเลือกที่ดี หากคุณขี้เกียจแปรงฟันและคิดว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าอาจช่วยกระตุ้นให้คุณอยากแปรงฟันได้ อย่างไรก็ดี คุณสามารถใช้แปรงสีฟันธรรมดาแปรงได้ดีไม่แพ้กันเลย ทั้งหมดอยู่ที่เทคนิคเท่านั้น
    • วิธีหนึ่งที่เข้าท่าคือการแปรงด้วยแปรงสีฟันธรรมดาในตอนเช้าและใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าในตอนค่ำ
    • คุณควรจะ หลีกเลี่ยง แปรงสีฟันที่มีขนแปรงทำจากวัสดุ “ธรรมชาติ” หรือขนสัตว์ เพื่อมันอาจเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียได้
  2. Watermark wikiHow to แปรงฟัน
    ขนแปรงจะหมดสภาพไปตามกาลเวลา ทำให้ไร้ความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการแปรง คุณควรเปลี่ยนแปรงใหม่ทุกๆ 3-4 เดือน หรือทันทีที่ขนแปรงยุ่ยกระจายออกหรือเสียรูปทรงไปแล้ว การสำรวจด้วยตาตัวเอง ย่อมดีกว่าการเปลี่ยนตามระยะเวลาที่กำหนด หรือคุณอาจจะใช้แปรงสีฟันที่ขนแปรงจะเปลี่ยนสีเวลาที่ถึงกำหนดเปลี่ยนแปรงใหม่แล้วก็ได้
    • ผลการศึกษาวิจัยพบว่า จุลินทรีย์นับพัน เห็นขนแปรงและด้ามจับแปรงสีฟัน เป็นเสมือนบ้านของมันและสามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อได้
    • ราวๆ สามเดือน ขนแปรงที่อ่อนนุ่มก็จะเริ่มคมเนื่องจากการเสียดสีและสามารถทำให้เกิดเลือดออกตามเหงือกได้
    • จงล้างแปรงทุกครั้งหลังใช้งาน และวางมันในแนวตั้ง อย่าปิดครอบเอาไว้ เพื่อปล่อยให้มันได้แห้งบ้าง ก่อนจะใช้ครั้งต่อไป ไม่งั้นแบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้ [3]
  3. Watermark wikiHow to แปรงฟัน
    มันไม่เพียงช่วยขจัดคราบจุลินทรีย์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้เคลือบฟันแข็งแรงขึ้นด้วย อย่างไรก็ดี มันสำคัญมากที่จะต้องจำไว้ว่า ห้าม กลืนยาสีฟันฟลูออไรด์ เพราะหากกินเข้าไปเยอะเกิน อาจทำให้มีผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพได้ และเด็กอายุต่ำกว่าสามขวบ ก็ไม่ควรใช้แปรงฟันด้วย [4]
    • คุณสามารถเลือกสูตรยาสีฟันที่ป้องกันปัญหาเหงือกและฟันได้อย่างหลากหลาย เช่น ฟันผุ หินปูน อาการเสียงฟันและเหงือก โรคเหงือกอักเสบ และอาการฟันเหลือง พยายามเลือกสูตรที่เหมาะกับคุณมากที่สุด หรือขอคำแนะนำจากทันตแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านอนามัย [5]
  4. Watermark wikiHow to แปรงฟัน
    การขัดฟัน ก็สำคัญพอๆ กับการแปรงฟันนั่นแหละ เพราะมันช่วยขจัดคราบจุลินทรีย์ แบคทีเรีย และเศษอาหารที่ติดตามซอกฟันและเหงือก ในบริเวณซึ่งขนแปรงชอนไชเข้าไปไม่ได้ แม้ว่าจะแปรงแบบปัดขึ้นๆ ลงๆ แล้วก็ตาม คุณควรใช้ไหมขัดฟันทุกครั้ง ก่อน การแปรงฟัน เพื่อที่เศษอาหารและแบคทีเรียที่อ่อนตัวหรือเกือบหลุดออกมาจากการขัดฟัน จะได้ไม่คั่งค้างอยู่ในปาก
    • จำไว้ว่าควรขัดฟันอย่างนุ่มนวล อย่ากระชากไหมไประหว่างซอกฟัน เพราะมันอาจทำให้ระคายเคืองเหงือกที่อ่อนไหวได้ พยายามค่อยๆ รูดลงช้าๆ เบาๆ ไปตามรอยโค้งของฟันแต่ละซี่
    • หากคุณรู้สึกว่าการใช้ไหมขัดฟันมันลำบาก หรือคุณกำลังจัดฟันอยู่ ก็อาจจะใช้ไม้จิ้มฟันแทน จะเป็นแบบไม้หรือแบบพลาสติกก็ได้ ที่สามารถนำมาแซะไปตามร่องฟัน และสามารถใช้ได้ผลเหมือนกับไหมขัดฟัน หากซอกฟันมีช่องว่างพอประมาณ
    • อีกทางเลือกคือคุณสามารถใช้ไหมขัดฟันแบบพกพา ซึ่งจะเป็นไหมขัดฟันเส้นเล็กยึดกับด้ามโดยมีปลายอีกข้างเป็นไม้จิ้มฟัน
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

แปรงฟันโดยใช้เทคนิคให้ชำนาญ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to แปรงฟัน
    บีบออกมาลงบนขนแปรง สักประมาณขนาดเม็ดถั่วก็พอ การบีบเยอะเกินไป อาจส่งผลให้เกิดฟองสบู่มากเกินไป จนทำให้ต้องบ้วนออกบ่อยและเลิกแปรงเร็วกว่าที่ควร นอกจากนี้ มันยังเพิ่มโอกาสในการที่คุณจะกลืนยาสีฟันฟลูออไรด์ลงไปด้วย ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ [6]
    • หากคุณรู้สึกเจ็บหรือเสียงฟันเวลาแปรงฟัน พยายามเปลี่ยนมาแปรงแบบปัดขึ้นลงๆ อย่างเดียว หรือไม่ก็เปลี่ยนมาใช้ยาสีฟันสูตรอ่อนโยน
  2. Watermark wikiHow to แปรงฟัน
    แปรงเบาๆ ด้วยการวนเป็นวงกลม หรือขึ้นๆ ลงๆ แบบสั้นๆ อย่าแปรง แนวขวาง กับฟันของคุณ [7]

  3. Watermark wikiHow to แปรงฟัน
    ปัดขนแปรงให้ครอบคลุมฟันเพียงสองสามซี่ในแต่ละครั้ง โดยทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ วนเป็นวงกลม เพื่อให้ทั่วถึงฟันทุกซี่ โดยใช้เวลาประมาณ 12-15 วินาที ในแต่ละจุด ถ้าอยากจะช่วยให้จำง่ายๆ ก็แบ่งช่องปากออกเป็นสี่ส่วน ซ้ายบน ขวาบน ซ้ายล่าง และขวาล่าง หากคุณใช้เวลา 30 วินาทีในแต่ละส่วน คุณจะสามารถจบการแปรงฟันในขั้นตอนนี้ ได้ภายในสองนาทีเต็ม
    • ลองเริ่มจากผิวฟันด้านนอกของมุมซ้ายล่าง ไปจนถึงมุมขวาล่าง จากนั้นก็ต่อด้วย ผิวฟันด้านนอกของฟันมุมขวาบน ไล่ไปจนถึงมุมซ้ายบน และวนกลับมา โดยเปลี่ยนเป็น เริ่มจากผิวฟันด้านในของมุมซ้ายบน ไปจนถึงมุมขวาบน จากนั้นก็ต่อด้วย ผิวฟันด้านในของฟันมุมขวาล่าง ไล่ไปจนถึงมุมซ้ายล่าง
    • หากคุณรู้สึกเบื่อเวลาแปรงฟัน ลองหันไปดูโทรทัศน์หรือฮัมเพลงไปพลางๆ ขณะแปรง การแปรงฟันตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเพลง ยังจะช่วยให้คุณมั่นใจว่าได้แปรงอย่างทั่วถึงแล้วด้วย
  4. Watermark wikiHow to แปรงฟัน
    วางแนวแปรงสีฟันให้ทำมุมฉากกับริมฝีปากของคุณ หรือให้ขนแปรงนาบบนผิวหน้าของฟันกรามล่าง แปรงด้วยจังหวะชักเข้าชักออก ขยับจากด้านในออกมาด้านนอก ทำแบบเดียวกันนี้กับฟันกรามล่างอีกข้างหนึ่งด้วย เมื่อเสร็จจากฟันกรามล่างแล้ว หันขนแปรงขึ้นไปนาบกับผิวหน้าของฟันกรามบนบ้าง
    • เวลาที่จะแปรงผิวฟันด้านนอกของฟันกรามบน ให้โยกขากรรไกรล่างไปทางด้านที่คุณกำลังแปรง เพื่อให้มีพื้นที่แปรงบริเวณดังกล่าว สำหรับการแปรงแบบขึ้นๆ ลงๆ ได้สะดวกมากขึ้น จะได้ไม่ต้องแปรงแบบถูแปรงแนวนอน
  5. Watermark wikiHow to แปรงฟัน
    วางแนวแปรงให้หัวแปรงชี้ที่แนวเหงือก และแปรงฟันแต่ละซี่ ทันตแพทย์ให้ความเห็นว่า บริเวณที่คนเราลืมแปรงมากที่สุด ก็คือ ผิวฟันด้านในของฟันล่าง ดังนั้น อย่าลืมแปรงบริเวณดังกล่าวด้วย ลองเช็คดูว่า ปากคุณอ้ากว้างพอหรือยัง ด้วยการใช้ 2-3 นิ้วของอีกมือหนึ่ง ในการถ่างฟันบนและล่างออกจากกัน จะช่วยให้หัวแปรงทำมุมแนวดิ่งอย่างเหมาะสมในการแปรงเข้าถึงขอบเหงือก [8]
  6. Watermark wikiHow to แปรงฟัน
    หลังจากที่คุณแปรงฟันจนสะอาดแล้ว ก็ให้ใช้ขนแปรงค่อยๆ แปรงทำความสะอาดลิ้นเบาๆ หากกดแรงไป จะไปทำลายเยื่อบุของลิ้นได้ การแปรงลิ้นจะช่วยกำจัดกลิ่นปากและแบคทีเรียออกไปจากลิ้น
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ปิดท้ายการแปรง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to แปรงฟัน
    หากคุณจะบ้วนปากหลังการแปรงฟัน ก็อมน้ำจากถ้วย หรือเอามือรองก๊อกน้ำ กลั้วให้ทั่วช่องปาก และบ้วนออกมา
    • มีข้อสังเกตว่า มีการถกเถียงในเรื่องของความจำเป็นของการบ้วนปากด้วย เพราะบางคนเชื่อว่ามันไปทำลายประสิทธิภาพของฟลูออไรด์ที่ฟันของคุณเพิ่งได้รับจากการแปรงไป ในขณะที่บางคนเชื่อว่า การบ้วนปากเป็นการป้องกันการได้รับฟลูออไรด์เข้าไปในร่างกาย และก็มีอีกส่วนหนึ่งที่แค่ไม่ชอบให้มียาสีฟันตกค้างในปาก แต่หากคุณมีภาวะเสี่ยงฟันผุ การไม่บ้วนปากอาจจะเป็นประโยชน์มากกว่า หรือบ้วนน้อยๆ เพื่อเป็นการกระจายฟลูออไรด์ในปากให้ทั่วถึง [9]
    • แต่ก็มีผลการศึกษาวิจัยพบว่า การบ้วนปากหลังการแปรงฟัน ไม่ได้เข้าไปลดประสิทธิภาพของการแปรงด้วยยาสีฟันฟลูออไรด์มากมายเท่าไรนัก [10]
  2. Watermark wikiHow to แปรงฟัน
    เปิดก๊อกน้ำใส่หัวหรือขนแปรง เพื่อล้างแปรงให้สะอาดและกำจัดแบคทีเรียออกไป หากไม่ล้างให้สะอาด จะเป็นการเอาแบคทีเรียเข้าปากในการแปรงครั้งถัดไป การล้างแปรงยังช่วยกำจัดเศษยาสีฟันออกด้วย พยายามวางแปรงในที่ๆ ปล่อยให้มันแห้งได้สนิท ไม่งั้นแบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้
  3. Watermark wikiHow to แปรงฟัน
    ปิดท้ายด้วยน้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์ (ขึ้นอยู่กับความต้องการ). อมน้ำยาบ้วนปากแต่พอประมาณ กลั้วให้ทั่วช่องปากโดยใช้เวลาประมาณ 30 วินาที และบ้วนออกมา พยายามอย่ากลืนแม้แต่นิดเดียว
  4. บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ (ขึ้นอยู่กับความต้องการ). น้ำเกลือจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แต่ก็มีคำบอกกล่าวว่า น้ำเกลือมีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งอาจไปกร่อนผิวฟันหากบ้วนบ่อยเกินไป แน่นอนว่า อะไรก็ตามที่มากเกินไป ย่อมส่งผลเสียอยู่แล้ว
    • ถ้าจะป้องกันแบคทีเรียแบบสมบูรณ์แบบ ให้ใช้น้ำยาบ้วนปากก่อนเข้านอนอีกรอบ แต่ห้ามใช้มันติดต่อกันนานสองสัปดาห์
  5. Watermark wikiHow to แปรงฟัน
    ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้คุณแปรงฟันวันละสองครั้ง ตอนเช้าหนึ่งครั้ง และก่อนนอนอีกหนึ่งครั้ง หากคุณสามารถแปรงเพิ่มอีกครั้งในระหว่างวัน ก็ยิ่งดี พยายามแปรงด้วยมุม 45 องศา เพราะมันจะช่วยขจัดคราบแบคทีเรียและเศษอาหารเครื่องดื่ม ได้ดีกว่าการแปรงแบบธรรมดา คุณควรพยายามงดการกินเล่นระหว่างมื้อด้วย เพราะมันจะทำให้มีเศษอาหารและแบคทีเรียก่อตัวขึ้นในช่องปาก
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Joseph Whitehouse, MA, DDS

    ทันตแพทย์ที่มีใบรับรอง
    ดร. โจเซฟ ไวท์เฮาส์เป็นทันตแพทย์ที่มีใบรับรองและเป็นอดีตประธานของสภาการรักษาโรคฟันเชิงอนุรักษ์ (WCMID) เขามีประสบการณ์ด้านทันตกรรมกว่า 46 ปีในคาสโตรวัลลีย์ แคลิฟอร์เนีย โดยมีผลงานการวิจัยตีพิมพ์ในวารสารแพทย์กว่า 20 ครั้ง งานวิจัยของเขาเน้นที่การลบความกลัวและสร้างความพึงพอใจที่คนไข้จะมีต่องานทันตกรรม เขาจบจากมหาวิทยาลัยไอโอวาในปี 1970 และยังจบปริญญาโทด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียเฮย์เวิร์ดในปี 1988
    Joseph Whitehouse, MA, DDS
    ทันตแพทย์ที่มีใบรับรอง

    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณมีทันตแพทย์ประจำ สอบถามเขาว่าสังเกตเห็นบริเวณที่เป็นปัญหาไหม เขาสามารถให้คำแนะนำพิเศษที่คุณอาจทำข้ามไปในระหว่างการแปรงฟันได้

    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากคุณไม่สามารถแปรงฟันหลังกินอาหารได้ อย่างน้อยก็ควรบ้วนปากเพื่อให้เศษอาหารในปากน้อยลง
  • แปรงฟันอย่างน้อยสองนาที
  • หากเหงือกของคุณเลือดออกง่าย คุณอาจจะเป็นโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งควรไปพบทันตแพทย์ เพราะโรคนี้ไม่เพียงมีผลร้ายแรงอันทำให้ฟันหลุดร่วง ปากเหม็น แต่ยังอาจส่งผลให้ลิ้นหัวใจติดเชื้อได้ด้วย อย่างดการแปรงฟันในกรณีที่มีเลือดออกจากเหงือก แต่ให้หาแปรงที่ขนนุ่มกว่าเดิมมาใช้แทน
  • มีแปรงบางประเภทที่จับเวลาได้ในตัว เพื่อให้คุณรู้เวลาในการแปรง ซึ่งเป็นผลดีต่อการกำหนดระยะเวลาแปรงในแต่ละส่วนของช่องปาก
  • รอ 10 นาทีหลังมื้ออาหาร ก่อนแปรงฟัน
  • แปรงไฟฟ้าย่อมดีกว่าแปรงธรรมดา เพราะคุณจะไม่ต้อง “ถู” ฟัน แต่โดยทั่วไปแล้ว สุขลักษณะการแปรงที่ดี มีความสำคัญมากกว่าประเภทของแปรงที่ใช้
  • คนส่วนใหญ่แปรงฟันตามแบบเดิมๆ ในการแปรงฟันแต่ละวัน พยายามเริ่มแปรงจากบริเวณที่แตกต่างจากวันก่อนๆ บ้าง เพื่อให้ไม่มีบริเวณใดพลาดการถูกแปรง ซ้ำกันบ่อยเกินไป
  • ใช้ไม้จิ้มฟันเพื่อขจัดเศษอาหารตามซอกฟันหลังการกินอาหาร
  • ไปพบทันตแพทย์อย่างน้อยทุกๆ หกเดือน เพื่อตรวจ เอ็กซเรย์ และทำความสะอาดช่องปาก
  • พยายามรอสัก 45 นาที ก่อนที่จะแปรงฟันหลังจากดื่มน้ำอัดลม โซดา ไวน์ หรือพวกน้ำผลไม้เปรี้ยวๆ เครื่องดื่มเหล่านี้จะทิ้งความเป็นกรดเอาไว้ และหากคุณแปรงทันที อาจจะให้เคลือบฟันเสียหาย [11]
  • อย่างน้อยที่สุด พยายามแปรงฟันตอนเช้าและก่อนนอน หากเป็นไปได้ก็ควรแปรงหลังทุกมื้ออาหาร แต่อย่าให้มาก เกินไป เพราะไม่ดีต่อฟัน [12]
  • หากคุณจะแปรงลิ้น (ซึ่งควรทำอย่างยิ่ง) ก็จงสำรวจให้แน่ใจว่า อย่าล้วงลงไปในช่องคอมากเกินไป
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าแปรงแรงเกินไป เหงือกเป็นเยื่อบุที่อ่อนไหวมาก
  • เปลี่ยนแปรงทุก ๆ 3 เดือน ขนแปรงที่ยุ่ยกระจาย อาจจะทำร้ายเหงือกคุณได้
  • อย่าใช้แปรงของใคร เพราะมันแจจะเป็นการแพร่เชื้อจุลินทรีย์ แบคทีเรีย และเชื้อโรค ผ่านรอยแผลเล็กๆ ที่มองไม่เห็นในช่องปาก
  • อย่าข้ามการแปรงฟันในช่วงใดๆ ไป การละเลยทำสิ่งที่จำเป็นเช่นนี้ อาจทำให้ฟันร่วงได้
  • รอประมาณ 45 นาทีหลังจากกินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายเคลือบฟัน
  • อย่ากลืนยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปาก มันมีสารเคมีที่ให้โทษบางอย่าง เช่น แอมโมเนีย และเซทริลไพริดิเนียม คลอไรด์
  • อาจมีอาการเลือดออกบริเวณที่ติดเชื้อได้บ้างประมาณ 2-3 วัน ก่อนที่ช่องปากจะเยียวยาตัวเองให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง
    • หากคุณเผลอกลืนยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปาก มากเกินกว่าปริมาณที่ใช้ปกติ ให้ไปรักษาทางการแพทย์ทันที
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ไหมขัดฟัน
  • แปรงสีฟัน
  • ยาสีฟัน
  • น้ำ
  • น้ำเกลือ (ขึ้นอยู่กับความต้องการ)
  • น้ำยาบ้วนปาก (ขึ้นอยู่กับความต้องการ)
  • แปรงสีฟันคุณภาพดี

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,952 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา