Vector graphics หรือภาพกราฟฟิกเวกเตอร์ ถือเป็นฟอร์แมตที่เหมาะจะใช้ทำโลโก้ รูปภาพ และภาพประกอบอย่างง่ายที่สุด เพราะจะเห็นเส้นและ contour หรือแสงเงาชัดเจน เป็นไฟล์รูปที่ประกอบกันขึ้นจากการกำหนดพิกัด ไม่ใช่พิกเซล จะปรับขนาดยังไงก็ไม่เสียความคมชัด รูปแบบ Vector มักใช้ในการออกแบบกราฟฟิก (graphic design) ออกแบบเว็บไซต์ และโฆษณาต่างๆ ปกติต้องสร้าง vector ขึ้นมาเองแต่ต้น แต่เดี๋ยวนี้ก็มีโปรแกรมแต่งรูปที่ใช้ "trace" หรือแกะรูป JPG ออกมาเป็น vector ได้เหมือนกัน
ขั้นตอน
-
เปิด Adobe Illustrator. Adobe Illustrator เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างสรรค์รูปภาพที่โปรและใช้ดีที่สุดโปรแกรมหนึ่ง คุณสามารถสร้างรูป vector จากไฟล์ JPG ได้ง่ายๆ ถ้าคุณไม่มี Illustrator ให้เลื่อนลงไปอ่านวิธีการใช้โปรแกรมฟรีอย่าง GIMP กับ Inkscape ข้างล่างได้เลย
-
สลับไปใช้งานแบบ "Tracing". โดยคลิกเมนูที่มุมขวาบน แล้วเลือก "Tracing" จะมีแผงเมนู "Image Trace" โผล่ขึ้นมา
-
เปิดไฟล์ JPG ที่จะแปลงขึ้นมา. โดยเข้าเมนู File หรือลากไฟล์มาใส่ในหน้าต่างโปรแกรมได้เลย
-
คลิกเลือกรูปใน artboard. แล้วจะใช้ตัวเลือก tracing ในแผงเมนู Image Trace ได้
-
ติ๊กช่อง "Preview" ในแผงเมนู Image Trace. เพื่อดูตัวอย่างการทำงานของแต่ละ settings ก่อนใช้จริง แต่จะทำงานได้ช้าลงนิดหน่อย
-
ลองเลือกค่าที่ตั้งไว้แล้วในแผงเมนู Image Trace. มี 5 ปุ่มให้เลือกที่ด้านบนแผงเมนู และมีเพิ่มเติมอีกในเมนูที่ขยายลงมา ปุ่มในแถวด้านบนคือ
- Auto Color - ปรับสีใหม่โดยอ้างอิงจากสีเดิม
- High Color - เปลี่ยนสีใหม่เลย
- Low Color - ปรับสีให้น้อยลงกว่าต้นฉบับ
- Grayscale - เปลี่ยนสีเป็นขาวดำออกเทาๆ
- Black and White - เปลี่ยนสีเป็นขาวดำ
-
คุณปรับความลึกของสีโดยเลื่อนแถบ color ได้. รูปที่แปลงเป็น vector จะแสดงสีตามจริงได้ไม่ค่อยดี ต้องปรับลดสีที่ใช้ลง ทำให้รูปดู "แบน" ขึ้น
-
ขยายส่วน "Advanced" ในแผงเมนู Image Trace. เพื่อดูตัวเลือกปรับแต่งเพิ่มเติม
-
เลื่อนแถบ "Paths" เพื่อปรับความถี่-ห่างของ paths ต่อพิกเซล. ถ้าเลื่อนแถบไปทางซ้าย paths จะห่างขึ้น แต่ถ้าเลื่อนไปทางขวา paths จะถี่ขึ้น ยิ่ง path ห่างขอบรูปก็ยิ่งเนียน
-
เลื่อนแถบ "Corners" เพื่อปรับมุมมน. ถ้าเลื่อนแถบไปทางซ้าย มุมก็ยิ่งมน ทำให้รูปดูเนียนขึ้น
-
เลื่อนแถบ "Noise" เพื่อลด bleed (ระยะตัดตก). แถบ Noise ใช้กำหนดว่าพิกเซลกลุ่มไหนถือเป็น "noise" ไม่ควรรวมใน trace ที่จะออกมาเป็น vector จะทำให้เส้นต่างๆ ตรงขึ้น และจุดหยาบในรูปดูเนียนขึ้น
-
เสร็จแล้วคลิก "Trace". Illustrator จะเริ่ม trace รูป ตอนนี้ให้รอสักพัก
-
คลิกปุ่ม "Expand". เพื่อแปลงรูปที่ trace แล้วเป็น vector paths คุณจะได้รูป vector ออกมาแทนไฟล์ JPG
-
export รูปเป็นไฟล์ vector. พอ trace เสร็จแล้ว ก็ export รูปเป็นไฟล์ vector ได้เลย [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คลิกเมนู File หรือ Illustrator แล้วเลือก "Save As"
- copy ไฟล์เป็น .ai ไว้ เวลาจะเอามาเปิดใน Illustrator แล้วแก้ไขใหม่จะได้สะดวก
- เลือกฟอร์แมต vector ในเมนู "Save As Type" คือ SVG (สำหรับใช้ในเว็บ) กับ PDF (สำหรับพริ้นท์)
- อย่าเซฟไฟล์เป็น PNG หรือ JPG เพราะพวกนี้ไม่ใช่ vector
โฆษณา
-
ดาวน์โหลดและติดตั้ง GIMP กับ Inkscape. เป็นโปรแกรมฟรีแบบ open-source ใช้แปลงไฟล์ JPG เป็นไฟล์ vector โดย GIMP นั้นเป็นโปรแกรมแต่งรูปเหมือน Photoshop ส่วน Inkscape เป็นโปรแกรมแต่งรูป vector เหมือน Illustrator ทั้ง 2 โปรแกรมนี้ใช้ได้กับทุกระบบปฏิบัติการ
- คุณดาวน์โหลด GIMP ได้ที่ gimp.org จากนั้นก็เปิดไฟล์ติดตั้งที่ใช้ได้กับระบบปฏิบัติการของคุณ ไม่ต้องไปปรับแต่ง settings อะไร ให้ทิ้งไว้เป็นค่า default
- คุณดาวน์โหลด Inkscape ได้ที่ inkscape.org จากนั้นก็เปิดไฟล์ติดตั้งที่ใช้ได้กับระบบปฏิบัติการของคุณ และไม่ต้องปรับแต่ง settings เช่นกัน
- วิธีการนี้เหมาะสำหรับรูปที่สีน้อยๆ รายละเอียดไม่เยอะ อย่างพวกโลโก้และตราสัญลักษณ์เท่านั้น ถ้าแปลงรูปรายละเอียดแน่นๆ จะยากต่อการเกลี่ยขอบให้เนียนและปรับสีให้ออกมาดี
-
ใช้ Rectangle Select tool เลือกบางส่วนของรูปที่อยากจะแปลงเป็น vector. ให้คุณใช้ selection tool ตีกรอบรูปคร่าวๆ เวลาเปลี่ยนสีจะได้ง่ายๆ
-
คลิกเมนู "Image" แล้วเลือก "Crop to Selection" . เพื่อลบทุกอย่างยกเว้นบริเวณที่คุณเลือกไว้
-
คลิกเมนู "Image" อีกรอบ แล้วเลือก "Autocrop" . เพื่อตัดส่วนที่เลือกไว้
-
export ไฟล์. พอ crop รูปแล้วก็ export ไฟล์ได้เลย โดยคลิกเมนู File แล้วเลือก "Export As" ไม่ต้องไปปรับ settings อะไร ทิ้งไว้เป็นค่า default เสร็จแล้วตั้งชื่อไฟล์ให้รู้ว่านี่คือเวอร์ชั่นที่ crop แล้ว
-
เปิดไฟล์ใน Inkscape. พอ export ไฟล์แล้ว ให้เปิดไฟล์ใน Inkscape รูปจะโผล่มาใน workspace หรือหน้ากระดาษของของ Inkscape
-
คลิกที่รูปเพื่อเลือก. ต้องเลือกรูปก่อนถึงจะ trace ใน Inkscape ได้
-
คลิก "Path" แล้วเลือก "Trace Bitmap" . เพื่อเปิดหน้าต่าง Trace Bitmap
-
เลือกวิธีการอื่นๆ แล้วคลิกปุ่ม "Update". เพื่อดูตัวอย่างว่าถ้าใช้วิธีการนั้นๆ แล้วรูป vector จะออกมาเป็นยังไง
- ถ้าเลือก "Colors" สีรูปจะออกมาใกล้เคียงต้นฉบับที่สุด
-
ปรับ settings ของวิธีการที่โปรแกรมตั้งค่ามาแล้ว. คุณปรับบาง settings ของวิธีการต่างๆ ได้ โดยคลิก "Update" หลังเปลี่ยน settings แล้ว เพื่อดูผลที่ได้
-
เสร็จแล้วคลิก "OK". รูปต้นฉบับจะถูก trace กลายเป็นรูป vector
-
เก็บรายละเอียดด้วย "Edit paths by nodes" tool. คุณใช้เครื่องมือนี้เลือกบางบริเวณของรูป vector ได้ แล้วลาก nodes หรือกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ เพื่อปรับขนาดและแสงเงาได้ ให้คลิกที่บางส่วนของรูป คุณจะเห็นว่ามีกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ โผล่ขึ้นมาเต็มไปหมด ถ้าลากกล่องพวกนี้จะเปลี่ยนรูปร่างของบริเวณที่เลือกไว้ได้ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ "Break Path" tool แยก nodes ออกจากกัน. ระหว่าง trace รูป บางส่วนของรูปอาจจะไปเชื่อมกับบริเวณที่ไม่ควรเชื่อม คุณก็ใช้ Break Paths tool แยกบริเวณเหล่านี้ออกจากกันได้ โดยลบ nodes ที่เชื่อมกันอยู่
-
เสร็จแล้วเซฟรูปเป็นไฟล์ vector. พอปรับแต่งจนพอใจแล้ว ก็เซฟรูปเป็นไฟล์ vector ได้เลย
- คลิกเมนู File แล้วเลือก "Save As"
- เลือกฟอร์แมต vector จากในเมนู "Save as type" ที่นิยมใช้กันคือ SVG (สำหรับใช้ในเว็บ) กับ PDF (สำหรับพริ้นท์)
- copy ไฟล์เป็น Inkscape SVG ไว้ จะได้กลับมาแก้ไขง่าย
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา