ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณชอบความทนทานของสีเล็บเจล แต่อยากมีสีให้เลือกเยอะๆ เหมือนยาทาเล็บทั่วไป ก็บอกเลยว่าทาด้วยกันได้ ทั้งสีเจลและยาทาเล็บธรรมดาเลย ขอแค่ใจเย็น ค่อยๆ ทา อย่ารีบ! ถ้าจะทายาทาเล็บสองแบบควบคู่กันไป แนะนำให้ทายาทาเล็บธรรมดาก่อน แล้วเคลือบ topcoat สีเจล หลังยาทาเล็บแห้ง ถ้าอยากให้สีเล็บอยู่นานๆ ก็ใช้เทคนิค “แซนวิชเจลลี่” ซะเลย โดยทายาทาเล็บธรรมดาตรงกลาง ระหว่างสีเจล 2 ชั้น

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ทาสีเจลเคลือบทับยาทาเล็บธรรมดา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทายาทาเล็บสีที่ชอบไปตามปกติ ยาทาเล็บจะติดเล็บดีขึ้น ถ้าขัดและล้างเล็บก่อน หรือจะเตรียมหน้าเล็บโดยทาน้ำยารองพื้น (base coat) ธรรมดา (ไม่ใช่สีเจล) ก็ได้ [1]
    • ถ้าอยากได้สีทึบหรือสีสดชัด ต้องทาซ้ำหลายชั้น แต่ระวังอย่าให้ดูหนาไป ไม่งั้นทาสีเจลเคลือบเล็บ (topcoat) แล้วจะไม่ค่อยทน
    • ทายาทาเล็บไปให้สุดปลายเล็บ แต่ไม่ต้องเคลือบปลายเล็บด้านหน้า
  2. เป็นขั้นตอนสำคัญ ถ้าอยากทาทั้งยาทาเล็บธรรมดาและสีเจลให้ออกมาดี! ก่อนจะลง topcoat เจล ต้องพักเล็บหลายชั่วโมง จนยาทาเล็บแห้งสนิท ย้ำว่าต้องแห้งสนิทจริงๆ ค่อยลงมือตามขั้นตอนต่อไป [2]
    • ปกติยาทาเล็บจะแห้งสนิทใน 4 - 6 ชั่วโมง แต่จริงๆ แล้วถ้าทิ้งไว้จนครบ 24 ชั่วโมงได้ยิ่งดี
    • ถ้าทายาทาเล็บหลายชั้นหน่อย ก็ยิ่งแห้งช้ากว่าเดิม
    • ถ้าไม่ทิ้งยาทาเล็บไว้จนแห้งสนิท ตัว topcoat ที่เคลือบไปจะลอกได้ ทำให้ยาทาเล็บย่นหรือแตกลอกอยู่ใต้สีเจล topcoat หลังอบ [3]
  3. Watermark wikiHow to ใช้ยาทาเล็บธรรมดาร่วมกับยาทาเล็บเจล
    พอเล็บแห้งสนิท ก็ถึงเวลาลงสีเจล topcoat ให้ทาตั้งแต่ฐานเล็บไปจนถึงปลาย จนครบทุกเล็บ [4] คราวนี้ทา topcoat เคลือบปลายเล็บที่ยื่นออกไปได้เลย [5]
    • ถ้าสีเจลเลอะมือหรือจมูก/ขอบเล็บ ให้รีบเช็ดก่อนอบเล็บ ไม่งั้นจะเช็ดออกยากแน่นอน!
  4. เอามือใส่ในเครื่องอบเล็บ LED หรือ UV เพื่อให้สีเจลแห้ง ส่วนจะอบเล็บในเครื่องนานเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่แนะนำของเครื่องรุ่นนั้นๆ [6]
    • ปกติที่ขวดน้ำยา topcoat จะมีระยะเวลาที่ใช้ในการอบเล็บบอกไว้ แต่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาอบเล็บประมาณ 30 วินาที ถ้าเป็นเครื่อง LED หรือ 2 นาที สำหรับเครื่อง UV [8]
    • เดี๋ยวนี้ไม่ต้องไปถึงร้านทำเล็บ ก็หาซื้อเครื่องอบเล็บเจลได้ทั้งในเน็ต ตามห้าง และร้านขายอุปกรณ์เสริมความงาม

    คำเตือน: การใช้เครื่องอบเล็บ UV หรือ LED จะทำให้ผิวได้รับรังสี UV ในปริมาณมากได้ ถ้าทำบ่อยเกินไป ผิวก็เสียได้ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำเล็บเจลบ่อยๆ ต้องทาครีมกันแดดแบบ broad-spectrum มีค่า SPF สูงๆ หรือสวมถุงมือทำเล็บแบบกัน UV [7]

  5. Watermark wikiHow to ใช้ยาทาเล็บธรรมดาร่วมกับยาทาเล็บเจล
    ใช้แผ่นแอลกอฮอล์เช็ดชั้นเคลือบเหนียวๆ ที่เล็บ. พออบสีเจล topcoat ที่เล็บแล้ว จะมีชั้นเคลือบเหนียวๆ บนเล็บ ก็เช็ดออกทีละเล็บได้ด้วยแผ่นเช็ดทำความสะอาดแบบไร้ฝุ่น ที่นำมาชุบแอลกอฮอล์ isopropyl 91% หรือจะใช้แผ่นแอลกอฮอล์สำหรับเช็ดทำความสะอาดโดยเฉพาะก็ได้ [9]
    • ระวังอย่าใช้สำลีก้อน เพราะฝุ่นจะติดเล็บได้
    • ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ใช้แผ่นเช็ดทำความสะอาดเล็บละแผ่นไปเลย เพราะถ้าใช้แผ่นเดียวกันเช็ดหลายๆ เล็บ topcoat ที่เคลือบไว้จะขุ่น ไม่ใส
    • ถ้ารู้สึกว่าขอบเล็บแห้ง ให้รอ 1 - 2 นาทีจนแอลกอฮอล์แห้ง แล้วทาน้ำมันบำรุงขอบเล็บเล็กน้อยก็ได้ [10]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ใช้เทคนิค “แซนวิชเจลลี่”

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ใช้ยาทาเล็บธรรมดาร่วมกับยาทาเล็บเจล
    ก่อนจะลงเจล base coat ต้องขัดหน้าเล็บให้ขรุขระเล็กน้อยก่อน สีเจลจะได้ติดง่ายขึ้น โดยใช้ที่ขัดเล็บหรือตะไบ ขัดหน้าเล็บเบาๆ ถ้าใช้ตะไบต้องละเอียดเบอร์ 220 หรือมากกว่านั้น [11] ถ้าใช้ที่ขัดเล็บ ให้ปาดเล็บละ 6 - 8 ครั้ง เป็นรูปตัว X โดยลากเบาๆ [12]
    • ระวังอย่าขัดเล็บเยอะเกินไป เพราะหน้าเล็บจะเป็นรอยได้
    • ถ้าใช้ตะไบแทนบล็อกขัดเล็บ ต้องเลือกที่ละเอียดมากๆ อย่าเลือกที่ขัดหยาบ แล้วลากไปบนเล็บเบามือมากๆ แค่ 2 - 3 ครั้ง ไม่งั้นหน้าเล็บจะเป็นรอย
  2. Watermark wikiHow to ใช้ยาทาเล็บธรรมดาร่วมกับยาทาเล็บเจล
    เช็ดเล็บที่ขัดแล้วให้สะอาด ด้วยแผ่นเช็ดไร้ฝุ่น ชุบแอลกอฮอล์ isopropyl 91% ชุ่มๆ ทั้งช่วยให้เล็บสะอาด แห้งเล็กน้อย ทาสีเจลรองพื้นแล้วจะได้ติดทน [13]
    • ถ้าจะใช้แผ่นแอลกอฮอล์โดยเฉพาะก็ได้ เหมือนเวลาใช้ทำแผล
    • ห้ามใช้สำลีก้อน เพราะเส้นใยจะติดตามเล็บได้
  3. Watermark wikiHow to ใช้ยาทาเล็บธรรมดาร่วมกับยาทาเล็บเจล
    ทาสีเจลรองพื้นชั้นบางๆ ที่แต่ละเล็บ โดยทาจากโคนไปปลายเล็บ นี่คือ base coat เวลาทำเล็บ พอทาสีเจลรองพื้นแล้ว อย่าลืมทาขอบด้านหน้าของปลายเล็บด้วย [14]
    • ระวังอย่าให้สีเจลเลอะเกินออกไปที่ขอบเล็บ เพราะจะทำให้ base coat ลอกง่าย [15]
  4. อบเล็บในเครื่อง LED หรือ UV ตามระยะเวลาที่แนะนำ ปกติคือ 30 วินาที ถ้าใช้เครื่อง LED และ 1 นาที ถ้าใช้เครื่อง UV [16]
    • ถ้ากลัวผิวที่มือเสียเพราะรังสี UV ให้ทาครีมกันแดดหรือสวมถุงมือทำเล็บแบบกัน UV
  5. เช็ดหน้าเล็บทุกเล็บด้วยแอลกอฮอล์ ไม่ให้เหลือฟิล์มเหนียว. พออบสีเจลรองพื้นแล้ว จะเหลือ “ชั้นป้องกัน” เหนียวๆ ที่เล็บ กำจัดได้โดยเช็ดเล็บด้วยแผ่นทำความสะอาดแบบไร้ฝุ่น ชุบแอลกอฮอล์ isopropyl 91% [17]
    • หรือใช้แผ่นแอลกอฮอล์สำหรับเช็ดแผลเลยก็ได้
  6. Watermark wikiHow to ใช้ยาทาเล็บธรรมดาร่วมกับยาทาเล็บเจล
    เลือกยาทาเล็บสีที่ชอบ ก่อนทาให้ปาดแปรงที่ปากขวด สีจะได้ไม่หยด จากนั้นทาแต่ละเล็บเป็นชั้นบางๆ ให้สีเนียนเท่ากันทั้งเล็บ รอแห้ง 5 นาที ค่อยทาทับชั้นที่ 2 ตามต้องการ [18]
    • ถ้าทายาทาเล็บหนาเกินไป สีเจล topcoat จะไม่ค่อยติด
    • ให้ทาเล็บไปถึงขอบ แต่อย่าทาเคลือบปลายเล็บ แบบนี้จะได้ไม่ลอกง่าย [19]
  7. ถ้าไม่อยากให้ยาทาเล็บย่นหรือแตกใต้สีเจล topcoat ต้องรอจนยาทาเล็บธรรมดาแห้งสนิทซะก่อน ปกติคือรอหลายๆ ชั่วโมง หรือ 1 วันเต็มๆ ได้ยิ่งดี แล้วค่อยลง topcoat [20]
    • ถ้าใช้ยาทาเล็บแบบแห้งเร็ว ก็น่าจะทา topcoat ทับได้ในอีกแค่ 15 - 20 นาทีต่อมา [21]
  8. Watermark wikiHow to ใช้ยาทาเล็บธรรมดาร่วมกับยาทาเล็บเจล
    พอแน่ใจว่ายาทาเล็บแห้งสนิทแล้ว ก็ถึงเวลาลงสีเจล topcoat ให้ทาเป็นชั้นเรียบเสมอกัน อย่าเลอะไปที่ขอบเล็บ และคราวนี้ให้เคลือบปลายเล็บด้านหน้าที่ยาวเกินนิ้วออกมาด้วย [22]
    • การเคลือบปลายเล็บที่เกินนิ้วออกมา จะช่วยซีลยาทาเล็บไม่ให้ลอกง่ายนั่นเอง
  9. อบเล็บที่ทา topcoat แล้วในเครื่องตามเวลาที่แนะนำ. อบเล็บในเครื่อง LED หรือ UV จน topcoat แห้ง ต้องเช็คฉลากที่ขวดน้ำยา ว่าควรอบเล็บนานแค่ไหน [23]
    • ปกติจะใช้เวลา 30 วินาที ถ้าใช้เครื่อง LED และ 2 นาที ถ้าใช้เครื่อง UV
  10. Watermark wikiHow to ใช้ยาทาเล็บธรรมดาร่วมกับยาทาเล็บเจล
    อบเล็บเสร็จแล้วให้ใช้แผ่นเช็ดทำความสะอาดไร้ฝุ่น ชุบแอลกอฮอล์ isopropyl 91% มาเช็ดหน้าเล็บที่เหนียวๆ เท่านี้เล็บที่ทาทับกันแบบแซนวิชเจลลี่ของคุณก็สวยแถมไม่พังง่ายๆ! [24]
    • ถ้าใช้แอลกอฮอล์แล้วรู้สึกแห้ง จะลงน้ำมันบำรุงขอบเล็บเพื่อความชุ่มชื้นก็ได้ โดยรออย่างน้อย 1 นาทีหลังเช็ดคราบเหนียว จะได้ไม่ทำ topcoat ขุ่น [25]
    โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ที่ขัดเล็บ
  • แผ่นเช็ดเครื่องสำอางแบบไร้ฝุ่น
  • แอลกอฮอล์ล้างแผล (isopropyl alcohol) 91%
  • ยาทาเล็บเจลรองพื้น (เบสโค้ท)
  • ยาทาเล็บธรรมดา
  • ยาทาเล็บเจลเคลือบใส (ท็อปโค้ท)
  • เครื่องอบเล็บ UV หรือ LED

เคล็ดลับ

  • ก่อนจะทาเล็บ ให้ตัดและตะไบเล็บก่อน จนได้ความยาวและรูปทรงตามต้องการ ถ้าไปแต่งทรงเล็บหลังทา เล็บที่ทาจะเสียได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,965 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา