ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การให้อภัยนั้นทำได้ยาก การยอมรับว่ามีปัญหาและการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นต้องใช้เวลา ความอดทน และความกล้า แต่การให้อภัยตนเองเมื่อกระทำผิดพลาดไปเป็นสิ่งที่ยากลำบากยิ่งกว่า ฉะนั้นการให้อภัยตนเองจึงไม่ใช่การกระทำที่ทำได้ง่ายดาย แต่เราก็สามารถเรียนรู้ที่จะให้อภัยตนเองได้ด้วยการรู้จักตนเองและเข้าใจว่าชีวิตไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น แต่เป็นการเดินทาง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

ฝึกให้อภัยตนเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้ารู้ตัวว่าเราเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นมา เราอาจรู้สึกผิดและอยากได้รับการให้อภัย เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราอาจรู้สึกทุกข์ใจ ลองถามตนเองว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้
    • ฉันรู้สึกแบบนี้เพราะผลจากการกระทำของตนเองทำให้ฉันรู้สึกแย่หรือ
    • ฉันรู้สึกแบบนี้เพราะฉันเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายหรือ
  2. ทุกคนก็ต่างทำผิดพลาดกันได้ในชีวิต อย่าคิดว่าการทำอะไรผิดพลาดไปสักอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือความสัมพันธ์ทำให้เราเป็นคนที่แย่ อย่างที่บิลเกตเคยพูดเอาไว้ว่า “การฉลองความสำเร็จเป็นเรื่องดี แต่การใส่ใจบทเรียนจากความล้มเหลวนั้นสำคัญกว่า” [1] การเรียนรู้จากความผิดพลาดเป็นขั้นตอนหนึ่งของการให้อภัยตนเอง
  3. อย่ากลัวที่จะเริ่มใหม่อีกครั้งเพื่อเราจะได้ให้อภัยตนเองได้จริงๆ การเรียนรู้ที่จะให้อภัยตนเองไม่ใช่แค่การเรียนรู้ที่จะอยู่กับอดีต แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีตด้วย ดูสิว่าเราได้เรียนรู้อะไรจากประสบการณ์นี้บ้างและนำมาใช้พัฒนาตนเองให้ดีขึ้น [2]
  4. ปรับความคิดใหม่หลังจากได้เรียนรู้ความผิดพลาดในอดีต. วิธีหนึ่งที่จะทำให้ตนเองเดินหน้าต่อไปได้คือนำสิ่งที่เราได้เรียนรู้มาปรับใช้ [3]
    • ตั้งเป้าหมายซึ่งสนับสนุนให้เราพัฒนาตนเองและจิตใจต่อไป การมองอนาคตอาจช่วยเราให้อภัยตนเองในปัจจุบันได้ เพราะเห็นว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่างให้ดีขึ้นได้ [4]
    • เมื่อไรก็ตามที่รู้สึกผิดขึ้นมา ให้ทำตามคำพูดของเลส บราวน์ ที่กล่าวไว้ว่า “ให้อภัยข้อบกพร่องและความผิดพลาดของตนเอง แล้วก้าวเดินต่อไป”
    โฆษณา


วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

ปล่อยวางอดีต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เราอาจอยากให้อภัยตนเองเพราะเราไม่ได้ตั้งใจทำให้เกิดความเดือดร้อน เราต้องรู้ว่าตนเองไม่ได้เป็นต้นเหตุของผลลัพธ์อันเกิดมาจากการกระทำของคนอื่น คนเราต่างก็ทำผิดพลาดกันได้ และมีหลายครั้งในชีวิตที่กระทำสิ่งต่างๆ ออกมาได้ไม่ดี เมื่อรู้แบบนี้ เราอาจสามารถเยียวยาตนเองได้
  2. การเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตเป็นเรื่องดี แต่การจมปลักอยู่กับความผิดพลาดอาจทำให้เราไม่ยอมให้อภัยตนเองเสียที การเอาแต่คิดใคร่ครวญถึงความผิดพลาดซ้ำไปซ้ำมาอาจทำให้เราลืมนึกถึงความจริงในปัจจุบัน ชีวิตของเราอาจเริ่มหยุดนิ่งอยู่กับที่เพราะเราเอาแต่คิดว่าเราน่าจะทำอย่างนั้นหรือเราไม่น่าจะทำอย่างนี้ จงจดจ่ออยู่กับปัจจุบันและดูสิว่าเราสามารถทำอะไรในอนาคตได้บ้างเพื่อทำให้ชีวิตดีขึ้นกว่าเดิม
  3. ใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้จากอดีตมาวางแผนอนาคตให้สดใส. ลองใช้วิธี “แก้ไขและเดินหน้าต่อไป” ในการดำรงชีวิต ถ้าเราประสบกับเหตุการณ์เลวร้ายซึ่งคล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ให้ดูสิว่าเราพอจะจัดการอะไรได้บ้าง
    • พยายามแก้ปัญหาที่เรารู้ว่าสามารถจัดการได้อย่างจนสุดความสามารถ ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ก็ให้พยายามปล่อยไป เราไม่อยากทำผิดพลาดซ้ำอีก ฉะนั้นเมื่อเกิดปัญหา จงพยายามแก้ไขอย่างถึงที่สุด [5]
  4. การรู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ในปัจจุบันสามารถช่วยเยียวยาเราในอนาคตได้ [6] ถ้าเราฝึกการรู้ตัวอยู่เสมอและยอมรับการกระทำที่เราเลือกตอนนี้ การมีสติจะช่วยเราสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิมและช่วยให้เราให้อภัยกับการกระทำหรือยอมรับผลของการกระทำในอดีต
  5. ถึงเราไม่อยากจมปลักอยู่กับอดีต แต่เราก็ต้องเรียนรู้จากอดีตเพื่อจะได้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงมากขึ้น
    • ทางหนึ่งที่จะให้อภัยตนเองได้คือหาสิ่งกระตุ้นหรือสาเหตุที่ทำให้เกิดความรู้สึกต่างๆ ในตอนนั้นให้พบ ถ้าเราหาพบว่าเราทำอะไรไปตอนนั้น เราก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติของตนเองในอนาคตได้
    • ถามตนเองว่า “เราทำอะไรลงไปตอนนั้น และฉันควรทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลลัพธ์เดียวกัน” [7]
  6. หาให้พบว่าสถานการณ์ใดที่ทำให้เราเกิดอารมณ์ความรู้สึกที่รุนแรง. วิธีนี้จะช่วยให้เรารู้ได้อย่างแม่นยำว่าสถานการณ์ใดทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ พอเราหาพบแล้ว เราจะสามารถคิดหาทางแก้ปัญหาได้ง่าย ลองถามตนเองว่า
    • รู้สึกวิตกกังวลหรือรู้สึกผิดเวลาเข้าไปใกล้หัวหน้าไหม
    • รู้สึกถึงอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่ดีอย่างรุนแรงเวลาพูดคุยกับคู่ชีวิตหรือเปล่า
    • การใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่ทำให้ฉันโกรธหรือหงุดหงิดบ้างไหม
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

หาทางให้อภัยตนเองและผู้อื่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เหมือนที่นักปรัชญาแดริดาเคยกล่าวไว้ว่า “การให้อภัยนั้นน่าสับสนอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งก็เป็นวิธีการซึ่งได้รับวางแผนมาเป็นอย่างดีโดยมีเรื่องต่างๆ เช่น ข้ออ้าง ความเสียใจ การยกโทษ เงื่อนไข เป็นต้น เข้ามาเกี่ยวข้อง” [8] .
    • การให้อภัยต้องอาศัยทั้งตัวเราและผู้อื่น เราอาจไม่สามารถให้อภัยตนเองได้ ถ้าเราไม่เรียนรู้ที่จะให้อภัยผู้อื่น เราอาจต้องให้ผู้อื่นเข้ามาช่วยเหลือและให้กำลังใจเราเพื่อที่จะสามารถให้อภัยตนเองได้
    • ขอให้คนที่เรารักช่วยเหลือเมื่อเรากำลังพยายามอย่างหนักที่จะให้อภัยตนเอง
  2. เราต้องรู้ว่าจะให้อภัยตนเองเรื่องอะไรก่อนที่จะให้อภัยตนเองได้ การเขียนแนวทางออกมาเป็นขั้นตอนอย่างละเอียดจะช่วยเราให้จดจ่อกับสิ่งที่สำคัญและได้วิธีการที่จะให้อภัยตนเองหรือผู้อื่น [9] ลองทำตามคำแนะนำข้างล่างนี้ดู จะได้สร้างขั้นตอนการให้อภัยขึ้นมาได้
    • ขออภัยด้วยการพูดออกไปตรงๆ ไม่อ้อมค้อม พูดว่า “ฉันขอโทษ” หรือถามว่า “ให้อภัยฉันได้ไหม” ไปเลย อย่าพูดจาคลุมเครือ หรือแสดงให้เห็นว่าไม่จริงใจ
    • ลองดูสิว่าเราสามารถทำอย่างไรได้บ้างเพื่อจะแก้ปัญหาได้จริงๆ ถ้าเรากำลังขอผู้อื่นให้อภัยตนเอง เราต้องรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ถ้าเรากำลังให้อภัยตนเองอยู่ ลองถามตนเองว่าต้องทำอะไรบ้างถึงจะก้าวต่อไปได้และมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิต
    • สัญญากับตนเองและผู้อื่นว่าเราจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้นในอนาคต คำขออภัยจะไม่มีความหมาย ถ้าเราไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ เราต้องไม่ทำผิดพลาดซ้ำอีก
  3. ถ้าเราขอผู้อื่นให้อภัยเรา ตัวเราเองจะรู้สึกดีขึ้น
    • บางครั้งการขจัดความคลางแคลงใจให้หมดไปสามารถช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และยังแสดงให้เห็นด้วยว่าเราใส่ใจปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ถึงแม้จะเป็นปัญหาเล็กน้อยก็ตาม [10] การขอภัยจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่น่าพึงใจและทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

รับผิดชอบการกระทำของตนเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนที่เราจะให้อภัยตนเองได้อย่างสมบูรณ์ เราต้องยอมรับการกระทำของตนเองก่อน
    • การเขียนว่าเรามีอารมณ์รุนแรงกับการกระทำอะไรบ้างอาจช่วยได้ วิธีนี้จะช่วยให้เห็นสาเหตุชัดเจนว่าทำไมเรารู้สึกแย่กับตนเอง
  2. หยุดหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง เริ่มแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำและคำพูดของตนเอง. วิธีหนึ่งที่จะสามารถแสดงความซื่อสัตย์ของตนเองได้คือยอมรับผลการกระทำของตนเอง ถ้าเราได้ทำหรือพูดอะไรผิดไป เราต้องยอมรับว่าพูดและกระทำผิดเสียก่อน แล้วจึงให้อภัยตนเองที่ทำแบบนั้น
    • วิธีหนึ่งที่จะทำให้เราอภัยให้ตนเองได้สำเร็จคือปลดปล่อยความเครียด ยิ่งเก็บความเครียดไว้มาก ก็ยิ่งทำอะไรให้ตนเองเสียหายได้มาก
    • ความเครียดบางครั้งทำให้เราต้องปลดปล่อยความโกรธออกมาจนทำร้ายตนเองและผู้คนรอบข้าง แต่ถ้าเราให้อภัยตนเอง ความโกรธจะหายไปและเรื่องที่ไม่ดีก็จะหายไปด้วย ผลคือเราจะจดจ่อกับเรื่องดีๆ แทนเรื่องแย่ๆ
  3. การแสดงความรับผิดชอบคือเรื่องหนึ่ง แต่การเข้าใจความรู้สึกต่างๆ ที่ซ่อนอยู่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การรู้สึกถึงความรู้สึกที่รุนแรงอย่างเช่น ความรู้สึกผิดไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่เป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ เพราะการรู้สึกผิดจะกระตุ้นให้เราลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อตนเองและผู้อื่น [11] .
    • เราอาจกำลังรู้สึกผิดที่คิดอะไรไม่ดี เราอาจคิดอยากให้ผู้อื่นพบความเจ็บปวดและโชคร้าย เราอาจรู้สึกรักใคร่ใครสักคนจนอยากเป็นเจ้าเข้าเจ้าของหรืออยากได้ของคนอื่น
    • ถ้าเรารู้สึกผิดจนคิดอะไรไม่ออก จงรู้ไว้ว่าความรู้สึกผิดเป็นเรื่องปกติ ความรู้สึกผิดของเราอาจเกิดจากอารมณ์ความรู้สึกที่รุนแรงเหล่านี้ ฉะนั้นเผชิญหน้ากับอารมณ์ความรู้สึกพวกนี้ดีที่สุดและรับรู้ถึงสาเหตุว่าทำไมเราถึงกำลังรู้สึกแบบนี้ แค่ทำตามวิธีนี้ เราก็จะสามารถให้อภัยตนเองได้แล้ว
    • ความรู้สึกผิดอาจทำให้เราตัดสินตนเอง (หรือผู้อื่น) รุนแรงเกินไป เราอาจกำลังระบายความรู้สึกใส่ตนเองและผู้อื่น จึงทำให้เรารู้สึกผิดกับการกระทำของตนเอง เราอาจโทษคนอื่นเพราะรู้สึกไม่มั่นคงและยิ่งเพิ่มความรู้สึกผิดเข้าไปอีก
    • ถ้าเรากำลังโทษคนอื่น ให้ถอยกลับมาและหาสาเหตุว่าทำไมเราถึงพูดออกไปแบบนั้น วิธีนี้ช่วยให้เราสามารถให้อภัยตนเองได้
    • เราอาจรู้สึกผิดเพราะการกระทำของผู้อื่นได้ การรู้สึกผิดเพราะคู่ชีวิตกระทำผิดเป็นเรื่องธรรมดา เราอาจรู้สึกผิดที่คู่ชีวิตกระทำผิดหรือวิตกกังวลได้
    • เราควรหาสาเหตุว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้เพื่อจะได้รู้ว่าควรให้อภัยตนเองหรือคนอื่นไหม [12]
  4. ก่อนที่จะให้อภัยตนเอง เราต้องหาให้พบว่าค่านิยมและความเชื่อของตนเองคืออะไร [13] ให้เวลาตนเองคิดว่าจะไถ่โทษเรื่องที่เรารู้สึกผิดอย่างไร คิดว่าเราจะทำให้แตกต่างออกไปอย่างไร ค่านิยมและความเชื่ออาจมาจากระบบความเชื่อทางจิตวิญญาณหรือความต้องการของสังคม
  5. ใคร่ครวญว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องมีและอะไรคือสิ่งที่เราต้องการ. ทางหนึ่งที่จะให้อภัยตนเองเพราะรู้สึกว่าตนเองขาดอะไรบางอย่างไปคือหาให้พบว่าอะไรคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องมีในชีวิตและอะไรคือสิ่งที่เราต้องการ แล้วจึงนำมาเปรียบเทียบกัน
    • หาให้พบว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นต้องมี เช่น ที่พัก อาหาร และความต้องการทางสังคม และนำมาเปรียบเทียบกับอะไรที่เราต้องการ เช่น อยากมีรถหรูขับ อยากมีบ้านหลังใหญ่ อยากหุ่นดี การเปรียบเทียบสิ่งที่เราจำเป็นต้องมีและสิ่งที่เราต้องการจะช่วยให้รู้ว่าเราลำบากตนเองมากไปหรือเปล่าหรือสิ่งต่างๆ อยู่เหนือการควบคุมของเราไหม [14]
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

ท้าทายตนเองให้ทำดีขึ้นกว่าเดิม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ลองท้าทายตนเองสักหน่อยเพื่อจะได้ช่วยให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม และป้องกันตนเองไม่ให้กลับไปลังเลสงสัยและรู้สึกผิดอีก [15]
    • เราท้าทายตนเองด้วยการเริ่มทำกิจวัตรอะไรสักอย่างที่ช่วยปรับปรุงตนเองเป็นเวลาหนึ่งเดือน เราจะเริ่มการพัฒนาตนเองได้ด้วยการทำกิจวัตรเป็นเวลาหนึ่งเดือน เช่น การติดตามและควบคุมปริมาณแคลอรี วิธีนี้จะช่วยให้เราให้อภัยตนเองได้สำเร็จด้วยการทำสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์
  2. พยายามประเมินผลการทำงานเพื่อหาวิธีการที่จะพัฒนาตนเอง
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเห็นว่าตนเองรู้สึกผิดที่ผัดวันประกันพรุ่ง ให้เขียนรายการภารกิจที่ต้องทำและลองทำตามรายการที่เขียนดู การรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่เราควบคุมได้นั้นสำคัญ วิธีนี้จะทำให้เราได้ปรับปรุงตนเองและได้ให้อภัยตนเอง
  3. การรู้จักตนเองคือความสามารถที่จะคาดเดาผลของการกระทำของตนได้ [16] การคิดถึงตนเองและการกระทำของตนช่วยให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นได้ด้วยการสร้างศีลธรรมให้แก่ตนเอง เรารู้จักตนเองได้ด้วยการสังเกตเห็นจุดแข็ง สังเกตปฏิกิริยาของเราที่มีต่อสถานการณ์ต่างๆ และสังเกตการแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง [17]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ให้จดจ่อกับปัจจุบันและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตแทนที่จะนึกถึงแต่อดีต จำไว้ว่าอดีตไม่ได้กำหนดเรา! เราเป็นคนยอดเยี่ยม! เราเป็นคนสวย! เรียนรู้จากความผิดพลาด ให้อภัยตนเองแล้วเดินหน้าต่อไป!
  • คิดสิว่าในอดีตเราให้อภัยคนอื่นอย่างไร นำบทเรียนจากประสบการณ์เหล่านี้มาใช้กับสถานการณ์ของตนเอง แต่สิ่งที่แน่นอนคือเรารู้ว่าตนเองสามารถให้อภัยได้ เราแค่ต้องรู้ให้แน่ชัดว่าการให้อภัยเป็นวิธีที่เหมาะสมแล้ว
  • ความผิดพลาดในอดีตนั้นทำให้เราเป็นเราอย่างทุกวันนี้ ฉะนั้นอย่ามองว่าเป็นความผิดพลาด ให้มองว่าเป็นเครื่องนำทาง
  • ความผิดพลาดไม่ใช่ตัวกำหนดเรา จงเชื่อมั่นว่าเราเป็นคนที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง ลองคิดถึงความผิดพลาดอันใหญ่หลวงที่คนทั่วไปหรือคนดีๆ ได้ทำและเรียนรู้ ความผิดพลาดของเราไม่ได้หนักหนาอะไรเลย!
  • คนเราต้องพบเจอเรื่องดีและเรื่องแย่ในชีวิต เหมือนกับที่บางครั้งเราได้ทำเรื่องดีและเรื่องแย่ลงไป ปฏิกิริยาตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ไม่ดีนั้นสำคัญพอกับปฏิกิริยาตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ดี คนที่มักจะครุ่นคิดแต่สิ่งที่ไม่ดีและก่อเรื่องที่ไม่ดีจะมีโอกาสดำรงชีวิตอยู่ด้วยความโกรธ ความแค้น และคิดแต่ว่าจะเจอเรื่องเลวร้ายในอนาคตมากกว่าคนที่มองเหตุการณ์ต่างๆ เป็นเรื่องๆ ไปและคิดว่าแต่ละเหตุการณ์ไม่ได้มีผลต่อชีวิตทั้งหมด [18]
  • การให้อภัยตนเองและผู้อื่นไม่ได้หมายถึงการลืมอดีต ถึงเราจะให้อภัยไปแล้วแต่ความทรงจำนั้นยังคงอยู่ เหมือนกับวงจรแห่งความเศร้า
  • ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ฉะนั้นจงให้อภัยและลืมเรื่องที่เลวร้ายเสียบ้าง
  • จงให้อภัยคนที่ทำผิดต่อเรา หวังว่าสักวันคนคนนั้นจะนึกออก สำนึกผิด และมาขอเราให้อภัย หรือให้อภัยตนเอง เดินหน้าต่อไป เพราะชีวิตนั้นสั้นเหลือเกินและมีความค่าเกินกว่าจะมาใช้นั่งอมทุกข์
  • เล่นของเล่นคลายเครียด เมื่อเรารู้สึกผิด ให้เล่นของเล่นนั้นเสีย
  • วิธีที่จะให้อภัยตนเองได้ดีเยี่ยมอีกวิธีหนึ่งคือช่วยเหลือคนอื่น เราจะได้รับความเห็นอกเห็นใจจากคนอื่น และความเห็นใจตนเองจะเอาชนะความรู้สึกผิดได้ จำไว้ว่าอย่าเอาแต่คิดเรื่องที่เราได้ทำผิดพลาดไปเพราะชีวิตนั้นสั้นเกินกว่าที่จะใช้มานั่งอมทุกข์
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าจำใจไปคบกับคนที่ชอบขุดคุ้ยอดีตของเรา คนที่ดึงเราให้ตกต่ำ ไม่เห็นคุณค่าหรือดูถูกเรา และเลิกคบคนที่ไม่สนใจจะช่วยเหลือเราเวลามีปัญหาเดือดร้อน
  • อยู่ห่างคนที่มักจะขัดขวางไม่ยอมให้เราพัฒนาตนเอง ในเวลาส่วนใหญ่คนพวกนี้พยายามหาประโยชน์จากความอ่อนด้อยของคนอื่นและรู้สึกถูกคุกคามเมื่อเห็นใครสักคนพยายามเอาชนะแรงกดดันต่างๆ ในชีวิต ยอมรับว่าการให้อภัยตนเองบางครั้งก็ทำให้เราได้ยุติความสัมพันธ์ที่ไม่ดีซึ่งเกิดจากคนอื่นพยายามใช้อำนาจกดขี่เรา ถามตนเองว่าเราอยากดำเนินความสัมพันธ์ที่ไม่นำมาซึ่งความสุขนี้ต่อไป หรืออยากเดินหน้าต่อไปเลยและเป็นคนใหม่ที่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับคนที่ดีกว่ากันแน่
  • อย่าพูดเรื่องที่เราเคยกระทำผิดหรือเคยเป็นคนไม่ดีให้ผู้อื่นฟัง เพราะความจริงนี้จะเป็นภาพติดอยู่ในใจคนอื่นด้วย เข้ารับการบำบัดเพื่อเอาความคิดลบออกจากสมองและจะได้ไม่นึกขึ้นมาอีก
  • การให้อภัยนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากที่สุด แต่สำคัญที่สุด ในระหว่างที่เราเรียนรู้ที่จะให้อภัยตนเองและผู้อื่น เราจะได้พัฒนาความงอกงามแห่งตน และนั้นจะเป็นรางวัลจากการฝึกให้อภัยที่เราควรได้รับ


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,697 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา