ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

มีหลายเหตุผลว่าทำไมพ่อแม่บางคนถึงอยากได้ลูกสาว อาจจะเป็นเพราะว่าคุณมีลูกชายอยู่คนนึงแล้ว (หรืออาจจะสองหรือสามคนแล้ว!) หรือคุณอาจจะกังวลว่าตัวเองจะถ่ายทอดความผิดปกติทางพันธุกรรมเฉพาะเพศให้กับลูก หรือคุณอาจจะแค่อยากได้ลูกสาวมากกว่าเป็นการส่วนตัว ซึ่งวิธีเดียวที่จะรับประกันเพศของเด็กได้จะเกิดขึ้นหลังการปฏิสนธิในสถานพยาบาลหรือห้องปฏิบัติการ ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เท่านั้น [1] แต่ก็มีวิธีแบบชาวบ้านและเทคนิคก่อนการปฏิสนธิที่บางคนบอกว่าสามารถกำหนดเพศของทารกได้ ไม่แน่ว่าตัวคุณเองก็อาจจะเจอวิธีนั้นด้วย แม้ว่าเทคนิคเหล่านี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่ลองดูก็ไม่เสียหาย เพราะถึงอย่างไรโอกาส 50:50 ก็ไม่ได้ฟังดูแย่ไม่ใช่เหรอ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้การปรับเปลี่ยนอาหารกำหนดเพศของทารก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การปรับเปลี่ยนอาหารยังคงเป็นวิธีที่เป็นที่ถกเถียงกันว่ามีผลต่อเพศของทารกจริงหรือไม่ แพทย์และนักวิทยาศาสตร์หลายคนสงสัยว่าอาหารจะมีผลต่อเพศของทารกอย่างมีนัยยะสำคัญได้อย่างไร และคิดว่าเพศของทารกน่าจะอยู่บนพื้นฐานของการสุ่มมากกว่า [2] แต่ถ้าแพทย์บอกว่าคุณสามารถปรับเปลี่ยนอาหารเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้ลูกสาวได้ ก็แสดงว่าการลอง "ปรับเปลี่ยนอาหารเพื่อให้ได้ลูกสาว" นั้นแทบจะไม่เป็นอันตรายกับคุณเลย
  2. การปรับเปลี่ยนอาหารอาจมีผลต่อการเพิ่มโอกาสที่จะได้ลูกสาว โดยอาหารจะไปเปลี่ยนแร่ธาตุและความเป็นกรดของสภาพแวดล้อมในมดลูก ทฤษฎีนี้กล่าวว่า การรับประทานอาหารที่เหมาะกับผู้หญิงเป็นเวลาหลายสัปดาห์ก่อนที่จะตั้งครรภ์สามารถทำให้ร่างกายของเธอ "มีโอกาสที่จะได้รับ" อสุจิที่มีโครโมโซม X (ที่ทำให้ได้ลูกสาว) มากกว่า และทำให้ "มีโอกาสที่จะได้รับ" อสุจิที่มีโครโมโซม Y (ที่ทำให้ได้ลูกชาย) น้อยกว่า [3]
  3. รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและแมกนีเซียมสูง. อาหารที่เขาแนะนำว่าถ้ารับประทานแล้วจะเพิ่มโอกาสในการได้ลูกสาวได้แก่ผลิตภัณฑ์นมโซเดียมต่ำ ไข่ ข้าว และขนมปังกับแครกเกอร์โซเดียมต่ำ [4] นอกจากนี้ผักและผลไม้ก็อาจจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้ลูกสาวด้วย [5]
  4. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโพแทสเซียมและโซเดียมสูง. งานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้กล่าวว่า ผู้หญิงที่รับประทานซีเรียลที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียมมีโอกาสที่จะได้ลูกชายมากกว่า [6] อาหารที่มีโพแทสเซียมสูงอื่นๆ ได้แก่ กล้วย แซลมอน เห็ด ถั่ว ทูน่า มันเทศ และมันฝรั่ง [7]
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

กะเวลาปฏิสนธิเพื่อกำหนดเพศของทารก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสามารถกะเวลาตกไข่ได้หลายวิธีด้วยกัน แต่วิธีที่ได้ผลเที่ยงตรงมากที่สุดก็คือการใช้อุปกรณ์ทดสอบการตกไข่ (OPK) แต่ถ้ารอบเดือนของคุณสม่ำเสมออยู่แล้ว คุณก็อาจจะกะช่วงที่ไข่ตกได้โดยการนับจากวันที่ประจำเดือนครั้งสุดท้ายเริ่มมาย้อนไป 12-16 วัน แต่วิธีนี้ก็อาจจะไม่ได้วันที่ที่ตรงเป๊ะ [8]
    • การติดตามรอบการตกไข่เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ (ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม) เพราะร่างกายของผู้หญิงจะพร้อมรับการปฏิสนธิมากที่สุดในช่วง 2-3 วันก่อนไข่ตก [9]
    • สัญญาณของการตกไข่อื่นๆ ก็เช่น ปวดท้อง ความเปลี่ยนแปลงตกขาว และความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิของร่างกายขณะตื่นนอนตอนเช้า [10] คุณอาจจะทำเครื่องหมายติดตามรอบเดือนของคุณไว้บนปฏิทินอย่างละเอียดเพื่อให้เข้าใจว่าร่างกายของคุณตอบสนองต่อการตกไข่อย่างไร
  2. มีเพศสัมพันธ์ 2-4 วันก่อนไข่ตกเพื่อให้ได้ลูกสาว. อสุจิเพศหญิงจะมีสารพันธุกรรมมากกว่า ดังนั้นอสุจิเพศหญิงจึงหนักกว่าและเคลื่อนตัวช้ากว่าอสุจิเพศชาย การมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 2 วันก่อนไข่ตกจะทำให้อสุจิเพศหญิงที่เคลื่อนตัวช้ากว่ามีเวลาเคลื่อนตัวเข้าสู่ช่องมดลูกได้ก่อนที่ไข่จะตก [11] วิธีนี้เรียกว่า "Shettles Method"
    • อีกทฤษฎีหนึ่งที่ชื่อว่า "Whelan Method" แนะนำว่าควรมีเพศสัมพันธ์ 2-3 วันก่อนตกไข่เพื่อให้ได้ลูกสาว และ 4-6 วันก่อนตกไข่เพื่อให้ได้ลูกชาย [12]
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ใช้กระบวนการทางการแพทย์เพื่อให้ได้ลูกสาว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พิจารณาว่าคุณยินดีที่จะจ่ายค่าคัดเพศบุตรเท่าไหร่. แม้ว่าวิธีทางการแพทย์จะเป็นวิธีที่รับประกันได้มากที่สุดว่าคุณจะได้ลูกสาวแน่ๆ​ แต่ก็เป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดเช่นเดียวกัน โดยค่าใช้จ่ายอยู่ที่​หลักหลายแสนไปจนถึงหลักล้าน​ และก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกประเทศ​ ถ้าคุณไม่สามารถหาแพทย์ที่ถูกใจในประเทศไทยได้​ คุณก็ต้องบินไปต่างประเทศ​ ซึ่งก็จะทำให้มีค่าเดินทางเพิ่มขึ้นมาอีก [13] เตรียมงบเพื่อวางแผนว่าคุณจะหาเงินมาจ่ายได้อย่างไร
  2. [14] แม้ว่าผลข้างเคียงจากวิธีนี้จะมีน้อยมาก​ แต่ก็เป็นเทคนิคที่ค่อนข้างใหม่และมีความเสี่ยงอยู่บ้าง [15] ปรึกษาแพทย์ที่คุณไว้ใจเพื่อตัดสินใจว่าความเสี่ยงแบบไหนที่คุณรับได้
  3. การคัดแยกอสุจิออกเป็นโครโมโซม​ X และโครโมโซม​ Y สามารถทำได้โดยใช้เทคนิค​การคัดแยกแบบไซโตเมทรี ซึ่งหลังจากนั้นไข่จะปฏิสนธิกับอสุจิตัวที่ต้องการด้วยการผสมเทียมหรือการทำเด็กหลอดแก้ว และเนื่องจากโครโมโซม​ X จะใหญ่กว่าโครโมโซม​ Y เล็กน้อย​ อสุจิที่เป็นเพศหญิงจึงสามารถดูดซับสารเรืองแสงได้มากกว่าอสุจิเพศชาย​ เราจึงสามารถคัดแยกอสุจิและเลือกเพศของทารกที่เราต้องการได้ [16] การคัดแยกอสุจินั้นมีประสิทธิภาพสูงมาก​ แม้ว่าจะไม่ได้รับประกัน​ 100% ก็ตาม [17] แต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูงมากและไม่ใช่ว่าว่าที่พ่อแม่ทุกคนจะทำได้
  4. คลินิกสำหรับผู้มีบุตรยากหลายที่มีการคัดแยกอสุจิจากความเร็วในการเคลื่อนไหว เนื่องจากอสุจิเพศหญิงที่มีสารพันธุกรรมมักจะหนักกว่า​ (จึงเคลื่อนที่ช้ากว่า)​ การคัดแยกด้วยวิธีนี้จึงมีโอกาสคัดแยกเพศได้มากกว่า​ แม้ว่าจะไม่มีการรับรองผลก็ตาม
  5. วิธีนี้จะใช้กับตัวอ่อนที่เกิดจากการทำเด็กหลอดแก้ว ที่ช่วยให้แพทย์สามารถระบุตัวอ่อนของเพศใดเพศหนึ่งได้​ จึงทำให้สามารถเลือกเพศได้ก่อนตัวอ่อนจะฝังตัว วิธีนี้นอกจากจะระบุ ​(และอาจจะเลือกเพศ) ของตัวอ่อนได้แล้ว​ ยังสามารถหาความผิดปกติและปัญหาเกี่ยวกับโครโมโซมได้ด้วย [18]
    • แม้ว่าวิธีนี้จะมีประสิทธิภาพสูง​ แต่กระบวนการนี้มีค่าใช้จ่ายสูงมากและต้องมีการผ่าตัดลงไปในตัวอ่อน​ ทำให้เกิดการตั้งคำถามด้านจริยธรรมเกี่ยวกับความเหมาะสมในการเลือกเพศตัวอ่อนด้วย อันที่จริงแล้วบางประเทศห้ามไม่ให้มีการคัดกรองเพศของบุตรอย่างเด็ดขาด เช่น ในประเทศอังกฤษที่ยกเว้นให้เฉพาะกรณีที่ต้องคัดกรองเพศบุตรเนื่องจากความจำเป็นทางการแพทย์ เช่น โรคทางพันธุกรรมเฉพาะเพศ ในประเทศไทยเองก็ห้ามไม่ให้มีการคัดกรองเพศของบุตรเช่นเดียวกันยกเว้นเพื่อตรวจโรคพันธุกรรม แต่ในทางปฏิบัติก็ไม่มีผลผูกมัดต่อแพทย์ และไม่มีบทลงโทษกรณีไม่ปฏิบัติตาม [19]
    • แพทย์บางคนสนับสนุนการเลือกเพศหลังปฏิสนธิที่มาจากความจำเป็นทางการแพทย์ แต่คัดค้านการคัดเลือกเพศหลังปฏิสนธิด้วยเหตุผลในเรื่องของความชอบส่วนตัว
    • วิธีนี้มีขั้นตอนคือระบุเพศของตัวอ่อนขณะที่ยังอยู่ในห้องทดลองก่อนที่จะฝังเข้าไปในมดลูก และรับรองว่าได้ผล 100% [20]

เคล็ดลับ

  • ถ้าคุณไม่ได้คัดเลือกเพศหลังปฏิสนธิ โอกาสที่คุณจะได้ลูกสาวก็ยังคงอยู่ที่ประมาณ 50/50 พยายามทำความเข้าใจเรื่องเพศของลูกและอย่าไปตั้งความหวังมากเกินไปว่าลูกจะต้องเป็นเพศนั้นเพศนี้ จำไว้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือสุขภาพและความสุขของลูก
  • ถ้าคุณเศร้าที่สุดท้ายแล้วคุณไม่ได้ลูกสาว นั่นเรียกว่า "ความผิดหวังในเพศของลูก" ซึ่งเป็นเรื่องปกติและคุณก็ไม่ควรรู้สึกผิดที่ตัวเองเศร้าด้วย [21] แต่คุณควรยอมรับความรู้สึกของตัวเองและเล่าความผิดหวังให้เพื่อนสนิทหรือแพทย์ฟัง [22] ตามปกติแล้วความรู้สึกต่างๆ จะหายไปหลังจากที่คุณเริ่มผูกพันกับลูกไม่ว่าเขาจะเป็นเพศอะไรก็ตาม แต่ถ้าความรู้สึกนั้นไม่หายไปสักที ก็ควรขอความช่วยเหลือจากกุมารแพทย์ [23]
  • ถ้าการมีลูกสาวสำคัญกับคุณมากจริงๆ คุณก็อาจจะมองทางเลือกอื่นที่คุณจะได้เลี้ยงลูกสาวโดยไม่ต้องคลอดออกมาเอง เช่น คุณอาจจะรับลูกบุญธรรมมาเลี้ยงหรือเป็นพ่อ/แม่อุปถัมภ์ เพราะนอกจากคุณจะได้เลี้ยงลูกสาวอย่างที่ตั้งใจไว้แล้ว คุณยังได้ให้ที่พักอาศัยแก่คนที่ตกทุกข์ได้ยากด้วย

คำเตือน

  • แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสืบพันธุ์หลายคนจะเสนอวิธีคัดเลือกเพศในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ แต่บางคนก็ยังมองว่าการเลือกเพศด้วยเหตุผลในเรื่องของความชอบเป็นการกระทำที่ผิดศีลธรรม
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์หลายคนไม่เชื่อว่าเราจะสามารถกำหนดเพศของลูกโดยการปรับเปลี่ยนอาหาร ท่าเพศสัมพันธ์ หรือการกะรอบการตกไข่ได้ [24] แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีบางบริษัทที่อ้างว่าเขามีวิธีคัดเลือกเพศได้ ระวังบริการคัดเลือกเพศก่อนการปฏิสนธิที่การันตีเพศของบุตร เพราะมันอาจจะแพงแต่ไม่ได้ผลก็ได้
  • ปรึกษาแพทย์ก่อนปรับเปลี่ยนอาหารไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง (รวมทั้งการรับประทานวิตามิน/แร่ธาตุใหม่ๆ เสริมด้วย) เพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่เป็นอันตรายและไม่มีผลกระทบต่อยาที่คุณรับประทานหรือปัญหาสุขภาพที่คุณอาจจะมีอยู่ก่อนแล้ว
  • มียาคัดเลือกเพศบุตรขายอยู่ในตลาดมืดที่นอกจากจะไม่มีผลต่อการคัดเลือกเพศบุตรแล้ว ยังอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ด้วย เพราะฉะนั้นอย่ารับประทานยาหรืออาหารเสริมใดๆ โดยไม่ปรึกษาแพทย์ที่มีใบประกอบโรคศิลป์อย่างถูกต้องก่อน [25]
  • เพศตามกำเนิดไม่เหมือนกับการแสดงออกหรืออัตลักษณ์ทางเพศ แม้ว่าคุณจะได้ลูกสาวตามเพศกำเนิด แต่ลูกก็อาจจะไม่ยอมแสดงออกว่าเป็นผู้หญิงและแสดงออกว่าเป็นผู้ชายมากกว่า เช่นเดียวกันกับเด็กที่เป็นผู้ชายโดยกำเนิดก็อาจจะโตมาเป็นเด็กสาวหรือผู้หญิงก็ได้ เพราะฉะนั้นคุณต้องสนับสนุนลูกไม่ว่าเขา เธอ หรือพวกเขาจะแสดงออกว่าเป็นเพศอะไรก็ตาม [26]
  • วิธีที่การันตีเพศบุตรได้มากที่สุดก็เป็นวิธีที่เป็นที่ถกเถียงกันมากที่สุด และอาจก่อให้เกิดคำถามและความวิตกกังวลด้านศีลธรรม เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องพิจารณาถึงผลที่จะตามมาของการเลือกเพศบุตรให้ดี [27]
  1. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/getting-pregnant/expert-answers/ovulation-signs/faq-20058000
  2. http://www.babycentre.co.uk/a1014303/the-science-behind-sex-selection
  3. http://www.babycentre.co.uk/a1014303/the-science-behind-sex-selection
  4. http://www.dailymail.co.uk/health/article-2014182/Couple-used-gender-selection-ensure-baby-girl-perfect-family.html
  5. http://health.clevelandclinic.org/2014/10/boy-or-girl-can-you-choose-your-babys-gender/
  6. http://www.geneticsandsociety.org/article.php?id=83
  7. http://journalofethics.ama-assn.org/2012/02/ccas3-1202.html
  8. http://www.rbej.com/content/12/1/106
  9. http://americanpregnancy.org/infertility/preimplantation-genetic-diagnosis/
  10. http://www.independent.co.uk/news/science/medical-ethicist-ban-on-sex-selection-of-ivf-embryos-is-not-justified-8683940.html
  11. http://www.telegraph.co.uk/health/healthnews/9504503/British-couples-flying-to-US-for-banned-baby-sex-selection.html
  12. http://www.telegraph.co.uk/lifestyle/wellbeing/7714755/Gender-disappointment-Coping-with-the-wrong-baby.html
  13. http://www.parents.com/pregnancy/my-baby/gender-prediction/baby-gender-disappointment/
  14. http://www.health-and-parenting.com/cope-gender-disappointment/
  15. http://health.clevelandclinic.org/2014/10/boy-or-girl-can-you-choose-your-babys-gender/
  16. http://www.hindustantimes.com/india-news/sex-selection-drugs-linked-to-congenital-birth-defects-drug-safety-report/article1-1375586.aspx
  17. http://www.iwk.nshealth.ca/sites/default/files/TRANSGENDER%20FACT%20SHEET.pdf
  18. http://www.who.int/genomics/gender/en/index4.html#Genetic%20technologies%20for%20sex%20selection

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,292 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม