ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
iMessage เป็นข้อความที่ส่งผ่านอินเทอร์เน็ต ระหว่างอุปกรณ์ iOS ด้วยกัน พอมี iMessage แล้ว iPhone, Mac, iPad และ iPod Touch จะสามารถรับข้อความได้เวลาต่อเน็ต Wi-Fi หรือ 3G/4G โดย iDevice จะส่ง iMessage อัตโนมัติ เวลาคุณส่งข้อความหาผู้ใช้อื่นที่มี iMessage เหมือนกัน
ขั้นตอน
-
ส่ง iMessage ผ่านแอพ Messages. ข้อความ iMessage จะส่งผ่านแอพ Messages เหมือนเวลาคุณส่ง SMS ซึ่งทั้ง iMessage และ SMS ที่คุณส่งหาเพื่อนคนเดียวกัน จะรวมกันอยู่ในแชทเดียว [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ส่งข้อความหาผู้ใช้ Apple คนอื่นได้แบบไม่เสียค่า SMS. iMessage ให้คุณส่งข้อความหาผู้ใช้ Apple คนอื่นๆ ได้ โดยที่ iMessage ไม่มีผลต่อค่า SMS ของคุณ จะเป็นการส่งข้อความอัตโนมัติ ไม่ต้องสลับเวลาจะส่งข้อความหาคนอื่น
- ข้อความที่ส่งหาผู้ใช้ iMessage คนอื่นๆ จะเป็นสีฟ้า ส่วนข้อความ SMS จะเป็นสีเขียว
-
เปิดใช้ iMessage ในทุกอุปกรณ์ Apple ของคุณ. iMessage จะพ่วงกันทุกอุปกรณ์ Apple ที่เชื่อมต่อไว้ ขอแค่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่จะใช้ iMessage ไม่ได้ ถ้าคุณใช้อุปกรณ์ Android หรือคอมพิวเตอร์ Windows [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เชื่อมต่อเน็ต Wi-Fi หรือเน็ตมือถือซะก่อน ถึงจะใช้ iMessage ได้. iMessage ทำงานได้ผ่านเน็ตเท่านั้น ต้องเชื่อมต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi หรือ 3G/4G ซะก่อน ถึงจะใช้ได้ ถ้า iPhone ของคุณยังไม่ต่อเน็ต iMessage จะสลับไปเป็นโหมด SMS แทน ถ้า iPod หรือ iPad ยังไม่ต่อเน็ต ก็จะใช้ iMessage ไม่ได้
- iMessage จะไม่มีผลต่อค่าบริการ SMS ของคุณ แต่จะ iMessage จะมีผลต่อค่าเน็ตมือถือตามแพ็คเกจที่ใช้ เว้นแต่จะเปลี่ยนไปต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi แทน
โฆษณา
-
สร้าง Apple ID. จะใช้ iMessage ได้ ต้องมี Apple ID ซะก่อน สมัครได้ฟรี แล้วล็อกอินทุกอุปกรณ์ด้วย ID นี้ iMessage จะ sync ข้อมูลกันทุกอุปกรณ์
- คุณสมัคร Apple ID ได้ฟรี ที่ appleid.apple.com/account โดยกรอกอีเมลที่ใช้การได้ เพราะต้องใช้ยืนยันบัญชี
-
ล็อกอินอุปกรณ์ iOS ด้วย Apple ID. พอมี Apple ID แล้ว ก็ใช้ล็อกอินใน iPhone, iPad หรือ iPod Touch ได้เลย โดย ID เดียวใช้ล็อกอินได้หลายอุปกรณ์พร้อมกัน
- เปิดแอพ Settings แล้วเลือก "Messages"
- เปิดสวิตช์ "iMessage" ไปที่ on แล้วแตะ "Use your Apple ID for iMessage" (เฉพาะ iPhone)
- ใส่ Apple ID กับรหัสผ่าน อาจจะต้องรอสักพัก กว่า iMessage จะ activate
-
เปิดใช้ iMessage ในคอมพิวเตอร์ OS X. คุณรับ-ส่ง iMessages จากคอมพิวเตอร์ OS X เวอร์ชั่น Mountain Lion หรือใหม่กว่าได้
- เปิดแอพ Messages ปกติอยู่ใน Dock หรือโฟลเดอร์ Applications
- คลิกเมนู "Messages" แล้วเลือก "Preferences"
- เช็คก่อนว่าเลือก Apple ID ไว้ ถ้ายังไม่ได้ล็อกอิน Apple ID ให้คลิกปุ่ม + แล้วล็อกอิน
- เลือก "Enable this account" เท่านี้ก็รับ-ส่ง iMessage ได้แล้ว
โฆษณา
-
กำหนด address ที่จะใช้งาน. ถ้าใช้ iPhone จะส่ง iMessage ไปที่เบอร์โทรหรืออีเมลก็ได้ ถ้าพ่วงบัญชีไว้หลายอีเมล ให้เลือกอีเมลที่จะใช้
- เปิดแอพ Settings ในอุปกรณ์ของคุณ แล้วเลือก "Messages"
- แตะ "Send & Receive" แล้วแตะ address เพื่อเปิดใช้ หรือจะเพิ่มอีเมลอื่นที่อยากใช้งานก็ได้ แต่จะพ่วงอีเมล Apple ID กับอุปกรณ์ ได้ทีละ 1 บัญชีเท่านั้น
- เลือก address หรือเบอร์โทรที่จะใช้ส่งข้อความ
-
เปิดแอพ Messages. ทั้ง SMS และ iMessage จะส่งผ่านแอพ Messages
-
แตะปุ่ม "Compose" เพื่อเริ่มบทสนทนา. คุณเริ่ม conversation หรือห้องแชทใหม่ได้ โดยเลือกคนจากใน contacts list แต่จะใช้ iMessage ได้ก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายใช้ iMessage เหมือนกัน
-
เช็คปุ่ม "Send". คุณเช็คได้ว่าข้อความเป็น SMS ธรรมดา หรือ iMessage โดยดูที่สีของปุ่ม Send ถ้าปุ่มเป็นสีฟ้า แสดงว่าส่งข้อความแบบ iMessage ถ้าปุ่มเป็นสีเขียว แสดงว่าส่งแบบ SMS
- iPad และ iPod จะส่งข้อความไปยังผู้ใช้ iMessage อื่นเท่านั้น
-
แนบไฟล์รูปและคลิป. คุณแนบไฟล์ media ในข้อความได้ เหมือนเวลาส่งข้อความตามปกติ คุณส่ง iMessage ได้แบบไม่เสียค่าบริการ MMS เลย
- แตะปุ่ม Camera มุมซ้ายล่างของห้องแชท
- แตะตัวเลือก Photo Library แล้วจะเห็นรูปและวิดีโอทั้งหมดในเครื่อง
- แตะรูปหรือวิดีโอที่จะใส่ในข้อความ
- ส่งข้อความ ถ้าส่งข้อความผ่านเน็ตมือถือ ก็จะเสียค่าบริการตามแพ็คเกจที่คุณใช้งาน
โฆษณา
-
ส่งข้อความเสียงด้วย iMessage. คุณส่งข้อความเสียง (voice memo) ไปให้คนใน contacts ของ iMessage ได้ แต่เฉพาะคนใช้ iOS 8 หรือใหม่กว่า
- เปิดห้องแชทใน Messages
- กดปุ่มไมโครโฟนที่มุมขวาล่างค้างไว้
- กดปุ่มค้างไว้ แล้วพูดข้อความที่ต้องการจะบันทึก
- ปัดขึ้น เพื่อส่งข้อความเสียงที่บันทึกไว้
-
แชร์โลเคชั่นไปให้เพื่อน. คุณแชร์โลเคชั่นจาก Apple Maps ไปยัง contacts ไหนใน iMessage ก็ได้
- เปิดแอพ Maps แล้วหาโลเคชั่นที่จะแชร์
- แตะปุ่ม Share มุมขวาบน
- เลือก "Message" จากในรายชื่อตัวเลือก แตะ "Send" เพื่อส่งโลเคชั่น พอผู้รับแตะแผนที่ในแชทแล้ว แอพ Maps ก็จะเปิดขึ้นมา
-
ปิดตัวอย่าง iMessage ในหน้า lock screen ของอุปกรณ์. ตามค่า default ตัวอย่างข้อความจะโผล่มาในหน้า lock screen ของอุปกรณ์ ถ้ากลัวใครจะมาแอบอ่าน จะปิดไปก็ได้ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เปิดแอพ Settings แล้วเลือก "Notifications"
- แตะตัวเลือก "Messages" แล้วเลื่อนลงไปที่ "Show Previews" จากนั้นเลื่อนสวิตช์ไปที่ off
-
ตั้งค่าลบ iMessage เก่าๆ อัตโนมัติ. ข้อความเก่าๆ เก็บไว้ก็เปลืองพื้นที่ในเครื่อง โดยเฉพาะพวกไฟล์รูปและวิดีโอ ตามค่า default เครื่องจะไม่ลบข้อความ จะเก็บประวัติข้อความไว้ทั้งหมด คุณก็ตั้งค่าได้ ให้อุปกรณ์ iOS ลบข้อความเก่าอัตโนมัติ ถ้าใช้ iOS 8 หรือใหม่กว่า
- เปิดแอพ Settings แล้วเลือก "Messages"
- แตะตัวเลือก "Keep Messages" จากนั้นเลือก "30 Days" หรือ "1 Year" จะมีถามว่าจะลบข้อความในเครื่องที่เก่ากว่าเวลาที่กำหนดหรือเปล่า
-
ออกจากกลุ่มแชท ถ้าไม่อยากให้มีแจ้งเตือน. คุณออกจากกลุ่มแชทที่เคยส่งข้อความหากันได้ ถ้าไม่อยากให้มีแจ้งเตือนขึ้นมาอีก แต่จะทำได้ต่อเมื่อ ทุกคน ในกลุ่มใช้ iMessage และ iOS 8 ขึ้นไป
- เปิดห้องแชทที่จะออกจากกลุ่ม
- แตะตัวเลือก "Details" มุมขวาบน
- เลื่อนลงไปแตะ "Leave this Conversation" ถ้าตัวเลือกจาง แสดงว่าคนในกลุ่มอย่างน้อย 1 คน ไม่ได้ใช้ iMessage ใน iOS 8 หรือใหม่กว่า
-
เลื่อน "Read Receipts" ให้แสดงหรือซ่อน ว่าคุณอ่านข้อความแล้ว. คนใน contacts ของ iMessage จะเช็คได้ว่าคุณอ่านข้อความล่าสุดของเขาหรือยัง แต่จะปิดฟีเจอร์นี้ก็ได้ ถ้าไม่อยากเปิดเผยข้อมูล
- เปิดแอพ Settings แล้วเลือก "Messages"
- เลื่อน "Send Read Receipts" ไปที่ on หรือ off ตามต้องการ
โฆษณา
-
เช็คสัญญาณเน็ต. จะใช้ iMessage ได้ ต้องต่อเน็ตซะก่อน ถ้าโหลดหน้าเว็บไหนไม่ได้เลย แสดงว่าสัญญาณเน็ตมีปัญหา ไม่ได้เป็นที่ iMessage ให้ลองตัดเน็ตแล้วเชื่อมต่อ Wi-Fi ใหม่อีกที หรือรีสตาร์ทเครื่องซะเลย
- คุณเช็คสถานะบริการ iMessage ได้ที่ apple.com/support/systemstatus/
-
เช็ค iMessage settings ถ้าส่งข้อความปกติไม่ได้. บาง settings ของ iMessage อาจจะทำให้เกิดปัญหาการใช้งานได้
- เปิดแอพ Settings ในอุปกรณ์ iOS แล้วเลือก "Messages"
- เช็คก่อนว่าเปิดใช้ "Send as SMS" แล้ว แบบนี้ถ้า iMessage เกิดใช้ไม่ได้ขึ้นมา ก็จะส่งข้อความเป็น SMS แทน
- แตะตัวเลือก "Text Message Forwarding" แล้วปิดใช้ forwarding. forwarding ให้คุณรับ-ส่ง SMS ได้ด้วยทุกอุปกรณ์ iCloud แต่ขึ้นชื่อเรื่องมีปัญหาการใช้งาน
-
เช็ค date and time settings. iMessage อาจจะเปิดใช้งานไม่ได้ ถ้าเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ iMessage โดยใช้วันและเวลาที่ผิด
- เปิดแอพ Settings แล้วแตะ "General"
- เลือก "Date & Time" แล้วเช็คว่า location settings ถูกต้องแล้ว
-
รีสตาร์ทอุปกรณ์ก่อน ถ้ารับ-ส่งข้อความไม่ได้. บางทีแค่ลองรีสตาร์ทเครื่องดู ก็แก้ปัญหาการใช้งาน iMessage ได้ ให้กดปุ่ม Sleep/Wake ของอุปกรณ์ iOS ค้างไว้ เลื่อนแถบ Power ปิดเครื่อง จากนั้นกดปุ่ม Sleep/Wake ค้างไว้เพื่อเปิดเครื่องกลับมา
-
รีเซ็ตระบบ ถ้ายังใช้ iMessage ไม่ได้. บางทีรีเซ็ตระบบก็เป็นทางเดียวที่จะแก้ปัญหาอุปกรณ์ iOS ได้ แต่ต้อง backup ข้อมูลด้วย iTunes ซะก่อน แล้วค่อยโหลดกลับลงเครื่องหลังรีเซ็ตแล้ว
- เชื่อมต่ออุปกรณ์ iOS กับคอม แล้วเปิด iTunes จากนั้นเลือกอุปกรณ์ iOS จากปุ่มที่เรียงกันอยู่ด้านบน
- คลิกปุ่ม Back Up Now เพื่อ backup ข้อมูลจากอุปกรณ์ iOS ลงคอม
- คลิกปุ่ม Restore iPhone/iPad/iPod...
- รอจนรีเซ็ตอุปกรณ์เสร็จ แล้วเลือกไฟล์ backup ที่เพิ่งสร้าง ตอนตั้งค่าอุปกรณ์ ถ้าอยากอ่านขั้นตอนโดยละเอียด ให้ลองค้นหาเพิ่มเติมในเน็ตดู
-
ปิดการทำงานของ iMessage ถ้าจะเปลี่ยนไปใช้มือถือที่ไม่ใช่ของ Apple. ให้ปิด iMessage ก่อนจะเปลี่ยนมือถือ ไม่งั้นอาจไม่ได้รับข้อความที่ contacts เก่าใน iMessage ส่งมา [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้า iPhone ยังอยู่ ให้เปิดแอพ Settings แล้วเลือก "Messages" เลื่อนสวิตช์ "iMessage" ไปที่ OFF อาจจะต้องรอหน่อย กว่าเซิร์ฟเวอร์ iMessage จะใช้ค่าใหม่
- ถ้า iPhone เครื่องเก่าไม่อยู่แล้ว ให้เข้าเว็บ selfsolve.apple.com/deregister-imessage แล้วกรอกเบอร์โทร จะได้ SMS พร้อมโค้ดในมือถือเครื่องใหม่ ให้ใส่โค้ดนี้ในช่องที่ 2 ของหน้าเว็บ เพื่อปิด iMessage
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา