ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ถ้าอยากใช้สิทธิพิเศษของสมาชิก Bumble Premium แบบไม่ต้องเสียเงิน ตอนสมัครบัญชีครั้งแรก ก็มีให้ทดลองใช้ Bumble Premium ฟรี 14 วัน เรียกว่าเป็นวิธีเดียวที่จะใช้ฟีเจอร์ต่างๆ แบบ premium ได้ฟรี บทความวิกิฮาวนี้จะมาแนะนำวิธีการใช้ Bumble Premium ฟรี โดยทดลองใช้ในระยะเวลาที่กำหนดหลังสมัครบัญชีใหม่
ขั้นตอน
-
เปิด Bumble. ไอคอนของแอปจะเป็นรังผึ้งบนพื้นเหลือง ถ้าใช้งานในคอม ให้เข้าเว็บ https://bumble.com
- ปกติ จะมีให้ทดลองใช้ตอนสมัครบัญชีใหม่เท่านั้น. ถ้ามีบัญชีอยู่แล้ว แล้วไม่ได้ทดลองใช้ ก็ต้องรอจน Bumble เสนอช่วงทดลองใช้ให้สมาชิกปัจจุบันที่ไม่เคยใช้สิทธิ์อีกรอบ พอมีข้อเสนอแบบนั้นเมื่อไหร่ จะมีแจ้งเตือนในแอปหรือในเว็บ
-
คลิกหรือแตะ Join . เลือกวิธีการล็อกอิน เช่น บัญชี Facebook หรือเบอร์มือถือ เพื่อสร้างบัญชี
- ถ้าเลือกใช้เบอร์โทร จะมีโค้ดส่งไปทาง SMS ต้องกรอกโค้ดนี้ในแอปถึงจะไปต่อได้
-
3ใส่รหัสผ่าน (ถ้ามี). อาจจะมีให้ใส่รหัสผ่าน ถ้าใช้ผ่านมือถือหรือแท็บเล็ต
-
อัปโหลดรูปตัวเองแล้วสร้างโปรไฟล์. ต้องใส่รูปที่ไม่ละเมิดกฎการใช้งานของ Bumble เพื่อไม่ให้ถูกแบน แนะนำให้เลือกรูปตัวเองที่คิดว่าดูดีที่สุด แล้วกรอกข้อมูลอื่นๆ ในโปรไฟล์
-
ยอมรับข้อเสนอทดลองใช้ Bumble Premium ฟรี. ถ้าไม่มีให้ทดลองใช้ฟรีก่อนเข้าหน้าของคนแรกที่ match กัน ลองปิดแล้วเปิด Bumble ขึ้นมาใหม่ บางคนก็ต้องรอ 2 - 3 วัน ถึงจะมีข้อเสนอทดลองใช้ฟรีมาให้
- ขอแค่ยกเลิกสมาชิกก่อนหมดช่วงทดลองใช้ ก็ไม่ต้องเสียค่าบริการ Bumble Premium แล้ว [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ย้ำว่าทดลองใช้ได้ฟรี ยกเว้นว่าตัดสินใจใช้ Bumble Premium ต่อ
- ถ้าตัดสินใจจะใช้ Bumble Premium ต่อ ก็ยกเลิกการทดลองใช้เมื่อไหร่ก็ได้
โฆษณา
-
Bumble แบบฟรีก็มีหลายฟีเจอร์. ทั้ง match กันได้ ส่งข้อความ ใช้ฟิลเตอร์พื้นฐาน และปัดดูโปรไฟล์คนอื่นๆ กระทั่งยืดเวลา match ต่อวันแบบไม่ต้องเสียสักบาท [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แค่ใช้ Bumble ฟรี ก็เจอรักดีๆ ได้!
-
Bumble Premium ช่วยให้คนปัดเจอคุณง่ายขึ้น. Spotlight เป็นฟีเจอร์ของ Premium ที่จะย้ายโปรไฟล์คุณมาไว้หน้าๆ ทำให้คนอื่นปัดเจอง่ายขึ้น [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าเป็นสมาชิกแบบ Premium จะใช้ Spotlight ได้อาทิตย์ละครั้ง แต่ถ้าแบบฟรี คือใช้ Spotlight ได้ครั้งเดียว
- ถึงจะเป็นสมาชิกแบบฟรี ก็ซื้อฟีเจอร์ Spotlight ได้เวลาจะใช้ แบบนี้อยากใช้ Spotlight เมื่อไหร่ค่อยซื้อ ไม่ต้องเป็นสมาชิกแบบเสียเงินก็ได้
-
ถ้าเป็นสมาชิกแบบ Premium จะดูได้ว่าใคร like เรา. ถ้าเป็นสมาชิกแบบฟรี จะไม่มี Beeline เพราะรูปผู้ใช้จะเบลอ ถ้าอยากรู้ว่าใครถูกใจเราก่อนปัด ก็แนะนำว่าสมัคร Premium ดีกว่า
- เหมาะกับคนที่อยากใช้ SuperSwipes, Spotlight และต่อเวลาตอบกลับ match หรือ rematch
-
Advanced Filters ของ Premium เหมาะกับคนที่อยู่ในที่ที่คนใช้แอปกันเยอะ. ถ้าแถวไหนมีคนใช้ Bumble กันเยอะ ก็เหมาะจะใช้ advanced filters และ unlimited swipes เพราะช่วยคัดคนมหาศาลจนเจอคนที่น่าจะ match กัน แบบนี้จะเจอคนตรงใจได้ง่ายกว่า
-
ฟีเจอร์ Travel Mode เหมาะมากกับเดททางไกล. Premium จะดีมากสำหรับคนที่อยากเดทคนอยู่ไกลกัน เพราะ Travel Mode ให้คุณ match กับใครที่ไหนก็ได้โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,622 ครั้ง
โฆษณา