ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เครื่องทำความชื้น (Humidifier) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเพิ่มความชื้นในอากาศที่แห้ง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการคัดจมูก มีปัญหาผิวแห้ง หรือเป็นโรคไซนัสอักเสบ รวมทั้งยังช่วยในการจัดการปัญหาต่างๆ ที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของคุณ เช่น ปัญหาไฟฟ้าสถิต เป็นต้น เพียงคุณใช้เครื่องทำความชื้นอย่างเหมาะสมและถูกวิธี อากาศภายในบ้านของคุณที่แห้งก็จะสามารถกลับมาสดชื่นได้อีกครั้ง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

จัดเตรียมเครื่องทำความชื้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกประเภทของเครื่องทำความชื้นที่เหมาะกับความต้องการของคุณ. ในปัจจุบันมีเครื่องทำความชื้นวางขายตามท้องตลาดอยู่หลากหลายประเภท คุณควรมองหาเครื่องทำความชื้นที่เหมาะสมกับความต้องการและปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ซึ่งประเภทของเครื่องทำความชื้นที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปมีดังนี้:
    • เครื่องทำความชื้นแบบส่วนกลาง (Central humidifier) เครื่องทำความชื้นแบบส่วนกลางใช้สำหรับการกระจายความชื้นทั่วทั้งบ้าน โดยเครื่องทำความชื้นประเภทนี้จะถูกติดตั้งเพิ่มเข้าไปในระบบทำความร้อนและความเย็นในบ้าน [1]
    • เครื่องทำความชื้นแบบไอระเหย (Evaporator) เครื่องทำความชื้นแบบไอระเหยเป็นเครื่องทำความชื้นขนาดเล็กที่ใช้ตัวกรองและพัดลมในการกระจายความชื้นในอากาศ เครื่องทำความชื้นประเภทนี้มักมีราคาที่ไม่สูงมากนัก [2]
    • เครื่องทำความชื้นแบบใบพัด (Impeller humidifier) เครื่องทำความชื้นแบบใบพัดจะพ่นละอองหมอกเย็นๆ ในอากาศ จึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่มีเด็กอาศัยอยู่ เครื่องทำความชื้นประเภทนี้จะใช้จานหมุนที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในการพ่นละอองหมอกและเหมาะสำหรับการใช้งานภายในห้องเดียว [3]
    • เครื่องทำความชื้นแบบไอน้ำ (Steam vaporizer) เครื่องทำความชื้นแบบไอน้ำมีหลักการทำงานโดยการเพิ่มความร้อนให้กับน้ำเปล่าในถังเก็บน้ำแล้วจึงทำให้เย็นลงก่อนกระจายออกมาในอากาศในรูปแบบละอองหมอก เครื่องทำความชื้นประเภทนี้มีราคาที่เป็นมิตรที่สุดในบรรดาเครื่องทำความชื้นทั้งหมด อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังในการใช้งานเล็กน้อยคือตัวเครื่องอาจปล่อยไอน้ำที่มีความร้อนสูงออกมาจนก่อให้เกิดแผลไหม้ได้ [4]
    • เครื่องทำความชื้นแบบอัลตราโซนิค (Ultrasonic humidifier) เครื่องทำความชื้นแบบอัลตราโซนิคจะใช้การสั่นสะเทือนในการกระจายความชื้นในอากาศ และเนื่องจากการตั้งค่าของตัวเครื่องที่สามารถปรับอุณหภูมิของละอองหมอกได้ทั้งแบบอุ่นและแบบเย็น เครื่องทำความชื้นประเภทนี้จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับบ้านที่มีเด็กอาศัยอยู่ เลือกซื้อเครื่องทำความชื้นแบบอัลตราโซนิคที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งานและขนาดของห้อง ซึ่งราคาขายอาจแตกต่างกันไปตามขนาดและคุณสมบัติของตัวเครื่อง [5]
  2. เนื่องจากเครื่องทำความชื้นมีขั้นตอนการตั้งค่าและวิธีการดูแลรักษาเฉพาะของแต่ละรุ่น การใช้งานของเครื่องทำความชื้นตัวใหม่ของคุณจึงอาจแตกต่างไปจากตัวอื่นๆ ที่คุณเคยใช้มาก่อนหน้านี้ ดังนั้นคุณจึงควรอ่านคู่มือการใช้งานที่มาพร้อมกับตัวเครื่องอย่างละเอียดเพื่อการใช้งานอย่างเหมาะสม
  3. นำชิ้นส่วนทั้งหมดของเครื่องทำความชื้นมาประกอบเข้าด้วยกันตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้งาน จัดเตรียมชิ้นส่วนต่างๆ สำหรับใช้ในการประกอบตัวเครื่องให้ครบถ้วนได้แก่ ส่วนประกอบพื้นฐานของตัวเครื่อง รวมถึงล้อสำหรับเข็นเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายตัวเครื่องและส่วนประกอบอื่นๆ ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของคุณ (เช่น ขนาดของหัวพ่นละอองหมอก)
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

เริ่มต้นใช้งานเครื่องทำความชื้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถอดถังเก็บน้ำออกมาจากตัวเครื่องและล้างให้สะอาดด้วยสบู่สูตรอ่อนโยนและน้ำเปล่าก่อนการใช้งานเครื่องทำความชื้น วิธีนี้จะช่วยขจัดเศษที่เหลือตกค้างจากกระบวนการผลิตให้หมดไปเพื่อป้องกันไม่ให้คุณสูดหายใจเอาเศษฝุ่นเหล่านี้เข้าไปในร่างกายในระหว่างการใช้งานตัวเครื่อง
  2. หลังจากที่ล้างถังเก็บน้ำจนสะอาดหมดจดแล้ว ให้คุณเติมน้ำกลั่นลงไปในปริมาณที่พอดี [6] แม้ว่าเครื่องทำความชื้นบางตัวจะใช้งานร่วมกับน้ำประปาได้ แต่การเลือกใช้น้ำกลั่นที่ปลอดจากสิ่งปนเปื้อนที่อาจพบได้ในน้ำประปาสามารถช่วยเพิ่มความบริสุทธิ์ให้อากาศได้มากขึ้น ถังเก็บน้ำที่มาพร้อมกับเครื่องทำความชื้นโดยส่วนใหญ่จะมีเส้นบอกระดับน้ำภายในตัวถัง ซึ่งคุณควรเติมน้ำลงไปไม่ให้เกินเส้นดังกล่าวนี้
    • หากต้องเพิ่มตัวกรองลงไปในน้ำโดยตรง อย่าลืมทำให้เสร็จเรียบร้อยในขั้นตอนนี้
    • เปลี่ยนน้ำใหม่ทุกครั้งที่คุณใช้งานเครื่องทำความชื้น
  3. วางเครื่องทำความชื้นบนพื้นผิวที่เรียบและยกสูงขึ้นมาโดยเว้นระยะห่างจากผนังอย่างน้อย 12 นิ้ว [7] พยายามเลือกตั้งตัวเครื่องไว้ในจุดที่อยู่สูงจากพื้นและไม่มีอะไรอยู่ด้านใต้ เช่น บนโต๊ะเครื่องแป้ง
    • อย่าตั้งเครื่องทำความชื้นไว้บนชั้นวางของหรือบริเวณที่ใกล้กับกระดาษหรือผ้าม่าน เนื่องจากสิ่งของที่ตั้งอยู่ใกล้กับตัวเครื่องอาจได้รับความเสียจากความเปียกชื้นได้
    • ก่อนเปิดใช้งานเครื่องทำความชื้น อย่าลืมตรวจเช็คอุปกรณ์และสายไฟให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน
  4. เสียบปลั๊กและเปิดเครื่องเพื่อเริ่มต้นใช้งาน โดยเครื่องทำความชื้นบางตัวอาจมีปุ่มหรือลูกบิดสำหรับปรับการตั้งค่าตามความต้องการของคุณ หากคุณยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับการตั้งค่าที่เหมาะสมหรือตัวเลือกต่างๆ ที่ระบุบนปุ่มหรือลูกบิด คุณสามารถค้นหาข้อมูลได้จากคู่มือการใช้งาน
    • เครื่องทำความชื้นบางตัวอาจมีช่องเล็กๆ สำหรับเติมน้ำมันหอมระเหยหรือยาทาระเหยบรรเทาอาการคัดจมูก หากคุณต้องการเพิ่มกลิ่นหอมในละอองหมอกที่ปล่อยออกมา คุณสามารถเติมผลิตภัณฑ์ความหอมต่างๆ ลงไปในตัวเครื่องได้เลยในขั้นตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงขั้นตอนนี้หากเครื่องทำความชื้นของคุณไม่มีการระบุอย่างชัดเจนว่าสามารถใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์เพิ่มความหอมใดๆ ได้
    • ระดับความชื้นที่เหมาะสมจะอยู่ที่ระหว่าง 30-50% [8]
    • ปิดเครื่องทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน พยายามหลีกเลี่ยงการเปิดใช้งานเครื่องทำความชื้นในห้องที่ไม่มีคนอยู่
  5. สำหรับผู้ที่ใช้งานเครื่องทำความชื้นเป็นประจำ ให้คุณทำความสะอาดตัวเครื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง [9] เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียก่อตัวในตัวเครื่องและในน้ำ ส่วนผู้ที่ใช้งานเครื่องทำความชื้นเป็นครั้งคราว คุณควรหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ เนื่องจากแบคทีเรียและเชื้อราสามารถเจริญเติบโตขึ้นได้ในช่วงที่คุณเว้นระยะการใช้งานในแต่ละครั้ง
    • ปฏิบัติตามคำแนะนำในการทำความสะอาดและดูแลรักษาตัวเครื่องอย่างเคร่งครัด
    • คุณสามารถทำความสะอาดตัวเครื่องได้ง่ายๆ โดยใช้น้ำเปล่าและสบู่สูตรอ่อนโยน หรือหากคุณต้องการกำจัดเชื้อแบคทีเรีย คุณยังสามารถใช้น้ำส้มสายชูหรือกรดมะนาวที่เจือจางแล้วในการทำความสะอาดได้เช่นเดียวกัน นำตัวกรองและถังเก็บน้ำแช่ลงไปในสารทำความสะอาดที่เลือกใช้นาน 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมงแล้วจึงล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า.
  6. โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ยังไม่มีข้อสรุปอย่างชัดเจนว่าน้ำประปามีส่วนในการก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องทำความชื้นหรือไม่ แต่การเลือกใช้น้ำกลั่นซึ่งเป็นตัวเลือกที่มีความบริสุทธิ์มากกว่าอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ให้น้อยลงได้
โฆษณา

คำเตือน

  • ผู้ที่มีอายุน้อย ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดอาจมีความไวต่อเชื้อแบคทีเรียในอากาศมากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นจึงควรแน่ใจว่าเครื่องทำความชื้นที่ใช้ได้รับการทำความสะอาดอย่างเหมาะสมและบ่อยครั้ง
  • อย่าปล่อยให้บริเวณรอบๆ เครื่องทำความชื้นเริ่มเกิดการเปียกชื้นขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อรา
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • เครื่องทำความชื้น
  • น้ำเปล่า (อาจเลือกใช้น้ำกลั่นได้ตามความต้องการ)
  • สบู่สูตรอ่อนโยน

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 12,796 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา