PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

พัดลมติดหน้าต่างอาจเป็นตัวเลือกที่ไม่แพงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการนำมาใช้ช่วยหรือกระทั่งใช้แทน เครื่องปรับอากาศ พัดลมติดหน้าต่างจะมีประโยชน์มากที่สุดเมื่อใช้ในบริเวณและฤดูกาลที่มีอากาศร้อนในตอนกลางวันกับอากาศเย็นแห้งในเวลากลางคืน จุดประสงค์ก็คือการทำให้บ้านเย็นด้วยพัดลมติดหน้าต่างในตอนกลางคืนโดยใช้ลมข้างนอกบ้าน ซึ่งจะทำให้สามารถเลื่อนการเปิดแอร์หรือไม่ต้องเปิดแอร์ได้เลยในระหว่างวันเมื่อยกพัดลมติดหน้าต่างออก เนื่องจากวิธีการนี้จะใช้ไฟในตอนกลางคืนแทนที่จะเป็นช่วงพีคตอนกลางวัน มันจึงช่วยให้ไม่เกิดไฟดับเพราะใช้กระแสไฟฟ้าเกินได้ การจะใช้พัดลมติดหน้าต่างมาทำให้บ้านเย็นนั้น ทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

  1. ประเมินสถานการณ์ของคุณว่าเหมาะจะใช้วิธีการคลายร้อนวิธีนี้หรือไม่.
    • หากอุณหภูมิร้อนและ/หรือชื้นจนไม่สบายตัวตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ถ้าเช่นนั้นวิธีการนี้คงไม่เหมาะกับคุณ แต่ถ้าหากว่ามันเป็นเฉพาะในตอนกลางวัน พัดลมหน้าต่างจะสามารถนำมาใช้ลดอุณหภูมิลงในตอนกลางคืนได้เป็นอย่างดี
    • ถ้าคุณอยู่ในบริเวณที่อากาศมีมลพิษมาก การใช้พัดลมหน้าต่างจะทำให้มลพิษเหล่านั้นถูกดูดเข้ามาภายในห้อง
    • ไม่แนะนำการระบายอากาศด้วยพัดลมหน้าต่างสำหรับคนที่ไม่ได้ติดมุ้งลวด เพราะแมลงหรือสัตว์เล็กอาจเล็ดลอดเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดโล่ง ตัวริ้นและแมลงขนาดเล็กอื่นๆ มักชอบเล็ดลอดผ่านเข้ามาทางมุ้งลวด ฉะนั้นเตรียมใจยอมรับความจริงข้อนี้หรือไม่ก็ไม่ต้องใช้วิธีการนี้ไปเลย
    • ในบริเวณที่มีอาชญากรรมสูง พวกโจรก็มักจะหาทางเข้ามาภายในบ้านทางหน้าต่างที่มีช่องให้เข้ามาได้นี่แหละ
    • เสียงจากข้างนอกบ้านก็จะดังขึ้นกว่าเดิมเมื่อเปิดหน้าต่างเอาไว้ ถึงแม้เสียงพัดลมจะพอกลบเสียงเหล่านั้นลงไปบ้างก็เถอะ
  2. จะให้ดีที่สุด พัดลมแต่ละตัวก็ควรจะมีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่จะติดตั้งภายในหน้าต่างได้ หลีกเลี่ยงพัดลมที่ขนาดใหญ่เกินกว่าหน้าต่าง เพราะพอไปวางใกล้หน้าต่างแล้วจะเลยจากกรอบบานหน้าต่างออกมา ทำให้หล่นลงมาบ่อยๆ บ้านของคุณควรจะมีประสิทธิภาพในการระบายอากาศเข้าบ้านกับออกนอกบ้านในระดับที่เท่าเทียมกัน (โปรดจำไว้ว่าพัดลมที่มีขนาดเล็กกว่าและกำลังน้อยกว่านั้นควรถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของพัดลมระบายอากาศเพื่อใช้ในการคำนวณ) หากคุณมีค่าประสิทธิภาพนี้ไม่เท่ากันและไม่สามารถทำให้มันสมดุลกันได้ ก็ควรให้มีค่าการนำอากาศเข้ามาในบ้านสูงกว่าจะเป็นการเข้าท่ากว่า เพราะมันทำให้เกิดความดันอากาศภายในบ้านเป็นบวก ซึ่งจะป้องกันฝุ่นหรือแมลงเข้ามาเวลาเปิดประตู และหยุดยั้ง "อากาศเสีย" ที่จะลอยลงมาตามปล่องเตาผิง
  3. การจะดูว่าพัดลมตัวไหนจะพัดเอาลมเข้ามาหรือระบายอากาศออกไป มีข้อควรพิจารณาหลายประการดังนี้:
    • ให้พัดลมดูดอากาศเข้ามาในด้านที่เย็นที่สุดของตัวบ้าน ซึ่งมักจะเป็นด้านที่อยู่ในร่ม
    • ดูทิศทางลมที่แรงกว่า ตั้งพัดลมไปในทิศทางเดียวกับที่กระแสลมพัดแทนที่จะตั้งต้านลม ในวันที่ลมแรงพอ คุณอาจไม่จำเป็นต้องใช้พัดลมเลย
    • ในบ้านชั้นเดียว ให้จัดวางพัดลมดูดอากาศเข้ามาทางด้านหนึ่งของบ้านและระบายออกในด้านตรงกันข้าม โดยเปิดประตูห้องที่อยู่ระหว่างกลางเพื่อให้อากาศได้ถ่ายเทอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
    • สำหรับบ้านหลายชั้น อีกทางเลือกคือใช้ข้อเท็จจริงที่ว่าความร้อนจะลอยตัวขึ้นหนุนการไหลของอากาศโดยการดูดลมเย็นเข้ามาที่ชั้นล่างและระบายลมร้อนออกทางชั้นบน รวมไปถึงห้องใต้หลังคา (โดยเปิดประตูห้องใต้หลังคาไว้ถ้าทำได้)
    • หลีกเลี่ยงการดูดอากาศเข้ามาในบริเวณที่ใกล้ถังขยะหรือที่จอดรถ ซึ่งควันพิษหรือกลิ่นอาจลอยเข้ามาในบ้านได้ ให้ดูดอากาศเข้ามาจากจุดที่ใกล้ต้นไม้เพราะมักจะให้อากาศสดชื่น เว้นเสียแต่จะมีปัญหาเรื่องเกสรดอกไม้
    • พัดลมดูดอากาศเข้ามาตรงเข้าหาตู้เย็น/ตู้แช่แข็งอาจทำให้อากาศเย็นออกไปไวกว่าปกติ (เวลาเปิด) ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มภาระให้ตัวพัดลม จึงควรหลีกเลี่ยงเสีย
    • จำไว้ว่าพัดลมที่ดูดอากาศเข้ามาอาจทำให้กระดาษปลิวกระจาย จึงควรเลี่ยงใช้ในสถานที่อย่างห้องทำงาน หรือไม่ก็ต้องหาอะไรมาทับกระดาษเสียก่อน
    • หลีกเลี่ยงการวางพัดลมดูดอากาศเข้าเหนือสิ่งของมีค่า เช่นโต๊ะโบราณหรือพรมราคาแพงเพื่อป้องกันความเสียหายตอนฝนตก
    • ห้องที่มีพัดลมแบบดูดลมเข้ามาจะทำให้ดูเหมือนเย็นกว่า (เนื่องจากการถ่ายเวียนอากาศที่เพิ่มขึ้น) และจะหายเย็นเร็วกว่าห้องที่มีพัดลมแบบพัดลมออกไป
  4. ปิดหน้าต่างให้สนิทแน่นกับพัดลมมากที่สุดเพื่อให้พัดลมติดแน่นกับที่และป้องกันการไหลเวียนอากาศแบบอยู่กับที่ การไหลเวียนอากาศแบบอยู่กับที่คือลมที่ถูกเป่าผ่านพัดลมนั้นย้อนกลับมารอบพัดลม แล้วถูกดูดกลับเข้าไปใหม่ กลายเป็นวงจรไม่สิ้นสุด นี่จะส่งผลให้มอเตอร์พัดลมทำให้ลมนั้นกลายเป็นลมอุ่น
  5. ถ้าพัดลมดูดอากาศเข้ามา อากาศจะไหลมาอยู่รอบพัดลมเนื่องจากความดันอากาศตรงบริเวณนั้นเพิ่มขึ้น การหาม่านหรือกระทั่งกระดาษมาอุดด้านข้างของพัดลมมักจะช่วยได้ในกรณีแบบนี้ เนื่องจากมันจะถูกดูดไปติดกรอบหน้าต่าง ส่วนพัดลมที่พัดลมออกไปข้างนอกจะปิดช่องว่างพวกนี้ได้ยากกว่า เพราะอากาศรอบๆ มันจะต้องการไหลเข้ามาข้างใน คุณต้องเอากระดาษหรือกระดาษลูกฟูกไปวางตรงด้านนอกของหน้าต่างถ้าสามารถทำได้ ไม่งั้นก็ติดเทปกาวข้างในเลย หรือสุดท้ายก็เลือกไม่อุดช่องว่างและยอมรับประสิทธิภาพที่ลดต่ำลงแทน
  6. เปิดพัดลมหน้าต่างเมื่อใดก็ตามที่อากาศข้างนอกเย็นกว่าข้างใน. ปิดพัดลมแล้วยกมันออกมาและปิดหน้าต่างเมื่อบ้านเย็นพอที่จะชดเชยอุณหภูมิตามที่พยากรณ์ไว้ในช่วงกลางวัน กฎทั่วไปคืออุณหภูมิภายในบ้านช่วงกลางวันจะเท่ากับค่าเฉลี่ยของอุณหภูมินอกบ้านช่วงกลางวันกับอุณหภูมิภายในบ้านช่วงกลางคืน ดังนั้นถ้าคุณอยากจะรักษาอุณหภูมิภายในบ้านให้เหลือสัก 21 องศาในขณะที่การพยากรณ์อุณหภูมิด้านนอกสูงถึง 26 องศา คุณจำต้องลดอุณหภูมิภายในให้เหลือ 15 องศาในช่วงกลางคืน นี่จะแตกต่างกันไปในบ้านแต่ละหลัง แต่คุณสามารถใช้กฎนี้จนกว่าจะหาสูตรที่เหมาะกับบริเวณที่คุณอยู่ได้ ในตัวอย่างนี้ เราจะปิดพัดลมเมื่ออุณหภูมิภายในลดต่ำลงกว่า 15 องศา
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ปิดผ้าม่านหรือมู่ลี่เวลายกพัดลมออกจากหน้าต่างในตอนกลางวันเพื่อลดความร้อนจากไอแดด
  • วางพัดลมแบบที่เป่าลมออกไปให้อยู่สูงเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่นบนหน้าต่างห้องชั้นสอง เนื่องจากอากาศที่ร้อนกว่าจะยกตัวสูงขึ้นในบ้าน พัดลมที่อยู่สูงกว่านี้จะช่วยเป่าลมที่อุ่นกว่าออกไปก่อน
  • คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการให้ความเย็นได้ชั่วคราว (~1 ชั่วโมง) โดยการปิดผ้าม่านและเอาผ้าเช็ดตัวห่อถุงน้ำแข็งมาวางตรงพัดลมที่เป่าอากาศเข้ามา ลมที่ถูกพัดลมดูดจะพัดผ่านผ้าเช็ดตัวและนำไอเย็นติดมาด้วย ขนาดของผ้าเช็ดตัวควรเท่ากับขนาดพัดลม ดังนั้นเลือกใช้ด้วย (ผ้าเช็ดตัวแบบปูนอนชายหาดน่าจะผืนใหญ่ไป) อย่าลืมระวังเรื่องน้ำที่ละลายออกมาอาจสร้างความเสียหายและไฟช็อตได้ อย่าใช้วิธีนี้ถ้าน้ำจะหยดลงบนปลั๊กไฟหรือตรงแผงต่อปลั๊กไฟ
  • พัดลมห้องน้ำสามารถนำมาใช้เป็นพัดลมที่เป่าลมออกนอก พวกมันมักติดตั้งใกล้เพดานเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากปฏิกิริยาที่ไอร้อนจะลอยตัวขึ้นสูง
  • พัดลมทำความเย็นได้ 3 วิธี:

    • โดยการนำลมเย็นกว่าจากข้างนอกเข้ามาและดันลมที่อุ่นกว่าออกไปจากบ้าน นี่เป็นจุดหลักของบทความนี้
    • โดยการดันลมชื้นที่อุ่นใกล้ตัวคนออกไปและแทนที่ด้วยลมแห้งเย็น ตัวอย่างก็เช่นพัดลมติดเพดานที่ทำความเย็นด้วยวิธีนี้
    • โดยการเพิ่มอัตราการระเหยของของเหลวเพื่อสร้างไอระเหยเย็น วิธีการนี้จะได้ผลดีเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นต่ำ เช่นทะเลทราย เวลาจะทำให้คนรู้สึกเย็น วิธีนี้จะได้ผลดีต่อเมื่อบุคคลนั้นเปียกหรือเหงื่อท่วม เช่น เพิ่งอาบน้ำหรือว่ายน้ำเสร็จหรือเพิ่งออกกำลังกายมาอย่างหนักหน่วง
  • หากบ้านไม่ได้สร้างมาเพื่อรับมือการใช้ไฟอย่างหนักของแอร์ส่วนกลาง พัดลมหน้าต่างก็ไม่น่าจะทำให้ระบบไฟฟ้าในบ้านเกินกำลังไป เพราะมันใช้วัตต์น้อยกว่า ให้ใช้มันเฉพาะในเวลาที่มีการใช้ไฟน้อย และกระจายการใช้ให้ทั่วทุกพื้นที่ของบ้าน
  • การดูแลรักษาพัดลม:

    • การเปิดพัดลมทิ้งไว้นานระหว่างวันจะทำให้อายุการใช้งานลดลง โดยเฉพาะหากถูกทิ้งไว้ตรงหน้าต่างตอนเกิดพายุฝนพอดี อย่างไรก็ตาม การซ่อมก็ช่วยยืดอายุการใช้งานของมันได้
    • อย่าใช้งานถ้ามันทำงานไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะถ้าใบพัดไม่หมุนหรือคุณได้กลิ่นไหม้ พัดลมที่มีอาการแบบนี้อาจเกิดไฟลุกขึ้นมาได้
    • ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดคือขาดการหล่อลื่น สัญญาณคือใบพัดจะหมุนช้าลงกว่าเดิม โดยเฉพาะตอนเปิดใหม่ๆ และจนกลายเป็นไม่หมุนไปเลย และส่งเสียงดังขึ้น ถ้าเป็นเช่นนี้ ถอดปลั๊กพัดลมออก ยกไปที่โรงรถหรือบริเวณไหนที่ไม่ต้องห่วงเรื่องกลิ่น แล้วใช้น้ำมันหล่อลื่นหยอดตรงแกนหมุนของใบพัด อาจจำเป็นต้องถอดฝานิรภัยของใบพัด หรือกระทั่งแกนใบพัดออกมาเพื่อเข้าถึงจุดนี้ กระป๋องน้ำยาอเนกประสงค์ WD40 (หรือเทียบเท่า) ที่มีหลอดฉีดอาจเข้าถึงจุดที่ต้องหยอดน้ำมันหล่อลื่นได้ง่ายกว่า ให้หมุนใบพัดระหว่างและ/หรือเวลาหยอดน้ำมันเพื่อให้น้ำมันกระจายไปได้สม่ำเสมอ ระวังอย่าฉีดน้ำมัน (หรือปล่อยให้มันหยด) ไปโดนตรงส่วนไฟฟ้า เช่นบริเวณรอบสวิตช์เปิดปิด ปล่อยไว้สองสามวันจนกว่ากลิ่นน้ำมันส่วนเกินจะระเหยหมด เริ่มใช้พัดลมตัวนี้เป่าลมออกไปข้างนอกก่อน เพื่อให้กลิ่นที่ตกค้างถูกเป่าออกไปนอกตัวบ้าน
    • อีกปัญหาที่พบบ่อยคือปัญหาเรื่องสายไฟ โดยสายไฟมักหลวมและหลุดจากข้อต่อหรือจุดเชื่อม ถ้าคุณมั่นใจในการเชื่อมโลหะจะลองซ่อมเองก็ได้ สวิตช์เปิดปิดเป็นจุดที่พบปัญหาลักษณะนี้บ่อยที่สุด ถ้าจำเป็นคุณจึงอาจต่อวงจรข้ามสวิตช์เปิดปิดไปเลย เพื่อที่พัดลมจะเปิดทุกครั้งที่เสียบปลั๊ก แต่นั่นหมายถึงคุณจะปรับความเร็วของแรงลมเป็นหลายระดับไม่ได้
  • การทำความสะอาดพัดลม:

    • พัดลมมักจะสกปรกเมื่อใช้งานอย่างต่อเนื่อง จนสะสมฝุ่นละอองในอากาศที่มันใช้เป่าหมุนเวียน จริงๆ มันก็เป็นหน้าที่กรองอากาศแบบหนึ่งโดยที่เรามองไม่เห็น มันจะสะสมละอองไขมันถ้าไปใช้ใกล้ห้องครัว และสะสมควันเหลืองถ้าใช้ใกล้คนสูบบุหรี่
    • ถอดปลั๊กพัดลมก่อนนำไปทำความสะอาด แล้วใช้น้ำ น้ำยาเช็ดกระจก หรือน้ำยาล้างจานที่ละลายให้จางลงกระดาษทิชชู่ ถ้าใช้น้ำยาล้างจานก็ให้ใช้ทิชชู่เปียกเช็ดออกหลังจากนั้น แน่ละคุณอาจต้องถอดฝานิรภัยเพื่อถอดใบพัดได้ ตั้งพัดลมที่เพิ่งทำความสะอาดด้วยตัวทำละลายหรือน้ำยาล้างจานให้เป่าลมออกไปข้างนอกบ้าน เพื่อที่กลิ่นอายของมันจะพัดออกไปจากบ้าน
    • อีกหนึ่งทางเลือกก็แค่ซ่อนพัดลมที่ใช้มานานในห้องที่ใช้สอยไม่บ่อย เช่นห้องอเนกประสงค์ แล้วใช้พัดลมตัวใหม่ในบริเวณที่ทุกคนจะมองเห็น
  • การยกพัดลมออกจากหน้าต่างเวลาไม่ใช้จะช่วยรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสม แต่อาจจะยากสำหรับผู้สูงอายุ ในกรณีเช่นนี้ให้ตั้งพัดลมทิ้งไว้ตรงหน้าต่างเลย กระนั้นเวลาเกิดพายุฝนก็ยังต้องยกมันออกเพื่อไม่ให้น้ำนองเข้ามาในบ้าน
  • คุณอาจใช้พัดลมกล่องที่ถูกออกแบบมาใช้เป็นพัดลมหน้าต่าง เช่น พัดลมกล่องยี่ห้อ Lasko Weather Shield Box Fan เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
โฆษณา

คำเตือน

  • หลีกเลี่ยงการใช้พัดลมใกล้เด็กเล็กที่อาจยื่นนิ้วเข้าไปในใบพัด ช่องพัดลมทั้งด้านหน้าและหลังมักกว้างพอที่นิ้วเด็ก ดินสอ หรือวัตถุอื่นๆ จะถูกแยงเข้าไปได้
  • อย่าทิ้งพัดลมคาไว้ตรงหน้าต่างระหว่างฝนตก เพราะน้ำจะผ่านเข้ามาทางหน้าต่างจนนองพื้นได้ นี่เป็นปัญหาอย่างยิ่งถ้าพัดลมเป็นแบบเป่าลมเข้ามาในบ้าน หลังคาที่ติดกันสาดใหญ่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยเฉพาะในชั้นสูงๆ เว้นแต่เวลาเกิดลมพายุพัดแรง
  • ให้แน่ใจว่าพัดลมจะไม่หล่นออกนอกหน้าต่าง
  • วิธีใช้พัดลมหน้าต่างไม่เอื้อต่อเฟอร์นิเจอร์ไม้ เพราะอุณหภูมิแต่ละวันกับความเปลี่ยนแปลงของความชื้นอาจทำให้ไม้เกิดรอยแตกหรือโก่งงอได้
  • อย่าใช้พัดลมที่ทำงานผิดปกติ ถ้าใบพัดไม่หมุนตามความเร็วที่ถูกต้องหรือได้กลิ่นไหม้ ให้ถอดปลั๊กออกในทันที ไม่งั้นมันอาจติดไฟและลามไปที่ผ้าม่านได้
  • หลีกเลี่ยงการวางพัดลมที่เป่าลมเข้าในระดับที่ใกล้พื้นมากเกินไป ในตอนกลางคืนมันจะนำความชื้นส่วนเกินเข้ามาในบ้านและทำให้เกิดปัญหาเชื้อราได้
  • เตรียมตัวที่จะยอมรับความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันกับกลางคืนภายในบ้านประมาณ 5-10 องศาเมื่อใช้วิธีนี้ เพราะพัดลมหน้าต่างไม่เปิดโอกาสให้คุณได้ควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านได้ละเอียดเท่ากับเครื่องปรับอากาศ
  • ระวังเรื่องสายไฟ:
    • อย่ากระจุกมันไว้ตรงหน้าต่างหรือวางพาดไปบนพื้นที่คุณอาจเดินสะดุดเอาได้ ถ้าจำเป็นให้ใช้ไฟแบบที่วางเรียบไปกับพื้นหรือติดผนังเพื่อขจัดปัญหาการเดินสะดุดสายไฟนี้
    • อย่าวางสายไฟลอดใต้พรม เพราะมันจะทำให้เกิดความร้อนสะสมจนถึงอุณหภูมิที่ติดไฟได้
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • พัดลมหน้าต่าง (ยิ่งมากยิ่งดี ตามจำนวนหน้าต่างรวมของบ้าน) มันจะมีชนิดที่ถูกออกแบบมาพิเศษให้ใช้ค้างไว้ตรงหน้าต่างได้ทุกฤดูกาล ซึ่งมักจะมีพัดลมเล็กสองตัว วิธีการที่จะติดมันตรงหน้าต่างได้อย่างมั่นคง กันน้ำ กะบังข้างและแผงรอบพัดลมเพื่อป้องกันการไหลเวียนลมกับที่ หลายยี่ห้อยังมีคุณสมบัติปรับเปลี่ยนทิศทางของใบพัดโดยไม่ต้องยกพัดลมสลับด้าน พัดลมกล่องก็อาจมาใช้เป็นพัดลมหน้าต่างได้ โดยมักมีกำลังแรงกว่าและยกออกได้ง่ายกว่า
  • สายไฟเชื่อมต่อที่มีใช้วัตต์เท่ากันหรือมากกว่าวัตต์ของพัดลมที่ใช้ (ไม่จำเป็น)
  • เทอร์โมมิเตอร์วัดทั้งภายในและภายนอกบ้าน (ไม่จำเป็น)
  • ปลั๊กจ่ายกระแสไฟแบบตั้งเวลาเพื่อจะเปิดปิดพัดลมโดยอัตโนมัติในเวลาที่ตั้งไว้ (ไม่จำเป็น) ให้แน่ใจว่าตัวตั้งเวลานี้มีจำนวนวัตต์ระดับเดียวหรือสูงกว่าวัตต์ของพัดลม โปรดสังเกตว่าการใช้ตัวตั้งเวลาเปิดปิดนี้หมายถึงต้องทิ้งพัดลมไว้ตรงหน้าต่างตลอดทั้งวัน ซึ่งจะลดประสิทธิภาพการทำความเย็นลง (อีกทั้งหากใช้ตัวตั้งเวลาเปิดปิด ให้ตั้งพัดลมแบบพัดลมเข้ามาข้างในให้เริ่มก่อนเล็กน้อยและปิดช้ากว่าพัดลมแบบเป่าลมออกข้างนอกเล็กน้อยเพื่อสร้างความดันสัมพัทธ์เป็นลบภายในบ้าน)

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,222 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา