ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แฮมสเตอร์พันธุ์แคระ เป็นสัตว์ตัวน้อยแสนน่ารักที่มีขนาดตัวเล็กเพียง 2-4 นิ้วเท่านั้น [1] และเนื่องจากพวกมันสามารถเลี้ยงได้ง่ายและไม่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ [2] แฮมสเตอร์พันธุ์แคระจึงเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่หลายคนนิยมเลี้ยงกัน แฮมสเตอร์พันธุ์แคระเป็นสัตว์ที่มีพลังอย่างล้นเหลือและมีการเผาผลาญพลังงานที่รวดเร็ว การให้อาหารที่สมดุลและหลากหลายจึงนับเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้แน่ใจว่าแฮมสเตอร์พันธุ์แคระของคุณมีความสุข แข็งแรง และกระฉับกระเฉงอยู่เสมอ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

เลือกอาหารที่เหมาะสมสำหรับแฮมสเตอร์พันธุ์แคระ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาหารการกินของแฮมสเตอร์พันธุ์แคระไม่แตกต่างจากแฮมสเตอร์สายพันธุ์อื่นๆ มากนัก พยายามให้แฮมสเตอร์พันธุ์แคระของคุณทานอาหารผสมสำเร็จรูปสำหรับแฮมสเตอร์เป็นหลักซึ่งมีวางจำหน่ายตามร้านขายสัตว์เลี้ยงทั่วไป โดยทั่วไปแล้วอาหารผสมสำเร็จรูปสำหรับแฮมสเตอร์มักมีลักษณะเป็นเม็ดและประกอบด้วยเมล็ดพืช อาหารอัดเม็ด ธัญพืช และข้าวโพดเม็ดเล็กๆ [3]
    • แม้ว่าอาหารผสมสำเร็จรูปสำหรับแฮมสเตอร์จะมีค่าสารอาหารที่สูง แต่คุณไม่ควรให้แฮมสเตอร์ของคุณทานอาหารผสมสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียว
    • อาหารที่มีลักษณะเป็นเม็ดช่วยให้แฮมสเตอร์ได้ใช้ฟันกัดแทะในระหว่างทานอาหาร [4] จึงช่วยให้สุขภาพฟันของพวกมันแข็งแรงยิ่งขึ้น
    • เลือกอาหารผสมสำเร็จรูปที่มีส่วนประกอบของโปรตีนประมาณ 15-20% [5]
    • หากมีเวลามากพอ คุณสามารถทำอาหารสำหรับแฮมสเตอร์เองได้เช่นกัน
  2. ผักและผลไม้จะช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการรวมทั้งความหลากหลายในการทานอาหารของแฮมสเตอร์ [6] อย่างไรก็ตาม อย่าลืมล้างผักและผลไม้ด้วยน้ำสะอาดก่อนทุกครั้งเพื่อขจัดยาฆ่าแมลงหรือสารพิษอื่นๆ ที่ตกค้าง [7] คุณสามารถให้แฮมสเตอร์ทานผักและผลไม้ได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นหน่อไม้ฝรั่ง บรอกโคลี กล้วย หรือบลูเบอร์รี่ [8]
    • ค่อยๆ เพิ่มสัดส่วนของผักและผลไม้ในอาหารที่แฮมสเตอร์ทานทีละน้อยเพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะท้องเสีย โดยเริ่มจากให้ผักหรือผลไม้ชิ้นเล็กๆ เพียงชิ้นเดียวต่อสัปดาห์ก่อนค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็นวันละชิ้น และหากแฮมสเตอร์ของคุณมีอาการท้องเสีย คุณควรหยุดให้พวกมันทานผักและผลไม้ทันทีและทิ้งช่วงไปสักระยะหนึ่งก่อนลองอีกครั้ง [9]
    • สมุนไพรต่างๆ เช่น ใบโหระพาหรือผักชี เหมาะสำหรับให้แฮมสเตอร์พันธุ์แคระทานเช่นกัน [10]
  3. โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับแฮมสเตอร์พันธุ์แคระ ข่าวดีคือมีแหล่งโปรตีนชั้นยอดมากมายที่คุณสามารถเลือกให้กับแฮมสเตอร์ของคุณ เช่น เมล็ดพืชดิบรสจืดต่างๆ อย่างเมล็ดฟักทอง เมล็ดแฟลกซ์ หรือเมล็ดงาที่อุดมไปด้วยโปรตีน รวมถึงถั่วเลนทิลซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งโปรตีนที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน [11]
    • หากไม่รู้สึกสะอิดสะเอียนจนเกินไป คุณสามารถป้อนแมลงต่างๆ (เช่น ตั๊กแตน ไส้เดือน หรือจิ้งหรีด) ซึ่งมีโปรตีนสูงให้กับแฮมสเตอร์ของคุณได้เช่นกัน [12] อย่างไรก็ตาม คุณควรหาซื้อแมลงจากร้านขายสัตว์เลี้ยงเท่านั้น เนื่องจากแมลงที่จับได้ตามข้างนอกอาจมีเชื้อจุลินทรีย์ที่ส่งผลให้แฮมสเตอร์ป่วยได้
    • ผลิตภัณฑ์นม (เช่น โยเกิร์ตรสธรรมชาติหรือคอตเทจชีส) และเนื้อสัตว์ (เช่น ไก่งวงหรือไก่) ปริมาณเล็กน้อยเป็นแหล่งอาหารที่ให้โปรตีนสูงเช่นเดียวกัน [13]
  4. พืชที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์จากธรรมชาติ เช่น หญ้าทิโมธีหรือหญ้าอัลฟาฟ่า ถือเป็นแหล่งไฟเบอร์ชั้นดีสำหรับแฮมสเตอร์พันธุ์แคระ แม้ว่าหญ้าอาจไม่ใช่อาหารที่แฮมสเตอร์โปรดปรานมากนัก แต่คุณอาจลองให้แฮมสเตอร์ของคุณทานดูสักเล็กน้อยเพื่อดูว่าพวกมันชอบหรือไม่ [14]
  5. ขนมขบเคี้ยวแบบกรุบกรอบสามารถช่วยลับฟันของแฮมสเตอร์ไม่ให้ยาวจนเกินไปเพื่อเป็นการดูแลสุขภาพฟันของพวกมันให้ดีอยู่เสมอ ลองเตรียมบิสกิตสำหรับสุนัขชิ้นเล็กๆ ขนมสำหรับรูปสำหรับแฮมสเตอร์ หรือกิ่งไม้เล็กๆ จากไม้ผลสำหรับให้แฮมสเตอร์ของคุณได้กัดแทะ [15]
    • คุณอาจเตรียมขนมขบเคี้ยวแบบนุ่มให้แฮมสเตอร์ของคุณเช่นเดียวกัน อย่างเช่น ขนมปังโฮลวีตหรือไข่คน [16]
  6. น้ำเปล่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญต่อแฮมสเตอร์พันธุ์แคระไม่แพ้กับอาหาร คุณสามารถหาซื้อขวดน้ำขนาดเล็กสำหรับแฮมสเตอร์แบบมีท่อพร้อมลูกปืนสแตนเลสได้จากร้านขายสัตว์เลี้ยงทั่วไป โดยลูกปืนที่มาพร้อมกับขวดน้ำมีส่วนช่วยในการควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลออกมาอย่างพอดีเมื่อแฮมสเตอร์ดื่มน้ำในแต่ละครั้ง [17]
    • หลีกเลี่ยงการเตรียมน้ำใส่ชามหรือจานให้กับแฮมสเตอร์ของคุณ เพราะแม้ว่าวิธีนี้จะดูค่อนข้างสะดวกสบาย แต่การใช้ชามหรือจานสำหรับใส่น้ำอาจทำให้เกิดปัญหาน้ำหกเลอะเทอะในกรง [18] จนนำไปสู่การเจริญเติบโตของเชื้อราและส่งผลให้แฮมสเตอร์มีอาการป่วยได้
    • เติมน้ำใส่ขวดให้เต็มเพื่อไล่อากาศภายในขวดออกมาให้หมดและเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำรั่วซึมออกมาเมื่อคุณเติมน้ำเพิ่มลงไป [19]
    • ติดขวดน้ำเข้ากับกรงตรงจุดที่ห่างจากแสงแดดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดตะไคร่น้ำเกาะอยู่ภายในขวดน้ำได้ ซึ่งตะไคร่น้ำไม่เพียงส่งผลให้แฮมสเตอร์มีอาการป่วยเท่านั้น แต่ยังหมายความว่าคุณจะต้องทำความสะอาดขวดน้ำบ่อยครั้งยิ่งขึ้นอีกด้วย [20]
    • ใช้ตัวยึด 2 ตัวสำหรับติดขวดน้ำเข้ากับกรง โดยคุณสามารถหาซื้อตัวยึดได้ตามร้านขายสัตว์เลี้ยงทั่วไปในกรณีที่ไม่มีตัวยึดมาพร้อมกับขวดน้ำ [21]
  7. ดูว่าอาหารชนิดใดที่แฮมสเตอร์พันธุ์แคระควรหลีกเลี่ยง. แม้ว่าแฮมสเตอร์จะสามารถทานอาหารของคนมากมายหลายชนิดได้อย่างปลอดภัย แต่ยังคงมีอาหารบางประเภทที่ไม่ควรให้พวกมันทานเพราะอาจส่งผลให้เกิดอาการป่วยได้ ยกตัวอย่างเช่น มีผักและผลไม้บางชนิดที่แฮมสเตอร์ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ใบมะเขือเทศ มันฝรั่งดิบ และหอมหัวใหญ่ [22] รวมถึงผลไม้รสเปรี้ยว (เช่น ส้มหรือเลมอน) ที่อาจมีความเป็นกรดมากจนเกินไปสำหรับแฮมสเตอร์
    • หลีกเลี่ยงการให้แตงโมซึ่งมีน้ำเป็นส่วนประกอบในปริมาณมาก [23]
    • อัลมอนด์มีส่วนประกอบของกรดไซยานิคที่อาจทำให้แฮมสเตอร์ป่วยได้ [24]
    • การทานเมล็ดของผลไม้อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของแฮมสเตอร์พันธุ์แคระได้ ดังนั้นหากคุณต้องการให้แฮมสเตอร์ของคุณทานผลไม้ที่มีเมล็ด (เช่น แอปเปิ้ล พีช หรือพลัม) อย่าลืมเอาเมล็ดออกให้เรียบร้อยก่อนทุกครั้ง [25]
    • ช็อกโกแลตประกอบด้วยสารที่มีชื่อว่าธีโอโบรมีนที่อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติต่อระบบหมุนเวียนเลือดของแฮมสเตอร์ได้ [26]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

เริ่มต้นให้อาหารแฮมสเตอร์พันธุ์แคระ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ภาชนะใส่อาหารสำหรับแฮมสเตอร์พันธุ์แคระควรมีขนาดเล็กและทำจากเซรามิค เพราะการใช้ภาชนะใบใหญ่สำหรับใส่อาหารอาจทำให้คุณเผลอให้อาหารแฮมสเตอร์ของคุณมากจนเกินไปทั้งยังกินพื้นที่ภายในกรงมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ภาชนะที่ทำจากเซรามิคยังทนต่อการกัดแทะได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับภาชนะพลาสติก จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเชื้อแบคทีเรียทั้งด้านในและด้านนอกของภาชนะได้ดีเนื่องจากร่องรอยจากการกัดแทะสามารถส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น [27]
  2. ยังคงไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่าควรให้อาหารแฮมสเตอร์ในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นดีกว่ากัน ข้อดีหนึ่งของการให้อาหารในช่วงเย็นซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แฮมสเตอร์ของคุณจะตื่นตัวเต็มที่เนื่องจากพวกมันเป็นสัตว์กลางคืน ในทางกลับกัน การให้อาหารในช่วงเช้าจะช่วยให้คุณแน่ใจว่าแฮมสเตอร์ของคุณมีอาหารพร้อมทานทุกเมื่อเมื่อพวกมันตื่นขึ้นมาเป็นระยะๆ ในระหว่างวัน. [31]
    • ไม่ว่าคุณจะเลือกให้อาหารแฮมสเตอร์พันธุ์แคระของคุณในช่วงเวลาใด พยายามเตรียมอาหารให้พวกมันในช่วงเวลาเดิมอยู่เสมอ
    • จำไว้ว่าแฮมสเตอร์พันธุ์แคระเป็นสัตว์ที่มีระดับการเผาผลาญพลังงานที่สูง ดังนั้นพวกมันจึงต้องมีอาหารให้ทานตลอดเวลา [32]
  3. แฮมสเตอร์พันธุ์แคระควรได้ทานอาหารที่หลากหลายเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม [33] อย่างไรก็ตาม อาจมีอาหารบางชนิดที่แฮมสเตอร์ของคุณไม่โปรดปรานเท่าไรนัก ดังนั้นหากคุณสังเกตเห็นว่าพวกมันมักหลีกเลี่ยงไม่ยอมทานอาหารอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้คุณลองสลับเปลี่ยนให้พวกมันทานอาหารชนิดอื่นๆ แทน
    • ยกตัวอย่างเช่น หากคุณสังเกตเห็นว่าแฮมสเตอร์ของคุณไม่ชอบทานผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่ง (เช่น แอปเปิ้ล) ลองเปลี่ยนไปให้ผลไม้ชนิดอื่นๆ แทน (เช่น กล้วย) การเตรียมอาหารที่หลากหลายให้กับแฮมสเตอร์อยู่เสมอจะช่วยให้คุณสามารถสลับเปลี่ยนจากอาหารชนิดหนึ่งไปเป็นอีกชนิดหนึ่งได้ง่ายยิ่งขึ้น
    • หยุดให้อาหารที่เป็นสาเหตุทำให้แฮมสเตอร์มีอาการป่วย (เช่น มีอาการท้องเสียจากการทานแตงโม) [34]
  4. ในแต่ละวันแฮมสเตอร์พันธุ์แคระต้องการอาหารผสมสำเร็จรูปในปริมาณเพียง 1 ช้อนโต๊ะเท่านั้นควบคู่กับขนมขบเคี้ยวและอาหารสดบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งแม้ว่าอาหารผสมสำเร็จรูป 1 ช้อนโต๊ะอาจดูเหมือนว่าจะเป็นปริมาณที่ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับขนาดตัวเล็กๆ ของพวกมัน แต่จำไว้ว่าแฮมสเตอร์พันธุ์แคระมีระดับการเผาผลาญพลังงานที่สูงและสามารถทานอาหารได้ในปริมาณเท่าๆ กับหนูสายพันธุ์อื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่า [35]
    • ไม่จำเป็นต้องเติมอาหารเพิ่มทุกครั้งเมื่อเห็นว่าอาหารในภาชนะหมดแล้ว จำไว้ว่าแฮมสเตอร์มีกระพุ้งแก้มที่สามารถใช้กักตุนอาหารไว้ทานในภายหลังได้ รวมทั้งพวกมันยังมีพฤติกรรมชอบซ่อนอาหารไว้ใต้วัสดุรองกรงอีกด้วย [36] ดังนั้นการที่ในภาชนะไม่มีอาหารหลงเหลืออยู่จึงไม่ได้หมายความว่าแฮมสเตอร์ของคุณทานอาหารไปหมดแล้วเสมอไป
  5. นำอาหารที่ทานเหลือออกมาทิ้งให้เรียบร้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งผักและผลไม้ที่เกิดการเน่าเสียได้ง่าย [37] พยายามเตรียมผักหรือผลไม้ในปริมาณที่พอดีสำหรับทานใน 1 วันเท่านั้น โดยคุณอาจต้องลองผิดลองถูกไปสักพักในการหาปริมาณการให้ผักหรือผลไม้ที่เหมาะสมสำหรับแฮมสเตอร์ของคุณ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าจับแฮมสเตอร์ขึ้นมาจากหางโดยเด็ดขาดเพราะพวกมันอาจรู้สึกเจ็บได้
  • ก้านบรอกโคลีเป็นส่วนที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับให้แฮมสเตอร์พันธุ์แคระทานเป็นขนมขบเคี้ยว
  • หากแฮมสเตอร์พันธุ์แคระของคุณดื่มน้ำจากขวดได้ค่อนข้างลำบาก แสดงว่าภายในขวดน้ำอาจมีแรงดันสูญญากาศมากเกินไป ในกรณีนี้ให้คุณเทน้ำทิ้งไปเล็กน้อยเพื่อลดแรงดันสูญญากาศภายในขวดน้ำให้น้อยลง อย่างไรก็ตาม อย่าเทน้ำออกมากจนเกินไปเพราะอาจส่งผลให้น้ำเกิดการรั่วซึมได้ [38]
โฆษณา

คำเตือน

  • ฟันของแฮมสเตอร์พันธุ์แคระอาจงอกยาวขึ้นเรื่อยๆ หากพวกมันไม่ได้ใช้ฟันในการกัดแทะอยู่เรื่อยๆ ซึ่งฟันที่ยาวจนเกินไปจะส่งผลให้พวกมันทานอาหารได้ยากยิ่งขึ้นหรืออาจถึงขั้นทิ่มแทงเพดานปากได้
โฆษณา
  1. http://www.petwebsite.com/hamsters/hamster_fruit_vegetables.asp#.VbqVDvk1NTU
  2. http://animals.mom.me/foods-hamsters-1455.html
  3. http://animals.mom.me/foods-hamsters-1455.html
  4. http://animals.mom.me/foods-hamsters-1455.html
  5. http://pethamstercare.com/food-diet/
  6. http://www.humanesociety.org/animals/hamsters/tips/hamster_feeding.html
  7. http://pethamstercare.com/food-diet/
  8. http://animals.mom.me/give-water-hamster-1019.html
  9. http://animals.mom.me/give-water-hamster-1019.html
  10. http://animals.mom.me/give-water-hamster-1019.html
  11. http://animals.mom.me/give-water-hamster-1019.html
  12. http://animals.mom.me/give-water-hamster-1019.html
  13. http://www.petwebsite.com/hamsters/hamster_fruit_vegetables.asp#.VbqVDvk1NTU
  14. http://animals.mom.me/foods-hamsters-1455.html
  15. http://www.smallanimalchannel.com/hamsters/hamster-diet/what-hamsters-should-not-eat.aspx
  16. http://www.petwebsite.com/hamsters/hamster_fruit_vegetables.asp#.Vbqm9vk1NTV
  17. http://www.smallanimalchannel.com/hamsters/hamster-diet/what-hamsters-should-not-eat.aspx
  18. http://www.humanesociety.org/animals/hamsters/tips/hamster_feeding.html
  19. http://www.humanesociety.org/animals/hamsters/tips/hamster_feeding.html
  20. http://www.humanesociety.org/animals/hamsters/tips/hamster_feeding.html
  21. http://www.humanesociety.org/animals/hamsters/tips/hamster_feeding.html
  22. http://www.humanesociety.org/animals/hamsters/tips/hamster_feeding.html
  23. http://www.humanesociety.org/animals/hamsters/tips/hamster_feeding.html
  24. http://animals.mom.me/list-everything-dwarf-hamster-can-eat-1009.html
  25. http://animals.mom.me/foods-hamsters-1455.html
  26. http://www.humanesociety.org/animals/hamsters/tips/hamster_feeding.html
  27. http://www.livescience.com/27169-hamsters.html
  28. http://www.petwebsite.com/hamsters/hamster_fruit_vegetables.asp#.VbqVDvk1NTU
  29. http://animals.mom.me/give-water-hamster-1019.html

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,778 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา