วิธีการ ใช้ไพรเมอร์รองพื้น

ร่วมเขียน โดย Alicia D'Angelo

ถึงแม้หลายคนจะมองข้ามขั้นตอนการลงไพรเมอร์ คิดว่ามันเป็นขั้นตอนที่ไม่จำเป็น แต่การเสียเวลาแค่ไม่กี่นาทีในการเพิ่มมันเข้าไปในกิจวัตรการแต่งหน้าของคุณสามารถทำให้เกิดผลต่อใบหน้าโดยรวมในตอนท้ายได้อย่างมาก ไพรเมอร์ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน ลดและกลบลบริ้วรอยหรือรูขุมขน ทำให้โทนผิวดูสม่ำเสมอ และช่วยให้เครื่องสำอางติดทนบนใบหน้าไม่เลอะเลือนตลอดทั้งวัน บทความนี้จะช่วยคุณเลือกไพรเมอร์ที่เหมาะกับผิวและวิธีใช้มันอย่างถูกต้อง

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

เลือกไพรเมอร์ที่ถูกต้อง

ดาวน์โหลดบทความ

{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/0\/09\/Apply-Foundation-Primer-Step-1-Version-3.jpg\/v4-460px-Apply-Foundation-Primer-Step-1-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/0\/09\/Apply-Foundation-Primer-Step-1-Version-3.jpg\/v4-728px-Apply-Foundation-Primer-Step-1-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":259,"bigWidth":728,"bigHeight":410,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

1
ตัดสินใจว่าคุณอยากให้ไพรเมอร์เน้นไปที่ประโยชน์อะไร. คุณกังวลเรื่องริ้วรอยหรือรอยตีนกาเป็นที่สุดหรือเปล่า หรือเรื่องสีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือลดความมันบนใบหน้า ในท้องตลาดมีไพรเมอร์นับร้อยนับพัน ดังนั้นหาเวลาในการทดสอบผิวและคิดดูว่าอย่างไหนจะเหมาะกับคุณที่สุด ^{[1]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง} ตรวจดูฉลากหรือทำการค้นคว้าหาข้อมูลตามอินเทอร์เน็ตเพื่อหาไพรเมอร์ที่เหมาะกับความต้องการที่แท้จริงของคุณ
- หากคุณห่วงเรื่องรูขุมขนกว้างหรือรอยตีนกา ค้นหาไพรเมอร์แบบลดขนาดรูขุมขนและพวกแอนตี้เอจจิ้ง
- ควรที่จะใช้ไพรเมอร์ เสมอ หากคุณต้องการจะแต่งหน้าด้วยพู่กันลม ^{[2]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
ประเมินสภาพผิวและตัดสินใจว่าคุณจำเป็นต้องใช้ไพรเมอร์แบบปรับสีผิวหรือไม่. หากผิวคุณมีจุดด่างดำหรือมีวงดำใต้ดวงตา มีรอยแดงหรือซีด คุณสามารถหาไพรเมอร์แบบเจือสีที่จะช่วยปรับสีผิวให้เป็นกลาง สีที่ตรงข้ามกันจะกลบลบแต่ละฝ่ายออกไป ดังนั้น ถ้าคุณมีโทนผิวออกแดงหรือน้ำตาลแดง สีที่อยู่ตรงข้ามสีแดงในวงล้อสี (เขียว) จะทำให้สีแดงเป็นกลาง
- จำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องใช้ไพรเมอร์แบบปรับสีผิวเลย ใช้แต่ไพรเมอร์แบบไร้สีก็ได้แล้ว
- ไพรเมอร์ที่เจือสีออกเขียวสามารถปรับแก้ผิวที่ออกแดงจัด นี่จะมีประโยชน์เวลาที่ใบหน้าคุณเกิดไหม้แดดขึ้นมา ^{[3]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ไพรเมอร์สีเหลืองใช้ได้ผลกับสภาพผิวที่ออกแดงอ่อนๆ หรือสีชมพู ^{[4]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หากคุณมีจุดดำออกสีน้ำเงินม่วง หรือมีรอยช้ำ ลองไพรเมอร์ที่เจือสีส้มหรือสีพีช ^{[5]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หากผิวออกเหลืองหรือซีด ลองไพรเมอร์เจือสีลาเวนเดอร์ ^{[6]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/b\/be\/Apply-Foundation-Primer-Step-3-Version-3.jpg\/v4-460px-Apply-Foundation-Primer-Step-3-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/b\/be\/Apply-Foundation-Primer-Step-3-Version-3.jpg\/v4-728px-Apply-Foundation-Primer-Step-3-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":259,"bigWidth":728,"bigHeight":410,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

3
ตรวจดูชนิดผิวของคุณว่าเป็นแบบมัน แห้ง หรือธรรมดา. ไพรเมอร์แต่ละตัวมีส่วนผสม น้ำหนัก และสัมผัสที่ต่างกันซึ่งจะใช้ได้ดีกับผิวต่างชนิดกันไป หากคุณไม่แน่ใจว่าตนมีผิวแบบไหน ให้ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์แล้วทิ้งให้แห้งเอง ผิวคุณรู้สึกอย่างไรหลังจากผ่านไป 15-20 นาที
- หากใบหน้ารู้สึกชุ่มชื้นหรือมัน คุณมีผิวมัน ^{[7]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง} ลองไพรเมอร์แบบแมตต์ที่จะลดความมันวาวและคอยซับน้ำมัน ^{[8]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง} ไพรเมอร์ที่มีกรดซาลิไซลิกก็ช่วยซับน้ำมันส่วนเกินเช่นกัน ^{[9]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หากใบหน้ารู้สึกตึงหรือแห้ง คุณมีผิวแห้ง ^{[10]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง} มองหาไพรเมอร์ที่เป็นแบบเจลหรือแบบเพิ่มความเปล่งปลั่งที่จะไม่ทำให้ผิวแห้ง ^{[11]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หากผิวรู้สึกนุ่มสะอาด คุณมีผิวธรรมดา ^{[12]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง} ทดลองใช้ไพรเมอร์แตกต่างกันไปแล้วดูว่าอย่างไหนใช้แล้วรู้สึกดีที่สุดและให้ผลตามที่พึงพอใจ
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/7\/76\/Apply-Foundation-Primer-Step-4-Version-3.jpg\/v4-460px-Apply-Foundation-Primer-Step-4-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/7\/76\/Apply-Foundation-Primer-Step-4-Version-3.jpg\/v4-728px-Apply-Foundation-Primer-Step-4-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":259,"bigWidth":728,"bigHeight":410,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

4
ตรวจดูว่ารองพื้นของคุณเป็นแบบเจลหรือแบบน้ำ. คุณต้องเลือกไพรเมอร์ที่เป็นแบบเดียวกับรองพื้นเพื่อที่มันจะไม่ตัดกันเอง ^{[13]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง} อีกทั้งควรใส่ใจดูว่ารองพื้นนั้นมีซิลิโคนผสมหรือไม่ เพราะบางทีมันสามารถทำปฏิกิริยากับรองพื้นแบบน้ำมันและทำให้มันดูเป็นด่างดวง ^{[14]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เวลาลองไพรเมอร์ ถามหาตัวอย่างแล้วมาลองที่มือก่อน พอมันแห้งให้ทารองพื้นลงไปเล็กน้อย หากรองพื้นทาได้เรียบเนียน คุณก็จะรู้ว่ารองพื้นกับไพรเมอร์ไปด้วยกันได้ ^{[15]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ทดสอบไพรเมอร์ที่ผสมซิลิโคนตรงมุมเล็กๆ ของผิวก่อนจะใช้มันทั่วทั้งใบหน้า บางคนที่มีผิวแพ้ง่ายอาจเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อซิลิโคนได้
โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

ปรับเตรียมสภาพผิวหน้า

ดาวน์โหลดบทความ

มันจำเป็นที่จะชำระล้างฝุ่นผงและสิ่งแปลกปลอมออกจากใบหน้าก่อนจะแต่งหน้า ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ต้องล้างมือด้วย คุณอาจต้องลงไพรเมอร์หรือเครื่องสำอางอื่นๆ ด้วยนิ้ว คงไม่อยากแพร่ความสกปรกให้กระจายทั่วหน้าใช่ไหมล่ะ
2
ใช้มอยเจอไรเซอร์. ไพรเมอร์ไม่ได้เป็นตัวใช้ทดแทนมอยเจอไรเซอร์นะ และคุณก็ไม่ควรข้ามขั้นตอนการใช้มอยเจอไรเซอร์ด้วยเหตุว่ากลัวมันจะหนาเตอะเกินไป มอยเจอไรเซอร์นั้นช่วยบำรุงผิวให้มันมีสุขภาพดี และถึงแม้ไพรเมอร์บางตัวอาจมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้น แต่จุดประสงค์หลักของมันก็ยังเป็นการทำให้รองพื้นติดทนนานต่างหาก ^{[16]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ให้แน่ใจว่าคุณทิ้งให้มอยเจอไรเซอร์ได้ซึมซาบและแห้งสนิทก่อนลงไพรเมอร์ หากผิวรู้สึกเปียก ให้รอต่ออีกสองสามนาทีเพื่อให้มอยเจอไรเซอร์ซึมซาบสู่ผิวจนหมด ^{[17]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

ใช้ไพรเมอร์

ดาวน์โหลดบทความ

บีบรองพื้นลงบนหลังมือด้วยปริมาณขนาดเมล็ดถั่ว. การใช้ไพรเมอร์มากเกินไปสามารถทำให้รองพื้นจับเป็นก้อน และคุณก็ไม่จำเป็นต้องใช้มากเกินขนาดเมล็ดถั่วในการแตะตามใบหน้าและลำคอ ^{[18]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
ลงไพรเมอร์ตรงกลางใบหน้าและใช้นิ้ววนเป็นวงกลมเบาๆ เพื่อเกลี่ยมันออกจนกลืนกัน. ท่าทางที่ใช้ก็เหมือนกับเวลาใช้มอยเจอไรเซอร์ ^{[19]
X
แหล่งข้อมูลอ้างอิง} ทาให้สม่ำเสมอทั่วกันที่ผิวเพื่อให้ได้ความเนียนสม่ำเสมอกัน ให้แน่ใจว่าคุณเกลี่ยไปถึงไรผมและต้นคอด้วยเช่นกัน
- อย่าลืมผิวรอบดวงตา หากคุณไม่ได้ใช้ไพรเมอร์เปลือกตาแยกต่างหาก ก็ให้แตะไพรเมอร์ตรงเปลือกตาเบามากๆ เพื่อที่เครื่องสำอางทาตาจะติดทนเป็นประกายตลอดทั้งวัน
- ใช้นิ้วกลางกับนิ้วนางค่อยๆ กระจายไพรเมอร์ไปทั่วหน้า คุณสามารถใช้ฟองน้ำหรือแปรงแต่งหน้าได้เช่นกัน แต่มันไม่ถึงกับจำเป็น ^{[20]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ทาไพรเมอร์เป็นชั้นบางๆ เหนือริมฝีปากแห้ง เพื่อให้ลิปสติกดูเข้มและป้องกันไม่ให้มันกลายเป็นเส้นเล็กๆ รอบริมฝีปาก ^{[21]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
{"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/7\/77\/Apply-Foundation-Primer-Step-9-Version-3.jpg\/v4-460px-Apply-Foundation-Primer-Step-9-Version-3.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/7\/77\/Apply-Foundation-Primer-Step-9-Version-3.jpg\/v4-728px-Apply-Foundation-Primer-Step-9-Version-3.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":259,"bigWidth":728,"bigHeight":410,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}

3
ทิ้งให้ไพรเมอร์แห้งสนิท. นี่จะใช้แค่สองสามนาที บางคนเลือกข้ามรองพื้นไปด้วย โดยเฉพาะถ้าพวกเขาต้องการจะทำให้รูขุมขนดูเล็กลงหรือเติมความสดใสให้สีผิว ไม่งั้นคุณก็แต่งหน้าไปตามปกติ
- ทารองพื้นเป็นชั้นบางๆ แล้วตบเพิ่มถ้าคุณต้องการมากกว่านั้น การใช้ไพรเมอร์หมายถึงคุณจะใช้รองพื้นน้อยลง ^{[22]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- รองพื้นควรจะเกลี่ยได้เรียบเนียนและไม่ควรไปเกาะตามรอยย่นหรือรอยตีนกาเหมือนเวลาไม่ได้ใช้ไพรเมอร์
- พอคุณลงรองพื้นเสร็จ คุณอาจต้องการใช้แป้งโปร่งแสงตบเร็วๆ หากไพรเมอร์กับรองพื้นเป็นแบบผสมซิลิโคนหรือน้ำมัน มันจะช่วยทำให้แต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางไม่เลอะ ^{[23]
  X
  แหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

[1]

[2]

[3]

[4]

[5]

[6]

[7]

[8]

[9]

[10]

[11]

[12]

[13]

[14]

[15]

[16]

[17]

[18]

[19]

[20]

[21]

[22]

[23]

เข้าสู่ระบบ

วิธีการ ใช้ไพรเมอร์รองพื้น

ขั้นตอน

เลือกไพรเมอร์ที่ถูกต้อง

ปรับเตรียมสภาพผิวหน้า

ใช้ไพรเมอร์

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

บทความฮาวทูที่ติดเทรนด์

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

บทความฮาว-ทูที่โดดเด่น

Explore Categories