ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หากคุณใช้น้ำมันมะพร้าวในการบำรุงผมและผิวอยู่เป็นประจำ คุณอาจเคยนึกอยากนำน้ำมันมะพร้าวมาใช้ในการกำจัดขนด้วยเช่นกัน แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วผู้คนจะใช้น้ำมันมะพร้าวสำหรับการบำรุงผิวพรรณ แต่รู้หรือไม่ว่าน้ำมันมะพร้าวสามารถนำมาใช้เป็นครีมโกนขนสำหรับโกนขนตามจุดต่างๆ ของร่างกายได้เช่นกัน [1] ในบทความนี้เราจะมาบอกขั้นตอนการทำครีมโกนขนจากน้ำมันมะพร้าวพร้อมทั้งวิธีการใช้น้ำมันมะพร้าวทั้งก่อนและหลังการโกนขนเพื่อเติมความชุ่มชื้นและมอบความเนียนนุ่มให้กับผิวของคุณ

ส่วนประกอบ

  • น้ำมันมะพร้าว ½ ถ้วย (64 กรัม)
  • เชียบัตเตอร์ ½ ถ้วย (64 กรัม)
วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ทำครีมโกนขนจากน้ำมันมะพร้าว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เตรียมหม้อต้มสองชั้นจากหม้อต้มเติมน้ำและชามเปล่า. นำหม้อต้มใบใหญ่ที่เติมน้ำเปล่าไว้ตั้งบนเตาและตั้งชามแก้วไว้ข้างบนโดยเช็คให้แน่ใจว่าชามสามารถวางบนปากหม้อได้พอดี จากนั้นเปิดเตาโดยปรับให้เป็นไฟแรงและรอสักพักจนกระทั่งน้ำเดือดก่อนเติมส่วนผสมทั้งหมดลงไปในชาม [2]
    • เลือกใช้ชามแก้วเท่านั้นและอย่าใช้ชามประเภทพลาสติกหรือโลหะ เนื่องจากชามแก้วสามารถทนความร้อนได้ดีและไม่มีสารเจือปนใดๆ เข้าไปปนเปื้อนในครีมโกนขน
    • สูตรครีมโกนขนจากน้ำมันมะพร้าวนี้ยังไม่ได้รับการยืนยังจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ดังนั้นโปรดใช้ด้วยความระมัดระวัง หากคุณมีผิวแพ้ง่าย ลองทดสอบครีมโกนขนโดยป้ายลงบนผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนนำไปใช้เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวของคุณ
  2. ควรแน่ใจว่าน้ำมันมะพร้าวที่เลือกใช้เป็นน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ที่ไม่ผ่านกรรมวิธีและปราศจากส่วนผสมอื่นๆ ตวงน้ำมันมะพร้าวให้พอดีกับปริมาณที่ต้องการและเติมลงไปในชามที่ตั้งไว้บนหม้อต้มโดยยังคงเปิดไฟแรงไว้ดังเดิม คุณจะเห็นว่าน้ำมันมะพร้าวเริ่มละลายกลายเป็นน้ำมันเหลวซึ่งถือว่าถูกต้อง [3]
    • น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์จะต้องมีลักษณะเป็นไขสีขาวขุ่นเสมอ หากน้ำมันมะพร้าวที่คุณเลือกใช้มีลักษณะเป็นน้ำมันเหลวเมื่อเก็บรักษาในอุณหภูมิห้อง แสดงว่านั่นไม่ใช่น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์
  3. เติมเชียบัตเตอร์ ½ ถ้วย (64 กรัม) ลงไปผสมให้เข้ากัน. เชียบัตเตอร์มีคุณสมบัติในการบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทั้งยังสามารถช่วยให้มีดโกนเคลื่อนไปบนผิวได้ลื่นไหลไม่มีสะดุดอีกด้วย ตวงเชียบัตเตอร์บริสุทธิ์ให้พอดีกับปริมาณที่ต้องการและเติมลงไปในชามเพื่อผสมเข้ากับน้ำมันมะพร้าว เชียบัตเตอร์และน้ำมันมะพร้าวมีเนื้อสัมผัสที่ไม่แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อส่วนผสมทั้งสองชนิดเริ่มละลายแล้วก็จะรวมกันเป็นเนื้อเดียว [4]
  4. ส่วนผสมทั้งสองชนิดจะเริ่มละลายกลายเป็นเนื้อนุ่มเหลวแทบจะในทันทีโดยไม่จำเป็นต้องคนเลยด้วยซ้ำ รอประมาณ 2-3 นาทีจนกระทั่งส่วนผสมละลายจนหมด [5]
    • โดยปกติส่วนผสมที่ละลายดีแล้วจะมีสีเหลืองใสๆ
  5. คุณจะต้องรอให้ส่วนผสมที่ละลายเข้ากันดีแล้วกลับมาแข็งตัวอีกครั้งก่อนนำมาตีจนมีสัมผัสที่เบาและฟูนุ่ม ยกชามขึ้นจากเตาและตั้งทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนาน 10 นาทีหรือนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 5 นาที [6]
  6. ตีส่วนผสมด้วยเครื่องผสมอาหารแบบมือถือจนกระทั่งมีสัมผัสที่เบาและฟูนุ่ม. จุ่มหัวตีลงไปในชามแก้วเพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนผสมกระเด็นออกมาได้ เปิดเครื่องผสมอาหารโดยปรับระดับความเร็วต่ำและค่อยๆ ตีส่วนผสมประมาณ 2-3 นาทีจนกระทั่งส่วนผสมกลายเป็นสีขาวและขึ้นฟู เพียงเท่านี้ครีมโกนขนของคุณก็พร้อมใช้แล้ว [7]
    • ถ่ายครีมโกนขนลงในภาชนะมีฝาปิดสูญญากาศและเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น ครีมโกนขนที่เก็บรักษาอย่างเหมาะสมจะมีอายุการใช้งานนานถึง 3-5 เดือน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ลงมือโกนขน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การชโลมด้วยน้ำอุ่นจะทำให้รูขุมขนเปิดกว้างและผิวนุ่มขึ้น ทั้งยังช่วยให้ขนตรงจุดซ่อนเร้นอ่อนนุ่มขึ้นและสามารถโกนได้ง่ายและแนบสนิทยิ่งขึ้น คุณสามารถยืนใต้ฝักบัวและเปิดน้ำให้ไหลผ่านตัวสักครู่หนึ่งหรือจะใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นประคบไว้ตรงจุดซ่อนเร้นก็ได้เช่นกัน [8]
    • หากเส้นขนตรงจุดซ่อนเร้นค่อนข้างยาวหรือคุณไม่เคยโกนขนบริเวณนี้มาก่อน คุณอาจใช้กรรไกรเล็มขนให้สั้นลงก่อนเริ่มลงมือโกนขน เล็มขนด้วยความระมัดระวังและใช้กระจกเล็กๆ คอยส่องในระหว่างการโกนเพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ
  2. ป้ายครีมโกนขนเป็นชั้นบางๆ ให้ทั่วบริเวณบิกินี่. ป้ายครีมโกนขนจากน้ำมันมะพร้าวเป็นชั้นบางๆ ให้ปกคลุมเส้นขนทั่วบริเวณจุดซ่อนเร้นในขณะที่ผิวยังคงหลงเหลือความชุ่มชื้นอยู่ โดยแนะนำให้ป้ายครีมโกนขนให้ทั่วโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเยอะเกินไป จำไว้ว่าการใช้ครีมโกนขนในปริมาณที่มากเกินไปยังดีกว่าน้อยจนไม่เพียงพอ [9]
    • ครีมโกนขนจะช่วยให้มีดโกนสามารถเคลื่อนไปบนผิวได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด ซึ่งการลงมือโกนขนโดยไม่ใช้ครีมโกนขนอาจทำให้ผิวของคุณมีโอกาสเกิดขนคุดอักเสบหรือการระคายเคืองได้มากกว่า
  3. ใช้มือดึงผิวบริเวณบิกินี่ให้เรียบตึงและถือมีดโกนไว้ในมืออีกข้าง ลองสังเกตดูว่าเส้นขนตรงจุดซ่อนเร้นของคุณขึ้นมาในทิศทางใด (โดยส่วนใหญ่แล้วเส้นขนจะชี้ลงด้านล่าง) ก่อน ลงมือโกนขน เป็นจังหวะสั้นๆ ไปในทิศทางเดียวกับแนวเส้นขน [10]
    • การโกนขนไปในทิศทางเดียวกับแนวเส้นขนจะช่วยลดการระคายเคืองและโอกาสการเกิดขนคุด ซึ่งแม้ว่าการโกนในลักษณะนี้อาจไม่แนบสนิทกับผิวมากนัก แต่หลังจากนี้ผิวของคุณจะเรียบเนียนขึ้นและไม่ค่อยเป็นตุ่มแดง
    • ใช้มีดโกนอันใหม่ที่คมๆ ทุกครั้งในการโกนขนแนวบิกินี่ โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เปลี่ยนมีดโกนใหม่หลังจากใช้งานแล้ว 5-7 ครั้งหรือบ่อยกว่านั้นหากคุณมีผิวแพ้ง่าย [11]
  4. ครีมโกนขนจากน้ำมันมะพร้าวมีสัมผัสที่ข้นและอาจเข้าไปอุดตันในมีดโกนได้ ดังนั้นหลังการปาดแต่ละครั้ง ให้คุณล้างมีดโกนให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นเพื่อชะล้างครีมกำจัดขนและเส้นขนที่อุดตันอยู่ให้หลุดออก [12]
  5. ล้างครีมโกนขนออกให้สะอาดหมดจดหลังโกนขนเสร็จแล้ว. หลังจากที่โกนขนจุดซ่อนเร้นออกจนหมดแล้ว ให้คุณหันหัวฝักบัวและฉีดน้ำตามแนวขนบิกินี่เพื่อล้างออกให้สะอาดพร้อมใช้นิ้วนวดเบาๆ ตรงบริเวณบิกินี่และเช็คให้แน่ใจว่าครีมโกนขนถูกชะล้างออกจนหมด ใช้น้ำอุ่นและไม่ร้อนจนเกินไปเพื่อลดการระคายเคือง [13]
    • ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนแนะนำให้ล้างด้วยน้ำเย็นปิดท้ายเพื่อปิดรูขุมขน หากผิวของคุณระคายเคืองง่าย แนะนำให้คุณล้างด้วยน้ำเย็นอีกครั้งก่อนออกจากห้องน้ำ
  6. ผิวของคุณจะไวต่อสิ่งเร้าต่างๆ กว่าปกติหลังจากที่เพิ่งโกนขนเสร็จ ดังนั้นเช็ดผิวให้แห้งอย่างเบามือที่สุด ใช้ผ้าขนหนูซับผิวโดยไม่ต้องให้แห้งแต่ยังพอเหลือความชื้นอยู่บ้างเพื่อให้ผิวของคุณชุ่มชื้นและสดชื่นมากขึ้น จากนั้นตามด้วยการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหลังการโกน [14]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

บำรุงผิวด้วยน้ำมันมะพร้าว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทาน้ำมันมะพร้าวลงไปบางๆ ให้ทั่วแนวบิกินี่ก่อนลงมือโกนขน. น้ำมันมะพร้าวมีส่วนช่วยทำให้ผิวและขนบริเวณจุดซ่อนเร้นนุ่มขึ้น ดังนั้นก่อนลงมือโกนขน ให้คุณใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ทาบางๆ ให้ทั่วแนวบิกินี่และทิ้งไว้สัก 2-3 นาทีก่อนชโลมผิวบริเวณดังกล่าวให้เปียกและเริ่มโกนขนได้เลย [15]
    • น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์จะจับตัวเป็นไขเสมอ ดังนั้นคุณอาจต้องถูน้ำมันมะพร้าวบนฝ่ามือสักพักเพื่อทำให้อุ่นขึ้นและสามารถทาบนผิวได้
    • คุณสามารถใช้เบบี้ออยล์หรือน้ำมันขาวบริสุทธิ์แทนได้เช่นกัน
  2. น้ำมันมะพร้าวสามารถเพิ่มความนุ่มลื่นและเติมความชุ่มชื้นให้กับบริเวณจุดซ่อนเร้นและแนวบิกินี่ได้อย่างดีเยี่ยม คุณสามารถใช้น้ำมันมะพร้าวทาบางๆ ได้บ่อยครั้งตามต้องการเพื่อเป็นการบำรุงและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวของคุณ [16] นอกจากนี้น้ำมันมะพร้าวยังช่วยในการลดการเกิดขนคุดอักเสบและการระคายเคืองได้อีกด้วย
    • คุณยังสามารถใช้น้ำมันมะกอกที่มีความบริสุทธิ์สูงหรือน้ำมันพืชแทนได้เช่นกัน
  3. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันมะพร้าวหากผิวของคุณมีแนวโน้มเป็นสิวหรือเกิดรูขุมขนอุดตันได้ง่าย. น้ำมันมะพร้าวอาจก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนได้ [17] ดังนั้นหากผิวบริเวณแนวบิกินี่ของคุณมักเกิดขนคุดหรือเป็นสิวได้ง่าย ลองมองหามอยส์เจอร์ไรเซอร์ประเภท Non-comedogenic ที่ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนเพื่อลดโอกาสการเกิดการระคายเคือง [18]
    • ทาน้ำมันมะพร้าวเฉพาะบริเวณจุดซ่อนเร้นด้านนอกและระวังอย่าให้น้ำมันมะพร้าวเข้าไปในช่องคลอดเพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,296 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา