ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณสมบัติใดที่ผู้ได้รับความนิยมชมชอบจากผู้อื่น มีเหมือนๆ กัน? พวกเขาแต่งตัวเหมือนกันมั้ย ไว้ผมทรงเดียวกันรึเปล่า หรือว่าพูดในเรื่องเดียวกัน คำตอบคือ ไม่ ผู้ที่ได้รับความนิยมนั้นมักมีอยู่ในทุกมุมโลก ซึ่งอาจกำลังเสวยสุขอยู่กับสถานะทางสังคมของตนเองอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในโรงเรียน ในที่ทำงาน และในทุกที่ๆ พวกเขาไป ทั้งนี้ มันไม่มีเวทมนต์ใดๆ จะเสกให้คุณกลายเป็นคนที่ป๊อบปูล่าร์เช่นพวกเขาได้หรอก แต่หากคุณรู้จักวิธีเป็นที่สังเกตของคนอื่น รู้หลักการเข้าสังคม และหมั่นมีส่วนร่วมกับสถานการณ์ต่างๆ โอกาสที่ใครๆ จะเหลียวหลังมอง หรือส่งยิ้มให้คุณ ก็จะเพิ่มมากขึ้น ถ้าคุณอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ ก็เอนลงไปอ่านเลย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ทำตัวให้ผู้อื่นสังเกต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ดังนั้น คุณไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบเพื่อที่จะได้รับความนิยม แม้ว่าคุณอาจจะรู้สึกยังห่างไกลจากภาพฝัน แต่การเชื่อมั่นในตนเองก็ถือเป็นก้าวแรกที่งดงาม
    • อย่าเอาแต่หลบมุม ก้าวออกมาอยู่ท่ามกลางแสงไฟในเวลาที่เหมาะสมดูบ้าง หากคุณเอาแต่กังวลว่าตัวเองดูเป็นอย่างไร หรือคนอื่นจะคิดอย่างไรกับคุณ คุณจะไม่ไปถึงไหนเสียที แทนที่จะคิดเช่นนั้น พยายามหันมารักตัวเองและสิ่งที่ตนเองทำ เมื่อคุณรักตัวเองเป็นแล้ว คนอื่นก็อยากจะรักตามไปเอง
    • ในชั้นเรียน คุณสามารถเป็นที่สังเกตได้ด้วยการ ยกมือตอบคำถาม และส่งงานให้ตรงกำหนด เพื่อนๆ ในห้องจะอยากทำความรู้จักคุณมากขึ้น อย่ากลัวที่จะพุดอะไรบ้าง!
    • สร้างภาพจนกว่ามันจะกลายเป็นจริง ต่อให้คุณไม่ได้รู้สึกมั่นใจจริงๆ การเสแสร้งทำเหมือมั่นใจ ก็เป็นขั้นแรกในการทำให้ตนเองรู้สึกดีได้
    • ภาษากายมีผลต่อความมั่นใจมาก ดังนั้น พยายามเดินเชิดหน้าเล็กน้อย ปล่อยแขนสองข้างไว้ข้างลำตัว อย่ากอดอก อย่าเดินหลังค่อม
    • เสริมสร้างความมั่นใจให้ตนเองด้วยการทำในสิ่งที่คุณชอบให้ดีเลิศ และมองหางานอดิเรกใหม่ๆ หากคุณค้นพบความชอบของตัวเองอย่างแท้จริงแล้ว คุณจะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น
  2. นี่ย่อมหมายถึงการต้องทำในสิ่งที่ตนเองไม่คุ้นเคยบ้าง หากคุณยังไม่ได้รับความนิยมจากใคร มันก็เป็นเพราะว่า คุณยังไม่ได้ทำ ในสิ่งที่คนที่ได้รับความนิยมชมชอบเขาทำกัน เช่น :
    • เป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา ปล่อยมุก หว่านเสน่ห์ และเรื่องพื้นฐานเลยก็ คือ การเข้าหาผู้อื่นก่อน จำไว้ว่า การเป็นคนที่ได้รับความนิยมชมชอบ ก็คือคนถูกจดจำได้จาก (และได้รับความสนใจจาก) คนหมู่มาก
    • จำไว้ว่า หากคุณยังเข้าหาผู้อื่นไม่สำเร็จ ก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาเข้าหาคุณ ยังมีคนที่คุณไม่รู้จักให้เข้าไปคุยอีกตั้งเยอะแยะ
    • คุณอาจเป็นคนประเภทเก็บงำ ขี้อาย และนิ่งเงียบ แต่หากคุณต้องการเป็นเป็นคนที่ได้รับความนิยมชมชอบ ก็จำเป็นต้องรู้จักการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นด้วย
    • ช่วงแรกๆ มันอาจดูเหมอนกับว่าคุณกำลังเสแสร้งหรือฉาบฉวย แต่จำไว้ว่า การเป็นตัวของตัวเองอีกรูปแบบหนึ่ง ก็คือการรู้ว่าตนเองต้องการอะไรจากชีวิต
  3. หากอยากให้คนอื่นสังเกตเห็นคุณ ก็ไม่จำเป็นต้องถึงขนาดย้อมผมสีชมพู สักเสือเผ่นที่ใบหน้า หรือสักยันต์ไว้บนบ่าเหมือนที่ใครเขาทำกันหรอก แต่คุณควรจะค้นหารูปลักษณ์และสไตล์ในแบบของตัวเอง และแสดงให้คนอื่นเห็นว่า คุณพอใจและมีความสุขในแบบที่คุณเป็นก็พอ
    • หากคุณเอาแต่ใส่กางเกงวอร์มตัวเดิมๆ คุณจะไม่เป็นที่สังเกตแน่ๆ ต่อให้ในแง่บวกก็เถอะ ดังนั้น หาสไตล์ของตัวเองให้เจอ ไม่ว่าจะเป็นฮิปฮอป ร๊อค เรโทร สไตล์คิกขุ หรือสไตล์ใดก็ตาม และยึดมั่นในสไตล์นั้นไว้
    • คุณไม่จำเป็นต้องซื้อรองเท้าอินเทรนด์ที่สุดมาใส่ นอกจากว่าคุณจะรู้สึกดีหรือใส่แล้วสบายในแบบของตัวเอง หากคุณใส่รองเท้าคอนเวิร์สรุ่นเดียวกับคนอื่นๆ ในสถาบันการศึกษาของคุณ แต่มันดูไม่เข้ากับตัวคุณเลย คนอื่นก็จะสังเกตเห็นทันที (ในแง่ลบ)
    • ไม่ว่าคุณจะใส่อะไร ต้องมีความมั่นใจ อย่าเอาแต่ส่องกระจกหรือถามคนอื่นว่า ตัวคุณดูเป็นยังไง เพราะพวกเขาจะรู้ทันทีว่าคุณกำลังประหม่า
    • การใส่ใจรูปลักษณ์ของตัวเองเป็นเรื่องดี แต่การแสดงออกว่าคุณดิ้นรนอยากเป็นคนที่ได้รับความนิยมชมชอบนั้น ย่อมดูน่าสมเพชกว่าการแสดงออกว่าฉันไม่แคร์ใคร ดังนั้น หากคุณไม่ชอบแต่งหน้า ก็อย่าไปแต่งตามใคร หรือหากคุณไม่ชอบเอาคอเสื้อตั้งขึ้น ก็อย่าไปทำเลียนแบบพวกที่เขาทำกัน
    • หากคุณต้องการเสื้อผ้าที่ทันสมัย แต่ไม่มีงบประมาณเพียงพอ พยายามหาร้านที่มีเสื้อผ้าเท่ห์ๆ ในราคาย่อมเยา (โดยเฉพาะช่วงเซลล์) หรืออาจดูพวกยี่ห้ออินดี้ทั้งหลาย ตามร้านค้าออนไลน์ในอินเตอร์เน็ทดูก็ได้
  4. การจะเป็นคนที่ได้รับความนิยมชมชอบนั้น คุณอาจต้องเสี่ยงหรือทดลองบางอย่างทางสังคมดูบ้าง ซึ่งอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณทำในยามปกติ ดังนั้น ฝึกใจให้กล้าไว้ก่อน
    • ลองเสี่ยงด้วยการแนะนำตัวกับคนแปลกหน้าที่คุณเพิ่งพอเจอ ไปร่วมงานปาร์ตี้ที่คุณได้รับเชิญ (แม้ว่าจะไม่ค่อยรู้จักใครก็ตาม) หรือการประกาศจุดยืนบางอย่างที่ทำให้คุณโดดเด่นขึ้นในสายตาผู้อื่น
    • หากคุณเริ่มคุ้นเคยกับการเสี่ยง (โดยไม่ทำให้ตนเองเป็นอันตราย) คุณก็ย่อมที่จะเป็นที่รู้จักของผู้คนมากขึ้น
  5. หากคุณออกไปโชว์พาวว่า คุณเจ๋งเกินกว่าจะถูกจำกัดอยู่ในโรงเรียนหรือในมหาวิทยาลัยแล้วล่ะก็ จะมีคนให้ความสนใจคุณแน่ๆ แต่เป็นในทางลบนะ แม้ว่าคุณอาจไม่จำเป็นต้องตอบได้ทุกคำถาม หรือเป็นเป้าหมายให้อาจารย์คอยจิกหัวเล่นบ่อยๆ แต่การพยายามตั้งใจเรียนจะช่วยให้คุณได้ผลตอบรับในทางบวก มากกว่าการทำท่ายักไหล่หรือไม่แยแสเวลาที่ครูถาม
    • วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณดูพร้อมเสมอ และมีความตื่นเต้นในการเผชิญสถานการณ์ต่างๆ ก็คือการหมั่นยิ้มเข้าไว้ แต่ไม่จำเป็นต้องยิ้มเหมือนคนบ้าหรอกนะ อย่างน้อยควรยิ้มตอบผู้อื่นเสมอ หรือควรส่งยิ้มให้ผู้อื่นก่อนด้วยซ้ำ จะช่วยให้ผู้คนอยากรู้จักคุณมากขึ้น
    • หากคุณอยู่ในสถานศึกษาสมัยนี้ คุณอาจได้ค่านิยมแบบผิดๆ ว่า การทำตัวไม่แยแสต่ออะไรทั้งสิ้น หรือทำหน้าเบื่อโลกอยู่เสมอนั้น เป็นพฤติกรรมที่เท่ห์มาก อย่างไรก็ตาม คุณจะเป็นที่รู้จักมากขึ้น หากกล้าที่จะสวนกระแสดังกล่าว
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เข้าสังคม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าพยายามทำตัวหรือเรียกร้องความสนใจจากผู้อื่น แต่จงให้ความสนใจผู้อื่นแทน เช่น อาจถามพวกเขาว่า ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้างวันนี้ หรือถามไถ่ถึงคนในครอบครัวเพื่อนฝูงบ้าง รวมถึงสอบถามเพื่อติดตามปัญหาของพวกเขา เป็นต้น จากนั้น ก็กระชับความสัมพันธ์ด้วยการอาจชวนคุยว่า คุณหรือบางคนที่คุณรู้จัก ก็เคยเจอสถานการณ์เดียวกับพวกเขามาเหมือนกันนะ และมีวิธีแก้ปัญหาอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นต้น
    • เลิกหมกมุ่นอยู่กับตัวเองหรือหาวิธีทำตัวให้ผู้อื่นประทับใจ ในบรรดาทักษะทั้งหมดที่มีนั้น ผู้ที่ได้รับความนิยมมักจะขาดสิ่งหนึ่งไม่ได้ นั่นคือ ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น คุณล่ะ เข้าถึงผู้คนได้ดีแค่ไหน?
    • หยุดกังวลในภาพลักษณ์ น้ำเสียง หรือความโดดเด่นของตนเองเสียที และหันไปใส่ใจความเป็นไปของผู้อื่นแทน
  2. ผู้ที่เป็นคนที่ได้รับความนิยมชมชอบ มักจะเป็นมิตรกับคนทุกคน ไม่เฉพาะคนในกลุ่มก๊วนของตัวเองเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงครูบาอาจารย์ คนงาน พ่อค้าแม่ค้า วินมอเตอไซค์ นายธนาคาร พ่อแม่ผู้ปกครองของเพื่อน ฯลฯ แม้แต่กับคนที่ไม่มีท่าทีเป็นมิตรตอบสักเท่าไรก็ตาม พวกเขามีอัธยาศัยดี ถึงขั้นที่ว่าสามารถทักทายปราศรัยกับใครๆ ก็ได้ แม้เพิ่งเจอกันหรือแม้เพียงช่วงสั้นๆ ไม่มีเหตุผลใดที่คุณจะทำอย่างพวกเขาบ้างไม่ได้ มันไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรมากเลย แต่สามารถสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวง
    • ทำตัวเป็นกันเอง การสนทนาต้องเน้นหัวข้อที่ไม่ล่อแหลม หลีกเลี่ยงเรื่องศาสนาและการเมือง เพราะการแสดงความเห็นทางการเมืองหรือศาสนา ย่อมทำให้คุณได้รับการรังเกียจจากคนที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้น พยายามหาหัวข้ออื่นๆ ที่สบายๆ
  3. มีความแตกต่างระหว่างอัธยาศัยที่ดี กับการเสนอหน้าไปในเวลาที่ไม่มีใครต้องการ พยายามให้ความเคารพในความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นด้วย อย่าสอดรู้สอดเห็นมากนัก พยายามอ่านภาษากายของผู้อื่นดูว่า คุณกำลังทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดหรือเปล่า หากใครทำท่าถอยห่างจากคุณ หรือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูบ่อยๆ หรือแอบซุบซิบกับเพื่อนอีกคนตอนที่คุณกำลังเดินเข้าหา แสดงว่ามันไม่ค่อยเหมาะที่จะคุยกับพวกเขาตอนนี้แล้วล่ะ
    • อย่าเอาตัวเองเลื้อยไปหมดทุกที่ อย่าสะกดรอยตามใคร อย่าโอ้อวด และอย่าขัดจังหวะผู้อื่น พูดง่ายๆ คือ อย่าทำตัวน่ารำคาญ
  4. คนที่มีความป๊อบปูล่าร์นั้น ไม่ใช่แค่รู้จักคนหมู่มากเท่านั้น พวกเขายังมีไมตรีจิตแจกจ่ายให้แก่ทุกคนด้วย พวกเขาสร้างภาพลักษณ์ดังกล่าวขึ้นมาได้ด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น และไม่ได้ทำเพื่อให้ใครมาเห็นด้วย พวกเขาทำเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้เพื่อสร้างความจับใจให้ผู้คน (ร่วมกับเรื่องใหญ่ๆ อย่างเช่น การไปทำงานอาสาสมัคร) พวกเขาจะยื่นดินสอให้กับคนที่กำลังต้องการมัน พวกเขาจะช่วยปิดประตูให้เพื่อนบ้าน ถ้าเห็นว่าลมพัดมันเปิดอ้าไว้ พวกเขาจะเปิดประตูค้างไว้ให้คนที่เดินตามมาข้างหลังเสมอ ที่สำคัญที่สุด พวกเขารับฟังผู้อื่นเวลาคนเหล่านั้นอยากพูดบางสิ่งแถมไม่ลืมที่จะเสนอความช่วยเหลือเช่นเคย
    • หากคุณมีความเห็นใจเพื่อนมนุษย์จริงๆ คุณย่อมที่จะอยากเห็นปัญหาของพวกเขาได้รับการแก้ไข หากคุณไม่สามารถช่วยเหลือได้จริงๆ อย่างน้อยก็ทำให้พวกเขารู้สึกว่า คุณหวังดีต่อพวกเขาเสมอ
  5. คุณอาจได้ยินเรื่องนี้บ่อยแล้ว แต่คนที่มีความป๊อบปูล่าร์นั้น จะไม่แคร์จริงๆ หรอกว่า ตัวเองควรทำอะไรเพื่อให้เข้ากับผู้อื่นได้ เพราะพวกเขาทำในสิ่งที่เป็นตัวของตัวเองได้อย่างสบายๆ อยู่แล้ว คุณอาจคิดว่า การเป็นคนที่ได้รับความนิยมชมชอบ จะต้องมีพรสวรรค์หรือมีเสน่ห์ดึงดูด แต่อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละว่า แม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะมีส่วนช่วยได้บ้างก็ตาม แต่คนที่มีความป๊อบปูล่าร์หลายๆ คน ก็มีรูปร่างหน้าตาธรรมดาๆ ในทางกลับกัน ก็มีหลายคนที่ดูดีและมีพรสวรรค์ ซึ่งไม่เคยได้รับความนิยมชมชอบเลยเช่นกัน
    • จำไว้ว่า สิ่งเดียวที่คุณต้องมีในการคนที่มีความป๊อบปูล่าร์นั้น ก็คือทักษะทางสังคมนั่นเอง ส่วนประกอบที่เหลือก็แล้วแต่คุณจะเสริมเติมเข้าไปเท่านั้น ไม่ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร
    • ส่วนหนึ่งของการเป็นตัวของตัวเอง คือ การรู้จักตัวเองดีพอที่จะหัวเราะให้กับความผิดพลาดของตัวเอง แสดงให้ผู้อื่นเห็นว่า คุณตระหนักดีในความเลินเล่อของตัวเอง และคุณก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับชีวิต เมื่อนั้น พวกเขาจะประทับใจในตัวคุณ
  6. คนที่มีความป๊อบปูล่าร์นั้น มักจะไม่ได้จงใจมากเกินไปในการได้มาซึ่งความนิยม พวกเขาแค่เป็นตัวของตัวเอง หากคุณสิ้นหวังอยากได้ความนิยมจากผู้อื่นเหลือเกิน มันจะแสดงออกมาในท่าทีของคุณ และผู้คนก็จะเห็นว่าคุณเป็นพวกแสร้งทำ หรืออาจนึกว่าคุณประสาทด้วยซ้ำ วิธีหนึ่งในการสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรคือ การเข้าไปร่วมกลุ่มที่มีความสนใจเดียวกับคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณปรับตัวได้ไม่ยาก เมื่อคุณเริ่มคุ้นเคยกับการพบปะผุ้คนแล้ว คุณก็สามารถขยับขยายวงสังคมออกไปยังกลุ่มคนที่คุณไม่ค่อยคุ้นเคยได้อีก
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

มีส่วนร่วมทางสังคม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณไม่จำเป็นต้องเก่งเหมือนเลอบรอน เจมส์ เพื่อที่จะเข้าร่วมทีมบาสเก็ตบอล การร่วมทีมกีฬาไม่เพียงเปิดโอกาสให้คุณได้ออกกำลังกายและรู้สึกดีกับตัวเอง แต่ยังช่วยให้คุณได้เปิดหูเปิดตาและสร้างเพื่อนใหม่ หากคุณมีใจรักในกีฬาอยู่แล้ว การหาทีมกีฬาในท้องถิ่นหรือสถาบันของคุณเพื่อเข้าร่วมด้วย ก็นับว่าคุ้มค่าความนิยม
    • การร่วมทีมกีฬา จะเปิดโอกาสให้คุณพบปะผู้คนมากหน้าหลายตา และช่วยให้คุณได้เรียนรู้ทักษะการเข้าสังคมกับคนหมู่มาก ซึ่งคุณไม่มีโอกาสได้พบเจอในชีวิตประจำวัน
    • การร่วมทีมกีฬา ยังจะเปิดโอกาสให้คุณมีชีวิตทางสังคมพัฒนาขึ้น เพราะคุณอาจจะต้องหากิจกรรมหลังแข่งกีฬาทำร่วมกับผู้อื่น หรืออาจร่วมทานอาหารกันก่อนแข่งขัน อะไรทำนองนั้นด้วย
    • การร่วมทีมกีฬา ยังเป็นการโปรโมทตัวเองไปในตัว เพื่อให้คนอื่นมีโอกาสทำความรู้จักกับคุณ
  2. การสมัครเป็นสมาชิกชมรมหรือสโมสรใดๆ จะช่วยให้คุณเปิดโลกกว้างขึ้นและพบปะผู้คนใหม่ๆ ซึ่งเป็นเหล่าคนที่คุณจะไม่ได้พบเจอตามร้านเกมส์หรือตลาดนัดทั่วไป ดังนั้น การเป็นสมาชิกชมรมหรือ ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีหากคุณมีความสนใจในเรื่องนั้นๆ และพอมีเวลาเหลืออยู่บ้าง ลองหางานอดิเรกที่คุณอยากลองหรือมีความสนใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และพยายามเสนอตัวเป็นผู้นำกลุ่มสมาชิกดังกล่าว เพื่อให้ตนเองคุ้นเคยกับสถานะดังกล่าว และมีโอกาสทำความรู้จักผู้อื่นมากขึ้น
    • อย่าไปกังวลว่าสโมสรหรือชมรม จะเป็นอะไรที่ดูไฮโซ หรือยุ่งยากเกินไป ให้คิดเสียว่าการได้ทำกิจกรรมที่คุณชอบและพบปะผู้คนใหม่ๆ จะเปิดโอกาสให้คุณเป็นคนที่ได้รับความนิยมชมชอบมากขึ้น
  3. คุณไม่จำเป็นต้องจดจ่อหรือเกาะติดอยู่กับครูผู้สอน หรือยกมือตอบคำถามบ่อยเกินไป เพื่อที่จะเป็นคนที่ได้รับความนิยมชมชอบหรอก ขอแค่รู้จักสานสัมพันธ์กับคนที่นั่งข้างๆ และตอบคำถามเวลาที่ครูถาม โดยไม่ทำท่าเหนื่อยหน่าย และแสดงให้เห็นว่าคุณตั้งใจเรียนมาก แต่ไม่ถึงขนาดหมกมุ่นจนไม่สนใจปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ในห้องเลย
    • หากคุณมีส่วนร่วมในชั้นเรียนเสมอ คนอื่นก็จะรู้ชื่อคุณและจดจำคุณได้มากขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่มีการเอ่ยถึงคุณ
  4. อย่าเอาแต่จมปลักอยู่กับการทำหนังสือรุ่นหรือกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง แต่จงหางานอดิเรกหรือความสนใจไว้ให้ตัวเองยุ่งอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าคุณไม่ควรจะหักโหมจนลืมดูแลตัวเองก็ตาม เพราะการมีส่วนร่วมในกิจกรรมยิ่งมาก คุณก็ยิ่งมีโอกาสได้รู้จักผู้คนหลากหลายยิ่งขึ้น และมีโอกาสเป็นคนที่ได้รับความนิยมชมชอบมากขึ้นตามไปด้วย
  5. การมีส่วนร่วมในชุมชนของตนเอง ไม่เพียงแต่จะเปิดโอกาสให้คุณช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณได้รู้จักผู้คนในหลากหลายสถานะ ทั้งในแง่พื้นเพ อายุ และฐานะความเป็นอยู่ ยิ่งคุณรู้วิธีเข้ากับผู้คนได้หลากหลายมากเท่าไร คุณก็จะมีทักษะในการพบปะผู้คนหน้าใหม่ๆ และทำให้พวกเขารู้สึกยินดีได้ในทุกโอกาสที่จะผ่านเข้ามา
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พยายามเป็นมิตรกับทุกคนที่คุณรู้จัก ส่งยิ้ม ทักทาย หากพวกเขาทักตอบ ก็ถามสักนิดว่า เป็นยังไงกันบ้าง ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน จงทักทายและเสวนาสั้นๆ กับผู้อื่นให้เป็นนิสัย แม้แค่ไม่กี่นาทีก็ตาม
  • หากไม่รู้จะพูดอะไรดี ก็อย่าพูดอะไรออกไปเลย คำแนะนำดังกล่าวนี้อาจดูโบราณ แต่มันยังใช้การได้ดีเสมอ ต่อให้คนรอบข้างคุณกำลังนินทาใครก็ตาม พยายามอย่าไปร่วมผสมโรงด้วย หากใครมาเสี้ยมให้คุณร่วมออกความเห็นด้วย คุณก็แค่ตอบไปกลางๆ ประมาณว่า “ไม่รู้สินะ ผม/ฉันไม่ค่อยสนิทกับคนนั้น” หรือตอบว่า “เค้าอาจจะกำลังมีปัญหาส่วนตัวมั้ง ใครจะไปรู้” เป็นต้น
  • วางท่าทีให้มีคนเข้าหา คนที่ดูมีความสุข ย่อมน่าเข้าใกล้ แต่คนที่ทำหน้าเหมือนสุนัขเพิ่งป่วยตายมา คนอื่นมักจะไม่อยากทักทายด้วย จงเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้เริ่มทำความรู้จักคุณ
  • พยายามมีส่วนร่วมในกีฬา โดยทั่วไปแล้ว คนที่มีความป๊อบปูล่าร์นั้นมักชอบและเล่นกีฬาเสมอ จะเป็นการเล่นยิม ฟิตเนส เต้น บาสเก็ตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล ฟุตบอล ตะกร้อ ฯลฯ หรือแม้แต่เป็นเชียร์ลีดเดอร์ก็ดี คนที่อยู่ในทีมกีฬามักเป็นคนที่ได้รับความนิยมชมชอบจากสังคม
  • จำไว้ว่า ระดับความนิยมไม่ได้บ่งบอกความเป็นตัวคุณ มันแค่ช่วยเปล่งประกายในตัวคุณให้ฉายออกมา รู้สายตาผู้คนในสังคม อย่าเปลี่ยนตัวเองไปเป็นอย่างอื่น ในเวลาที่คุณบรรลุเป้าหมายนั้นแล้ว
  • แม้ว่าในบางสังคม คุณอาจถูกกดันให้ข่มเหงรังแกพวกคนที่ไม่มีใครสนใจ เช่น ในโรงเรียนมัธยม เป็นต้น แต่คุณก็ควรคิดให้ดีเสียก่อนที่จะลงมือทำอะไรไป ไม่งั้นคุณอาจจะเสียใจและเสียเพื่อนดีๆ ไปอีกคน
  • เปิดโทรศัพท์ไว้เสมอ คนที่เข้าถึงยาก มักไม่ค่อยได้รับความนิยม
  • หากคุณมีบัญชีเฟสบุ๊คส่วนตัว พยายามกดเพิ่มเพื่อนในโรงเรียนเข้าไปด้วย (ถ้าพวกเขาสมัครใช้งานไว้) และพยายามพูดคุยผ่านช่องทางดังกล่าว แต่อย่าคุยเรื่อยเปื่อย เช่น “เบื่ออะ” และอีกฝ่ายตอบ “เหมือนกันเลย” ซึ่งเป็นอะไรที่ดูไร้สาระ จงพยายามหาหัวข้อที่น่าสนใจคุยแทน
  • ไม่ว่าคุณจะทำอะไร คุณก็ไม่จำเป็นต้องเป็นแบดบอยหรือแบดเกิร์ล เพียงเพื่อจะให้เป็นคนที่ได้รับความนิยมชมชอบจากผู้อื่น ไม่มีใครชอบคนที่เกเรกับคนอื่นตลอดเวลาหรอก
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าคิดมากเกินไป การเป็นคนที่ได้รับความนิยมชมชอบนั้น เป็นเรื่องของใจล้วนๆ เหมือนเรื่องส่วนใหญ่นั่นแหละ หากใครเห็นว่าคุณดิ้นรนอยากเป็นคนป๊อบปูล่าร์มากเกินไป พวกเขาจะยิ่งไม่คล้อยตาม ความนิยมในตัวเรานั้น สุดท้ายแล้วเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งที่ทำให้ที่คนอื่นมองตัวเรา และมันสามารถลดลงหรือจางหายไปเมื่อไรก็ได้ สิ่งที่คุณควบคุมได้จริงๆ ก็คือวิธีที่คุณปฏิบัติต่อผู้อื่น
  • อย่าหงุดหงิดหากคุณไม่ได้เป็นคนที่ได้รับความนิยมชมชอบมากที่สุดในโรงเรียน หรือในที่ทำงาน การมีเพื่อนดีๆ ที่ห่วงใยคุณ และได้ใช้เวลากับพวกเขา แค่นั้นก็ดีที่สุดแล้ว เพราะสุดท้ายแล้ว คนเราก็ต้องการเพียงคนรู้ใจ
  • ปกป้องความเป็นส่วนตัวไว้ เวลาที่คนจำนวนมากรู้จักคุณ ก็มักจะมีข่าวลือคอยนินทาคุณตามมา ลองนึกภาพตอนที่เราเห็นดาราหรือคนดัง ถูกนำมาเป็นเป้าหมายในการขุดคุ้ยตลอดเวลาดูสิ นอกจากนี้ คุณยังอาจได้เจอกับคนที่เข้ามาทักทายคุณในเวลาที่คุณกำลังวุ่นวาย หรืออยากนั่งอ่านหนังสือคนเดียวลำพัง ความนิยมไม่ได้มาฟรีๆ หรอก พยายามรับมือให้ดีแล้วกัน
  • จงตระหนักว่า ความนิยมมีขึ้นมีลง และย่อมจางหายอย่างรวดเร็ว เวลาที่คุณย้ายสถานที่ทำงานหรือสถานศึกษา แต่ละสถานการณ์นั้นแตกต่างกันไป ดังนั้น คุณอาจต้องเริ่มใหม่ในบางเวลา
  • อย่าผิดหวังเมื่อคุณล้มเหลว การเป็นคนที่ได้รับความนิยมชมชอบ อาจง่ายสำหรับบางคน แต่เป็นไปไม่ได้เลยสำหรับบางคนเช่นกัน มีหลายปัจจัยที่อาจขัดขวางให้คนๆ หนึ่งไม่สามารถเข้าหาและได้รับความนิยมจากผู้อื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณค่าของเขาหรือเธอจะด้อยลง


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,432 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา