ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการใช้งาน Google Drive เก็บและแชร์ไฟล์ คุณใช้ Google Drive ได้ทั้งในคอมและมือถือ แต่ต้องมีบัญชี Google ซะก่อน ถึงจะใช้ Google Drive ได้
ขั้นตอน
-
คลิก Go to Drive . ที่เป็นปุ่มสีฟ้ากลางหน้า เพื่อเปิดหน้าล็อกอิน
- ถ้าใช้แอพในมือถือ ให้แตะ SIGN IN ท้ายหน้าจอ
- ถ้าล็อกอิน Google Drive แล้ว ให้ข้ามขั้นตอนนี้และขั้นตอนถัดไป
-
กรอกข้อมูลล็อกอินบัญชีของคุณ. ตอนถูกถามให้พิมพ์อีเมลกับรหัสผ่านสำหรับล็อกอินเข้าบัญชี Google ของคุณ
- ถ้าใช้มือถือ อาจจะต้องเลือกบัญชี Google ก่อน
-
สำรวจหน้าโฮมของ Google Drive. จะเห็นคอลัมน์ตัวเลือกทางซ้ายของหน้า พร้อมพื้นที่ว่างขนาดใหญ่กลางหน้า
- ถ้าใช้มือถือ จะเป็นพื้นที่ว่างกับเครื่องหมาย ＋ สีขาวท้ายหน้าจอ พร้อมไอคอน ☰ มุมซ้ายบนของหน้าจอ
- อัพโหลดอะไรเข้า Google Drive แล้ว สามารถเข้าใช้ได้ในทุกอุปกรณ์ที่ใช้ Google Drive ได้
โฆษณา
-
คลิก NEW . ที่เป็นปุ่มสีฟ้ามุมซ้ายบนของหน้า แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก File upload . ที่เป็นตัวเลือกในเมนู NEW ที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้าต่าง File Explorer (Windows) หรือ Finder (Mac)
-
เลือกไฟล์. คลิกไฟล์ที่จะอัพโหลด ถ้าจะอัพโหลดทีละหลายไฟล์ ให้กด Ctrl (Windows) หรือ ⌘ Command (Mac) ค้างไว้ แล้วคลิกเลือกไฟล์
- อาจจะต้องเลือกโฟลเดอร์เก็บไฟล์ทางซ้ายของหน้าต่างก่อน
-
คลิก Open . ที่มุมขวาล่างของหน้าต่าง เพื่อเริ่มอัพโหลดไฟล์เข้า Google Drive
-
รอจนอัพโหลดไฟล์เสร็จ. เวลาที่ใช้จะต่างกันออกไปตามขนาดไฟล์ที่อัพโหลดและความแรงของเน็ตที่ใช้ เพราะงั้นแค่เปิดหน้า Google Drive ทิ้งไว้ก็พอ
- พออัพโหลดไฟล์เสร็จแล้ว จะมีเครื่องหมาย ✓ สีขาวโผล่มาทางขวาของชื่อไฟล์ ในช่องทางขวาของหน้า
โฆษณา
-
แตะ ＋ . ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ แล้วเมนู pop-up จะโผล่มา
-
แตะ Upload . ในเมนู pop-up
-
แตะ Photos and Videos . ทางด้านล่างของเมนู
- บางทีก็ไปโผล่ที่หน้า Photos ของ Android เลย
-
เลือกตำแหน่งที่มีไฟล์. แตะอัลบั้มหรือโฟลเดอร์ที่มีไฟล์ที่ต้องการจะอัพโหลด
-
เลือกไฟล์. แตะรูป วีดีโอ หรือเอกสารเพื่อเลือก ถ้าจะเลือกมากกว่าไฟล์เดียว ให้แตะแต่ละไฟล์ที่ต้องการ
-
แตะ UPLOAD . ที่มุมขวาบนของหน้าจอ เพื่อเริ่มอัพโหลดไฟล์ที่เลือกไว้เข้า Google Drive
-
รอจนอัพโหลดไฟล์เสร็จ. อาจต้องรอหลายนาทีไปจนถึงหลายชั่วโมง แล้วแต่ว่าไฟล์ใหญ่แค่ไหน และเน็ตแรงแค่ไหน พออัพโหลดไฟล์เสร็จ แถบความคืบหน้าจะหายไป
- สำคัญว่าต้องอยู่ใกล้เราเตอร์ Wi-Fi และเปิด Google Drive ไว้จนกว่าจะอัพโหลดเสร็จ
โฆษณา
-
คลิก NEW . ที่เป็นปุ่มสีฟ้ามุมซ้ายบนของหน้าต่าง Drive แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
เลือกประเภทเอกสาร. คลิกหนึ่งในตัวเลือกต่อไปนี้
- Google Docs - เปิดเอกสารใหม่ขึ้นมาเป็นไฟล์ Word เปล่า
- Google Sheets - เปิดเอกสารใหม่ขึ้นมาเป็นไฟล์ spreadsheet เปล่าของ Excel
- Google Slides - เปิดเอกสารใหม่ขึ้นมาเป็นไฟล์ PowerPoint เปล่า
- หรือเลือก More แล้วคลิก Google Forms ถ้าจะสร้าง Google Form
-
ตั้งชื่อเอกสาร. คลิกข้อความ "Untitled" ที่ด้านซ้ายบนของหน้า แล้วเปลี่ยนข้อความ "Untitled" เป็นชื่อเอกสารที่ต้องการ
- ทุกการเปลี่ยนแปลงจะถูกเซฟอัตโนมัติ ขอแค่ยังเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่
-
สร้างเอกสาร. พิมพ์ข้อความ ใส่รูป หรืออะไรก็ตามในเอกสาร แล้วคอยเช็คข้อความ "All changes saved in Drive" ที่โผล่มาด้านบนของหน้า แปลว่าเซฟแล้วเรียบร้อย
-
ปิด tab ของเอกสาร แล้วกลับไปที่ Drive. เอกสารจะถูกเซฟในหน้าโฮมของ Driveโฆษณา
-
แตะ ＋ . ที่มุมขวาล่างของหน้าจอ แล้วเมนูจะโผล่มา
- ถ้าจะสร้างเอกสารในมือถือ ต้องมีแอพ Google Docs, Google Sheets และ/หรือ Google Slides ซะก่อน
-
เลือกประเภทเอกสาร. โดยแตะตัวเลือกต่อไปนี้
- Google Docs - สร้างเอกสารแบบ Word ถ้าไม่มี Google Docs หน้าของแอพ Google Docs จะเปิดขึ้นมาแทน
- Google Sheets - สร้างเอกสารแบบ Excel ถ้าไม่มี Google Sheets หน้าของแอพ Google Sheets จะเปิดขึ้นมาแทน
- Google Slides - สร้างเอกสารแบบ PowerPoint ถ้าไม่มี Google Slides หน้าของแอพ Google Slides จะเปิดขึ้นมาแทน
-
ตั้งชื่อ. พิมพ์ชื่อเอกสารตอนถูกถาม
-
แตะ CREATE . ที่มุมขวาล่างของเมนู pop-up เพื่อตั้งชื่อเอกสาร แล้วเปิดเอกสารนั้นขึ้นมา
-
สร้างเอกสาร. พิมพ์ข้อความ ใส่ข้อมูล และอื่นๆ ในเอกสาร
-
แตะ . ที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ เพื่อเซฟเอกสารใน Google Driveโฆษณา
-
เลือกไฟล์. คลิกไฟล์ที่จะใช้งานร่วมกันกับคนอื่น แล้วจะมีหลายไอคอนโผล่มาทางด้านบนของหน้า
- การแชร์เอกสารหรือไฟล์นั้นสะดวกมาก ถ้าไฟล์นั้นใหญ่เกิน 25 MB จนส่งทางอีเมลไม่ได้ เพราะผู้ให้บริการอีเมลส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้ส่งไฟล์แนบใหญ่เกินนั้น
-
คลิกไอคอน "Share". ที่เป็นรูปคน มีเครื่องหมาย "+" ข้างๆ ปกติไอคอนนี้จะอยู่ทางขวาบนของหน้า Drive คลิกแล้วหน้าต่างใหม่จะเปิดขึ้นมา
-
คลิกไอคอน "Edit" . ที่เป็นรูปดินสอ ทางขวาสุดของหน้าต่าง pop-up แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
เลือกตัวเลือกการแชร์. คลิกหนึ่งในตัวเลือกของเมนูที่ขยายลงมา
- Can edit - คนที่คุณแชร์เอกสารให้ จะแก้ไขเอกสารได้
- Can comment - คนที่คุณแชร์เอกสารให้ จะคอมเม้นท์เกี่ยวกับเอกสารได้ แต่แก้ไขไม่ได้
- Can view - คนที่คุณแชร์เอกสารให้ จะเปิดดูเอกสารได้ แต่แก้ไขหรือคอมเม้นท์ไม่ได้
-
ใส่อีเมล. ในช่อง "People" กลางหน้าต่าง ให้พิมพ์อีเมลของคนที่จะแชร์เอกสารให้
- คุณใส่ได้ทีเดียวหลายอีเมล โดยกด Tab ↹ หลังพิมพ์แต่ละอีเมล
-
เพิ่มเติมข้อความสั้นๆ. ถ้าจะแนบคำสั่งหรือคำอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับเอกสารที่จะแชร์ ให้พิมพ์ในช่อง "Add a note"
-
คลิก Send . ที่เป็นปุ่มสีฟ้า ด้านซ้ายล่างของหน้าต่าง เพื่อแชร์ไฟล์ไปยังอีเมลของคนที่ระบุโฆษณา
-
หาเอกสารที่จะแชร์. เลื่อนไปตาม Google Drive จนเจอเอกสารที่แชร์ให้คนอื่น
-
แตะ ⋯ . ทางขวาของเอกสาร แล้วเมนูจะโผล่มา
- ถ้าใช้ Android ให้แตะเอกสารที่จะแชร์ค้างไว้
-
แตะ Add people . ที่เป็นตัวเลือกในเมนู แล้วหน้าต่างใหม่จะเปิดขึ้นมา
-
พิมพ์อีเมล. แตะช่อง "People" ทางด้านบนของหน้า แล้วพิมพ์อีเมล
-
แตะ "Edit" . ที่เป็นไอคอนรูปดินสอ ทางขวาสุดของช่องอีเมล แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
เลือกตัวเลือกการแชร์. โดยแตะตัวเลือกต่อไปนี้
- Edit หรือ Can edit - คนที่คุณแชร์เอกสารให้ จะแก้ไขเอกสารได้
- Comment หรือ Can comment - คนที่คุณแชร์เอกสารให้ จะคอมเม้นท์เกี่ยวกับเอกสารได้ แต่แก้ไขไม่ได้
- View หรือ Can view - คนที่คุณแชร์เอกสารให้ จะเปิดดูเอกสารได้ แต่แก้ไขหรือคอมเม้นท์ไม่ได้
-
พิมพ์ข้อความ. ถ้าอยากใส่ข้อความหรือคำอธิบายในเอกสารที่แชร์ ให้แตะช่อง "Message" แล้วพิมพ์ข้อความตามต้องการ
-
แตะ "Send" . ที่มุมขวาบนของหน้าจอ เพื่อแชร์เอกสารทางอีเมลโฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าใช้แอพ Google Drive ในมือถือ อย่าอัพโหลดหรือดาวน์โหลดไฟล์ผ่านเน็ตมือถือ แนะนำให้ใช้ Wi-Fi ดีกว่า
- คุณสร้างโฟลเดอร์ในคอมไว้เก็บไฟล์ จากนั้นอัพโหลดเข้า Google Drive อัตโนมัติทุกครั้งที่ต่อเน็ตได้ด้วย
โฆษณา
คำเตือน
- ปิดหน้าเว็บหรือแอพ Google Drive ก่อนไฟล์จะอัพโหลดเสร็จ เท่ากับยกเลิกการอัพโหลดที่ยังไม่เสร็จสิ้น
โฆษณา
โฆษณา
