เดี๋ยวนี้แปลงไฟล์วิดีโอเป็น MP3 ได้ง่ายนิดเดียว เพราะมีทั้งเว็บไซต์ แอป และโปรแกรมให้เลือกใช้มากมาย แต่ละเว็บและโปรแกรมก็ใช้งานต่างกันออกไป ถ้าจะยากก็ตอนเลือกว่าจะใช้เว็บหรือโปรแกรมไหนนี่ละ ก็ไม่ต้องเครียดไป เพราะวิกิฮาวได้รวบรวมเว็บและโปรแกรมแปลงไฟล์ดีๆ มาให้คุณเลือกใช้แปลงวิดีโอเป็น MP3 จะแปลงคลิปใน YouTube หรืออื่นๆ ก็ทำได้ง่ายนิดเดียว บางเว็บ/แอปก็ใช้ใน Android, iPhone และ iPad ได้ด้วย! บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการแปลงวิดีโอเป็น MP3 ให้คุณเอง ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอแบบไหน ในอุปกรณ์ใดก็ตาม
ขั้นตอน
-
เข้าเว็บ https://cloudconvert.com/video-converter . เดี๋ยวนี้เว็บแปลงไฟล์วิดีโอเป็น MP3 เยอะมาก แต่แนะนำ CloudConvert เพราะใช้ง่ายได้ผลจริง ให้คลิกลิงก์ด้านบน หรือพิมพ์ในเบราว์เซอร์ก็ได้
- จะใช้วิธีนี้ได้ต้องเซฟไฟล์วิดีโอไว้ในคอมก่อน
-
คลิกปุ่ม "Select File". เป็นปุ่มใหญ่ๆ สีแดง อยู่กลางหน้า คลิกแล้ว File Explorer ในคอมจะเปิดขึ้นมา ก็หาไฟล์วิดีโอที่จะแปลงได้เลย
- ปุ่มที่ว่าจะมีลูกศรเล็กๆ ทางขวาด้วย ใช้ดึงวิดีโอมาจากพื้นที่เก็บไฟล์อื่นๆ เช่น Google Drive, Dropbox และ One Drive
-
เลือกไฟล์. ไม่ว่าจะแปลงไฟล์วิดีโอที่เซฟไว้ในคอมหรือในคลาวด์ก็ตาม ให้หาแล้วเลือกไฟล์นั้น ไฟล์จะ import เข้าเว็บ CloudConvert อัตโนมัติ
- ปกติเว็บจะรู้ประเภทไฟล์วิดีโอที่เรา import เข้าไปโดยอัตโนมัติ แล้วแสดงไว้ที่หน้าบนของหน้าเว็บ ก็เช็คดูอีกทีว่าถูกต้องหรือยัง จะได้เลือกแปลงไฟล์ได้ถูก (เช่น MP4 เป็น MP3, MOV เป็น MP3 เป็นต้น)
-
เลือก MP3 เป็นไฟล์ "convert to" (ไฟล์ปลายทาง). เว็บนี้ใช้แปลงไฟล์วิดีโอเป็นไฟล์อื่นๆ ได้หลายประเภท รวมถึงแปลงเป็นไฟล์วิดีโอแบบอื่นด้วย ให้คลิกเมนูข้าง Convert to... ให้ขยายลงมา แล้วคลิก Audio แล้วจะเจอตัวเลือก MP3 ที่เราต้องใช้
- จะมีตัวเลือก "Image" ให้ใช้แปลงไฟล์วิดีโอเป็น GIF ได้ด้วย
- CloudConvert ให้คุณแปลงทีเดียวหลายไฟล์ได้ ถ้าอยากแปลงไฟล์วิดีโอเป็น MP3 ทีเดียวหลายไฟล์ ก็คลิกปุ่ม "Add more files" สีดำ แล้ว import ไฟล์อื่นเข้ามาเพิ่มเติม ตั้งค่าให้แต่ละไฟล์แปลงเป็น MP3 ได้เลย
-
คลิกปุ่ม "Convert" สีแดง. จะอยู่ด้านขวาของหน้าจอ ปกติเว็บจะแปลงไฟล์ค่อนข้างเร็ว แต่ก็อย่าใจร้อนเกินไป เพราะไฟล์วิดีโอยิ่งใหญ่เท่าไหร่ ก็ยิ่งใช้เวลาแปลงนาน
-
คลิกปุ่ม "Download" สีเขียว. พอไฟล์เสร็จแล้วจะโผล่มาในหน้าจอเป็นไฟล์ฟอร์แมตใหม่ แต่ก็จะอยู่ในเน็ตแบบนั้น ถ้าจะนำไปใช้งานก็ต้องดาวน์โหลดซะก่อน โดยคลิกปุ่ม Download เพื่อเริ่มดาวน์โหลดไฟล์ทันที
- แต่เว็บแปลงไฟล์อย่าง CloudConvert มักจะมีปัญหาเรื่องคนนำมาใช้ละเมิดลิขสิทธิ์ได้ เลยปลิวได้ทุกเมื่อ
โฆษณา
-
ดาวน์โหลดแล้วติดตั้ง VLC media player. ถ้าจะแปลงไฟล์วิดีโอที่มีในคอมเป็น MP3 แนะนำ VLC Media Player เพราะเป็น media player ฟรีแบบ open-source ใช้แปลงไฟล์ไปเป็นหลายฟอร์แมตได้ คุณดาวน์โหลด VLC Media Player ได้ที่ http://www.videolan.org
-
เปิดเมนู "Media" ใน VLC แล้วเลือก "Convert / Save". เพื่อเปิด conversion tool
-
คลิกปุ่ม Add... แล้วเลือกวิดีโอ.
-
คลิกปุ่ม Convert / Save เพื่อเริ่มขั้นตอนการแปลงไฟล์ .
-
เลือก "Audio - MP3" จากในเมนู "Profile" ที่ขยายลงมา.
-
คลิก Browse จากนั้นตั้งชื่อแล้วเซฟไฟล์. ให้เซฟไฟล์ไว้ในที่ที่หาง่าย โดยคลิกปุ่ม Start เพื่อเริ่มแปลงไฟล์
-
รอจนแปลงไฟล์เสร็จ. VLC จะเล่นจนจบคลิป เพราะงั้นขั้นตอนการแปลงไฟล์จะใช้เวลานานเท่าความยาวของวิดีโอโฆษณา
-
copy URL ของวิดีโอที่จะแปลงเป็น MP3. ถ้าวิดีโอที่จะแปลงอยู่ใน YouTube ให้แปลงด้วย YouTube to MP3 converter เริ่มจาก copy URL ของวิดีโอใน YouTube ตรงแถบ address ของเบราว์เซอร์
-
เข้าเว็บดาวน์โหลดวิดีโอ YouTube. มีหลายเว็บที่ใช้ดาวน์โหลดวิดีโอ YouTube เป็นไฟล์ MP3 ได้ โดยฟังก์ชั่นการทำงานก็จะคล้ายๆ กัน แต่บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการใช้ GetMP3 ของเว็บ https://www.getmp3.pro
- ถ้าแค่แปลงเป็นไฟล์ MP3 ก็ใช้ GetMP3 ได้เลย เพราะมีตัวเลือกให้ปรับแต่งไฟล์ MP3 ที่ได้ด้วย แต่ข้อเสียคือแปลงเป็นไฟล์ประเภทอื่นเหมือนเว็บอื่นไม่ได้ (ยกเว้น MP4 และ M4A)
- เว็บอื่นที่ใช้งานได้คล้ายกันก็เช่น
-
paste URL ของวิดีโอ YouTube ในช่องของเว็บ downloader. จะเป็นช่องค้นหาขนาดใหญ่ เขียนว่า "URL"
-
คลิกไอคอนแว่นขยาย. เพื่อค้นหาวิดีโอใน YouTube เช็คดีๆ ว่าเป็นวิดีโอที่จะแปลงไฟล์และดาวน์โหลดถูกต้องแล้ว
- อันนี้ขึ้นอยู่กับเว็บที่ใช้ บางทีก็มีให้ run ปลั๊กอิน Java
-
เลือก "MP3" settings. GetMP3 ให้คุณกำหนดขนาดไฟล์ MP3 ที่ต้องการได้ด้วย โดยค่า default จะเป็น 320 kbps ซึ่งเป็นขนาดไฟล์ใหญ่สุดที่ดาวน์โหลดได้ ปกติคนนิยมใช้ไฟล์ขนาดนี้ แต่จะเลือกไฟล์ที่เล็กกว่านี้ก็ได้
-
คลิกปุ่ม "Download". ที่เป็นปุ่มสีดำกรอบแดง เพื่อเริ่มดาวน์โหลดไฟล์ audio หรือไฟล์เสียงของวิดีโอนั้น เป็นไฟล์ MP3 ขั้นตอนนี้จะค่อนข้างรวดเร็ว
- บางเว็บใช้แปลงไฟล์เสียงเป็น MP4 เท่านั้น เลยต้องไปแปลงเป็นไฟล์ MP3 ทีหลัง ถ้าอยากรู้ขั้นตอนให้ค้นหาว่าวิธีการแปลงไฟล์ MP4 เป็น MP3
- แต่เว็บแปลงไฟล์อย่าง GetMP3 มักจะมีปัญหาเรื่องคนนำมาใช้ละเมิดลิขสิทธิ์ได้ เลยปลิวได้ทุกเมื่อ
โฆษณา
-
ติดตั้ง แอป Video to MP3 จากใน Google Play Store. เป็นแอปที่ใช้ได้แบบปลอดภัยหายห่วง พัฒนาโดย InShot Inc. ดาวน์โหลดได้ฟรีที่ Google Play Store
- นอกจากใช้เป็น conversion tool แอปนี้ยังมี audio และ video editor ในตัวด้วย ใช้ trim หรือตัดบางส่วนของไฟล์เสียงมาเป็นเสียงเรียกเข้า เสียงเตือน เสียงปลุกได้
-
เปิดแอป. พอดาวน์โหลดและติดตั้งแล้ว ก็เปิดแอปขึ้นมาได้เลย โลโก้แอปจะเป็นโน้ตดนตรีบนพื้นส้ม กับฟิล์มหนังบนพื้นม่วง
-
แตะปุ่ม "Video to Audio" สีแดงในหน้า home ของแอป. ในหน้า home จะมีตัวเลือกต่างๆ รวมถึง audio และ video cutter ตอนนี้ที่ต้องใช้คือปุ่ม Video to Audio มุมซ้ายบนของหน้า
-
เลือกไฟล์วิดีโอ. Video to MP3 จะแสดงไฟล์ที่มีในเครื่อง ก็หาไฟล์ที่ต้องการจากในเครื่องได้เลย ไม่ว่าจะเก็บไว้ที่ไหน เจอแล้วก็แตะวิดีโอที่ต้องการเพื่อทำขั้นตอนต่อไป
- อาจจะต้องอนุญาตสิทธิ์ให้แอปเข้าถึงไฟล์ในเครื่องได้ก่อน ถึงจะหาไฟล์วิดีโอที่ต้องการได้
-
เลือก settings ที่ต้องการใช้เวลาแปลงไฟล์. ก่อนจะแปลงไฟล์วิดีโอ แอปจะให้ trim วิดีโอ ติดแท็กข้อมูลที่เกี่ยวข้อง (เหมาะกับพวก MV) และเปลี่ยนฟอร์แมตไฟล์เสียงที่ต้องการได้ คือแปลงเป็น MP3 หรือ AAC, WMA, FLAC, WAV และ AC3 ก็ได้
- เวลาเลือก MP3 จะมีตัวเลือกเพิ่มเติมให้ปรับ bitrate ได้. ก็เลือก 128kb/s ไป แต่จะปรับให้ไฟล์ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงก็ได้
- แอปนี้ให้คุณปรับ volume และคุณภาพไฟล์ MP3 ได้ก่อนสร้างไฟล์ output หรือไฟล์ที่ได้
-
แตะปุ่ม "Convert" สีแดง. แอปจะแปลงไฟล์แล้วเซฟลงมือถืออัตโนมัติ ก็หาไฟล์ที่แปลงแล้วได้ที่หัวข้อ Audio ใน Android เป็นโฟลเดอร์ใหม่ชื่อ VideoToAudioโฆษณา
-
เปิดแอป. พอดาวน์โหลดและติดตั้งแล้ว ก็เปิดแอปขึ้นมาได้เลย ไอคอนแอปจะเป็นสี่เหลี่ยมสีฟ้า มีลูกศรวน 2 อันตรงกลาง
-
เลือกวิดีโอ. จะเห็นไฟล์วิดีโอในเครื่องที่หน้า home ของแอป Media Converter เลย ให้ไปที่ tab Files ทางซ้ายสุดของเมนู ด้านล่างหน้าจอ แล้วแตะไฟล์ที่ต้องการ
- อาจจะต้องอนุญาตสิทธิ์ให้แอปเข้าถึงไฟล์ในเครื่องได้ก่อน
- ถ้าไม่เจอไฟล์ที่ต้องการ ก็ต้อง import เอง โดยแตะเครื่องหมายบวกมุมขวาบนของหน้า
-
ตั้งค่า "Conversion Type" เป็น "Extract Audio". แอป Media Converter จะบีบอัดวิดีโอ แปลงเป็นไฟล์ฟอร์แมตอื่น แต่ที่เราต้องการคือ Extract Audio หรือแยกไฟล์เสียงออกมาจากวิดีโอ
-
เลือก file format เป็น "mp3" แล้วเช็ค settings ที่เหลือ. ปกติค่า default ของ Media Converter เวลาแปลงไฟล์วิดีโอเป็นไฟล์เสียงจะเป็น MP3 แต่เช็คก่อนก็ดี จะปรับ volume หรือความยาวของคลิปก็ได้ ถ้าอยากได้ไฟล์เสียงแค่บางส่วนของวิดีโอ
-
แตะ "Start Conversion". ถ้าไฟล์ไม่ใหญ่เป็นพิเศษ ก็ใช้เวลาแปลงไฟล์ไม่นาน
- ไฟล์เสียงที่ได้จะเซฟลงเครื่องอัตโนมัติ ก็หาได้ในหัวข้อ "Files" ของแอป Media Converter
- โดยไฟล์วิดีโอต้นฉบับจะยังอยู่ในเครื่องเหมือนเดิม
โฆษณา
-
copy URL ของวิดีโอที่จะแปลงเป็นไฟล์ MP3. ถ้าดูในแอป ให้คลิก Share แล้วคลิก Copy link หรือ copy URL ทั้งหมดจากแถบ address ของเบราว์เซอร์
-
เปิดเว็บแปลงวิดีโอ YouTube. เดี๋ยวนี้สะดวกเพราะแปลงวิดีโอ YouTube เป็น MP3 ได้จากในอุปกรณ์ Android เลย แบบ ไม่ต้องดาวน์โหลดแอป ! มีหลายเว็บเลยที่ให้ดาวน์โหลดวิดีโอ YouTube เป็นไฟล์ MP3 ได้ เว็บที่นิยมกันก็เช่น https://getmp3.pro/ และ clipconverter.cc แต่บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการใช้งานเว็บแรกเป็นหลัก
- ถ้าแค่แปลงเป็นไฟล์ MP3 ก็ใช้ GetMP3 ได้เลย เพราะมีตัวเลือกให้ปรับแต่งไฟล์ MP3 ที่ได้ด้วย แต่ข้อเสียคือแปลงเป็นไฟล์ประเภทอื่นเหมือนเว็บอื่นไม่ได้ (ยกเว้น MP4 และ M4A)
-
ให้ paste URL ของวิดีโอ YouTube ในช่องของเว็บ downloader. จะเป็นช่องค้นหาใหญ่ๆ ที่เขียนว่า "URL"
-
คลิกไอคอนแว่นขยาย. เพื่อค้นหาวิดีโอใน YouTube เช็คให้ชัวร์ว่าเป็นวิดีโอที่ต้องการแปลงและดาวน์โหลดไฟล์
- อันนี้แล้วแต่เว็บที่ใช้ บางทีก็จะมีให้ run ปลั๊กอิน Java ก่อน
-
เลือก "MP3" settings. GetMP3 ให้คุณกำหนดขนาดไฟล์ MP3 ที่ต้องการได้ด้วย โดยค่า default จะเป็น 320 kbps ซึ่งเป็นขนาดไฟล์ใหญ่สุดที่ดาวน์โหลดได้ ปกติคนนิยมใช้ไฟล์ขนาดนี้ แต่จะเลือกไฟล์ที่เล็กกว่านี้ก็ได้
-
คลิกปุ่ม "Download". ที่เป็นปุ่มสีดำกรอบแดง เพื่อเริ่มดาวน์โหลดไฟล์ audio หรือไฟล์เสียงของวิดีโอนั้น เป็นไฟล์ MP3 ขั้นตอนนี้จะค่อนข้างรวดเร็ว
- บางเว็บใช้แปลงไฟล์เสียงเป็น MP4 เท่านั้น เลยต้องไปแปลงเป็นไฟล์ MP3 ทีหลัง ถ้าอยากรู้ขั้นตอนให้ค้นหาว่าวิธีการแปลงไฟล์ MP4 เป็น MP3
- แต่เว็บแปลงไฟล์อย่าง GetMP3 มักจะมีปัญหาเรื่องคนนำมาใช้ละเมิดลิขสิทธิ์ได้ เลยปลิวได้ทุกเมื่อ
โฆษณา
-
ติดตั้งแอป Documents จาก Readdle ใน Apple App Store. แอปเบราว์เซอร์ในอุปกรณ์ iOS จะไม่ยอมให้คุณดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บ YouTube downloader เพราะงั้นใครใช้ Apple ต้องหาทางลัดหน่อย ถ้าใช้แอป Documents ก็จะดาวน์โหลดไฟล์ที่ต้องการได้
- โลโก้ของแอปจะเป็นไอคอนตัว "D" ใหญ่ มีตารางสีเหลืองและเขียวตรงมุมซ้ายบน
-
เปิดแอป. ตอนเปิดแอป Documents ครั้งแรก จะมีให้ตั้งค่า preferences พื้นฐาน ก็ข้ามหน้าแนะนำการใช้งานไปได้ จนเจอหน้า home ของ Documents
- Readdle จะมีให้ subscription คือใช้แบบเสียเงิน ก็แตะ "X" เพื่อปฏิเสธไปได้เลย
-
เปิดเบราว์เซอร์ของแอป. เมนูด้านล่างของหน้า home ของ Documents จะแสดงตัวเลือกต่างๆ ให้เลือก Browser ด้านขวาสุด เพื่อเข้าเบราว์เซอร์ของ Documents ที่ดาวน์โหลดไฟล์ได้
-
เข้าเว็บแปลงวิดีโอ YouTube. มีหลายเว็บที่ใช้ดาวน์โหลดวิดีโอ YouTube เป็นไฟล์ MP3 ได้ แต่เว็บที่นิยมกันก็เช่น https://getmp3.pro และ https://clipconverter.cc แต่บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการใช้งานเว็บแรก
-
copy URL ของวิดีโอ YouTube ที่จะแปลงไฟล์. ง่ายที่สุดคือเปิดวิดีโอในแอป YouTube แล้วแตะ Share และ Copy link
-
กลับไปที่ Documents แล้ว paste URL ในเว็บ. ปกติเว็บแปลงวิดีโอ YouTube จะมีช่องค้นหาใหญ่ๆ ไว้ให้ paste URL ของวิดีโอ ส่วนเว็บ GetMP3 พอ paste URL แล้วจะดึง settings เพิ่มเติมขึ้นมา เป็นการยืนยันว่าเว็บสแกนเจอ URL นั้นของ YouTube
-
ตั้งค่า file settings ตามต้องการ แล้วคลิก "Download". ปกติใช้ default settings ได้เลย ไม่ต้องปรับอะไร แต่จะลดคุณภาพไฟล์ก็ได้ จุดสำคัญอยู่ที่ต้องเลือก MP3 ไม่ใช่ MP4 พร้อมแล้วก็แตะ Download ได้เลย
-
เลือกตำแหน่งเซฟไฟล์. ปกติตำแหน่งเซฟไฟล์ตามค่า default ของแอป Document คือโฟลเดอร์ใหม่ชื่อ Downloads อยู่ในโฟลเดอร์ Documents by Readdle ของ iPhone แต่แอปจะถามก่อนว่าอยากเซฟไฟล์ไว้ที่ไหน ถ้าโอเคแล้วก็แตะ Done
- ไม่ว่าจะเซฟไฟล์ไว้ที่ไหน ก็จะหาและเปิดไฟล์ได้ด้วยแอป Files ใน iOS
-
แตะลูกศรด้านล่างของแอป Document. ทางซ้ายของตัวเลือกเบราว์เซอร์ในเมนูของแอป จะเป็นไอคอนลูกศรชี้ลง ให้แตะเพื่อค้นหาไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา
- อาจจะต้องรอสักพักกว่าไฟล์จะดาวน์โหลดเสร็จ
- ถ้าแถบความคืบหน้าไม่ขยับก็อย่าเพิ่งตกใจ พอไฟล์ดาวน์โหลดเสร็จ แถบนี้จะหายไปเอง
-
ลองเปิดไฟล์ MP3. ตอนนี้ก็เปิดไฟล์ MP3 ที่เพิ่งได้ ในแอป Document ได้เลย หรือจะเปิดด้วยแอป Files ในมือถือก็ได้โฆษณา
โฆษณา