ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการใช้ฟีเจอร์ "Mail Merge" ใน Microsoft Word ให้คุณเอง Mail Merge ให้คุณใช้ spreadsheet ที่มีข้อมูล contacts กำหนดที่อยู่ ชื่อ และอื่นๆ ไปยังเอกสารแต่ละฉบับได้อัตโนมัติ สะดวกเวลาจะทำจดหมายข่าวหรือประกาศ เพราะไม่ต้องมานั่งเขียนชื่อหรือที่อยู่ที่หัวเอกสารเองทีละฉบับ
ขั้นตอน
-
เปิด Microsoft Excel. ไอคอนของ Microsoft Excel จะเป็นตัว "X" สีขาวบนพื้นเขียวเข้ม คลิกแล้วหน้า "New" ของ Excel จะเปิดขึ้นมา
- ถ้ามี contact sheet ใน Excel อยู่แล้ว ก็ข้ามไปอ่านวิธีการ import รายชื่อ contacts จาก Excel ได้เลย
-
คลิก Blank workbook . ที่ด้านซ้ายบนของหน้า "New" เพื่อเปิดเอกสารใหม่ว่างๆ ขึ้นมาใน Excel
-
ใส่ contact headers. เริ่มจากเซลล์ A1 แล้วขยับไปทางขวา ให้ใส่ headers ดังต่อไปนี้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- FirstName - ชื่อของ contacts จะอยู่ในคอลัมน์นี้ (เซลล์ A1 )
- LastName - นามสกุลของ contacts จะอยู่ในคอลัมน์นี้ (เซลล์ B1 )
- Tel - เบอร์โทรของ contacts จะอยู่ในคอลัมน์นี้ (เซลล์ C1 )
- StreetAddress - ที่อยู่ของ contacts จะอยู่ในคอลัมน์นี้ (เซลล์ D1 )
- City - เมือง/อำเภอ/เขตของ contacts จะอยู่ในคอลัมน์นี้ (เซลล์ E1 )
- State - รัฐ/จังหวัดของ contacts จะอยู่ในคอลัมน์นี้ (เซลล์ F1 )
- ZIP - รหัสไปรษณีย์ของ contacts จะอยู่ในคอลัมน์นี้ (เซลล์ G1 )
- Email - อีเมลของ contacts จะอยู่ในคอลัมน์นี้ (เซลล์ H1 )
-
พิมพ์ข้อมูลของ contacts. เริ่มจากคอลัมน์ A เซลล์ 2 ให้กรอกข้อมูล contact ของแต่ละคนที่จะใช้ mail merge
- ต้องตรวจทานความถูกต้องของข้อมูลก่อนไปต่อ
-
เซฟเอกสาร. โดย
- Windows - คลิก File คลิก Save As ดับเบิลคลิก This PC คลิกเลือกตำแหน่งเซฟไฟล์ ทางซ้ายของหน้าต่าง พิมพ์ชื่อเอกสารในช่อง "File name" แล้วคลิก Save
- Mac - คลิก File คลิก Save As... พิมพ์ชื่อเอกสารในช่อง "Save As" เลือกตำแหน่งเซฟไฟล์ โดยคลิกช่อง "Where" แล้วคลิกโฟลเดอร์ จากนั้นคลิก Save
- จดจำตำแหน่งเซฟไฟล์ไว้ให้ดี เพราะเดี๋ยวต้องมาหา spreadsheet ของ Excel นี้ทีหลัง
-
ปิด Excel. คลิก X มุมขวาบนของ Excel (Windows) หรือวงกลมสีแดง มุมซ้ายบน (Mac) เท่านี้ก็ไปสร้าง mail merge ใน Microsoft Word ได้แล้วโฆษณา
-
เปิด Microsoft Word. ไอคอนของ Word จะเป็นตัว "W" สีขาวบนพื้นน้ำเงิน คลิกแล้วหน้า "New" จะเปิดขึ้นมาเหมือนของ Excel
- ถ้ามีเอกสาร Microsoft Word ที่จะ import contacts ของ Excel อยู่แล้ว ก็ให้ดับเบิลคลิกเพื่อเปิดขึ้นมา แล้วไม่ต้องทำขั้นตอนถัดไป
-
คลิก Blank document . ที่เป็นช่องสีขาว ด้านซ้ายบนของหน้า เพื่อเปิดเอกสาร Microsoft Word ว่างๆ
-
คลิก tab Mailings . ที่เป็น tab ด้านบนของหน้าต่าง Microsoft Word แล้ว toolbar จะโผล่มาล่างแถว tab ต่างๆ
-
คลิก Select Recipients . ในหัวข้อ "Start Mail Merge" ของ toolbar Mailings แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Use an Existing List… . ที่เป็นตัวเลือกในเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้าต่างใหม่
- ถ้าอยากใช้ contacts ของ Outlook แทน ให้เลือก Choose from Outlook Contacts ในเมนูที่ขยายลงมา
- หรือพิมพ์รายการข้อมูล contact ชั่วคราว ใน Word โดยเลือก Type a New List สะดวกเวลาจะทำข้อมูล contacts แค่นิดเดียว
-
เลือก contact sheet ของ Microsoft Excel. ทางซ้ายของหน้าต่าง ให้คลิกโฟลเดอร์ที่เซฟ sheet ของ Excel ไว้ แล้วคลิกเพื่อเลือก sheet นั้น
-
คลิก Open . มุมขวาล่างของหน้าต่าง
-
ยืนยันตัวเลือก. คลิกชื่อ sheet ของ Excel ในหน้าต่าง pop-up แล้วคลิก OK ทางด้านล่างของหน้าต่าง เพื่อเลือก sheet Excel นั้นเป็นตำแหน่งโหลด contacts
- อย่าลืมติ๊กช่อง "First row of data contains column headers" ทางด้านล่างของหน้าต่างด้วย
โฆษณา
-
ไปยังตำแหน่งที่จะใส่ข้อมูล contact. หาจุดที่จะใส่ข้อมูล contact (เช่น หัวเอกสาร) แล้วคลิกเพื่อให้เคอร์เซอร์โผล่มา
-
คลิก Insert Merge Field . ที่เป็นตัวเลือกในหัวข้อ "Write & Insert Fields" ของ tab Mailings แล้วเมนูจะขยายลงมา
- อาจจะต้องคลิก tab Mailings อีกรอบซะก่อน
-
เลือกประเภทข้อมูล. ในเมนูที่ขยายลงมา ให้คลิกชื่อหนึ่งใน headers จากไฟล์ Excel เพื่อใส่
- เช่น ให้คลิก FirstName ในเมนูที่ขยายลงมา ถ้าจะใส่แท็กของชื่อ contacts
-
ใส่ข้อมูลอื่นๆ ตามต้องการ. เช่น ที่อยู่ นามสกุล เบอร์โทร และอื่นๆ ของ contacts
-
คลิก Finish & Merge . ที่ด้านขวาสุดของ toolbar ใน tab Mailings เพื่อขยายเมนูลงมา
-
เลือก merge option. คลิกหนึ่งในตัวเลือกต่อไปนี้
- Edit Individual Documents - เปิดไฟล์ของแต่ละผู้รับ เพื่อปรับแต่งเฉพาะไฟล์ไป
- Print Documents... - พริ้นท์เอกสารของแต่ละคนใน contact sheet
- Send Email Messages... - ส่งเอกสารไปทางอีเมล อีเมลของ contacts จะถูกเลือกเป็นอีเมลปลายทาง
-
ทำตามขั้นตอนในหน้าจอ. อันนี้แล้วแต่ว่าคุณเลือกอะไรไป อาจจะมีแบบฟอร์มเพิ่มเติม (เช่น ถ้าเลือก Email จะมีให้ใส่ subject แล้วคลิก OK ) เพื่อทำขั้นตอน mail merge ให้เสร็จสิ้นโฆษณา
เคล็ดลับ
- Mail Merge เหมาะสำหรับสร้างใบแจ้งหนี้, ประกาศ, รายงาน หรือเอกสารอื่นๆ ที่ต้องใช้เป็นจำนวนมาก โดยเป็นเอกสารที่มีชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ และอื่นๆ
โฆษณา
คำเตือน
- ต้องตรวจทานข้อมูล contact ก่อน import เข้า Word เสมอ ไม่งั้นถ้าผิดพลาดไป เช่น ชื่อผิด อีเมลผิด ก็อาจส่งเอกสารไปผิดคนได้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา