ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

รู้หรือไม่ น้ำยาฟอกขาวก็ใช้กับเครื่องซักผ้าได้ แถมใช้ได้ดี แต่ต้องใช้ให้ถูกวิธี เพราะถ้าใส่น้ำยาฟอกขาวผิดเวลา หรือไม่เจือจางก่อนใช้งาน อาจเกิดปัญหาใหญ่ได้ (เสื้อผ้าชุดโปรดด่างดวงไปหมด) สบายใจได้ เพราะวันนี้คุณมาถูกที่แล้ว บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการใช้งานน้ำยาฟอกขาวกับเครื่องซักผ้าให้คุณเอง ทั้งข้อควรทำ และข้อควรระวัง เท่านี้เสื้อผ้าก็ขาวสะอาด ไร้คราบตกค้าง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

กัดสีผ้าที่ซักเครื่อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปรับ setting ของเครื่องซักผ้าไปที่ความร้อนสูงสุด. อุณหภูมิสูงๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้น้ำยาฟอกขาว ให้กดปุ่ม “hot cycle” หรือหมุนปุ่มไปที่อุณหภูมิสูงสุด [1]
    • อ่านป้ายของเสื้อผ้าทุกชิ้นก่อนเอาซักเครื่อง ถ้าเป็นผ้าที่ซักน้ำร้อนมากไม่ได้ ให้ตั้งค่าเป็นซักน้ำอุ่นแทน
  2. เพื่อขจัดคราบและสิ่งสกปรกตกค้างจากเสื้อผ้า ให้เทน้ำยาซักผ้าลงในถังซักโดยตรง (หรือในช่องใส่น้ำยา ถ้าเครื่องรุ่นที่คุณใช้มี) [2]
    • ถ้าจะซักผ้าขาว ก็ต้องเลือกน้ำยาซักผ้าสำหรับผ้าขาวโดยเฉพาะ เพราะจะช่วยให้ผ้าขาวสะอาดกว่าเดิม
    • ถ้าไม่มีน้ำยาซักผ้า ให้ใช้ผงซักฟอกแทน
  3. เทน้ำยาฟอกขาวในช่องใส่น้ำยา ถ้าใช้เครื่องซักผ้าฝาหน้า. เปิดช่องใส่น้ำยาฟอกขาว ทางด้านหน้าของเครื่องซักผ้า แล้วเทน้ำยาฟอกขาวลงไป 1 ฝา เครื่องซักผ้าจะจ่ายน้ำยาฟอกขาวลงในน้ำอัตโนมัติ หลังเครื่องเติมน้ำพร้อมซักแล้ว เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าชิ้นไหนโดนน้ำยาฟอกขาวที่ยังไม่เจือจาง [3]
    • ถ้าเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่ใช้ ไม่มีช่องใส่น้ำยาฟอกขาว ให้เจือจางน้ำยาฟอกขาวในน้ำเปล่า 1 ลิตร (ประมาณ 35 ออนซ์) แล้วเทใส่ถังซักผ้าโดยตรง
  4. เทน้ำยาฟอกขาวใส่น้ำ ถ้าใช้เครื่องซักผ้าฝาบน. กด start ที่เครื่องซักผ้า แล้วรอจนน้ำเต็มถังซัก จากนั้นเปิดฝา แล้วเมน้ำยาฟอกขาวลงไป 1 ฝา จะช่วยป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าด่างได้ [4]
    • ปกติน้ำจะเต็มถังซักภายในประมาณ 5 นาที
    • ถ้าเครื่องซักผ้าที่ใช้ มีช่องใส่น้ำยาฟอกขาว ก็ให้เทน้ำยาฟอกขาวใส่ช่องนั้นก่อนเริ่มรอบซัก
  5. ตั้งค่าเครื่องซักผ้าให้ใช้เวลาซักตามรอบปกติ เพื่อให้เวลาน้ำยาซักผ้าได้ซึมเข้าเส้นใยผ้า จากนั้นกด start ที่เครื่องได้เลย [5]
    • ถ้าจะซักผ้าเนื้อบาง ให้เลือก delicate cycle หรือรอบซักถนอมผ้าแทน
  6. ตากผ้าที่ราว หรือเอาผ้าอบในเครื่อง ระวังอย่าให้น้ำหยดลงพรมหรือเสื้อผ้าชิ้นอื่น เพราะอาจมีน้ำยาฟอกขาวตกค้างในผ้าเปียก หยดใส่จะทำให้ผ้าอื่นด่างได้ [6]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำยาฟอกขาว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กดปุ่ม hot wash ซักด้วยน้ำร้อน แล้วเลือก long wash คือรอบซักนานๆ น้ำร้อนจะทำให้น้ำยาฟอกขาวทำงานได้ดี ชะล้างทำความสะอาดเครื่องซักผ้าแบบล้ำลึก
    • ห้ามใส่เสื้อผ้าเข้าไปด้วยตอนล้างเครื่อง
  2. ใส่น้ำยาฟอกขาว 1 ควอร์ต (950 - 1,000 มิลลิลิตร) ในเครื่องซักผ้า. น้ำยฟอกขาวช่วยฆ่าเชื้อเครื่องซักผ้า ลบกลิ่นอับชื้น ให้เลือกน้ำยาฟอกขาวผ้าโดยเฉพาะ อย่าเลือกแบบที่ใช้ทำความสะอาด เพราะจะถนอมผ้ากว่า ถ้าเป็นน้ำยาฟอกขาวแรงๆ แบบใช้ทำความสะอาด เส้นใยผ้าจะเสียหายได้ แถมอันตรายต่อเครื่องซักผ้า [7]
  3. หยุดรอบซักกลางคัน เพื่อแช่น้ำยาฟอกขาวไว้ 1 ชั่วโมง. รอ 1 นาที ให้น้ำเต็มถังซัก จากนั้นเปิดฝาหรือกดปุ่ม pause เพื่อหยุดรอบซักชั่วคราว แช่น้ำยาฟอกขาวทิ้งไว้ในเครื่อง ให้เวลาน้ำยาได้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อถังซักสักพัก [8]
    • ถ้าใช้เครื่องซักผ้าฝาบน ให้เปิดฝาไว้ เพื่อระบายไอของน้ำยาฟอกขาว แต่ถึงจะเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้าก็ไม่เป็นไร พอจบรอบซัก ไอก็ระเหยไปเอง
  4. กดปุ่ม start ที่เครื่องเพื่อกลับมาซักต่อ เท่ากับดันน้ำผ่านทั้งถังซัก แล้วระบายน้ำทิ้งทางท่อ ช่วยทำความสะอาดท่อน้ำของเครื่องซักผ้าทั้งระบบ [9]
    • แนะนำให้ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำยาฟอกขาวเดือนละครั้ง จะช่วยรักษาสภาพเครื่องซักผ้าให้พร้อมใช้อยู่เสมอ
    • จะเพิ่มรอบล้างน้ำ หรือ rinse cycle ไปด้วยก็ได้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่เหลือน้ำยาฟอกขาวตกค้าง
    โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

กัดสีผ้าที่ซักเครื่อง

  • น้ำยาซักผ้า 1 ฝา
  • น้ำยาฟอกขาว 1 ฝา

ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำยาฟอกขาว

  • น้ำยาฟอกขาว 1 ควอร์ต (ประมาณ 950 - 1,000 มล.)

เคล็ดลับ

  • ถ้าผิวแพ้ง่าย แนะนำให้เลือกใช้น้ำยาฟอกขาวสูตรธรรมชาติ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 14,839 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา