ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หอยทากเป็นสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงง่าย เหมาะกับการทำโปรเจกต์ส่งครู สอนให้เด็กรู้จักการดูแลสิ่งมีชีวิต หรือเพื่อดูว่าเด็กพร้อมที่จะมีสัตว์เลี้ยงหรือยัง หอยทากแต่ละสายพันธุ์อาจจะกินอาหารไม่เหมือนกัน แต่ในภาพรวมก็เป็นสัตว์ที่กินง่าย ไม่ว่าคุณจะเลี้ยงหอยทากบกหรือหอยทากน้ำจืดหรือเลี้ยงทั้งสองชนิด คุณก็สามารถหาอาหารที่ทั้งอร่อยและช่วยบำรุงหอยทากสัตว์เลี้ยงของคุณได้ไม่ยาก

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ให้อาหารหอยทากบก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกผัก ผลไม้ เมล็ดพืช และธัญพืชที่หอยทากกินได้ให้หลากหลาย. หอยทากบกชอบกินอาหารหลากหลาย หลักๆ แล้วก็จะเป็นผักผลไม้สด แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ก็สามารถให้หอยทากกินอาหารเต่าแช่น้ำได้ แต่อาหารหลักของหอยทากควรเป็นผักและผลไม้ รวมถึงเมล็ดพืชและธัญพืชทำสุกแล้ว อย่าให้หอยทากกินหอมหัวใหญ่ อาหารรสเค็ม และผลไม้ตระกูลส้มเพราะมันไม่ชอบแล้วมันก็จะไม่ค่อยกิน [1] อาหารที่หอยทากกินได้มีดังนี้ :
    • ผลไม้ : แอปเปิล แอพริคอต องุ่น กีวี มะม่วง เมลอน เนคทารีน ราสป์เบอร์รี สตรอว์เบอร์รี
    • ผัก : แตงกวา เห็ด ผักกาดหอม บร็อกโคลี ถั่วฝักยาว ถั่ว ต้นอ่อน ข้าวโพดหวาน เทอร์นิป วอเตอร์เครส [2]
    • เมล็ดพืช : เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง และเมล็ดกัญชง
    • ธัญพืชทำสุก : ข้าวโอ๊ต
    • ถ้าคุณนำผักเนื้อแข็งไปต้มก่อนหอยทากก็จะกินง่ายขึ้น แต่ต้องดูให้ดีว่ามันหายร้อนแล้วค่อยนำไปให้หอยทาก
  2. หั่นหรือฉีกผักผลไม้ออกเป็นชิ้นเล็กกว่าเหรียญสลึง. ใช้เครื่องหั่นผักหรือมีดทำครัวหั่นผักผลไม้ทั้งหมดก่อนนำไปให้หอยทาก หอยทากเป็นสัตว์ที่ไวต่อสารเคมีและยาฆ่าแมลง เพราะฉะนั้นคุณต้องใช้ผักผลไม้ออร์แกนิกและล้างให้สะอาดก่อนนำไปให้หอยทาก [3]
  3. ). เราไม่สามารถบอกได้ตั้งแต่แรกว่าหอยทากบกควรกินอาหารมากแค่ไหน ผ่านไปสักระยะคุณถึงจะรู้ว่าต้องให้อาหารมันมากแค่ไหน ถ้าหอยทากกินอาหารที่คุณให้หมดเกลี้ยง คุณก็ค่อยให้เพิ่ม นำเศษอาหารที่หอยทากไม่กินภายใน 24 ชั่วโมงทิ้งไปเพื่อไม่ให้ราขึ้นหรือมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อหอยทาก [4]
  4. อย่าให้อาหารแปรรูปและอาหารที่ย่อยยากสำหรับหอยทาก. อย่าให้หอยทากกินขนมหรืออาหารที่มีน้ำตาลหรือเกลือ นอกจากนี้กระเพาะของหอยทากก็ย่อยข้าว ข้าวฟ่าง พาสต้า แครกเกอร์ และขนมปังไม่ค่อยได้เพราะมันทำให้ท้องอืด
  5. 5
    ที่แน่นอนที่สุดคือ อย่าให้หอยทากกินอาหารที่มีเกลือเด็ดขาด. เกลือเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับหอยทาก เพราะมันจะเผาผลาญความชื้นออกจากหอยทากจนหมดและมันก็จะตาย
  6. คุณไม่จำเป็นต้องเตรียมน้ำให้หอยทากก็ได้ แต่คุณต้องดูให้ดีว่าสภาพแวดล้อมที่หอยทากอยู่นั้นชื้นมากพอ ใส่น้ำแร่ลงในจานก้นตื้นไว้สำหรับให้หอยทากอาบน้ำ และเปลี่ยนน้ำทุก 1-2 วัน [5]
    • ห้ามใช้น้ำก๊อกเด็ดขาดเพราะอาจมีคลอรีนที่เป็นอันตรายต่อหอยทากได้
    • ถ้าคุณไม่มีน้ำกรอง ให้นำน้ำก๊อกไปตากแดดไว้ 48 ชั่วโมงเพื่อกำจัดสารเคมี
  7. นอกจากนี้คุณก็สามารถช่วยให้หอยทากไม่ขาดน้ำได้ด้วยการฉีดน้ำให้มัน นำน้ำแร่ใส่ขวดสเปรย์แล้วฉีดบนตัวหอยทากและที่อยู่ของมัน [6]
    • ถ้าคุณอยู่ในที่ที่อากาศแห้งมาก ฉีดน้ำให้หอยทากวันละ 1-2 ครั้ง
  8. หอยทากต้องการแคลเซียมสูงเพื่อให้เปลือกแข็งแรง แหล่งแคลเซียมชนิดหนึ่งที่เหมาะมากก็คือลิ้นทะเลเพราะว่าคุณสามารถหักเป็นชิ้นเล็กๆ แล้ววางไว้ในแท็งก์ไว้ให้หอยทากมาแทะเล่นได้ ส่วนตัวเลือกอื่นๆ นั้นคุณควรบดใส่รวมไปกับอาหารของหอยทาก [7] แหล่งแคลเซียมอื่นๆ ได้แก่ :
    • เปลือกหอยจากหอยทากที่ตายแล้ว
    • ผงแคลเซียม
    • เปลือกหอยนางรมบดละเอียด
    • ชอล์กธรรมชาติ
    • หินปูนธรรมชาติ
    • กระดูกป่น
    • ขี้เถ้า
    • เปลือกไข่บดละเอียด
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ให้อาหารหอยทากน้ำจืด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หอยทากน้ำจืดเป็นสัตว์ที่กินทั้งพืชและสัตว์ โดยทั่วไปมันก็จะกินสาหร่ายและเศษอาหารในตู้ปลา และคุณก็ควรใส่พืชน้ำไว้ให้หอยทากเล็มด้วย
    • สอบถามสัตวแพทย์หรือพนักงานร้านขายสินค้าสัตว์เลี้ยงว่า ปลาชนิดไหนที่เหมาะเลี้ยงคู่กับหอยทากสายพันธุ์ของคุณมากที่สุด
  2. ถ้าคุณไม่ได้เลี้ยงปลาไว้ในตู้เดียวกัน คุณก็สามารถหาซื้อสาหร่ายแผ่นกลมสำหรับเลี้ยงสัตว์แผ่นเล็กๆ มาไว้ให้หอยทากได้ ทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์และตามจำนวนที่เหมาะกับจำนวนหอยทากที่อยู่ในแทงก์
    • สาหร่ายแผ่นกลมสำหรับสัตว์เลี้ยงมีขายทั้งทางออนไลน์และที่ร้านขายสินค้าสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่
  3. นอกจากสาหร่ายแล้วหอยทากน้ำจืดเองก็ชอบกินผักลวกด้วยเช่นกัน วิธีการลวกผักคือนำผักจุ่มลงในน้ำเดือด 2 นาทีแล้วจุ่มลงในน้ำผสมน้ำแข็ง หอยทากน้ำจืดชอบกินฝักถั่ว แคร์รอต แตงกวา ซูกินี และผักกาดแก้วมากเป็นพิเศษ วางผักลวกทิ้งไว้จนเย็นสนิทแล้วค่อยใส่ลงในตู้ปลา [8]
    • หั่นหรือฉีกผักให้เป็นชิ้นเล็กกว่าเหรียญสลึง
    • เริ่มจากการให้ผักลวกปริมาณน้อยๆ ทุกเช้าก่อน แล้วประเมินว่าหอยทากกินหมดเร็วแค่ไหน
    • เพิ่มหรือลดปริมาณเล็กน้อยจนกว่าคุณจะสังเกตได้ว่าหอยทากกินอาหารหมดภายในเวลาไม่เกิน 12 ชั่วโมง
    • ผ่านไป 24 ชั่วโมงให้นำผักผลไม้ที่หอยทากไม่กินออกจากตู้ปลา
  4. เตรียมแหล่งแคลเซียมเพิ่มเติมไว้ให้หอยทากน้ำจืด. หอยทากน้ำจืดก็ต้องการแคลเซียมเพื่อให้เปลือกแข็งแรงและสุขภาพดีเช่นเดียวกับหอยทากบก อังนั้นคุณต้องเตรียมแหล่งแคลเซียมไว้ให้หอยทากแทะเล่นเป็นอาหารเสริมด้วย [9] แหล่งแคลเซียมที่เหมาะกับหอยทากน้ำจืดได้แก่ :
    • ลิ้นทะเล
    • เปลือกจากหอยทากที่ตายแล้ว
    • เปลือกหอยนางรม
    • หินปูนธรรมชาติ (แต่ระวังว่าอาจทำให้ค่า pH สูงขึ้น)
  5. ขอคำแนะนำเรื่องอาหารหอยทากกับพนักงาน ผู้เชี่ยวชาญ หรือสัตวแพทย์. คุณจะให้อาหารหอยทากมากแค่ไหน บ่อยแค่ไหน และจะให้อะไรนั้นขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ จำนวนหอยทากในตู้ปลา และสัตว์น้ำอื่นๆ ที่เลี้ยงในตู้รวมกับหอยทาก วิธีการที่ดีที่สุดก็คือถามพนักงานร้านที่คุณไปซื้อหอยทาก หรือไม่ก็ปรึกษาสัตว์แพทย์ [10]
    • คุณอาจจะยังต้องลองผิดลองถูกนิดหน่อยว่าหอยทากของคุณชอบกินอะไรกันแน่
    • ถ้าอาหารหอยทากเหลือเยอะ ลองให้อาหารน้อยลงอีกนิดหรือไม่ก็ลองเปลี่ยนอาหาร
    • จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดก็คือ ให้อาหารหอยทากน้ำจืดในปริมาณที่มันสามารถกินได้หมดภายในประมาณ 3 นาทีวันละ 2 ครั้ง
    • หอยทากบางสายพันธุ์อาจต้องการแหล่งอาหารเสริมด้วย เช่น อาหารปลาหรืออาหารเสริมชนิดเม็ดสำหรับสัตว์ที่ชอบกินอาหารตรงฐานตู้ปลา
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 23,884 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา