ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ วิธีใช้น้ำมะนาว (เลมอน) ก็คงเคยผ่านตามาบ้าง ถึงน้ำมะนาวจะอุดมไปด้วยวิตามินดีๆ หลายชนิด แต่การใช้น้ำเลมอนทาผิวเพื่อลดริ้วรอยด่างดำ ก็อาจจะไม่ใช่วิธีที่ดี (หรือปลอดภัย) ที่สุดเสมอไป ต่อไปนี้เป็นคำตอบของเรา ที่มีให้กับคำถามที่พบบ่อย เรื่องวิธีบำรุงผิวให้กระจ่างใสขึ้น รับรองผิวคุณจะสวย สุขภาพดีขึ้นได้ ไม่มากก็น้อย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 8:

น้ำมะนาวช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้หรือไม่?

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาจจะเคยเห็นบางเว็บนำเสนอการดูแลสุขภาพด้วยวิธีธรรมชาติ โดยแนะนำให้ใช้น้ำมะนาว (เลมอน) มาทาให้ผิวกระจ่างใสหรือขาวขึ้น แต่นักวิทยาศาสตร์แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวโดยตรงจะดีกว่า แต่ถ้าอยากใช้น้ำมะนาวจริงๆ ก็คั้นน้ำเลมอนใส่ชาม แล้วเติมน้ำลงไปในสัดส่วนที่เท่ากัน จากนั้นใช้สำลีก้อนจุ่ม มาแต้มเบาๆ ที่จุดด่างดำบนใบหน้า แล้วทิ้งไว้สัก 20 นาที ค่อยล้างออกด้วยน้ำเย็น [1]
    • ทำแบบนี้ได้อาทิตย์ละ 2 - 3 ครั้ง จะช่วยให้จุดด่างดำดูจางลงได้
    • ถ้าจะลบเลือนจุดด่างดำบนหน้าอกหรือแผ่นหลัง ให้กรอกส่วนผสมใส่ขวดสำหรับฉีดพ่น แล้วพ่นให้ทั่วจุดด่างดำ ทิ้งไว้ 20 นาที ค่อยเช็ดออกด้วยผ้าขนหนูเปียก
    • ย้ำว่าต้องล้างน้ำมะนาวออกก่อนจะออกไปกลางแจ้ง เพราะถ้าทาน้ำเลมอนไว้บนผิว แล้วออกไปเจอแสงแดด จะทำให้ผิวไหม้หรือพุพองได้ [2]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 8:

น้ำมะนาวปลอดภัยต่อผิวหรือเปล่า?

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เปลือกเลมอนมักมีสารเคมีชื่อ furanocoumarins กับ psoralens ถ้าอยู่ในร่ม จะไม่เป็นอันตรายต่อผิว แต่ถ้าออกไปโดนแดด จะทำให้ผิวแดง ระคายเคือง บวม หรือพุพองได้ ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ผสมน้ำเลมอน จะสกัดสารพวกนี้ออกไป เพราะเหตุนี้ถึงใช้โลชั่นหรือน้ำหอมที่ผสมผลไม้รสเปรี้ยวได้ แต่ถ้าใช้น้ำเลมอนเพียวๆ จะยังมีสารพวกนี้อยู่ เลยอาจเป็นอันตรายต่อผิว กระทั่งเจือจางด้วยน้ำแล้วก็เถอะ [3]
    • ถ้ากลัวผิวจะไหม้หรือแพ้น้ำเลมอน ลองใช้ดูแค่เล็กน้อยก่อน โดยแต้มน้ำเลมอนที่ยังไม่ได้เจือจางที่ข้อพับแขน ถ้าผ่านไป 24 ชั่วโมงแล้วไม่แสดงอาการแพ้ แสดงว่าใช้น้ำเลมอนทาหน้าได้ แต่ถ้าข้อพับเริ่มแสบหรือไหม้ ให้ล้างออกทันที และอย่าใช้ทาส่วนใดก็ตามของร่างกาย
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 8:

ใช้น้ำมะนาวทำอะไรได้บ้าง?

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณเป็นคนผิวมัน ให้บดข้าวโอ๊ตรีดแผ่น 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม) ให้เป็นผงละเอียด จากนั้นผสมแป้งข้าวโอ๊ตกับน้ำเลมอนคั้นสด 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) และน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา (10 มล.) ใช้นิ้วสะอาดป้ายมาแต้มที่ผิว ทิ้งไว้ 15 นาที ค่อยเช็ดออกด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น [4]
  2. 2
    ถ้าผิวแห้ง ให้ใช้น้ำผึ้ง อะโวคาโด และข้าวโอ๊ต. ถ้าอยากเติมความชุ่มชื้นให้ผิว พร้อมๆ กับลบจุดด่างดำ ให้ผสมอะโวคาโดบด 1/4 กับน้ำเลมอนคั้นสด 1 ช้อนชา (5 มล.) น้ำมันมะกอก 1/2 ช้อนโต๊ะ (7 - 8 มล.) และน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) เข้าด้วยดัน ใช้มาสก์หน้าที่สะอาด แล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น [5]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 8:

ทำไมหลายเว็บแนะนำให้ใช้น้ำมะนาว?

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพราะกรดซิตริกมีสรรพคุณทำให้ผิวขาวขึ้นโดยธรรมชาติ. มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายตัวเลย ที่ผสมกรดซิตริก เช่น พวกที่ผสมน้ำเลมอน แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะใช้น้ำเลมอนที่กรองแล้ว ทาผิวได้ไม่กัด โดนแดดก็ไม่พอง ถ้าเป็นน้ำเลมอนคั้นสด อาจจะช่วยให้สีผิวอ่อนจางลงได้ก็จริง แต่ก็อันตรายต่อผิว ได้ไม่คุ้มเสี่ยง ซึ่งคุณไม่มีทางคั้นน้ำเลมอนแล้วกรองหรือเจือจางจนปลอดภัยต่อผิวได้เองที่บ้าน [6]
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 8:

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีน้ำมะนาว ใช้ได้ปลอดภัยดีหรือเปล่า?

ดาวน์โหลดบทความ
  1. น้ำเลมอนที่ผสมในโลชั่นและครีม ทาผิวได้ปลอดภัยดี และส่วนใหญ่ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดซิตริกจะช่วยลบเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ จะไม่อันตรายเท่าน้ำเลมอนคั้นสด [7]
    • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวส่วนใหญ่ที่ผสมน้ำเลมอน จะช่วยให้ผิวกระชับ ลบเลือนริ้วรอย
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 8:

จะทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นด้วยวิธีธรรมชาติได้ยังไง?

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวกระจ่างใสจะแทรกซึมเข้าสู่ผิวคุณ ลดเม็ดสี (melanin) ที่กระจุกตัวจนเกิดรอยด่างดำ ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มี hydroquinone 2%, กรด azelaic, กรด glycolic, กรด kojic, retinoid หรือวิตามินซี เพราะจะใช้แล้วเห็นผล ถ้าไม่แน่ใจว่าควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวไหน ปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่มีใบอนุญาตจะดีกว่า [8]
  2. 2
    ทาครีมกันแดดทุกวัน. ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ไม่ให้รอยด่างดำที่ผิวลุกลาม พยายามทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 หรือมากกว่า เป็นประจำทุกวัน จะช่วยป้องกันริ้วรอยและจุดด่างดำได้ [9]
    โฆษณา
วิธีการ 7
วิธีการ 7 ของ 8:

นานแค่ไหนกว่าจุดด่างดำจะจางลง?

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าใช้ครีมกันแดด ควบคู่ไปกับครีมบำรุงผิวกระจ่างใสที่แพทย์ผิวหนังรับรอง ก็มักจะเห็นผลชัดเจนภายใน 1 ปีขึ้นไป แต่ถ้าจุดด่างดำชัดเข้ม ก็อาจจะต้องใช้เวลา 1 - 2 ปี [10]
    • ผิวของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป กว่าจะเนียนเสมอ ก็ใช้เวลามากน้อยแตกต่างกัน ถ้าสงสัยตรงไหน ปรึกษาแพทย์ผิวหนังจะเห็นผลที่สุด
วิธีการ 8
วิธีการ 8 ของ 8:

ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวขาวขึ้น ใช้แล้วเป็นอันตรายหรือเปล่า?

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวกระจ่างใสหลายตัว ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบควบคุม เลยอาจมีส่วนผสมเป็นสารปรอท ซึ่งอันตรายต่อไตและระบบประสาทของคุณ แถมพิษจากสารปรอทอาจแพร่กระจายจากคุณไปยังคนอื่นๆ ผ่านการสัมผัสได้ด้วย ถ้าส่วนผสมของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เขียนว่า calomel, cinnabaris, quicksilver หรือ Hydrargyri oxydum rubrum แปลว่ามีสารปรอทผสมอยู่ ห้ามใช้เด็ดขาด หรือให้หยุดใช้ทันที [11]
    • คุณหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ปรับสีผิวที่ไม่ปลอดภัยได้ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่แพทย์ผิวหนังรับรองหรือจ่ายให้เท่านั้น ขนาดในสหรัฐอเมริกา ยังมีงานวิจัยที่ชี้ว่าผลิตภัณฑ์เพื่อผิวกระจ่างใสมากถึง 12% ในตลาด มีสารปรอทผสมอยู่
    โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าทาน้ำมะนาวไว้บนผิว ระวังอย่าออกไปตากแดด เพราะผิวจะไหม้รุนแรงได้ [12]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,922 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา