ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าอยากใช้ iMac เป็นหน้าจอที่ดีกว่าให้กับ MacBook หรือ Mac แล้วใช้ iMac รุ่นใหม่ที่เป็น macOS เวอร์ชั่น Monterey ก็ทำได้ง่ายๆ โดยใช้ AirPlay ในการ mirror หรือต่อขยาย (extend) หน้าจอด้วย iMac ส่วน iMac รุ่นเก่า ที่ใช้ High Sierra หรือก่อนหน้า ก็ต้องใช้ Target Display Mode ตั้งค่า iMac เป็นหน้าจอหลักของ Mac บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเปลี่ยน iMac เป็นหน้าจอหลักหรือหน้าจอที่สองให้ Mac แบบสะดวกที่สุดให้คุณเอง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้ AirPlay กับ Mac (macOS Monterey)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตั้งแต่ macOS Monterey เป็นต้นมา จะ mirror หรือ extend หน้าจอ Mac กับ iMac รุ่นใหม่ๆ ได้แทบทั้งหมด
    • โดย iMac ที่ใช้รับ AirPlay จะเป็น iMac Pro รุ่นไหนก็ได้ และ iMac รุ่นหลังปี 2019 (2562) เป็นต้นมา [1] โดย iMac ที่ใช้ต้องเป็น macOS Monterey หรือใหม่กว่า
    • Mac เครื่องที่ ส่ง สัญญาณ AirPlay ต้องเป็น Mac หรือ MacBook รุ่นปี 2011 (2554) หรือใหม่กว่า ถ้าจะ mirror หรือสะท้อนภาพหน้าจอไปที่ iMac เพื่อใช้เป็นหน้าจอหลัก ก็ต้องเป็นเวอร์ชั่น Mountain Lion หรือใหม่กว่า แต่ถ้าอยาก extend หรือต่อขยายหน้าจอ ให้ iMac เป็นหน้าจอที่ 2 ก็ต้องเป็นเวอร์ชั่น Mavericks หรือใหม่กว่า
    • ถ้าใช้ iMac รุ่นเก่า ก็อาจจะยังทำเป็นหน้าจอได้ โดยเชื่อมต่อผ่าน Target Display Mode
  2. พอเปิดใช้ AirPlay receiver แล้ว iMac จะโผล่มาเป็นตัวเลือกสำหรับ mirror หรือ extend หน้า desktop ของ Mac ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนการเปิดใช้
    • คลิกเมนู Apple แล้วเลือก System Preferences
    • คลิก Sharing
    • ติ๊กช่องข้าง "AirPlay Receiver" ในกรอบซ้ายมือ
    • กำหนดว่าใครจะเชื่อมต่อ iMac เครื่องนี้ผ่าน AirPlay ได้บ้าง แนะนำให้เลือก "Current user" เพราะคนอื่นจะได้ไม่มา mirror หน้าจอตัวเองกับ iMac เครื่องนี้
  3. pin ไอคอน Screen Mirroring ไว้กับแถบเมนูใน Mac เครื่องที่ส่งสัญญาณ (เครื่องหลัก). ให้ทำขั้นตอนนี้ใน Mac เครื่องที่ไม่ใช่ iMac ถึงจะ extend หน้าจอ ไม่ใช่ mirror หน้าจอ ก็ต้องทำ ขั้นตอนคือ
    • คลิกเมนู Apple แล้วเลือก System Preferences
    • คลิก Dock & Menu Bar
    • ติ๊กช่องข้าง "Show in Menu Bar" ถ้ายังไม่ได้ติ๊ก
    • เลือก always จากในเมนูที่ขยายลงมา
  4. จะใช้ AirPlay แบบไร้สายได้ ถ้า Mac ทั้ง 2 เครื่องเชื่อมต่อ Wi-Fi สัญญาณเดียวกันและสัญญาณเสถียรดี ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็ว่าเชื่อมต่อและรับ-ส่งสัญญาณลื่นไหลดี เวลาเชื่อมต่อ AirPlay ผ่าน Wi-Fi [2]
    • ถ้าจะใช้ iMac เป็นหน้าจอหลัก และเน้นเล่นวิดีโอ แนะนำให้เชื่อมต่อ Mac 2 เครื่องโดยเสียบสาย USB-C หรือ Thunderbolt 3 ที่รองรับ AirPlay 2 [3]
  5. คลิกไอคอน Screen Mirroring ใน Mac เครื่องที่ส่งสัญญาณ (เครื่องหลัก). ไอคอนจะเป็นสี่เหลี่ยม 2 อันซ้อนเหลื่อมกัน ทางซ้ายของไอคอน Bluetooth ในแถบเมนู คลิกแล้วจะเห็นรายชื่ออุปกรณ์ที่ใช้ AirPlay 2 ได้ พร้อมตัวเลือกบางส่วน สำหรับ mirror หรือ extend หน้าจอ
  6. ถ้าจะ mirror หรือแสดงภาพหน้าจอของ Mac เครื่องหลัก ไปยังหน้าจอ iMac ให้เลือก Mirror ถ้าจะ extend หรือต่อขยายหน้าจอให้ iMac เป็นหน้าจอที่ 2 ก็เลือก Use As Separate Display
  7. พอเลือก iMac จากในรายชื่ออุปกรณ์ที่รองรับ AirPlay แล้ว จะเห็นหน้าจอหลักของ Mac (แล้วแต่ว่า mirror หรือ extend) ในหน้าจอ
    • ตอน iMac เป็น AirPlay receiver จะแสดงเฉพาะหน้าจอหลักของ Mac
    • คุณเลิกใช้ AirPlay ได้จากใน iMac โดยขยับเมาส์ให้เมนูโผล่มา แล้วคลิก X ที่ด้านซ้ายบน
  8. ถ้าใช้ iMac เป็นหน้าจอที่ 2 อาจจะต้องจัดเรียงหน้าจอใหม่ให้เหมือนที่ใช้งานจริง เช่น ถ้า iMac อยู่ทางซ้ายของ Mac เครื่องหลัก ก็ต้องให้ขยับเมาส์ไปทางซ้ายแล้วเคอร์เซอร์โผล่มาในหน้าจอ iMac ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนการปรับแต่ง settings
    • คลิกไอคอน Screen Mirroring ในแถบเมนู
    • คลิก Display Preferences…
    • ลากหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวา ให้ตรงกับตำแหน่งหน้าจอจริงๆ
    • แถบเมนูสีขาวด้านบนของตัวอย่างหน้าจอ คือเครื่องหมายบอกหน้าจอหลัก ถ้าอยากกำหนดอีกหน้าจอเป็นหน้าจอหลักแทน ให้ลากแถบเมนูสีขาวไปที่หน้าจอนั้นแทน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้ Target Display Mode ใน iMac รุ่นเก่า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แต่ก่อน Target Display Mode เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ iMac เป็นหน้าจอของ Mac อีกเครื่องได้ แต่ตอนนี้หายไปจาก macOS เวอร์ชั่นใหม่แล้ว จะใช้ Target Display Mode ได้ก็ต่อเมื่อ
    • iMac เครื่องที่จะใช้เป็นหน้าจอ ต้องเป็นรุ่น 24 หรือ 27 นิ้ว ปี 2009 - 2010 (2552 - 2553) หรือ iMac ปี 2011 - กลางปี 2014 (2554 - 2557) [4] โดย iMac ที่ว่า ต้องใช้ macOS High Sierra หรือ เก่ากว่า ด้วย
    • Mac ที่จะเอามาต่อกับ iMac ต้องเป็นรุ่นปี 2019 (2562) หรือเก่ากว่า และใช้ macOS Catalina หรือ เก่ากว่า
  2. ต้องใช้สาย Thunderbolt หรือ Thunderbolt 2 เชื่อมต่อ Mac 2 เครื่องเข้าด้วยกัน ถ้า iMac เป็นรุ่นปี 2011 (2554) หรือใหม่กว่า ถ้า iMac ที่ใช้ เป็นรุ่นปี 2009 - 2010 (2552 - 2553) ต้องใช้สาย Mini DisplayPort
  3. จะใช้ iMac เป็นหน้าจอของ Mac เครื่องหลัก ได้เฉพาะกรณีที่ล็อกอินใน Mac เท่านั้น ถ้าตอนนี้อยู่หน้าล็อกอิน iMac จะสแกนไม่เจอ
    • ถ้าจะใช้ iMac เป็นหน้าจอมากกว่าเครื่องเดียว ก็ทำได้ ขอแค่เชื่อมต่อ iMac ทั้งหมดกับ Mac เครื่องหลักโดยตรง ด้วยสายที่รองรับ
  4. ต้องใช้คีย์บอร์ดที่เชื่อมต่อกับ iMac ไม่ใช่ Mac เครื่องหลัก พอกดแล้ว หน้าจอของ Mac เครื่องที่ต่อ จะ mirror แสดงภาพเดียวกับหน้าจอของ iMac
    • ถ้ากดคีย์ลัดแล้วหน้าจอ Mac อีกเครื่องไม่ขึ้น ให้กด Fn + Command + F2 แทน
    • ถ้ายังไม่ได้ผลอีก ให้ลองลงชื่อออกจาก iMac (ไม่ใช่ Mac เครื่องหลัก) แล้วกดคีย์ลัดในหน้าจอล็อกอิน
  5. ใช้คีย์บอร์ดกับเมาส์ของ Mac เครื่องหลัก ตอนอยู่ใน Target Display Mode. ตอนใช้ iMac เป็นหน้าจอ คีย์บอร์ดกับเมาส์ของ Mac เครื่องหลักจะยังควบคุมทุกอย่างในหน้าจออยู่
  6. พอออกจาก Target Display Mode แล้ว ทุกอย่างที่เปิดไว้ใน iMac ก่อนหน้านี้ จะกลับมาโผล่ในหน้าจอเดิม
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

วิธีอื่นๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Duet Display เป็นโปรแกรม third-party ที่ทำให้ใช้ iMac เป็นหน้าจอได้. Duet Display (พรีเมียม) เป็นโปรแกรมที่ติดตั้งใน iMac กับ Mac เครื่องหลักแล้วใช้ iMac เป็นหน้าจอได้ [5] แต่ต้อง subscribe หรือสมัครใช้ Duet Air แบบเสียเงินก่อน ถึงจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ แต่ก็อาจจะมีให้ทดลองใช้ฟรีก่อนได้ด้วย
  2. ลองใช้ Luna Display ทำให้ iMac เป็นหน้าจอหลักหรือหน้าจอต่อขยาย. Luna Display พัฒนาไปกว่า Target Display Mode คือทำให้ใช้ iMac (ทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่) เป็นหน้าจอต่อขยายได้ด้วย จะใช้งาน Luna Display ต้องซื้อ USB-C หรือ Mini DisplayPort dongle แยก แล้วเอามาต่อกับ Mac เครื่องหลัก จากนั้นติดตั้งโปรแกรมของ Luna ในทั้ง 2 เครื่อง [6]
  3. ถ้าแค่อยากได้หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ก็อาจจะต่อ Mac กับทีวี แล้ว ใช้ทีวีเครื่องนั้นแทนหน้าจอ ถ้ามี HDTV ที่มีพอร์ท Thunderbolt, Mini DisplayPort หรือ HDMI ก็ทำได้กระทั่งเล่นไฟล์เสียงจากใน Mac ผ่านทีวี [7]
  4. ถ้าทีวีที่ใช้ รองรับ AirPlay 2 หรือกระทั่งอุปกรณ์สตรีมมิ่งอย่าง Apple TV หรือ Roku รุ่นใหม่ๆ ก็ใช้ทีวีแทนหน้าจอ Mac ได้เลย แค่เปิดทีวีหรืออุปกรณ์สตรีมมิ่งที่รองรับ AirPlay จากนั้นเปิด Control Center ใน Mac แล้วคลิก Screen Mirroring [8]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,224 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา