ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การ copy หนังในคอลเลคชั่นส่วนตัวของคุณลงในเครื่อง Mac นี่แหละวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาหนังเรื่องโปรดที่อีกหน่อยแผ่นอาจจะหายไปหรือเกิดรอยขีดข่วนจนเปิดไม่ได้อีก แต่ก็ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ เพราะแผ่น DVD ส่วนใหญ่นั้นมีการป้องกันการ copy ไม่ให้เกิดปัญหาเทปผีซีดีเถื่อน แต่ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น คุณสามารถสร้างคลังไฟล์หนังดิจิตอลของคุณเองได้ง่ายๆ ด้วยโปรแกรมฟรีสองสามตัวที่หาได้จากในเน็ต อยากรู้ไปดูกันเลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

Copy แผ่น DVD ที่ไม่มีการป้องกัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าแผ่นเล่นขึ้นมาเองแบบ auto-playing ให้รีบหยุดไว้ก่อน
  2. เช็คดูซิว่ามีพื้นที่ใน hard drive พอให้ copy แผ่น DVD ได้ไหม.
    • เลือก DVD ใน finder แล้วกด Command+I เพื่อเรียกดูข้อมูลของแผ่นดังกล่าว ดูที่ used space ว่าข้อมูลในแผ่นมีขนาดใหญ่แค่ไหน
    • เช็คความจำที่เหลือใน hard disc ถ้าคุณมีพื้นที่เหลือเกินขนาดข้อมูลของ DVD มากกว่า 5 GB ก็ rip แผ่นต่อไปได้เลย
  3. หาได้ที่โฟลเดอร์ Applications และจะอยู่ในส่วนของ Utilities
  4. ปกติแล้วจะอยู่ในกรอบสีขาวทางซ้ายมือ
  5. เลือก New Image ในแถบเครื่องมือของ disk utility หน้าต่าง “Save As” จะปรากฏขึ้นมา
    • ตั้งชื่อไฟล์ image
    • เลือกโฟลเดอร์ปลายทางที่คุณต้องการจะเซฟข้อมูลจาก DVD
    • ตั้ง image format (จะอยู่ด้านล่าง ไม่ใช่ที่ format) เป็น DVD/CD Master
    • ตั้ง encryption เป็น None
    • คลิก Create แล้ว OSX จะสร้างไฟล์ image ของคุณให้ลงท้ายด้วย .cdr [1]
  6. พอเซฟไฟล์เสร็จแล้วก็กด eject เอาแผ่น DVD ออกได้เลย. คุณจะดูหนังจากในคอมโดยตรง หรือจะแปลงไฟล์แล้วไรท์ลงแผ่น DVD แผ่นใหม่ก็ได้
  7. พอ CD/DVD master ของคุณกลายเป็นไฟล์ .cdr แล้ว ถ้าจะไรท์แผ่นใหม่ก็ควรแปลงไฟล์เป็น .dmg โดยเซฟเป็นไฟล์แบบบีบอัดย่อขนาดลงมาแล้ว เพราะโดยทั่วไปไฟล์ .cdr นั้นมักมีขนาดใหญ่เกินไป
    • ถ้าจะแปลงไฟล์ให้เลือก convert ในเมนูแรกสุด เลือก image format เป็น "Compressed" และเลือก "None" ในส่วนของ Encryption เลือกสกุลไฟล์เป็น .dmg แค่นี้ก็พร้อมไรท์ได้แล้ว
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

Rip แผ่น DVD ที่มีการป้องกัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. DVD แทบทุกแผ่นที่วางขายจะมีการป้องกันการ copy ไว้ เพราะฉะนั้น copy แผ่นด้วย Disk Utility ไม่ได้แน่นอน คุณต้องหาโปรแกรม third-party โปรแกรมอื่นที่มีไว้เพื่อทะลุเกราะป้องกันนั้นโดยเฉพาะ โปรแกรมที่คนนิยมใช้กันมากที่สุดก็คือ MakeMKV ที่ตอนนี้คุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรีๆ
    • แต่พึงสังวรณ์ไว้ว่าการ copy แผ่น DVD ที่มีการป้องกันไว้และไม่ใช่แผ่นของคุณเอง นั้นเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแทบจะในทุกประเทศนะจ๊ะ
  2. เปิดโปรแกรม MakeMKV ขึ้นมาแล้วเลือกไดรฟ์ DVD ของคุณจากในเมนู Source ที่ขยายลงมา
  3. เนื้อหาในแผ่น DVD มักจะแยกย่อยออกเป็นหลาย “titles” ซึ่ง titles เหล่านี้ก็รวมถึงตัวอย่างหนัง เมนูต่างๆ โบนัสพิเศษ และตัวหนังจริงๆ ตอนนี้คุณสามารถเอาติ๊กถูกออกจากช่องของเนื้อหาที่คุณไม่ต้องการ copy ได้เลย
    • Titles ไหนที่สั้นกว่า 2 นาทีจะถูกเอาออกโดยอัตโนมัติ เพราะฉะนั้นพวกตัวอย่างหนังเลยมักจะหายไปจากไฟล์ที่ rip แล้วของคุณ
  4. หรือก็คือโฟลเดอร์ปลายทางที่คุณต้องการเซฟไฟล์ที่ rip แล้วไว้
  5. พอตั้งค่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม Make MKV เพื่อเริ่ม rip DVD จะใช้เวลานานแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับความเร็วของไดรฟ์ DVD ของคุณ แต่ส่วนใหญ่การ rip หนังจาก DVD นั้นจะใช้เวลาประมาณ 15 - 30 นาที [2]
  6. MakeMKV จะสร้างไฟล์ MKV ที่มีทั้งไฟล์ภาพและเสียงขึ้นมา ซึ่งขนาดของไฟล์นี้ก็จะใหญ่เท่าที่มันเคยอยู่ในแผ่น DVD นั่นแหละ ไฟล์ MKV นั้นเปิดใน iTunes หรือ Windows Media Player ไม่ได้ ต้องเปิดด้วย VLC Player ที่คุณสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี
    • ไฟล์ MKV นั้นเป็นไฟล์แบบ lossless ซึ่งก็หมายความว่าไฟล์นั้นจะยังคงคุณภาพทั้งภาพและเสียงไว้ได้โดยไม่ผิดเพี้ยนไปจากไฟล์ต้นฉบับเลย
  7. ถ้าคุณอยากใส่ไฟล์ video นี้ลงใน iTunes library ของคุณ หรืออยากเปิดไฟล์ใน iDevice คุณก็ต้องแปลงและบีบอัดไฟล์ให้เป็นฟอร์แมต MP4 ซะก่อน โดยใช้โปรแกรม HandBrake ซึ่งเป็นโปรแกรมแปลงไฟล์ฟรี การแปลงไฟล์ video นั้นจะย่อขนาดไฟล์ลง ทำให้คุณสามารถเก็บไฟล์ video ไว้ใน hard drive ของคุณได้เป็นจำนวนมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณภาพที่ออกมาก็จะด้อยลงเช่นกัน
  8. พอแปลงไฟล์เป็น MP4 แล้วคุณสามารถไรท์ลงแผ่น DVD ไว้ดูได้ทุกที่ทุกเวลา แถมในเน็ตยังมีโปรแกรมมากมายให้คุณเลือกใช้ไรท์ไฟล์ MKV ลงแผ่น DVD ได้เลยอีกด้วย
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ไรท์ไฟล์ Image ลงแผ่น DVD

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ย้ำอีกครั้งว่าอยู่ในโฟลเดอร์ Applications นั่นแหละ
    • ลากไฟล์ image ของ DVD ไปที่แถบด้านข้างของ disc utility ที่ปกติจะอยู่ล่างเส้นแบ่ง จากนั้นก็กดเลือก
    • เลือก Images
  2. คุณจะไรท์แผ่นด้วยความเร็วสูงสุดก็ได้ แต่ก็ต้องเตรียมใจไว้ด้วยว่าอาจเกิดข้อผิดพลาดในแผ่นที่ไรท์ออกมาหรือภาพและเสียงกระตุกได้ ถ้าอยากจะปลอดภัยไว้ก่อนก็เลือกความเร็วสูงสุดรองลงมาก็ได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ไฟล์ video ที่อยู่ใน DVD นั้นเป็นฟอร์แมตพิเศษที่เรียกว่า mpeg2 ซึ่งเทียบได้กับไฟล์เสียงแบบ mp3 ไฟล์ video ที่กลายเป็น Mpeg2 แล้วจะเล็กพอที่จะใส่ไว้ใน DVD ได้ เพราะปกติแล้วไฟล์ video จะมีขนาดใหญ่เกินไป
  • ใน DVD มีกลไกการป้องกันการ copy อยู่จำนวนนึง พอคุณ rip DVD แผ่นนั้นก็จะเป็นการกำจัดกลไกพวกนั้นออกไป แล้ว copy ไฟล์ video ที่เหลือไปทั้งดุ้น ซึ่งก็แปลว่าตัว DVD ที่เรา rip นั้นจะใช้พื้นที่เท่ากับตัวไฟล์ใน DVD นั่นแหละ
โฆษณา

คำเตือน

  • ห้ามละเลยกฎหมายลิขสิทธิ์ในประเทศที่คุณอยู่เด็ดขาด อย่าคิดทำผิดกฎหมายถึงวิธีที่เราบอกมามันจะง่ายดายแค่ไหนก็เถอะ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,074 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา