PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

การตัดเล็บมือเล็บเท้าให้สั้นอยู่เสมอนั้นเป็นเรื่องสำคัญ หากปล่อยไว้ให้ยาวหรือดูเหมือนสัตว์ป่ามากเกินไป จะทำให้แหลมคม ขรุขระและเป็นอันตรายได้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องตัดให้สั้นมากเกินไป เพียงแค่ตัดเล็มให้เรียบร้อยทุก 2-3 สัปดาห์เพื่อให้เล็บงอกใหม่ได้ดี เราจะมีเคล็ดลับและเทคนิคมาให้นำไปใช้ในการตรวจสอบและดูแลเล็บได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ขั้นเตรียมตัวก่อนตัดเล็บ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. แช่เล็บที่จะตัดไว้สักครู่ก่อนจะตัด จะช่วยให้เนื้อเล็บแข็งๆ ที่งอกออกมานิ่มขึ้นและตัดง่าย หากเล็บมีลักษณะเปราะนิ่ม ก็ย่อมตัดได้ง่ายกว่า จากนั้นเป่ามือและเท้าให้แห้งหลังล้างเสร็จ อันที่จริงคุณก็สามารถตัดเล็บขณะที่ยังเปียกอยู่ได้ แต่การตัดเล็บตอนที่มันแห้งแล้วย่อมง่ายกว่ามาก
    • ขั้นตอนนี้สำคัญมากสำหรับเล็บเท้า เนื่องจากเล็กเท้าจะมีลักษณะหนากว่าและตัดยากกว่าเล็บมือ โดยเฉพาะนิ้วหัวแม่เท้า
  2. สามารถใช้ได้ไม่ว่าจะเป็นแบบกรรไกรตัดเล็บ หรือกรรไกรตัดหนังเล็บ (หรือกรรไกรตัดขนจมูก) ขึ้นอยู่กับว่าชอบแบบไหน โดยมีข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณาดังต่อไปนี้:
    • กรรไกรตัดเล็บจะมีราคาถูก ใช้ง่ายและหาซื้อได้ง่าย ใช้ตัดเล็บให้เป็นแนวขอบโค้งได้- ซึ่งจะสะดวกมากหากขนาดพอดีกับเล็บของคุณ แต่ก็จะยุ่งยากหากโค้งของมันใหญ่หรือเล็กเกินไป. [1] สำหรับกรรไกรที่ใช้กับเล็บเท้าจะมีลักษณะหนาและขอบเป็นแนวตรงกว่าเหมาะกับเนื้อเล็บที่หนาและลดความเสี่ยงในการเกิดเล็บขบ
    • กรรไกรตัดหนังเล็บจะพบได้น้อยกว่ากรรไกรตัดเล็บ โดยพบว่าบางคนจะรู้สึกชอบมากกว่า เพราะตัดและเล็มได้ละเอียดกว่า อย่างไรก็ตามเราจะต้องควบคุมการตัดแนวโค้งที่มากกว่า สำหรับกรรไกรตัดหนังเล็บนั้นได้ชื่อว่าเหมาะที่สุดสำหรับการนำมาดูแลเล็บมือ หากต้องการนำมาใช้กับเท้าจะต้องเลือกแบบที่เป็นอุปกรณ์ครบชุดไปเลย
    • กระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐ (U.S. Department of Health and Human Services Health Resources and Services Administration) ได้กล่าวไว้ว่าเป็นสิ่งที่อันตรายมากหากใช้อุปกรณ์ที่มีคม เช่น มีด, ใบมีดโกน, หรือกรรไกรทั่วไป มาใช้กับการตัดเล็มเล็บ เนื่องจากอุปกรณ์อาจเกิดการลื่นไหลและทำให้ผิวบริเวณรอบเล็บบาดเจ็บได้
  3. หากเป็นไปได้ควรซื้อเซทอุปกรณ์สำหรับตัดเล็บไว้ใช้เป็นของตนเองและแบ่งเซทของเล็บมือและเล็บเท้าแยกออกจากกัน รวมถึงล้างทำความสะอาดเป็นประจำด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค น้ำยาล้างจานหรือสบู่ขจัดแบคทีเรียก็สามารถใช้แทนได้โดยแช่อุปกรณ์ตัดเล็มเล็บไว้ 10 นาทีในชามน้ำร้อน หรือ แช่ในน้ำสบู่. [2]
  4. หาอะไรมารองก่อนจะตัดเล็บ เพราะเศษเล็บที่ตัดอาจจะหล่นบนพื้น ควรนำเศษเล็บไปทิ้งถังขยะ หรือเก็บเศษเล็บไปทิ้งในที่รองรับและพับที่ตัดเล็บที่รูปทรงเหมือนกัมดัมแมลงให้เข้าที่ รวมถึงไม่ควรตัดเล็บในที่สาธารณะและหลีกเลี่ยงการตัดเล็บใกล้ๆ ผู้คนที่กำลังพูดคุยกันอยู่
    • อันที่จริงแล้วเศษเล็บมือเล็บเท้าสามารถนำไปเป็นปุ๋ยหมักได้ แม้จะไม่ได้มีจำนวนมากเป็นกองโต แต่ก็เป็นอินทรียวัตถุที่ย่อยสลายได้ ปุ๋ยจากเล็บปลอม (อะคริลิค) หรือเล็บที่ทาสีมากๆ เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ [3]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ตัดเล็บ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. โดยปกติเล็บจะงอกประมาณ 1/10 นิ้ว (2.5 มิลลิเมตร) ใน 1 เดือน นั่นหมายความว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนเล็บจึงจะขึ้นเต็ม [4] หากคุณตัดเล็บบ่อย เช่น ทุก 1-2 สัปดาห์ ก็ไม่ต้องกังวลว่าเล็บจะยาวหรือดูเหมือนสัตว์ป่าเกินไป หากเริ่มมีเจ็บบริเวณขอบเล็บ อาจจะกลายเป็นเล็บขบได้ ควรเล็มขอบบริเวณที่เจ็บก่อนที่จะงอกลึกลงไป แต่ทางที่ดีควรไปให้ผู้ที่ชำนาญด้านนี้จัดการให้
  2. Watermark wikiHow to ตัดเล็บมือเล็บเท้า
    เริ่มจากการตัดเล็บส่วนที่เกินขอบนิ้วออกมา ซึ่งเป็นส่วนที่มีสีมัวๆ ออกไปทางสีขาวที่งอกออกมาปลายเล็บ โดยตัดเล็บให้เกือบเป็นแนวตรง และเล็มโค้งตรงมุมเล็กน้อยเพื่อให้เล็บไม่ฉีกง่าย การตัดเล็บให้ตรงจะช่วยลดโอกาสการเกิดเล็บขบได้ [5]
    • หากคุณเล่นกีตาร์ ควรไว้เล็บมือข้างที่ต้องดีดกีตาร์ให้ยาวขึ้นอย่างน้อยประมาณ 1/16 นิ้ว (1.5 ถึง 2 มิลลิเมตร) ในแต่ละนิ้วที่จะต้องใช้ดีดกีตาร์
  3. Watermark wikiHow to ตัดเล็บมือเล็บเท้า
    ตัดเล็บออกทีละน้อย อย่าตัดส่วนที่เลยขอบทั้งหมดออกภายในครั้งเดียว ซึ่งปกติเล็บเท้ามีรูปทรงรีเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว การตัดออกภายในครั้งเดียวจะทำให้แนวโค้งกลายเป็นแนวตรง [6]
  4. Watermark wikiHow to ตัดเล็บมือเล็บเท้า
    ใช้วิธีเดียวกับการตัดเล็บมือ เล็บเท้าโดยปกติแล้วจะหนากว่าเล็บมือ ต้องเลือกใช้อุปกรณ์ที่เล็บที่ไม่เล็กเกินไป ตัดให้เป็นแนวตรง การตัดเล็บเท้าเข้ามุมนั้นอาจจะก่อให้เกิดปัญหาในผู้ป่วยเบาหวานได้ หากเลี่ยงได่ ไม่ควรใช้เซทตัดเล็บสำหรับเล็บเท้าร่วมกับเล็บมือ วิธีนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อแบคทีเรียระหว่างเท้าและมือได้
  5. อาจจะดีที่คุณจะตัดเล็มเล็บออกเรื่อยๆ (ไม่ว่าจะเพื่อความสะดวก, ความสวยงาม, หรือจำเป็นต้องตัด) จนไม่เหลือ “ส่วนขาวๆ ที่ยาวเกินเนื้อออกมา” แต่หากตัดเข้าลึกเกินไป จะเห็นเนื้อบางๆ ใต้เล็บโผล่ขึ้นมาและเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ เพราะฉะนั้นควรตัดเล็บออกให้แค่เสมอกับปลายสูงสุดของนิ้วมือ หรือตัดออกทั้งหมดแต่เหลือส่วนขาวๆ มัวๆ ซึ่งเป็น"ส่วนที่ยาวเกินขอบบนของนิ้วมือออกมา" [7]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ตะไบเล็บ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. อันที่จริงคุณอาจไม่จำเป็นต้องตะไบเล็บก็ได้ แต่การตะไบเล็บจะช่วยให้เล็บของคุณดูเป็นรูปทรงตามที่ต้องการ เพราะการตัดเล็บอย่างเดียวจะทำให้เหลือขอบเล็บที่ขรุขระอยู่ แต่อุปกรณ์ตะไบเล็บก็สามารถหามาใช้ได้ง่าย โดยใช้ตะไบเล็บ, หินพัมมิส, หรือวัสดุแข็งอื่นๆ ที่มีพื้นผิวขรุขระ
    • เล็บที่คมขรุขระจะไปข่วนเสื้อผ้า, ถุงเท้า, และถุงน่อง ซึ่งหากเล็บไปข่วนเข้าแล้วจะทำให้ของนั้นฉีกขาดหรือเสียหายได้
  2. รอสักครู่จนเล็บแห้งและไม่นิ่มไปกว่าเดิมอีกแล้ว การตะไบเล็บขณะเล็บยังเปียกจะทำให้เล็บคมขรุขระไม่เรียบเนียนเมื่อเล็บแห้ง และอาจเป็นสาเหตุทำให้เล็บฉีกหรือเปราะหักได้
  3. Watermark wikiHow to ตัดเล็บมือเล็บเท้า
    ใช้ตะไบเล็บมาตะไบให้ได้ทรง และตะไบจนขอบเล็บเรียบเนียน ให้ตะไบอย่างนุ่มนวลไปในทิศทางแนวยาวแนวเดียว โดยเริ่มจากขอบไปหากึ่งกลางเล็บ แล้วเริ่มจากใช้ด้านขรุขระตะไบก่อนหากต้องการเอาเล็บออกเพิ่ม หลังจากนั้นใช้ด้านละเอียดตะไบซ้ำให้ขอบเรียบเนียน
    • รูปทรงของเล็บที่ได้ควรเป็นทรงสามเหลี่ยมเล็กน้อยหรือโค้งมนแต่ต้องไม่แหลมชี้ เพื่อไม่ให้เล็บหักเสียหาย และเล็บจะอ่อนแอกว่าปกติได้หากตะไบลึกเกินไปจนเข้ามุมหรือขอบเล็บ
  4. หลังจากตัดหรือตะไบให้ตรวจสอบเล็บให้ดีว่าแต่ละเล็บมีความยาวและรูปทรงเหมือนกัน โดยตรวจสอบให้ดีว่าเล็บเรียบเนียนดี เล็บที่ขรุขระหรือแหลมชี้อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บและไม่สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันได้ เพราะฉะนั้นจึงควรตัดเล็มและตะไบเล็บแต่ละเล็บให้ยาวเสมอกัน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ทุกๆ เย็น ให้บำรุงเล็บให้เรียบเนียนด้วยน้ำมันบำรุงเล็บหรือครีมบำรุงเล็บ สิ่งนี้จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นภายในเล็บและป้องกันไม่ให้เล็บเปราะบิ่นและฉีกขาด โดยตัวเลือกที่ดีและราคาถูกคือน้ำมันบำรุงเล็บซึ่งมีส่วนผสมของน้ำมันมะกอกอยู่ด้วย
  • ขัดเล็บเพื่อให้เล็บดูเงางาม รวมทั้งนวดด้วยครีมสำหรับเคลือบผิวเล็บเพื่อให้กักเก็บน้ำมันเคลือบผิวเล็บและทำให้เล็บชุ่มชื้น
  • มีกรรไกรตัดเล็บแบบพิเศษสำหรับตัดเล็บเท้าโดยเฉพาะ เนื่องจากกรรไกรตัดเล็บปกติมักจะมีแนวโค้งเล็กน้อย หากเป็นกรรไกรตัดเล็บเท้าจะเป็นแนวตรงเพื่อช่วยลดการเกิดเล็บขบได้
  • สวมถุงมือยางขณะล้างจาน สาเหตุของการทำให้เล็บนิ่มลงง่ายคือการโดนน้ำ หากเล็บเปียกและนิ่ม ควรระมัดระวังให้ดีจนกว่าเล็บจะแห้งสนิท
  • หากคุณมีเล็บที่อ่อนแอมาก ให้ลองทาสีที่โคนเล็บและทาเล็บในระดับใต้ต่อปลายสุดของเล็บเพื่อให้เล็บแข็งแรงทนทานขึ้น
  • ทำความสะอาดเนื้อใต้เล็บด้วยมุมผ้าก๊อซ โดยมุมผ้าก๊อซนี้จะนุ่มกว่าการขัดเล็บด้วยแปรงขัดเล็บ ซึ่งจะช่วยลดการระคายเคืองของเนื้อบางๆ ที่อยู่ใต้เล็บ
  • ระมัดระวังโคลนและสิ่งสกปรกที่จะเข้าไปฝังอยู่ในเล็บขณะทำสวนหรือทำกิจกรรมที่ค่อนข้างเลอะเทอะ ให้ล้างเล็บด้วยสบู่ก้อนเพื่อให้เนื้อด้านใต้เล็บโดนสบู่ด้วย ซึ่งหมายความว่าสิ่งสกปรกจะไม่เข้าไปฝังอยู่ใต้เล็บ
  • ใช้ครีมบำรุงมือทุกครั้งหลังล้างมือ น้ำมันในเนื้อครีมจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับเล็บของคุณ
  • หากคุณทาเล็บหลังจากตัดเล็บให้ใช้สเปรย์น้ำมันพ่นทับเพื่อให้เล็บดูเงางามและทำให้น้ำยาทาเล็บแห้งได้ทันที
  • ทำความสะอาดเนื้อใต้เล็บให้ดี เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรีย
  • ความยาวของเล็บมือที่เหมาะสมที่สุดคือยาวเลยปลายนิ้วมือมาเล็กน้อย
โฆษณา

คำเตือน

  • ขณะตัดเล็บอย่าตัดเร็วเกินไป ให้ตรวจดูให้ดีว่าไม่ตัดเข้าเนื้อหรือตัดเล็บสั้นเกินไป
  • ห้ามเล็ม “ส่วนที่ยาว”ออกมากเกินไปหรือเล็มจนเลือดออก สิ่งนี้ก็เพื่อเหตุผลที่ว่า:ป้องกันการติดเชื้อที่เล็บจากเชื้อโรค
  • ห้ามกัดเล็บ เพราะจะทำให้เกิดเล็บมือและเล็บเท้าขบได้
  • ก่อนเริ่มทำในแต่ละขั้นตอนให้ทำความสะอาดอุปกรณ์ทำเล็บต่างๆ ให้สะอาด โดยแช่ในน้ำร้อนที่ผสมสบู่ไว้สัก 10 นาที
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • กรรไกรตัดเล็บมือที่คมและสะอาด
  • ตะกร้าขยะหรือถังขยะสำหรับทิ้งเศษเล็บที่ตัดออก
  • กะละมังใส่น้ำสบู่สำหรับแช่มือและเท้า
  • น้ำมันเคลือบผิวเล็บและครีมบำรุง
  • ตะไบเล็บ

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 15,965 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา