ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

กลีเซอรีนหรือกลีเซอรอล มีลักษณะเป็นของเหลวที่ข้นหนืด ไม่มีสีและไม่มีกลิ่น นิยมใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เพื่อความงามหลากหลายประเภท กลีเซอรีนมีคุณสมบัติในการดูดความชื้น จึงสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นจากบรรยากาศรอบข้างเอาไว้ได้ ดังนั้น หลายคนจึงใช้กลีเซอรีนเพื่อช่วยให้เส้นผมที่แห้งดูชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น คุณสามารถใช้กลีเซอรีนกับเส้นผมได้ทั้งการทำเป็นสเปรย์บำรุงผมหรือมาส์กหมักผม หรือจะผสมกับครีมนวดผมที่ใช้เป็นประจำก็ได้เช่นกัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ทำสเปรย์บำรุงผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เตรียมขวดสเปรย์ที่สามารถปรับหัวฉีดเป็นละอองฝอยได้เพื่อให้คุณสามารถฉีดกลีเซอรีนบางๆ ให้ทั่วเส้นผมได้โดยไม่จำเป็นต้องฉีดเป็นบริเวณเล็กๆ ทีละจุด เริ่มจากเทน้ำเปล่า ½ ถ้วย (118 มล.) ลงในขวดสเปรย์ โดยเลือกใช้น้ำกลั่นแทนน้ำประปาที่ประกอบด้วยแร่ธาตุบางชนิดที่อาจทำให้เส้นผมของคุณแห้งยิ่งขึ้นได้ [1]
  2. กลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำกุหลาบจะช่วยให้เส้นผมของคุณหอมสดชื่นตลอดทั้งวัน คุณสามารถเพิ่มน้ำกุหลาบ ½ ถ้วย (118 มล.) ลงไปผสมกับน้ำกลั่นได้หากต้องการ [2] หรือหากไม่ต้องการใช้น้ำกุหลาบ คุณก็สามารถเลือกเติมน้ำมันหอมระเหยที่ชื่นชอบเพิ่มลงไปแทนได้เช่นกัน เช่น น้ำมันลาเวนเดอร์หรือน้ำมันส้ม เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้กับสเปรย์บำรุงผมของคุณ [3]
    • คุณสามารถหาซื้อน้ำกุหลาบได้จากซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามทั่วไปรวมถึงร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่
  3. เติมกลีเซอรีนจากพืช 2 ช้อนชาและน้ำมันมะกอก 1 ช้อนชาลงไป. เลือกใช้กลีเซอรีนที่ได้จากไขมันของพืชต่างๆ เช่น น้ำมันมะพร้าวหรือเชียร์บัตเตอร์ เติมกลีเซอรีนจากพืช 2 ช้อนชา (9.8 มล.) และน้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา (4.9 มล.) ลงไปผสมให้เข้ากันเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ [4]
    • กลีเซอรีนจากพืชมีวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามทั่วไปรวมถึงร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่
  4. เขย่าขวดให้ส่วนผสมเข้ากันและฉีดลงไปบนเส้นผมที่หมาด. เขย่าขวดก่อนใช้ทุกครั้งเพื่อให้น้ำมันและกลีเซอรีนเข้ากันกับส่วนผสมอื่นๆ จากนั้นฉีดลงไปบนเส้นผมที่ยังคงเปียกหมาดๆ หลังอาบน้ำเสร็จ โดยฉีดพรมลงไปบางๆ ไม่มากจนเกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมเหนียวเหนอะหนะและจัดทรงได้ยาก [5]
    • ทดลองใช้ในปริมาณที่หลากหลายเพื่อให้ทราบปริมาณที่เหมาะสมสำหรับเส้นผมของคุณมากที่สุด
  5. เพื่อให้สเปรย์กลีเซอรีนเคลือบเส้นผมของคุณอย่างทั่วถึง ให้คุณใช้หวีซี่ห่างหวีตั้งแต่โคนผมลงมาจรดปลายผม จากนั้นจึงเริ่มจัดแต่งทรงผมตามปกติ [6]
  6. คุณสามารถใช้สเปรย์กลีเซอรีนในช่วงที่คุณแต่งหน้าแต่งตัวในตอนเช้าและฉีดซ้ำอีกครั้งในระหว่างวันเพื่อเติมความสดชื่นให้กับเส้นผมและเก็บไรผมให้เป็นระเบียบ โดยฉีดในปริมาณเพียงเล็กน้อยและหวีให้เรียบร้อยสำหรับผมตรงหรือใช้มือจับลอนผมให้เป็นทรง [7]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ทำมาส์กหมักผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผสมไข่ 1 ฟองและน้ำมันแคสเตอร์ 2 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน. สำหรับวิธีการทำมาส์กกลีเซอรีนเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม เริ่มจากตอกไข่ 1 ฟองลงไปในชามผสมใบเล็ก จากนั้นเติมน้ำมันแคสเตอร์ 2 ช้อนโต๊ะ (30 มล.) ลงไปและคนให้เข้ากัน [8]
    • น้ำมันแคสเตอร์มีวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปรวมถึงร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่
  2. เติมกลีเซอรีนและน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ลงไปอย่างละ 1 ช้อนชา. เติมกลีเซอรีน 1 ช้อนชา (4.9 มล.) และน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนชา (4.9 มล.) เพิ่มลงไปและคนจนกระทั่งส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว [9]
    • หากต้องการ คุณยังสามารถเพิ่มน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) ลงไปในมาส์กของคุณได้เช่นกัน
  3. ใช้มือหรือแปรงป้ายมาส์กกลีเซอรีนลงไปบนเส้นผมของคุณโดยชโลมให้ทั่วถึงตั้งแต่โคนจรดปลาย จากนั้นนวดเบาๆ เพื่อให้มาส์กซึมเข้าสู่เส้นผม [10]
    • คุณสามารถหมักผมด้วยมาส์กกลีเซอรีนได้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
  4. เพิ่มความร้อนให้ผ้าขนหนูโดยนำไปตากแดดหรืออบในเครื่องอบผ้าก่อนนำมาพันรอบศีรษะไว้ โดยความร้อนจากผ้าขนหนูจะช่วยให้ส่วนผสมในมาส์กซึมเข้าสู่เส้นผมของคุณได้ดียิ่งขึ้น หมักทิ้งไว้ 40 นาที [11]
  5. เลือกใช้แชมพูที่ปราศจากพาราเบนหรือซัลเฟตที่อาจทำลายเส้นผมที่เพิ่งหมักมาใหม่ๆ และเนื่องจากเส้นผมของคุณได้รับการบำรุงจากมาส์กเรียบร้อยแล้ว คุณจึงไม่จำเป็นต้องใช้ครีมนวดผมซ้ำอีกครั้ง [12]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ผสมกับครีมนวดผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เติมกลีเซอรีน 10 มิลลิลิตรลงไปในขวดครีมนวดผม 50 มิลลิลิตร. เปิดฝาขวดครีมนวดผมออกและวางกรวยลงไปบนปากขวด จากนั้นค่อยๆ เทกลีเซอรีน 10 มิลลิลิตรผ่านกรวยลงไปในขวดอย่างระมัดระวัง [13]
    • หากขวดครีมนวดผมมีความจุมากกว่าหรือน้อยกว่า 50 มิลลิลิตร ให้คุณปรับเปลี่ยนปริมาณของกลีเซอรีนให้เหมาะสมกับปริมาณของครีมนวดผม
  2. ปิดฝากลับเข้าไปตามเดิมและเขย่าขวดก่อนใช้ทุกครั้งเพื่อให้ครีมนวดผมและกลีเซอรีนเข้ากันดี [14]
  3. คุณสามารถใช้ครีมนวดผมที่ผสมกลีเซอรีนเรียบร้อยเช่นเดียวกับการใช้ครีมนวดผมตามปกติ เพียงชโลมครีมนวดผมให้ทั่วศีรษะหลังสระผมเสร็จแล้วทิ้งไว้สักพักก่อนล้างออกให้สะอาด จากนั้นจึงสามารถจัดแต่งทรงผมได้ตามต้องการ [15]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ใช้กลีเซอรีนอย่างมีประสิทธิภาพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่มีอากาศที่แห้งเป็นอย่างมาก กลีเซอรีนซึ่งแทนที่จะดูดซับความชุ่มชื้นจากบรรยากาศรอบข้างมากักเก็บไว้ในเส้นผมของคุณอาจส่งผลลัพธ์ออกมาตรงกันข้ามโดยการปล่อยความชุ่มชื้นออกมาสู่บรรยากาศรอบข้างแทน แต่ในทางกลับกัน หากอากาศมีความชื้นมากจนเกินไป เส้นผมของคุณอาจบวมน้ำและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้มากเกินไปจนส่งผลให้เกิดการหยิกงอได้ ดังนั้น หากวันใดที่ค่าความชื้นสูงหรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตามปกติมากเป็นพิเศษ ให้คุณลดปริมาณการใช้กลีเซอรีนลงจากปกติ [16]
  2. เจือจางกลีเซอรีนด้วยน้ำเปล่าก่อนนำไปใช้กับเส้นผม. กลีเซอรีนเป็นสารที่มีลักษณะข้นหนืดคล้ายกับน้ำเชื่อม เพราะฉะนั้นหากคุณชโลมกลีเซอรีนลงไปบนเส้นผมเลยทันทีโดยไม่เจือจางก่อน อาจส่งผลให้เส้นผมของคุณเหนียวเหนอะหนะแทนได้ ดังนั้น คุณจึงควรเจือจางกลีเซอรีนด้วยน้ำเปล่าหรือผลิตภัณฑ์ของเหลวอื่นๆ ที่ปลอดภัยต่อเส้นผมอย่างครีมนวดผมให้เรียบร้อยก่อนนำไปใช้เสมอ [17]
  3. กลีเซอรีนสามารถสกัดได้จากผลิตภัณฑ์จากพืช เช่น น้ำมันมะพร้าวและเชียร์บัตเตอร์ รวมถึงไขมันจากสัตว์ นอกจากนี้กลีเซอรีนยังสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม มีการพบความเสี่ยงในด้านสุขภาพบางส่วนที่มีสาเหตุมาจากการใช้กลีเซอรีนสังเคราะห์ ดังนั้นจนกว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงเหล่านี้ คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้กลีเซอรีนสังเคราะห์และเลือกใช้กลีเซอรีนจากธรรมชาติแทน [18]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • กลีเซอรีนยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะที่แห้งและลดการเกิดรังแคอีกด้วย [19]
โฆษณา

คำเตือน

  • งดใช้กลีเซอรีนกับเส้นผมที่ผ่านการย้อมสีแบบกึ่งถาวร เนื่องจากกลีเซอรีนอาจส่งผลให้สีผมหลุดลอกเร็วยิ่งขึ้น [20]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,279 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา