ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
“เมื่อทุกอย่างเริ่มน่าเบื่อ ความน่าเบื่อจะกลายเป็นความน่ารำคาญ” ไม่เคยมีใครพูดประโยคนี้แน่ แต่ถ้าเกิดคุณเกิดเซ็งขึ้นมา หรืออยากจะยั่วให้เพื่อนอารมณ์เสียในโรงหนัง ในอินเตอร์เน็ต ที่โรงเรียน หรือที่อื่นๆ โปรดอ่านต่อไป
ขั้นตอน
-
เสียงดัง. ร้องเพลงทุกเพลงหรือร้องคลอไปกับทุกอย่าง แม้ว่ามันจะเป็นเพลงของคนอื่น โดยเฉพาะเพลงที่น่ารำคาญของเด็กเล็กๆ ถ้าเกิดว่าเพื่อนกำลังฟังไอพอดอยู่ พยายามเอาหูฟังมาฟังสักข้างหนึ่งแล้วร้องตามเพลงที่กำลังเล่นอยู่ (ถ้าคุณเป็นพวกเสียงเพี้ยนก็จะยิ่งดีใหญ่) คุยโทรศัพท์เสียงดังในที่สาธารณะอย่างไม่หยุดหย่อน โดยที่ไม่จำเป็นว่าคุณจะพูดคุยกับใครอยู่จริงๆ หรือจะคุยเรื่องส่วนตัวของเพื่อนดังๆ ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เมื่อเพื่อนบอกให้หยุดพูดก็ให้พูดเสียงดังขึ้นอีก
- จำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องรู้เนื้อเพลงเป๊ะๆ แค่ร้องมันไปเรื่อย ยิ่งเนื้อเพลงที่ร้องมักฟังดูโง่เง่ามากเท่าไหร่ยิ่งดี และให้ผลดีกว่านั้น ถ้าคุณกำลังดูทีวีก็ให้ร้องเพลงตามเพลงโฆษณาไปเลย หรือจะร้องอะไรสักอย่างซ้ำไปซ้ำมาจนเพื่อนทนไม่ไหว ถ้าเพื่อนเดินหนีก็ให้ตะโกนให้สุดเสียงจนพวกเขาต้องเดินกลับมา
-
ตอบว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” กับทุกคำถามที่ถูกถาม. “แกกับเคซี่เป็นยังไงกันบ้าง” “ใช่” “หมายความว่าไปกันได้ดีรึเปล่า” “ไม่” “เออ ช่างมันเถอะ”
-
ทำเสียงสัตว์ดังๆ. คนส่วนใหญ่จะรำคาญทีเดียวถ้าคุณแอบไปข้างหลังแล้วทำเสียงสัตว์ใส่ ถ้าใครตะโกนกลับมาหรือว่ากลับมาก็ทำให้ทำเสียงสงสัยกลับไป
-
ถามใครสักคนว่า “ทำไม?”. แล้วเวลาคุณได้รับการอธิบายก็ให้ยิงคำถามว่า “ทำไม?” แทรกเข้าไปอีกเรื่อยๆ
-
ทำไม่รู้ไม่ชี้. ถามคำถามส่วนตัวหรือคำถามหน้าอาย คุณจะถามคำถามพวกนี้กับคนหลายๆ คนหรือถามไปทั่วก็ได้ ถ้าเกิดจะสุ่มทำแบบนี้กับใครสักคน ลองถามผู้ชายว่าเขาตั้งท้องหรือเปล่า ทำนองนี้ก็ได้
- หัวเราะอย่างไม่มีเหตุผลขึ้นมาเฉยๆ ถ้าเกิดมีคนถามก็ไม่ต้องอธิบายว่าหัวเราะทำไม ให้ด่ากลับไปเลยว่าเขาทำให้คุณรู้สึกถูกตำหนิ
- อีกทางหนึ่ง ลองสร้างตลกวงในที่มีแค่คุณเข้าใจคนเดียวขึ้นมาและไม่ต้องบอกให้คนอื่นเข้าใจ และเมื่อใครสักคนถามว่าตลกอะไรก็ให้บอกว่ามันเป็นเรื่องวงใน
-
ทำตัวน่าขายหน้า. เดินลากเท้าไปเรื่อยๆ ทำเหมือนว่าคุณอยู่นิ่งไม่ได้ เดินไปเดินมาอยู่ในขอบเขตสายตาของใครสักคน
- จ้องอย่างสงสัยไปที่เหนือศีรษะของใครสักคนหนึ่ง ขณะกำลังคุยกับใครสักคนอยู่ให้อ้าปากเล็กน้อยแล้วจ้องไปเหนือศีรษะของคนคนนั้น แตะศีรษะเขาอย่างประหม่าแล้วถามว่า “อะไรเนี่ย?” หยุด แล้วทำเป็นหัวเราะจากนั้นก็ส่ายหัว แล้วกลับมาคุยเหมือนปกติ ถ้าอยากให้น่ารำคาญขึ้นก็ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม
- เวลามีใครถามอะไรคุณก็ให้ตอบว่า “ครับ/ค่ะ รับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มไหมคะ” และครั้งไหนที่พวกเราเริ่มเสนอความเห็นกับอะไรสักอย่าง ให้ทะลุกลางปล้องไปว่า “นั่นล่ะที่เธอพูดไว้” แม้ว่ามันจะไม่เหมาะกาลเทศะก็ตาม
- พูดกับเพื่อนด้วยภาษาไทยว่าคุณพูดภาษาไทยไม่ได้ และตอนนี้กำลังเรียนภาษาอยู่ อันนี้ใช้ได้ดีทีเดียวถ้าคุณเลือกใช้คำยากๆ คำที่คนใช้ภาษาไทยระดับดีๆ เขาใช้กัน
-
ใช้มุกขำขันเกี่ยวกับห้องน้ำ. บอกกับเพื่อนๆ ว่าคุณอยากจะเข้าห้องน้ำ และเพื่อนๆ ก็ควรจะไปด้วยเหมือนกันเพราะว่าต่างคนก็ต่างอั้นกันมานานแล้ว เมื่อเพื่อนเข้าห้องน้ำ ให้ตะโกนถามว่า “อยู่ในนั้นโอเคไหม?” เพื่อทำให้น่ารำคาญเข้าไปอีก ถ้ามีคนอื่นอยู่ในห้องน้ำ ให้แนะนำอย่างภาคภูมิใจไปเลยว่า “เพื่อนของผม/ฉันอยู่ในนั้น” แล้วชี้ไปที่ประตูห้องน้ำ เมื่อคุณเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วให้ออกมา ทำหน้าผ่อนคลาย แล้วอย่าลืมเล่าเรื่องในห้องน้ำให้พวกเขาฟัง (แม้ว่าพวกเขาจะไม่อยากฟังก็ตาม)โฆษณา
-
พยายามใช้ไวยากรณ์ผิดๆ. สะกดคำผิดและเมื่อใครบอกคุณว่าคุณสะกดผิด ให้พิมพ์ไปว่าคนพวกนั้นโง่เง่าโดยสะกดผิดๆ เขียนทุกอย่างด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ ใช่ปุ่ม Caps Lock ให้เกินเหตุไปเลย และเมื่อคุณจำเป็นต้องพิมพ์ไรด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ก็ให้พิมพ์ด้วยตัวพิมพ์เล็กแทน (ข้อนี้ใช้ในกรณีที่พิมพ์ภาษาอังกฤษ)
- อย่าใช้เครื่องหมายอย่างถูกต้อง? ใช้คอมม่า, มากๆ. ไม่ต้องกังวลไป,ไม่ต้องมีอัศเจรีย์. ดีมาก คุณ. (ข้อนี้ใช้ในกรณีที่พิมพ์ภาษาอังกฤษ)
- สะกดคำผิดอย่างตั้งใจ ทำเป็นโมโหมากๆ เมื่อผู้คนไม่เข้าใจคุณ
- ไม่ใช้วรรณยุกต์
- แทนที่เครื่องหมายทุกอย่างด้วยคำว่า “หยุด” หรือไม่ก็สร้างคำโง่ๆ ขึ้นมาเช่น “เค้กอะไรก็ไม่รู้” แล้วก็ลงท้ายทุกประโยคที่พิมพ์ด้วยคำนี้
- สะกดทุกอย่างกลับหลังให้หมด เช่น “ดมหห้ใงลัหบลักงาย่อกทุดกะส”
- ทำเหมือนว่าคุณรู้ทุกเรื่องของทุกคน ถ้ากำลังดูวิดีโอสอนแต่งหน้าอยู่ ให้ไปที่ช่องแสดงความเห็นแล้วพิมพ์ลงไปว่าคนในวิดีโอคนนี้เติบโตมาจากเอเชียใต้และมีลูก 18 คนตั้งแต่อายุ 14 ฯลฯ
-
พยายามขึ้นไปอยู่ความเห็นแรกในหน้าวิดีโอ. ปิดกั้นคนอื่นด้วยการโพสต์ข้อความขอให้อัพโหลดใหม่ ถ้าวิดีโอนั้นไม่มีความเห็นเลย ให้แสดงความเห็นว่า “เย้ คอมเมนต์แรก!” หรืออะไรสักอย่างเทือกๆ นี้ หรือจะแสดงความเห็นว่า “วิดีโอนี้ชื่อว่าอะไร?” พยายามทำให้ดูเหมือนช่างซักช่างถาม
- เข้าไปดูวิดีโอเพลงร็อคในตำนานในยูทูปและบ่นเรื่อง จัสติน บีเบอร์ บ่นในเรื่องทั่วๆ ไป อาจจะเป็นเรื่องคัพเค้กที่กินอยู่มันค้างคืน บ่นต่อไปเรื่อยๆ จนคุณรู้สึกว่าคนที่อ่านอยู่เริ่มจะไม่สนใจแล้ว
- เข้าไปแสดงความเห็นในบทสนทนาเก่าๆ คนจะเริ่มรำคาญถ้าคุณไปแสดงความเห็นว่า “ผม/ฉันก็เหมือนกัน” ในบทสนทนาเมื่อปี 2001
-
ใช้อีโมติคอน. ตัวย่อก็ใช้ได้เหมือนกัน ใช้คำที่เป็นคำให้น้อยที่สุดในการสื่อสารเป็นทางเลือกที่ดีถ้าคุณอยากจะกลายเป็นคนน่ารำคาญ พิมพ์ ‘lol’ ปิดท้ายทุกประโยคแม้ว่ามันจะไม่ตลกก็ตาม
- อีกวิธีหนึ่งคือพิมพ์ ‘liil’ แทนที่จะเป็น ‘lol’ และจากนั้นพิมพ์ว่า “โอ๊ย ขอโทษที ฉัน/ผมชอบกดแป้นผิดทุกที liil! โอ๊ย ฉัน/ผมหมายถึง ‘kopl’ เฮ้ย ไม่ใช่ ฉัน/ผมหมายถึง LOL!’
-
สร้างตัวตนปลอมขึ้นมา. ใช้ชื่อปลอมในโปรแกรมแช็ต แล้วส่งข้อความถึงเพื่อน หรือผู้ใช้ที่คุณรู้จัก เริ่มบทสนทนาด้วยการทำเหมือนว่าคุณคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา หรือแฟนที่เพิ่งบอกเลิกคุณไป
- ใน Facebook สร้างแฟนเพจหรือกลุ่มที่ตั้งด้วยชื่อของคุณ เชิญทุกคนที่คุณรู้จักและไม่รู้จักมากดถูกใจหรือเข้ากลุ่ม สร้างตัวตนปลอมขึ้นมาให้เป็นคุณในแบบที่ร้ายหรือในแบบที่ตลก อ้างถึงตัวตนนั้นด้วยสรรพนามบุรุษที่สาม
- เข้าไปเล่นเกมแล้วแต่งตัวให้เป็นหญิงสาวน่ารักให้ได้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ อย่าลืมตั้งชื่อผู้ใช้แบบผู้หญิง และใส่อีโมติคอนเยอะๆ ถ้ามีใครถามว่า “เป็นผู้หญิงเหรอ?” ให้ตอบ “...ไม่ใช่” หรือ “ไม่รู้เหมือนกัน” ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงหรือเปล่า คำเตือน: สิ่งนี้ทำให้บทสนทนาค่อนข้างกระอักกระอ่วนได้มากทีเดียว
- ในห้องสนทนา ให้แกล้งทำเป็นว่าคุณคือเด็กน้อย เมื่อไหร่ที่ใครใช้ภาษาของผู้ใหญ่ให้ถามว่าคำนั้นๆ มีความหมายว่าอย่างไร หรือถามว่า “ปาป๊า/มาม้าพูดคำว่า (ใส่คำนั้นลงไป) ตลอดเวลาเลย พวกคุณเหมือนกันจัง” สะกดคำที่พิมพ์ให้ผิดแทบทั้งหมด ถามคำถามโง่ๆ เช่น “ผม/ฉันจะเข้าระบบยังไงตอนที่ไม่มีมาม้าคอยช่วยอยู่?”
-
แบ่งปันเกินความจำเป็น. บน Facebook ทำอะไรก็ให้ตั้งสถานะให้หมด ตั้งให้ละเอียด สิ่งนี้จะทำให้ผู้คนรำคาญมาก หรือไม่ในวันฮัลโลวีนก็โพสต์เรื่องย่อของหนังสยองขวัญลงใน Netflix โพสต์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆ สิบห้านาที
- ส่งอีเมล์ที่ยาวและน่าเบื่อให้กับใครสักคนหนึ่ง แต่ว่าส่งเผื่อไปยังคนอื่นด้วยในช่องตอบกลับ
-
อย่าทำแบบนี้ในเว็บไซต์ที่คุณชอบ เพราะว่าเขาจะกันคุณออกไม่ให้เข้าไปเล่นอีก.โฆษณา
-
ทำลายโครงเรื่อง. ถ้าเกิดว่าเคยดูหนังเรื่องที่กำลังเล่นอยู่มาแล้ว โผล่หัวเข้าไปที่ประตูแล้วตะโกนบอกตอนจบ ตะโกนจากหลังโรงหนัง หรืออีกวิธี แต่งตอนจบขึ้นมาใหม่ เช่น “เหมือนว่าแฮร์รี่ พ็อตเตอร์จะตายนะ แต่ผม/ฉันไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่”
- ในตอนที่หนังเล่นมาถึงตอนสำคัญ อย่างเช่นตอนที่ผู้ร้ายถูกเปิดโปง หรือเมื่อคู่รักได้มาอยู่ด้วยกันในที่สุด จามหรือไอเสียงดังรบกวนไปให้ทั่ว จากนั้นพูดเสียงดังว่าทำไมคุณถึงไอหรือจาม เช่น “*ไอ* เฮ้ย ขอโทษทีพอดีมีอะไรติดอยู่ในคอก็ไม่รู้”ให้ทุกคนได้ยิน
-
ทำเสียงดัง. หัวเราะอย่างน่ารังเกียจให้กับมุกเห่ยๆ ดุทุกคนที่พูดอะไรขึ้นมาแล้วทุ่มเถียงด้วยเสียงดังๆ ว่าการคุยกันในโรงหนังมันหยาบคายเพราะคนอื่นๆ เขามาดูหนังกัน
- ดูดน้ำอัดลมที่ใกล้หมดให้เกิดเสียงดัง
- พาคนไปกับคุณด้วยสองคนขึ้นไปเพื่อที่จะได้คุยเสียงดังและน่ารังเกียจขณะที่หนังกำลังฉายอยู่ ดูให้แน่ใจว่าอยู่ใกล้กับผู้คนมากพอ ถ้าใครบอกให้หุบปากก็ปาป๊อบคอร์นใส่เสียเลย
- ถ้าไม่มีใครอยากจะเล่นด้วย ให้เอามือถือเข้าไปในโรงหนังโดยไม่ต้องเปิดระบบสั่น จากนั้นทำให้มือถือดังขึ้นเหมือนสัญญาณกันขโมยติดรถแล้วก็ไม่ต้องปิดมัน
-
ทำตัวน่ารำคาญทางร่างกาย. ดูให้แน่ใจว่าคุณนั่งอยู่แถวกลาง จากนั้นลุกขึ้นไปที่ทางเดินทุก 10 นาที เดินไปมาสักพักแล้วกลับมานั่งที่เดิม อาจจะกลับมาได้ครึ่งทางแล้วหยุดสักหน่อยก่อนเดินต่อก็ได้ ซื้อขนมหวานหนืดถูกๆ เช่น กัมมี่แบร์ แล้วแอบโยนมันไปที่ทางเดินหรือบนคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าหรือข้างหลังคุณ ถ้าเขากันมามองก็ให้หยิบกินสักอันหนึ่ง
- ถ้ามีคนนั่งอยู่แถวหน้าก็ให้เตะเก้าอี้ตัวนั้นไปเรื่อยๆ อย่าหยุด ยกขาขึ้นมาก็ได้ ยิ่งรองเท้าสกปรกเท่าไหร่ยิ่งได้ผลดี
- เอาชุดออกกำลังกายไปด้วย แล้วแล้วปั่นจักรยานอากาศตรงทางเดิน ดูให้แน่ใจว่าคุณขยับสะโพกอย่างผู้เชี่ยวชาญและหอบเสียงดังพอ
- ลุกขึ้นแล้วไปห้องน้ำ แล้วจากนั้นเมื่อเดินไปถึงทางออกแล้วเปิดประตูค้างไว้สักพัก หันหน้ากลับไปดูหนัง
- ถ้าอยู่ในโรงหนังกับแฟน ลุกขึ้นแล้วเล้าโลมกันในช่วงที่หนังกำลังสนุก นั่นจะทำให้ผู้คนที่อยู่ข้างหลังคุณอารมณ์เสีย
-
กวนใจพนักงาน. ถามผู้จัดการที่บูธขายป๊อบคอร์นว่าหลอดฟรีหรือเปล่า หรือจ้องไปที่คนตรวจบัตรนานๆ
- ขอการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้เขาหาที่พิเศษให้เพื่อนในจินตนาการของคุณหรือเพื่อนที่พิการชื่อจอร์ช ถ้าพวกเขาปฏิเสธ บอกอะไรก็ได้กับพวกเขาที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เช่น หน่อไม้ฝรั่งของพ่อคุณเป็นของแท้ ทำทีเป็นว่าสิ่งที่คุณพูดสำคัญมาก ถ้าเขาตอบรับคำขอร้องคุณก็ให้ทำเป็นว่าไม่รู้ว่าเขาพูดเรื่องอะไร คุณอาจจะถูกจับโยนออกมา แต่ใครจะไปสนใจล่ะ
โฆษณา
-
กวนใจอาจารย์. บ่นเรื่องลายมือหรือเรื่องการบ้านที่สั่ง ใช้คำว่า “หน้าที่ของอาจารย์” หรือถามเรื่องชีวิตส่วนตัวของอาจารย์ ปฏิเสธไม่ทำการบ้าน เปลี่ยนที่นั่งไปเรื่อยๆ ถ้าอาจารย์เริ่มไม่พอใจ ให้ทำเสียงผายลมด้วยมือแล้วพูดว่า “ตรงนี้”
- แก้ไวยากรณ์ให้อาจารย์เป็นกระบวนการที่น่าหงุดหงิดที่สุด แก้ไขอย่างถูกๆ ผิดๆ ยิ่งดี เช่น “ผม/หนู นึกว่าครูหมายถึง ‘ของใครที่จะไปพักครึ่ง’ ครูไม่ใช่นางสาวฟากูล่าหรือครับ/คะ?” หรือสร้างคำขึ้นมาแล้วทำทีเหมือนว่าคนในชั้นเรียนควรจะรู้ ถ้าอาจารย์พยายามจะอธิบายว่านี่ไม่ใช่คำจริงๆ ให้บอกว่าอาจารย์ต่างหากที่ซื่อบื้อ
- เมื่อไหร่ก็ตามที่อาจารย์อธิบายอะไรขึ้นมาให้พูดว่าคุณไม่เข้าใจ เมื่อพวกเขาอธิบายอีกครั้ง ให้บอกว่าไม่เข้าใจอีก ทำไปอย่างนี้เรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
- ในวิชาคณิตศาสตร์ พูดเลขซ้ำๆ อยู่เลขเดียว นี่จะทำให้เพื่อนร่วมชั้นและอาจารย์ของคุณอยากจะตาย ยกตัวอย่างเช่น “สี่คุณสองได้เท่าไหร่?” “แปด” “หกคูณเจ็ดล่ะ?” “แปด” “ห้าคูณหกล่ะ?” “แปด”
-
พูดให้มากเข้าไว้. ตอนพักกลางวัน ไปนั่งใกล้ๆ ใครสักแล้วพูดว่า “โอ พระเจ้า บ๊อบนายคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน!” ถ้าชื่อของใครคนนั้นคือบ๊อบจริงๆ ให้เรียกเขาว่าสตีฟ ล้อเลียนทุกอย่างที่เพื่อนพูดขึ้นมา ตอบคำถามทุกคำถามอย่างผิดๆ หรือไม่ก็ยกมือขึ้น พูดว่า “เอลาย วิทนีย์กับเครื่องปั่นฝ้าย” หรือด่าเพื่อนสักทีหนึ่งแล้ววิ่งหนีไป
- ทักทายทุกคนด้วยสำเนียงแปลกๆ ในทุกคาบเรียนอย่างไม่มีผล จากนั้นถามเพื่อนผู้ชายที่มีเพื่อนเป็นผู้หญิงว่าตกลงเป็นเพื่อนกันหรือเป็นแฟนกันกันแน่ และถามเพื่อนผู้หญิงที่มีเพื่อนเป็นผู้ชายในลักษณะเดียวกัน
- ถามเพื่อนว่าร้องไห้ทำไมในขณะที่เพื่อนก็ไม่ได้ร้องไห้ ถ้าเขาบอกคุณว่าเขาไม่ได้ร้องให้ ให้อธิบายกับเพื่อนไปว่ามันไม่เป็นไรถ้าคนเราจะร้องไห้ และพูดถึงตอนที่คุณร้องไห้ ยกตัวอย่างเช่น “ครั้งหนึ่งฉันร้องไห้หนักมากหลักจากที่ฉันท้องผูกสุดๆ” เมื่อเพื่อนเดินหนีก็ให้ดึงตัวเพื่อนมาใกล้ๆ คุณอีกครั้ง พูดให้น้ำลายกระเด็นได้ยิ่งดี จะยิ่งทำให้กระอักกระอ่วนมากขึ้น
-
ทำเรื่องไร้สาระ. ทำเสียงรถพยาบาล เสียงการแสดง เสียงสะท้อน หรือเสียงเดาะลิ้น บันทึกเสียงเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือแล้วเปิดมันดังๆ ไปเรื่อยๆ
- จ้องไปบนเพดานเมื่อมีคนพยายามคุยกับคุณ ถ้าเขาถามว่าคุณทำอะไรก็ให้ตอบว่า “ก็แค่นั่งบนนั้นเฉยๆ” ด้วยน้ำเสียงแปลกๆ หรือไม่ก็จ้องที่พื้นแล้วบอกว่า “นั่งอยู่ข้างล่างนี้เฉยๆ”
- ร้องเพลงเกี่ยวกับเพื่อนที่เพื่อนเห็นว่ามันน่ารำคาญ ร้องไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ด้วยน้ำเสียงไม่ปกติ “บ๊อบเข้าไปอึในห้องน้ำเล็กจิ๋ว/บ๊อบเข้าไปอึด้วยก้นเล็กจิ๋ว” นี่คือเพลงยอดนิยม
-
ทำให้ร่างกายคุณกลายเป็นเครื่องดนตรี. หักนิ้วเสียงดังๆ ผายลม, เรอ, ไอ, จาม, เช็ดจมูกด้วยแขนเสนเสื้อ พูด “ขอโทษ” ด้วยเสียงโง่ๆ เมื่อคุณทำอะไรที่ไม่จำเป็นต้องขอโทษเลย พูดคำคำเดียวไปเรื่อยๆ ด้วยเสียงเหมือนกำลังร้องเพลง
- เอาหมากฝรั่งไปนั่งเคี้ยวเสียงดังใกล้ๆ เพื่อน
- ถ้านั่งอยู่ข้างๆ อาจารย์แล้วอาจารย์กำลังพูดอยู่ ให้ไอเสียงดังๆ โดยไม่ปิดปาก
-
ป่วนเครื่องคอมพิวเตอร์. เปลี่ยนภาพพักหน้าจอ เลือกรูปที่เพื่อนเห็นแล้วจะต้องอับอาย เช่นรูปของวง โจนาส บราเทอรส์หรือลูกแมวในอวกาศ จากนั้นเรียกความสนใจจากทุกคนเมื่อเพื่อนกลับมายังคอมพิวเตอร์ ลบไอคอนทิ้งหรือจัดใหม่ให้มันกระจัดกระจาย
- เปลี่ยนการตั้งค่าไปเรื่อยๆ ตั้งค่าให้เมาส์หรือแป้นสัมผัสไวขึ้น หรือตั้งค่าให้จอคอมพิวเตอร์เข้าโหมด sleep หากไม่มีการใช้งานภายใน 30 วินาที
โฆษณา
-
หารถใหญ่ๆสักคัน. ไม่ว่าจะเป็นรถแบบบ้านนอกหรือรถทันสมัย ดูให้แน่ใจว่าคุณจะขับไปในชั่วโมงเร่งด่วน เวลานั้นคุณรถคุณจะกลายเป็นรถคันใหญ่น่ารังเกียจบนถนนแออัดที่พยายามจะหาพื้นที่ให้ตัวเองทันที ให้ขับไปขับมาเร็วๆ บนถนนเหมือนเจ้ากระต่ายที่ควบคุมตัวเองไม่ได้
- มีกระบะพ่วงติดรถเอาไว้เสมอโดยที่ไม่มีอะไรอยู่ข้างในนั้น หรืออะไรที่ไร้สาระสุดๆ อย่างเช่น “ม้า”
-
เปิดเพลงเสียงดัง. ทำอะไรสักอย่างที่ขายหน้าเวลาที่เพื่อนอยู่ในรถ เช่นร้องเพลงประกอบ “ไททานิค” เพลงของเด็กอนุบาล หรือเพลงแร็พ ไม่อย่างนั้นก็เปิดเพลงชาติอังกฤษให้ดังสุดไปเลย อันนี้จะได้ผลดีทีเดียวถ้าคุณไม่ได้อยู่ในประเทศอังกฤษ
-
ทำตัวผิดปกติเวลาติดไฟแดง. บีบแตร ถ้าเกิดอยู่หลังไฟเบรกใคร ให้เริ่มบีบแตรไปเรื่อยๆ อย่าหยุด ถ้าอยากจะแช่มือเอาไว้ที่แตรรถเลยก็ได้
- เมื่อติดไฟแดงให้ซบหัวลงไปบนพวงมาลัยแล้วทำเหมือนว่าหมดสติหรือตาย จากนั้นถ้ามีใครเข้ามาดูก็ให้ตื่นขึ้นแล้วทำเสียงดัง
-
ถาม “ทาง”. พอขับไปได้พักหนึ่งให้จอดรถเมื่อเจอคนที่เดินอยู่ตามทางเท้า โบกมือ ยิ้ม แล้วกดกระจกลงตะโกนถามผู้คนในรถหรือที่เดินอยู่ ถามเขาว่าสถานที่ในจิตนาการอยู่ที่ไหน ทำทีหงุดหงิดเมื่อพวกเขาบอกว่าไม่รู้
- ตะโกนคำพูดมั่วๆ (เช่น “ของดอง”) ไปที่ใครสักคนแล้วดึงกระจกขึ้น
- ถามราคามัสตาร์ดกับรถเครื่องที่จอดติดไฟแดงอยู่ข้างๆ
โฆษณา
-
โทรหาในเวลาที่ไม่เหมาะสม. ช่วงกลางดึกเมื่อเพื่อนกำลังหลับอยู่ ถ้าโทรหาไม่ติดในครั้งแรกให้โทรอีกสักสองสามครั้ง ถ้าเกิดว่ายังไม่รับอีกให้โทรใหม่อีกสักชั่วโมงให้หลัง รอจนกว่าเพื่อนของคุณจะยุ่งจนไม่สามารถโทรหาได้ แล้วโทรหาจนกว่าพวกเขาจะรับ
- ใช้เบอร์แปลกโทรไปหาเป็นครั้งคราว นี่จะช่วยลดโอกาสที่คุณจะถูกจับได้ แล้วก็อาจทำให้เพื่อนมีโอกาสจะรับสายมากขึ้นด้วย ให้พูดโทรศัพท์ด้วยเสียงประหลาดและพูดเรื่องเดิมๆ หลายๆ ครั้ง ถ้าพวกเขาถามว่าคุณเป็นใครก็ให้พูดเสียงไม่ชัดไปเรื่อยๆ
- โทรหาเจ้านายตอนตีสองเพื่อที่จะ “คุยเฉยๆ”
-
ไม่พูด. อย่าพูดอะไรเมื่ออีกฝ่ายรับสาย ให้อีกฝ่ายพูดอย่างเดียว “เฮลโล, เฮลโล, เฮลโล ใครพูดคะ/ครับ? พูดอะไรสักอย่างสิ!” จากนั้นหายใจรดลำโพงโทรศัพท์เสียงดัง
- ขณะที่พูดก็ให้กดแป้นโทรศัพท์ไปด้วยมันจะได้ส่งเสียง มันจะทำให้อีกคนโกรธได้เพราะเสียงน่ารำคาญนั้น
- ตอนที่คุณไม่ได้พูดอยู่ ให้กดปุ่มอะไรก็ได้กลบเสียงเพื่อนของคุณ
-
ทิ้งข้อความเอาไว้เยอะๆ. เมื่อทิ้งข้อความให้กรีดร้องหลังพูดจบ หลังจากกรีดร้องเสร็จให้พูดว่า “ปอลอ” จากนั้นพูดอะไรมั่วๆ ขึ้นมาเช่น “และนกกระทาในต้นท้อ!” ร้องเพลงก็ได้เหมือนกัน
-
โทรหาคนแปลกหน้า. โทรหาใครก็ได้แล้วทำเสียงสะอื้นอย่างหนักใส่มือถือจากนั้นพูดว่า “ฉันรู้อยู่แล้วว่าต้องเกิดเรื่องนี้ขึ้น มันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นเอง แล้วฉันจะต้องทำยังไงต่อไป?” ถ้าคนคนนั้นพูดว่า “คุณโทรผิดแล้ว” ให้ตอบว่า “ไม่มีใครรักฉันเลย!” แล้ววางหู
- พอพูดไปได้ครึ่งทาง ให้เปลี่ยนไปใช้เสียงหุ่นยนต์ "โทรศัพท์เครื่องนี้จะสลายตัวภายใน..." แล้วเริ่มกดปุ่มหมายเลขมั่วๆ และนับถอยหลังจากสิบตอนที่กดปุ่ม
- ตอนที่คุณรับโทรศัพท์ ให้ทำเหมือนว่าสายหลุด หลังจากทำอย่างนั้นสักสิบครั้ง พูดว่า “โอ้ หวัดดี” หรือถ้าเกิดว่าพวกนั้นวางสายไปก็ให้โทรกลับไปแล้วทำเป็นสายหลุดอีกครั้ง
โฆษณา
-
กินเสียงดัง. ลืมเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหารไปให้หมด เคี้ยวอาหารให้เสียงดังและน่ารังเกียจที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เคี้ยวไปแล้วก็อ้าปากไปด้วย ผายลม, เรอ, สั่งน้ำมูก และทำตัวน่ารังเกียจด้วยการให้เส้นสปาเก็ตตี้มาติดที่หน้า
-
ทำตัวหยาบคาย. เมื่อออกจากร้านอาหารให้บ่นเรื่องบริการและอาหาร และให้บ่นในสิ่งที่บ้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น “พิซซ่าของฉันมีเปปเปอร์โรนี่อยู่บนหน้าสามอัน!” หรือ “ฉันอยากได้น้ำแข็งสี่ก้อน ไม่ใช่ห้าก้อน!”
- ถ้าหากร้านอาหารมีลูกโป่งสำหรับเด็ก ให้เดินเก็บลูกโป่งไปทั่วแล้วบอกว่าคุณต้องใช้มันสำหรับดำรงชีวิต
- แต่งตัวเป็นมนุษย์ถ้ำเข้าไปในร้านอาหาร และเมื่อจะตอบรับว่า “ใช่” ให้พูดว่า “อ้า” แทน
-
กวนใจบริกร. เมื่อบริกรถามว่า “รับอะไรคะ/ครับ” ให้ตอบ “อาหาร!” ถ้าเกิดว่าบริกรพยายามจะแนะนำเมนูอาหารให้คุณก็ตะโกนกลับไปว่า “ฉัน/ผมแพ้อาหารแบบนั้น!”
- ชี้ไปที่รายการอาหารต่างๆ ในเมนูแล้วถามว่า “อันนี้อะไรคะ/ครับ?” เมื่อบริกรตอบ ให้เลือกส่วนผสมสักอย่างหนึ่ง (เช่น ถั่ว เป็นต้น) แล้วกรีดร้อง “ฉัน/ผมไม่ชอบถั่วเลย!”
- บอกบริกรว่าคุณต้องการที่นั่งเพิ่มอีกห้าที่สำหรับเพื่อนในจินตนาการของคุณ ถ้าพวกเขาปฏิเสธ ตะโกนใส่พวกเขาว่าคุณจะฟ้องซานต้าที่พวกเขาทำตัวไม่ดี
- สั่งอาหารที่เป็นไปไม่ได้หรือไม่มีอยู่จริง ยกตัวอย่างเช่น “ฉัน/ผมขอเป็นแซนวิชไส้กางเกงยีนกับชิ้นส่วนของชักโครก ขอบคุณค่ะ/ครับ แล้วก็ยังอยากได้ช้างด้วย โอ แล้วก็อย่าลืมโมโนโพลีด้วย ทิงเกอร์เบลอยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้างคะ/ครับ”
- นั่งโต๊ะที่จองไว้แล้วหรือโต๊ะที่ใหญ่เกินไปสำหรับคนคนเดียวและปฏิเสธที่จะย้ายที่
โฆษณา
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,162 ครั้ง
โฆษณา