ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

งาสัตว์คือสิ่งที่ได้จากงาและฟันของช้าง วาฬ และสัตว์อื่นๆ อีกหลายชนิด แม้ว่ากระดูกกับงาจะมีลักษณะ น้ำหนัก และสัมผัสที่คล้ายกันมาก แต่งามักจะมีมูลค่าสูงกว่าและมีการควบคุมมากกว่ากระดูก เริ่มจากการดูว่าเป็นกระดูกหรืองาแทนที่จะดูว่าเป็นวัสดุสังเคราะห์หรือเลียนแบบอื่นๆ หลังจากนั้นก็ค่อยใช้แว่นขยายในการตรวจสอบเพื่อให้คุณสามารถแยกความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้ได้ง่ายขึ้น

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

ใช้แว่นขยายตรวจสอบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้แว่นขยายให้เหมาะกับสิ่งที่คุณต้องการตรวจสอบ. แว่นขยายมีให้เลือกหลายขนาดและมีลูกเล่นพิเศษต่างๆ มากมาย สำหรับการตรวจสอบว่าเป็นกระดูกหรืองาช้างนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วแว่นขยายแบบมีด้ามจับที่มีความแข็งแรงตามมาตรฐานก็ใช้งานได้ดี ทำให้คุณเห็นรายละเอียดได้มากพอที่จะแยกแยะว่าเป็นกระดูกหรืองาและสามารถควบคุมได้ว่าคุณจะส่องดูใกล้แค่ไหน คุณสามารถหาซื้อแว่นขยายแบบมีด้ามจับได้ทางออนไลน์หรือที่ร้านค้าอุปกรณ์เฉพาะและงานอดิเรก นอกจากนี้คุณยังสามารถหาซื้อแว่นขยายแบบมีด้ามจับได้ที่ร้านขายของแต่งบ้านบางแห่งอีกด้วย
    • คุณจะใช้กล้องจุลทรรศน์ก็ได้ แต่ก็มักจะราคาแพงกว่าแว่นขยาย โดยอย่างยิ่งถ้าสิ่งที่คุณต้องการตรวจสอบมีขนาดใหญ่
  2. ถือสิ่งที่ต้องการตรวจสอบไว้ในมือหรือวางบนพื้นผิวเรียบ ถือแว่นขยายที่มีด้ามจับเหนือสิ่งของ เริ่มจากระยะห่างหลายนิ้วก่อน แล้วค่อยขยับแว่นขยายเข้าไปใกล้ๆ ตามต้องการจนกว่ารายละเอียดจะชัดและสามารถมองเห็นร่องรอยเล็กๆ บนสิ่งของนั้นได้ [1]
    • ถ้าคุณใช้กล้องจุลทรรศน์ ให้ตั้งค่าตามวิธีใช้และปรับโฟกัสเลนส์จนกว่ารายละเอียดบนสิ่งของจะคมชัด
  3. เมื่อรายละเอียดบนสิ่งของเริ่มเห็นชัดผ่านแว่นขยาย ให้ส่องดูใกล้ๆ เพื่อสังเกตว่า บนพื้นผิวเป็นเส้นหรือรู ถ้าพื้นผิวเป็นรูพรุน ก็แทบจะแน่ใจได้เลยว่าเป็นกระดูก [2]
    • รูจะเป็นเหมือนจุดหรือหลุมที่เล็กมากที่ปกคลุมบนพื้นผิว
  4. ขณะที่คุณตรวจสอบสิ่งของผ่านแว่นขยาย ถ้าสิ่งของชิ้นนั้นเป็นงา บนพื้นผิวจะเป็นลายเส้น [3] ซึ่งลายเส้นของงาแท้ก็มีหลายแบบ ทั้งแบบที่เป็นเส้นตรง เส้นขวาง หรือเป็นวงกลม
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ตรวจสอบว่าเป็นของแท้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. งาและกระดูกบางชนิดจะมีความหนักและความหนาแน่นเทียบได้กับลูกบิลเลียดที่มีขนาดเท่ากัน แต่ถ้าของชิ้นนั้นเบา ก็แสดงว่าไม่ใช่งาแน่นอน แต่อาจจะเป็นกระดูกก็ได้ [4]
    • กระดูกและงาช้างอาจมีน้ำหนักเท่ากันได้ ถ้าคุณรู้สึกว่าของชิ้นนั้นตันและหนัก ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นงาเสมอไป แต่บ่งบอกว่าอาจจะเป็นงาหรือกระดูกก็ได้
    • ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าของชิ้นนั้นมันตันอย่างที่ควรจะเป็นหรือเปล่า ให้ใช้ตราชั่ง แม้ว่างาสัตว์แต่ละชนิดจะหนักไม่เท่ากัน แต่ถ้าเป็นงาสัตว์ที่เป็นที่นิยมเช่นงาช้าง โดยทั่วไปแล้วงาช้างยาว 1 นิ้วจะหนักประมาณ 640 กรัม [5]
  2. หาซื้อหลอดไฟสีดำ (หรือที่เรียกอีกอย่างว่าแสงอัลตราไวโอเลต) หรือไฟฉายสีดำ ถ้าใช้หลอดไฟ ให้ยึดหลอดไฟเข้ากับโคมไฟในห้องที่มีแสงธรรมชาติน้อย เปิดโคมไฟหรือไฟฉายสีดำ ปิดไฟดวงอื่นให้ห้องมืดที่สุด เมื่อเหลือแค่แสงสีดำ ให้ตรวจสอบสิ่งของเพื่อประเมินว่าส่องแล้วเป็นสีอะไร ทั้งงาและกระดูกแท้จะเป็นสีขาวสว่างใต้แสงสีดำ แต่ถ้าเป็นวัสดุสังเคราะห์ก็มักจะดูดแสงเข้าไปมากกว่าและดูมัวๆ [6]
    • แม้ว่าจะพบไม่บ่อย แต่ก็มีวัสดุเลียนแบบหรือสังเคราะห์ที่อาจจะเป็นสีขาวเมื่ออยู่ใต้ไฟสีดำ เพราะฉะนั้นคุณต้องตรวจสอบหลายขั้นตอนเพื่อให้แน่ใจว่าของชิ้นนั้นเป็นกระดูกหรืองาแท้
  3. สัมผัสพื้นผิวเพื่อสังเกตความเรียบและความแข็ง. ใช้นิ้วลูบสิ่งของเพื่อประเมินว่าพื้นผิวเรียบและรู้สึกทนทานมากแค่ไหน งาและกระดูกสัตว์หลายชนิดเมื่อสัมผัสแล้วจะเรียบมากและให้ความรู้สึกแน่น แข็ง และทนทาน แต่ถ้าพื้นผิวขรุขระหรือรู้สึกนิ่มหรือเปราะ ของชิ้นนั้นก็ไม่น่าจะใช่งาหรือกระดูกแท้
    • แม้ว่ากระดูกสัตว์บางชนิดจะเรียบเหมือนงา แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ กระดูกจะมีรูพรุน ดังนั้นมันเลยมักจะขรุขระกว่างาเล็กน้อย แต่ถ้าของชิ้นนั้นเมื่อสัมผัสแล้วเรียบลื่น ก็อาจบ่งบอกว่าของชิ้นนี้ทำจากงา แต่คุณก็ยังต้องตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยัน [7]
    • แม้ว่ากระดูกอาจจะคงทนเท่ากับงา แต่ก็ไม่เสมอไป เช่น คุณอาจจะหักกระดูกชิ้นเล็กได้ง่ายๆ แต่แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะหักงาชิ้นเล็กได้
    • เวลาที่ตรวจสอบความแข็งของสิ่งของ ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะวัสดุสังเคราะห์และกระดูกนั้นแตกหักและเสียหายได้ง่าย
  4. เมื่อเวลาผ่านไปทั้งงาและกระดูกจะเปลี่ยนสีตามธรรมชาติ ซึ่งต่างจากวัสดุสังเคราะห์ (ที่มักจะผลิตมาเพื่อให้สีคงทน) และแม้ว่าทั้งงาและกระดูกจะกลายเป็นสีออกเหลืองจางๆ เมื่อเวลาผ่านไป แต่ถ้าเป็นกระดูกก็อาจจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล สีแดง สีขาว หรือสีเขียวเล็กน้อยได้ด้วย [8] ถ้าของชิ้นนั้นเป็นสีเหลืองจางๆ ตามอายุ ก็อาจบ่งบอกว่าเป็นงาหรือกระดูก
    • งาหรือกระดูกเทียมบางชิ้นผลิตขึ้นมาให้เป็นสีออกเหลืองจางๆ เพื่อให้ดูเหมือนของจริง เพราะฉะนั้นจึงต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่าของชิ้นนั้นเป็นกระดูกหรือไม่ก็งา และเพื่อระบุอีกทีว่าเป็นกระดูกหรืองากันแน่
    โฆษณา

คำเตือน

  • แม้ว่าบางแหล่งข้อมูลอาจจะแนะนำให้ทดสอบด้วยเข็มร้อนเพื่อแยกระหว่างกระดูกกับงา แต่การทดสอบด้วยวิธีนี้อาจทำให้ของชิ้นนั้นไหม้และเสียหายหรือทำลายของชิ้นนั้นไปเลย และเป็นวิธีการที่ผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำ [9]
  • ถ้าของชิ้นนั้นทำจากงา คุณควรตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมายของสิ่งของชิ้นนั้น และศึกษาว่ากฎหมายอนุญาตให้คุณทำอะไรกับงาประเภทนั้น เช่น งาช้างแอฟริกันเป็นงาที่มีการควบคุมสูงเป็นพิเศษ และจะขายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายก็ต่อเมื่อคุณสามารถพิสูจน์ได้ว่า งาช้างของคุณนำเข้าอย่างถูกกฎหมายก่อนวันที่ 18 มกราคม 2533 [10]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 155,125 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา