ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

โดยทั่วไปแล้วอาจจะมีบางครั้งที่คุณ “เย็นชา” ใส่คนอื่นเวลาที่คุณอยากอยู่คนเดียว แต่ถ้าคุณกำลังพยายามจะเป็นคน “ไร้ความรู้สึก” ก็เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะพยายามเอาตัวเองออกมาจากความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับคนรักหรือคนในครอบครัว ในการทำเช่นนี้ คุณต้องเข้าใจแจ่มแจ้งว่าคุณกำลังปิดตัวเองทั้งทางกายและทางอารมณ์จากคนๆ นั้น และคุณก็ต้องเตือนตัวเองด้วยว่าทำไม “การเป็นคนไร้ความรู้สึก” ถึงเป็นมาตรการชั่วคราวที่จำเป็นต่อการได้ชีวิตของคุณกลับคืนมาอีกครั้ง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ส่งสัญญาณการไร้ความรู้สึก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อคุณเลือกที่จะไม่รู้สึกรู้สากับใครแล้ว คุณต้องหนักแน่นในการตัดสินใจที่จะทำเช่นนั้น เตือนตัวเองว่าทำไมการตัดสัมพันธ์และการเลิกรักใคร่คนๆ นี้ถึงจำเป็นต่อความเป็นอยู่ที่ดีและความสุขของคุณ [1]
    • เข้าใจแจ่มแจ้งเมื่อตัดสินใจที่จะวิ่งหนีจากความสัมพันธ์นี้ “ฉันรู้แล้วว่าความสัมพันธ์นี้ทำร้ายฉัน และฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าเราไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้อีกต่อไป และมันไม่สามารถต่อรองได้”
    • การตัดสายสัมพันธ์ในลักษณะนี้เป็นมาตรการที่รุนแรงและท้าทาย เพราะฉะนั้นให้เก็บไว้ใช้กับความสัมพันธ์ที่เป็นอันตรายอย่างเห็นได้ชัดและไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว
  2. ถ้าเป็นไปได้อย่ารับโทรศัพท์ อีเมล ข้อความทาง Facebook และอื่นๆ เพราะทุกครั้งที่คุณเปิดโอกาสให้เขาได้อธิบายหรือขอโทษ ความตั้งใจของคุณก็อาจจะอ่อนลง [2]
    • อธิบายการเปลี่ยนแปลง 1 ครั้งและครั้งเดียวเท่านั้น “ฉันไม่อยากให้เราติดต่อกันอีกแล้ว ยกเว้นว่าจะจำเป็นจริงๆ”
    • คุณต้องมองทุกความพยายามที่จะประนีประนอมว่าเป็นความปรารถนาของอีกฝ่ายที่ต้องการให้คุณกลับไปอยู่ในจุดที่คุณเคยอยู่เพื่อทำร้ายคุณอีกครั้ง
  3. ถ้าเขาถามว่าเขาขอโทรหาคุณได้หรือเปล่า เขาขออธิบายอะไรหน่อยได้ไหม และอื่น เวลาที่ถูกบังคับให้ต้องพูดคุยกับเขา พูดว่า “ไม่” แล้วจบแค่นั้น ๆ ไม่อย่างนั้นก็ตอบไปสั้นๆ ตรงๆ ว่า “ไม่ได้” “ไม่ได้หรอก” หรือ “ฉันไม่มีเวลาหรอก” จากนั้นก็เดินออกมา วางหู และอื่นๆ [3]
    • หรือทำเป็นว่าไม่ได้ทันสังเกตหรือได้ยินเขาเลย
    • ใช้เทคนิคนี้เมื่อต้องรับมือกับเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนร่วมชั้น เป็นต้น
  4. อย่าเปิดเผยว่าตัวเองคิดอะไรหรือรู้สึกอย่างไร. อย่าแสดงอะไรที่อาจตีความได้ว่าเป็นความไม่แน่ใจหรือสำนึกผิด เช่น “ขอโทษ” แม้ว่าคุณจะหมายความตามนั้นหรือไม่ก็ตาม อย่าแสดงสัญญาณว่ายังมีความรักใคร่หลงเหลืออยู่ อย่าแม้แต่จะเหลือบมองไปทางเขา ปิดกั้นตัวเองโดยสิ้นเชิง [4]
    • อย่าเผลอติดกับไปคุยกับเขาว่าคุณจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร คุณวางแผนจะทำอะไรต่อไป และอื่นๆ ปล่อยให้เป็นความลับสำหรับเขา
    • คุณบอกเขาไปแล้วว่าคุณตัดสินใจอย่างไร เพราะคุณไม่ได้ติดค้างอะไรเขาไปมากกว่านี้แล้ว ไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไรก็ตาม
  5. ปฏิเสธที่จะคิดย้อนกลับไปหรือจมจ่อมอยู่กับความรู้สึกต่างๆ. อย่าไปนึกถึง "ช่วงเวลาดีๆ" ที่คุณอาจจะมีร่วมกัน คุณไม่สามารถไร้ความรู้สึกกับใครได้ถ้าคุณยังมีความทรงจำที่หวานชื่นอยู่ ลบข้อความ อีเมล และอื่นๆ ทิ้งรูป ของขวัญ และอื่นๆ ที่ทำให้คุณนึกถึงเขาไปให้หมด [5]
    • แม้ว่าคุณจะเคยมีเวลาดีๆ ร่วมกันจริง แต่คุณก็ต้องสละความทรงจำเหล่านี้ไปเพื่อให้คุณตัดคนๆ นี้ออกไปได้อย่างสนิท
    • ไม่แน่ว่าในอนาคตหลังจากที่คุณเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่ดีแล้ว คุณก็อาจจะสามารถกลับไปคิดถึง "ช่วงเวลาดีๆ" ได้อย่างปลอดภัย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

หนักแน่นกับการไร้ความรู้สึก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ด้วยสารเคมีในสมองและแรงเสริมทางสังคม คนที่อยู่ในจุดที่มีอำนาจหรือการควบคุมจะเห็นอกเห็นใจคนอื่นได้น้อยกว่า และกลายเป็นว่าแม้แต่ “การทำตัวมีอำนาจเหนือกว่า” เพียงชั่วคราวก็สามารถลดความสามารถในการ “รู้สึกถึงความเจ็บปวด” ของคนอื่นได้ ในการที่จะเข้าถึงองค์ประกอบที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ในด้านนี้ ให้นึกภาพช่วงเวลาในชีวิตที่คุณรู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจหรือการควบคุมมากที่สุดอยู่เสมอ [6]
    • เช่น ก่อนที่จะมีเหตุการณ์ที่อาจทำให้คุณต้องบังเอิญเจอคนๆ นั้น ให้เตือนตัวเองว่าคุณได้สร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาตั้งแต่แรกเริ่ม คุณมีอนาคตทางการเงินที่มั่นคง หรือคุณได้รับความเคารพจากคนรอบข้าง
  2. เวลาที่ความตั้งใจที่จะไม่รู้สึกของคุณเริ่มอ่อนแรง คุณจะพบว่าความโกรธคือแรงผลักดันที่ดีมากๆ เมื่อถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากและคุณเริ่มรู้สึกอยากจะยอมแพ้ ให้โกรธ เตือนตัวเองถึงทุกช่วงเวลาที่คุณได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี โกหก หรือถูกทิ้งโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือที่คุณต้องการ [7]
    • เขียนรายการทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำให้คุณเจ็บปวดหรือผิดหวังอย่างละเอียด และกลับไปอ่านเมื่อไหร่ก็ตามที่จำเป็น หรือถ้าช่วยได้ให้ติดรูปของเขาไว้ที่กระดานปาลูกดอกหรือกระสอบทรายแล้วลุยเลย
  3. คุณต้องหาอะไรทำเพื่อไม่ให้จิตใจฟุ้งซ่านและง่วนอยู่กับอะไรบางอย่างในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ หางานอดิเรกใหม่ๆ ที่คุณอยากลองมาตลอด หรือกลับไปทำในสิ่งที่คุณเคยชอบทำก็ได้ [8]
    • ถ้ากิจกรรมหรืองานอดิเรกบางอย่างเตือนให้คุณนึกถึงคนที่คุณเย็นชาใส่มากเกินไป ให้หยุดกิจกรรมเหล่านั้นอย่างน้อยชั่วคราว หรือไม่ก็เปลี่ยนสภาพแวดล้อม เช่น ไปฟิตเนสที่ใหม่ ไปเรียนศิลปะแทนที่จะไปเรียนทำอาหาร เป็นต้น
  4. กลับไปสานสัมพันธ์กับคนที่คุณรักที่คอยสนับสนุนคุณ. ถ้าความท้าทายของความสัมพันธ์ที่ทำให้ใจบอบช้ำทำร้ายความสัมพันธ์ที่คุณมีต่อคนอื่นด้วย ให้พยายามกลับไปเป็นเพื่อน พี่น้อง พ่อแม่ และอื่นๆ ที่ดีเหมือนเดิม แสดงให้คนที่คุณรักที่คอยอยู่เคียงข้างคุณมาตลอดเห็นว่า คุณซาบซึ้งในความช่วยเหลือของพวกเขา [9]
    • อย่าเผื่อแผ่การเป็นคนไร้ความรู้สึกไปถึงพวกเขา แสดงความอบอุ่นรักใคร่ที่พวกเขาสมควรได้รับ!
  5. สร้างกิจวัตร การดูแลตัวเอง ที่เคร่งครัด. ให้เวลา ความสนใจ และความรักใคร่ทั้งหมดที่คุณเอาคืนกลับมาจากเขาให้เป็นประโยชน์ด้วยการให้สิ่งเหล่านี้กลับคืนแก่ตัวเอง การให้ความสำคัญกับความต้องการของตัวเองมาเป็นอันดับหนึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งทางอารมณ์และร่างกายเพื่อให้คุณสามารถถอนตัวจากความสัมพันธ์ที่เป็นอันตรายได้ตลอดรอดฝั่ง เน้นเรื่อง :
    • สุขภาพกาย ออกกำลังกายเป็นประจำ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
    • การดูแลด้านอารมณ์ ฝึกสมาธิ สวดมนต์ โยคะ ไทเก็ก ฝึกการผ่อนคลาย และอื่นๆ
    • ใช้เวลากับเพื่อนๆ และครอบครัวที่คอยสนับสนุนคุณ
    • ทำในสิ่งที่คุณชอบ ไปดูหนัง ออกไปอยู่กลางแจ้ง ท่องเที่ยว และอื่นๆ
  6. การยุติความสัมพันธ์แม้แต่กับคนที่ “คอยสูบพลังทางอารมณ์” ที่เอาแต่เป็นฝ่ายรับโดยที่ไม่เคยให้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าคุณไม่สามารถทำตัวไร้ความรู้สึกใส่เขาและถอนตัวออกมาได้อย่างสนิท การขอความช่วยเหลือนั้นไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย [10]
    • ขอให้หมอหรือเพื่อนๆ และครอบครัวแนะนำนักจิตบำบัดที่มีใบประกอบวิชาชีพใกล้บ้านให้คุณ
    • การทำงานร่วมกับนักจิตบำบัดอาจทำให้คุณรู้ว่า การพยายามเป็นคน “ไร้ความรู้สึก” ชั่วคราวนั้นไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุดสำหรับคุณ สิ่งสำคัญที่สุดคือการหาว่าอะไรที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
  7. เตือนตัวเองว่าคุณเลือกที่จะเป็นคนไร้ความรู้สึกด้วยวิธีการบางอย่างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์บางอย่าง คุณมีอำนาจในการควบคุมสถานการณ์ พอคุณบรรลุเป้าหมายที่จะเอาตัวออกจากความสัมพันธ์ที่เป็นอันตรายได้แล้ว ให้กลับไปเป็นคุณคนเดิม [11]
    • คนที่เป็นคนไร้ความรู้สึกโดยธรรมชาติมักจะเป็นคนที่มี “รูปแบบความสัมพันธ์แบบหลีกเลี่ยง” ที่พัฒนามาตั้งแต่ระหว่างที่ยังเป็นทารก เพราะฉะนั้นการเป็นคนไร้ความรู้สึกชั่วคราวเพื่อจุดประสงค์บางอย่างไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนคุณไปเป็นคนแบบนั้นถาวร [12]
    • แต่ถ้าความพยายามในการเป็นคนไร้ความรู้สึกของคุณสำเร็จขึ้นมา คุณก็อาจจะอยากใช้มันบ่อยขึ้นหรือกว้างขวางขึ้น ถ้าเป็นอย่างนั้น จำไว้ว่าการตัดตัวเองออกจากโลกจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดมากกว่าที่มันจะปกป้องคุณจากความเจ็บปวดได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าคุณเริ่มรู้สึกอ่อนล้า ให้เตือนตัวเองว่าคุณได้ลองวิธีการอื่นๆ อย่างเต็มที่มาหมดแล้ว
โฆษณา

คำเตือน

  • เตรียมใจว่าจะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ คนอื่นอาจจะมองพฤติกรรมของคุณว่าใจดำ และถ้าเขาไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของคุณ เขาก็อาจจะเกิดคำถามว่าเขายังอยากเป็นเพื่อนกับคุณอยู่ไหม
  • อย่าทำพฤติกรรมในลักษณะนี้บ่อยเกินไป ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นธรรมชาติที่สองของคุณ และคุณก็อาจจะทำมันเมื่อเจอกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่ได้คิดให้ดีเสียก่อน
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 12,846 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา