ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การทำให้ตัวเองดูสวยเหมือนนางแบบ ก็เรื่องนึง แต่คนที่เป็นนางแบบเขาไม่ได้แค่นั่ง สวยๆ อย่างเดียวแล้วก็มีคนจ่ายเงินให้ แต่ความสำเร็จในโลกธุรกิจของพวกเธอขึ้นอยู่กับว่า เธอสามารถโพสท่าได้ดีแค่ไหน และทำให้ช่างภาพได้ภาพถ่ายที่น่าสนใจและทำตลาดได้หรือเปล่า ไม่ว่าคุณจะอยากพัฒนาตัวเองในฐานะนางแบบอาชีพ หรือแค่อยากถ่ายรูป ขึ้นกล้อง มากขึ้น เคล็ดลับต่อไปนี้จะช่วยเพิ่มมิติใหม่ๆ ให้กับภาพถ่ายของคุณ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ฝึกโพสท่าให้เชี่ยวชาญ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มันจะมีบางจังหวะที่คุณต้องเอนไหล่ไปด้านหลังเพื่อโพสท่า แต่โดยทั่วไปแล้วการห่อไหล่เล็กน้อยจะทำให้การโพสท่าของคุณดูเป็นธรรมชาติและผ่อนคลาย แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณควรทำหลังโก่ง (แม้ว่าจะใช้ได้กับการถ่ายภาพแฟชั่นชั้นสูงบางโอกาส) ถ้าคุณยืน ให้คุณทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเท้าแต่ละข้างไม่เท่ากัน และเท้าข้างที่ทิ้งน้ำหนักน้อยกว่าจะงอเล็กน้อยตามธรรมชาติ คุณจะดูสบายๆ มากขึ้นและท่าทางของคุณก็จะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ก็อย่าห่อไหล่มากเกินไป เพราะมันจะทำให้หน้าท้องดูใหญ่ขึ้น [1]
    • เวลาที่บอกว่าให้ "ห่อไหล่" เราหมายความว่าให้คุณ "เป็นธรรมชาติ" คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่าปกติแล้วตัวเองห่อไหล่ เพราะฉะนั้นอย่าห่อไหล่ตามปกติแล้วเพิ่มระดับเข้าไปอีก ทำท่าสบายๆ แต่เชิดหน้าขึ้น คุณต้องยืดคอให้ได้มากที่สุด ลองนึกภาพว่ามีเชือกดึงหน้าผากคุณขึ้นไป
  2. ร่างกายของคุณจะต้องมีชีวิตชีวาทุกส่วน ลองนึกถึงแดนเซอร์สิ ไม่มีส่วนไหนในร่างกายเลยที่ไม่พลิ้วไหวขณะที่เธอเต้นแม้ว่าจะยืนอยู่จุดเดิมก็ตาม เพราะฉะนั้นอย่าให้ส่วนไหนในร่างกายอ่อนปวกเปียก!
    • เริ่มจากการปรับแกนกลางลำตัวก่อน (วิธีนี้จะช่วยทำให้หน้าท้องยุบเข้าไปด้วย) จากนั้นก็ปรับแขนขา คำว่า "เข้มแข็ง" ในที่นี้ไม่ใช่ความก้าวร้าวหรือความเป็นชายชาตรี แต่คือการที่คุณมีความเชื่ออย่างแรงกล้าหรือมีพลัง เพราะสุดท้ายแล้วคุณก็ต้องสื่อความรู้สึกให้ทะลุกล้องออกมาให้ได้อยู่ดี!
  3. เพื่อให้ภาพถ่ายออกมาน่าสนใจ คุณต้องไม่ให้แขนขาแต่ละข้างทำแบบเดียวกัน คุณอาจจะสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนและให้แขนขาแต่ละข้างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงและเอียงศีรษะไปด้านใดด้านหนึ่งถ้ามันเข้ากับความรู้สึกของภาพ การวางท่าทางไม่สมมาตรอาจจะเป็นอะไรง่ายๆ อย่างการลดไหล่หรือสะโพกข้างใดข้างหนึ่งลง ระดับแขนแต่ละข้างไม่เท่ากัน หรืองอขาข้างหนึ่งให้ต่ำกว่าอีกข้างเล็กน้อย (หรือเยอะๆ ก็ได้)
    • จำไว้ว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของภาพ ภาพถ่ายนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณสวยประหารขนาดไหน เพราะมันเป็นเรื่องของสุนทรีนิยมของภาพ ถึงคุณจะแต่งหน้าและทำผมออกมาสวยที่สุดในโลก แต่ถ้าคุณไม่ได้สร้างมุมมองที่สวยงาม รูปมันก็ไม่ได้ออกมาเลิศเท่าที่ควรจะเป็น
  4. การมองกล้องตรงๆ อาจได้ผลกับภาพถ่ายมีชีวิต แต่โดยทั่วไปแล้วคุณควรหันหน้าทำมุม และมองกล้องผ่านมุมนั้น เอียงจมูกขึ้นหรือลงเล็กน้อย ซ้ายหรือขวาเล็กน้อย แต่ตามองกล้องเสมอ [2]
    • ลองสังเกตดูว่ามุมไหนที่ทำให้ใบหน้าของคุณดูสวยที่สุด ขากรรไกรของคุณคมชัดหรือเปล่า เงยศีรษะขึ้นและเอียงไปด้านข้างเล็กน้อย ลองหันหน้าทำมุมต่างๆ ในกระจกหรือหน้ากล้องของตัวเองเพื่อดูว่า หันหน้ามุมไหนจะได้ภาพถ่ายใบหน้าที่น่าสนใจที่สุด [3]
    • สังเกตด้วยว่าแสงมาจากทิศทางไหน จำไว้ว่าแสงไฟจะทำให้เกิดเงา และเงาแค่นิดเดียวก็ส่งผลต่อลักษณะใบหน้าของคุณได้ ถ้าแสงมาจากด้านบน การเอียงจมูกลงจะทำให้โหนกคิ้วฉายเงาลงบนดวงตา ซึ่งถือว่าดีถ้าคุณอยากได้ภาพถ่ายที่ดูดุดัน แต่จะไม่มีได้ผลเลยถ้าคุณอยากได้ภาพที่ดูเป็นมิตร
  5. แม้ว่าการมองกล้องก็ให้ภาพที่น่าสนใจได้เหมือนกัน แต่ถ้าคุณมองไปทางอื่นคุณจะมีตัวเลือกมากกว่า เกิดอะไรขึ้นตรงนั้นน่ะ เธอกำลังมองกระจกอยู่หรือเปล่า หรือเธอเห็นภูติจิ๋ว เธอกำลังคุยกับพระราชินีอังกฤษอยู่หรือเปล่า มีแต่คนอยากจะรู้
    • แต่ก็ระวังอย่าให้ออกมาเป็นลุคมองไกลแบบเชยๆ เพราะอย่างดีคุณก็จะได้ภาพถ่ายแนวปัจเจก แต่ถ้าอย่างแย่คุณก็จะเหมือนพยายามให้ได้ภาพปัจเจกโดยการมองออกไปไกลๆ เพราะฉะนั้นให้ใช้การมองแบบนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
  6. คล้ายๆ กับเคล็ดลับหลอกตาเมื่อกี้ การตัดสัดส่วนออกไป 1/4 จะทำให้คุณดูเพรียวลงมาก เธอกำลังมองไปข้างหน้าหรือเปล่า หรือว่าเธอมองไปด้านข้าง เอวเธอใหญ่แค่ไหนนะ ไม่มีใครรู้ เพราะฉะนั้นหามุม 3/4 เพื่อให้หุ่นดูเพรียวบางที่สุด
    • การหันหน้าเข้าหาอะไรก็ตามตรงๆ จะทำให้คุณอยู่ในจุดที่เปราะบางและเปิดเผยมากที่สุด (ชีวิตจริงก็เหมือนกัน!) ถ้าคุณตัดสัดส่วนออก 1/4 หันด้านไหนแล้วคุณดูสวยล่ะ แล้วเน้นด้านนั้นเพื่อให้ภาพออกมาดีที่สุด
  7. ส่วนที่ชวนกระอักกระอ่วนที่สุดของการถ่ายแบบอาจจะเป็นการที่ไม่รู้ว่าจะทำมืออย่างไร เพราะมันก็ห้อยแบบป่วงๆ อยู่อย่างนั้น แต่ถ้าคุณจัดวางท่าทางให้เข้ากันตั้งแต่ศีระษะจรดเท้า คุณก็น่าจะโพสท่าได้สวยงามตามท้องเรื่อง สิ่งเดียวที่คุณ ไม่ ควรทำก็คือ เอามือมาวางไว้ข้างแก้ม ฮัลโหล ภาพถ่ายสุดเซ็กซี่ยุค 80 ที่พลาดสุดๆ!
    • กฎทั่วไปก็คือให้หันด้านข้างของมือออกมา วิธีนี้จะทำให้เกิดเส้นที่เรียวที่สุดและยาวที่สุดลงมาจากแขน [4] และยังช่วยให้คุณไม่ต้องกลัวว่ามือฉันเหี่ยวหรือเปล่าหรือฝ่ามือฉันดูตลกไหม
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ฝึกฝนเทคนิคให้เชี่ยวชาญ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การโพสท่า รอยยิ้ม ที่สมบูรณ์แบบ นั้นเป็นศิลปะ และนางแบบเก่งๆ ส่วนใหญ่จะรู้ว่าจะสร้างรอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบอย่างเป็นธรรมชาติได้อย่างไร มันเป็นรอยยิ้มที่อยู่กึ่งกลางระหว่างการยิ้มกว้างที่สุดกับการไม่ยิ้มเลย ริมฝีปากแยกออกจากกันเล็กน้อยและเห็นแค่ฟันบน รอยยิ้มแบบนี้เรียกว่า "รอยยิ้มแบบอ่อนโยน" ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นภาพถ่ายที่ดูสวยงามและผ่อนคลาย
    • โดยทั่วไปการยิ้มจะทำให้แก้มยกขึ้นและดวงตาหรี่ลง เพราะฉะนั้นพยายาม ผ่อนคลาย ดวงตาเพื่อให้ดวงตาเบิกกว้างและเห็นตาขาว คุณอาจจะต้องฝึกหน้ากระจกเพื่อแยกกลุ่มกล้ามเนื้อแต่ละส่วนออกจากกัน แต่มันก็คุ้มค่ากับความพยายาม ไม่ว่าคุณจะเป็นนางแบบหรือแค่อยากให้ภาพถ่ายตัวเองดูสวยขึ้น การฝึกยิ้มแบบสมบูรณ์แบบจะทำให้ภาพถ่ายของคุณดูดีขึ้นมาก
  2. การที่คุณรู้สึกประหม่าไปหมดหรือแค่ดูเบื่อเฉยๆ นั้นไม่ได้เป็นการถ่ายทอดอารมณ์ที่น่าสนใจตามแนวคิดของการไม่ยอมจำนน ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ที่มีต่อโลกวัตถุนิยมของอุตสาหกรรมแฟชั่น หรือเอาง่ายๆ คือมันไม่ได้ดูน่ารักเลย แต่มันชวนกระอักกระอ่วนต่างหากล่ะ เวลาที่ช่างภาพกดถ่าย คุณจะต้องถ่ายทอดอารมณ์ที่กล้องสามารถจับได้ มันอาจจะขึ้นอยู่กับภาพที่ถ่ายด้วย แต่ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายอะไร คุณก็ต้องถ่ายทอดอารมณ์เหล่านั้นออกมา รู้สึกถึงมัน ดึงอารมณ์ออกมา
    • วิธีเดียวที่จะอธิบายสิ่งนี้แบบไม่เป็นนามธรรมมากนักก็คือ การใช้ดวงตา เพราะคุณอาจจะเผลอยิ้มที่ปากอย่างเดียวหรือไม่ก็ให้ร่างกายโพสท่าโดยที่ลืมไปว่าสีหน้าไม่เข้ากัน ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกอย่างไร แล้วร่างกายคุณส่งสัญญาณว่ายังไงล่ะ คุณเข้มแข็งหรือมั่นใจ คุณมีความสุขและไร้กังวลใช่ไหม อย่างที่ไทราบอกให้ "สไมส์!" นั่นแหละ [5] ความหมายก็คือ ให้ยิ้มจากดวงตา
  3. ในชุดที่คุณเลือกใส่นั้น บางชุดจะทำให้คุณรู้สึกซุกซนนิดๆ ไม่ว่าคุณจะใส่อะไร (ในสถานการณ์ ส่วนใหญ่ ) การไม่ดูเป็นผู้ล่ามากเกินไปนั้นดีที่สุด
    • นางแบบที่ดีจะต้องดูเก๋ไก๋และมีระดับ แม้ว่าคุณจะใส่บิกินีตัวเล็กจิ๋ว ก็ให้ทำอารมณ์สบายๆ เรือนร่างของคุณขับเน้นความสวยออกมามากพอแล้ว เพราะฉะนั้นใบหน้ากับท่าโพสไม่ต้อง
  4. คุณควรเปลี่ยนท่าโพสทุกๆ ประมาณ 3 วินาที เพราะช่างภาพเขาไม่อยากเสียเวลาถ่ายภาพเดิมซ้ำไปซ้ำมาหรอก ถึงคุณจะไม่มั่นใจว่ามันจะออกมาสวยหรือเปล่า ก็โพสไปเถอะ! พอถ่ายเสร็จแล้วคุณจะได้มีรูปให้เลือกเยอะหน่อย มันต้องมีรูปเริดๆ บ้างล่ะ
    • ทำท่าประหลาดๆ เล็กน้อยได้ตามสบาย ถ้าคุณโพสท่าไม่เหมือนใคร คนจะจำคุณได้ ทำตามเทคนิคที่คุณฝึกมา (หามุมต่างๆ เป็นต้น) แต่ก็ให้ปรับเปลี่ยนบ้างเล็กน้อย เพราะอะไรเล็กๆ น้อยๆ เนี่ยแหละที่สร้างความแตกต่างได้มากมาย
  5. ไม่ว่าใครก็มีจุดบกพร่อง นางแบบสาวชาวดัตช์ไซซ์ 000 สูง 210 ซม. ก็มีเหมือนกัน และคุณเองก็รู้ว่าจุดบกพร่องของตัวเองอยู่ตรงไหน! ข่าวดีก็คือคุณมีวิธีปกปิดมันอยู่แล้ว (ไม่ใช่เพราะว่ามันไม่ทรงพลังนะ แค่ไม่เหมาะกับการถ่ายภาพเฉยๆ). [5]
    • ถ้าคุณเอามือเท้าเอว มันจะทำให้เอวของคุณดูเล็กลง ช่องว่างระหว่างแขนกับร่างกายจะทำให้เกิดพื้นหลังที่ทำให้สายตาไม่จับจ้องไปที่บริเวณนั้น ชีวิตจริงก็ใช้เทคนิคนี้ได้นะ!
    • เชิดคางขึ้นเพื่อให้หน้าผากดูแคบลง (แต่ถ้าก้มหน้าลงมาคางจะใหญ่!) วิธีนี้นอกจากจะทำให้คางของคุณดูคมชัดและซ่อนหน้าผากแล้ว ยังช่วยให้คอยาวระหงด้วย
    • หันเข่าเข้ามาด้านในเพื่อให้สะโพกดูเล็กลง อ๋อ ช่องว่างต้นขาที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่มีน่ะเหรอ แต่ถ้าคุณหันเข่าเข้ามาด้านใน มันก็จะช่วยให้เกิดช่องว่างต้นขา และสะโพกก็จะดูเล็กลงด้วยนะ!
    • ถ้าคุณหันลำตัวไปด้านข้างแต่ยืดไหล่ตรง สะโพกคุณจะดูเล็กลงกว่าเดิมเยอะ มันจะเหมือนว่าคุณหันไปข้างหน้า แต่จะไม่เห็นสะโพกทั้งหมด
  6. ซื้อกล้องดิจิทัล ตั้งขาตั้งกล้อง และถ่ายภาพตัวเป็นออกมาเป็นพันๆ ใบ เนื่องจากการดูภาพถ่ายตัวเองในจอคอมพิวเตอร์นั้นไม่มีค่าใช้จ่าย คุณจึงไม่มีข้ออ้างที่จะ ไม่ ฝึกฝน คุณควรรู้ว่าการโพสท่าแบบไหนที่เหมาะกับคุณและแบบไหนไม่เหมาะ
    • ศึกษาว่าท่าโพสทำให้ส่วนไหนของร่างกายดูสวย เรียนรู้ว่าท่าโพสไหนที่เหมาะกับเสื้อผ้าประเภทต่างๆ ท่าโพสบางท่าทำให้ลายสูทดูชัดเจน แต่บางท่าก็เน้นความพลิ้วไหวของชุดราตรี (ฝึกกับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เก้าอี้ หรือถือสิ่งของ (แจกัน เชือก ลูกบอลชายหาด อะไรก็ได้ ใช้ความสร้างสรรค์หน่อยสิ !) เพราะคุณไม่มีวันรู้หรอกว่าเขาจะขอให้คุณทำอะไรบ้าง
  7. ศึกษา . ดูนิตยสารและโบรชัวร์และวิเคราะห์ให้ดี จดลงไปว่านางแบบโพสท่าอย่างไร เธอจัดวางมือ แขนขา ศีรษะ ดวงตา และริมฝีปากอย่างไร โพสนั้นสื่อถึงอารมณ์แบบไหน
    • หานางแบบที่คุณชื่นชอบมาวิเคราะห์ เธอเดินยังไง โดยทั่วไปแล้วเธอจัดวางท่าทางของตัวเองอย่างไร ท่าโพสกันตายของเธอคือท่าไหน แม้ว่าคุณจะไม่อยากเลียนแบบท่าทางของเธอ แต่ให้สังเกตลักษณะที่เธอทำเป็นประจำเพื่อให้คุณได้เริ่มฝึกฝน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ถ่ายแบบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ช่างภาพที่ดีเขาจะบอกว่าต้องปรับตรงไหน และหวังว่าเขาจะบอกคุณออกมาตรงๆ ว่าต้องทำแบบไหนถึงจะได้ภาพที่เขาอยากได้ ให้ความร่วมมือและสุภาพ (และนุ่มนวลด้วย!) อย่าปล่อยให้ตัวเองประหม่า ไม่อย่างนั้นคุณจะดูเกร็งและตึงเครียด ผ่อนคลาย ขณะโพสท่าแต่ละท่าและเชื่อมโยงกับกล้อง
    • คุณต้องคำนึงถึงประเภทของการถ่ายภาพด้วย ถ้าเป็นการถ่ายแบบแฟชั่น เขาก็อาจจะให้คุณโพสท่าเป็นเหลี่ยมมุมแบบล้ำยุคที่อาจจะดูประหลาดและไม่เป็นธรรมชาติหน่อยๆ แต่ถ้าเป็นการถ่ายโฆษณา คุณจะต้องดูสบายๆ เหมือนชีวิตประจำวันปกติ ลองเปรียบเทียบโฆษณาของฌอง ปอล โกลติเยร์กับของ Aveeno ดูสิ
  2. บางครั้งเวลาที่เราตั้งใจมากๆ หรือเวลาที่เราประหม่า เราจะหายใจช้าลงหรือไม่ก็เร็วขึ้นอย่างฉับพลัน คุณอาจจะสังเกตได้ว่าตัวเองกลั้นหายใจเวลาถ่ายรูป จดจ่ออยู่กับลมหายใจของตัวเอง หายใจปกติ และผ่อนคลาย
    • ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก การหายใจสามารถกำหนดอารมณ์ของคุณได้จริงๆ เพราะฉะนั้นมันก็จะเป็นตัวกำหนดท่าโพสของคุณด้วย ถ้าคุณหายใจเร็ว มันจะส่งสัญญาณให้ร่างกายรู้ว่าคุณพร้อมที่จะสู้หรือหนี แล้วคิดดูสิว่าคุณจะโพสท่าออกมายังไงขณะที่ความคิดเหล่านี้แล่นอยู่ในจิตใต้สำนึก!
  3. ดีไซเนอร์บางคนก็มีภาพที่ค่อนข้างประหลาดในหัวที่อาจทำให้คุณคิดว่า "ฉันดูเหมือนลูซีลล์ บอลล์ตอนเพิ่งลุกจากที่นอนและเจอกวางเรนเดียร์ขย้ำ" แต่เห็นโต้งๆ ว่านั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องทำ เพราะฉะนั้นคุณไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะทำให้ดีที่สุด ไม่ต้องไปนึกถึงมัน คุณยังเป็นคุณ คุณทำได้อยู่แล้ว
    • จำได้ไหมที่เราคุยกันว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของภาพ จริงอยู่ว่าภาพถ่ายเป็นภาพของคุณ แต่มันก็เป็นภาพของเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ พื้นหลัง และความรู้สึกของภาพด้วยเช่นกัน ถ้าคุณไม่ชอบสไตล์การแต่งหน้า ทรงผม หรือชุด ก็สื่ออารมณ์ออกมาผ่านสิ่งเหล่านั้น เพราะคุณยังคงมีรอยยิ้ม ท่าโพส และเทคนิคอื่นๆ อยู่
  4. วิธีนี้อาจช่วยให้คุณเข้าถึงอารมณ์ที่คุณต้องสื่อสารออกมาให้ได้ เช่น ถ้าช่างภาพอยากให้ภาพดูขมขื่น ให้นึกถึงช่วงเวลาที่ขมขื่นในชีวิตของคุณ คุณอาจจะพบว่าตัวเองสามารถถ่ายทอด "ความขมขื่นข้างใน" ผ่านวิธีนี้ได้ดีกว่า
    • แต่ถ้าการย้อนกลับไปนึกถึงอดีตกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ต่างๆ มากจนเกินไป ให้นึกถึงพล็อตหนังที่นำมาปรับใช้ได้และลองนึกว่าตัวเองเป็นนักแสดง กระบวนการความคิดควรถ่ายทอดผ่านใบหน้า และ ร่างกายจนเกิดเป็นอารมณ์ที่เข้มข้น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าลนลาน ไม่ต้องกังวลว่าใครจะคิดอย่างไร แค่ใจเย็นๆ และพยายามทำให้เป็นธรรมชาติที่สุด
  • แสดงอารมณ์ออกมาทั้งใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางดวงตา
  • คุณต้องมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า การเป็นนางแบบคือการเชิดหน้าและแสดงความมั่นใจออกมา
  • ขณะที่คุณกำลังหมดเวลาไปกับการเปลี่ยนมุมกลับไปกลับมา ขอให้ช่างภาพเปิดเพลงเพราะๆ คลอไปด้วย เพราะมันอาจจะช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและเข้าถึงอารมณ์มากขึ้น!
โฆษณา

คำเตือน

  • แขนขาต้องไม่ชี้ไปที่กล้องโดยตรง เพราะมุมมองที่ได้จะทำให้แขนขาดูผิดรูป ลองนึกภาพว่ากระดูกคุณเป็นเส้นการ์ตูนก้าง และเส้นเหล่านั้นไม่ควรจะชี้ตรงไปที่เลนส์กล้อง
  • อย่ามั่นหน้ามั่นโหนกจนเกินไป เพราะมันไม่ใช่คุณสมบัติที่น่าดึงดูดใจไม่ว่าจะมาตรฐานไหนก็ตาม
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,793 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา