ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) เป็นพืชที่ดูแลง่าย แต่ปลูกยาก (นิดหน่อย) โดยต่างจากพืชอุ้มน้ำและตระกูลกระบองเพชรตรงที่ปกติเอากาบใบมาปลูกไม่ได้ง่ายๆ เพราะไม่ค่อยงอกรากจนโตมาเป็นต้นแข็งแรง หลายคนเลยนิยมปลูกว่านหางจระเข้จาก "หน่อ" แทน เพราะเห็นผลกว่าเยอะ
ขั้นตอน
-
หาใบว่านหางจระเข้ที่ยาวอย่างน้อย 8 เซนติเมตร (ประมาณ 3 นิ้ว). [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าไม่ได้ใช้ใบจากต้นว่านหางจระเข้ของคุณเอง ต้องขออนุญาตเจ้าของก่อนนะ
-
ใช้มีดสะอาดๆ คมๆ ตัดใบให้ใกล้โคนต้นที่สุด. โดยทำมุมเฉียงลงไปหาโคนต้น ที่ต้องใช้มีดสะอาดมากเป็นพิเศษ ก็เพื่อไม่ให้ใบติดเชื้อนั้นเอง
-
-
เลือกใช้กระถางที่มีรูระบายน้ำด้านล่าง. ว่านหางจระเข้ก็เหมือนพืชชนิดอื่นๆ คือชอบน้ำ แต่แช่อยู่ในน้ำตลอดก็มีเน่า ถ้ากระถางที่ใช้ไม่มีรูระบายน้ำละก็ ดินจะแฉะตลอดเวลา ทำให้รากเน่า และว่านหางจระเข้ตายในที่สุด ต่อให้เป็นต้นที่แห้งแข็งแค่ไหนก็ตาม
-
ตักดินสำหรับกระบองเพชรใส่กระถาง แล้วรดน้ำพอให้ชื้น. ถ้าไม่มีดินเฉพาะ ให้ผสมเองโดยใช้ทราย 1 ส่วนกับวัสดุปลูกไม้กระถาง 1 ส่วน [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- โรยกรวดไว้ก้นกระถางด้วย จะได้ช่วยระบายน้ำมากขึ้น
- ค่า pH ควรจะอยู่ที่ 6.0 - 8.0 ถ้าค่า pH ไม่สูงพอ ให้ใส่ปูนขาวที่ใช้ปรับดินไปด้วย หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ทำสวน
-
ปักใบด้านที่มีรอยตัดลงไปในดิน. โดยให้ 1/3 ของใบอยู่ในดิน
- ให้เอารอยตัดไปจุ่มใน root hormone หรือฮอร์โมนเร่งโตก่อน แต่ถ้าไม่มี จะใช้อบเชยบดหรือน้ำผึ้งแทนก็ได้ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แต่จะไม่เห็นผลเท่าฮอร์โมนที่เป็นสารเคมีเร่งให้รากงอกเร็วขึ้น คุณอาจลองผสมฮอร์โมนเร่งโตกับน้ำผึ้งก็ได้ ให้ได้ประโยชน์ทั้ง 2 อย่าง แต่ถ้าไม่อยากใช้ฮอร์โมนที่เป็นสารเคมี อีกวิธีก็คือทำเองโดยใช้กิ่งหรือเปลือกต้นหลิวซะเลย [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
วางกระถางตรงที่มีแสงแดดอุ่นๆ แล้วคอยดูแลรดน้ำ. ในช่วง 4 อาทิตย์แรก พยายามรดน้ำให้ดินชุ่มๆ ไว้ แต่พอรากงอกเมื่อไหร่ ให้รอจนดินแห้งสนิทถึงรดน้ำ สำหรับวิธีดูแลว่านหางจระเข้เพิ่มเติม ให้เลื่อนลงไปอ่านหัวข้อ "ดูแลหลังปลูก" ได้เลย
- ระหว่างรอรากงอก ใบอาจแห้งหรือหดบ้างเป็นธรรมดา
โฆษณา
-
เลือกหน่อว่านหางจระเข้. "หน่อ" นั้น ฝรั่งเรียก offset หรือ "pups" คือเป็น "ลูก" หรือส่วนย่อยที่แยกแตกมาจากต้นหลัก ปกติหน่อว่านหางจระเข้จะเล็กและสีสดกว่าต้นจริง แถมมีรากเป็นของตัวเอง ให้ลองหาหน่อสวยๆ แถวโคนต้นดู โดยเลือกที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
- ให้เลือกหน่อที่มีขนาด 1/5 ของต้นจริง
- ให้เลือกหน่อที่มีอย่างน้อย 4 ใบ และมีความยาวหลายนิ้วหน่อย
-
ถ้าเป็นไปได้ให้ถอนว่านหางจระเข้ออกมาทั้งต้น. จะได้ดูง่ายๆ ว่าหน่อแยกจากต้นตรงไหนได้ อาจจะต้องปัดดินออกจากรากก่อน จะได้เห็นหน่อที่ต้องการชัดขึ้น ดูเผินๆ อาจจะเหมือนเป็นต้นเดียวกัน แต่ให้สังเกตกลุ่มรากที่เล็กกว่าของต้นจริง
-
แงะหรือตัดหน่อออกจากต้น โดยรักษารากไว้. ปกติหน่อจะหลุดออกมาไม่ยากนัก แต่ถ้ายาก ให้ตัดด้วยมีดคมๆ ที่ฆ่าเชื้อแล้ว (ใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลนั่นแหละ เพราะไม่เป็นอันตรายต่อพืช) จากนั้นรอรอยตัดฟื้นตัวสัก 2 - 3 วันแล้วค่อยทำขั้นตอนต่อไป จะได้แน่ใจว่าไม่ติดเชื้อ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ย้ำอีกทีว่าหน่อที่แยกมาต้องมีรากติดมาด้วย [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พอแงะหรือตัดหน่อออกมาจากต้นหลักแล้ว ให้เอาต้นกลับไปปลูกในกระถางเหมือนเดิม
-
เลือกใช้กระถางที่มีรูระบายน้ำด้านล่าง. ถือว่าสำคัญมาก เพราะว่านหางจระเข้ก็เหมือนพืชชนิดอื่นๆ คือชอบน้ำ แต่แช่อยู่ในน้ำตลอดก็มีเน่า ถ้ากระถางที่ใช้ไม่มีรูระบายน้ำละก็ ดินจะอุ้มน้ำจนรากเน่า และว่านหางจระเข้จะตายในที่สุด
-
ตักดินสำหรับกระบองเพชรใส่กระถาง. ถ้าไม่มี ให้ผสมเองโดยใช้ทรายกับดินอย่างละ 1 ส่วน
- โรยกรวดไว้ก้นกระถางด้วย จะได้ช่วยระบายน้ำมากขึ้น
- ค่า pH ควรจะอยู่ที่ 6.0 - 8.0 ถ้าค่า pH ไม่สูงพอ ให้ใส่ปูนขาวที่ใช้ปรับดินไปด้วย หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ทำสวน
-
ขุดหลุมเล็กๆ กลางดิน แล้วปักหน่อว่านหางจระเข้ลงไป. หลุมต้องลึกพอให้รากและ 1/4 ของหน่ออยู่ในดิน (นับจากปลายรากขึ้นมา) ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกว่านหางจระเข้หลายคนแนะนำให้จุ่มรากใน growth hormone หรือฮอร์โมนเร่งโตก่อน จะทำให้รากงอกเร็วขึ้น [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
โปะดินรอบๆ โคนต้น แล้วรดน้ำ. รดจนดินชุ่ม แต่อย่าถึงขั้นเปียกโชก อย่าลืมว่าว่านหางจระเข้จริงๆ แล้วเป็นพืชทะเลทราย เพราะงั้นไม่ต้องการน้ำมากนัก
-
วางกระถางในที่ที่แดดส่อง รอ 1 อาทิตย์แล้วค่อยรดน้ำ. จากนี้ไปก็รดน้ำตามปกติ [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง สำหรับวิธีดูแลว่านหางจระเข้เพิ่มเติม ให้เลื่อนลงไปอ่านหัวข้อ "ดูแลหลังปลูก" ได้เลยโฆษณา
-
ว่านหางจระเข้ต้องได้รับแสงแดดเพียงพอ. คือประมาณ 8 - 10 ชั่วโมงต่อวัน โดยวางกระถางข้างหน้าต่างทางทิศใต้หรือตะวันตก ถ้าเป็นไปได้ให้เปลี่ยนหน้าต่างตามแสงแดดไปเรื่อยๆ ตลอดวัน [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าบ้านคุณค่อนข้างมืดและเปิดแอร์ตลอดวัน พยายามเลือกมุมที่อบอุ่น เพราะเดี๋ยวว่านหางจระเข้จะหนาวตายซะก่อน [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
รอจนดินแห้งสนิทค่อยรดน้ำรอบใหม่. ส่วนเวลารดน้ำ ต้องรดจนดินชุ่ม และเช็คให้ชัวร์ว่าน้ำไหลออกก้นกระถางได้ [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ที่สำคัญคือห้ามรดน้ำบ่อยเกินไปเด็ดขาด
- ว่านหางจระเข้จะจำศีลช่วงหน้าหนาว เลยไม่ต้องรดน้ำมาก [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แต่ถ้าอากาศร้อนๆ แบบบ้านเรา ต้องคอยเช็คดินให้ดี แห้งเมื่อไหร่ต้องรีบรดน้ำ
-
ใส่ปุ๋ยปีละครั้งช่วงต้นปี. โดยใช้ปุ๋ยสูตรน้ำที่เน้นฟอสฟอรัส แต่ให้ผสมเจือจางครึ่งเดียวพอ [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
คอยระวังแมลง โรคต่างๆ และเชื้อรา. ใช้ยาฆ่าแมลงแบบออร์แกนิก ไม่ใช้สารเคมี เพื่อกำจัดเพลี้ยแป้งและเพลี้ยหอย ส่วนเชื้อราป้องกันง่ายๆ โดยคอยดูให้ดินแห้งสนิท
- ถ้าเจอเพลี้ยแป้งหรือเพลี้ยหอย ให้เอาคอตตอนบัดชุบแอลกอฮอล์ป้ายออกจากใบ [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
สังเกตลักษณะใบ. เพราะช่วยบอกสุขภาพและความต้องการของว่านหางจระเข้ได้เป็นอย่างดี
- ใบของว่านหางจระเข้ควรจะตรงและอวบ ถ้าเห็นใบเริ่มบางและม้วน แสดงว่าต้องรดน้ำเพิ่ม
- ว่านหางจระเข้ต้องตั้งตรงเสมอ ถ้าใบห้อยลงมา แสดงว่าต้องตากแดดเพิ่ม
-
ทำยังไงถ้าว่านหางจระเข้ไม่ค่อยโต. บางทีว่านหางจระเข้ก็โตช้าเหลือเกิน โชคดีที่สังเกตและแก้ได้ง่ายทันควัน โดยเฉพาะปัญหาต่อไปนี้
- ถ้าดินแฉะเกินไป ให้รดน้ำน้อยลง
- ถ้าว่านหางจระเข้ขาดแดด ให้เลื่อนกระถางไปตากแดดบ่อยๆ
- ถ้าใส่ปุ๋ย เยอะไป ให้ย้ายกระถางแล้วเพิ่มดิน
- ถ้าดินเป็นด่างมากเกินไป ให้เพิ่มกำมะถันในดิน
- ถ้ากระถางเริ่มคับแคบ รากงอกไม่สะดวก ให้ย้ายไปปลูกในกระถางที่ใหญ่ขึ้น
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ให้วางก้อนหินสีขาวรอบๆ โคนต้น จะได้สะท้อนแสงแดดขึ้นไปโดนใบ [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่าเพิ่งตัดใบไปใช้จนกว่าต้นจะโตเต็มที่ ถ้าคุณปลูกว่านหางจระเข้ไว้ใช้รักษาโรค ให้รอประมาณ 2 เดือนแล้วค่อยตัดใบไปใช้
- ว่านหางจระเข้จะงอกหาแดด บางทีพอแดดมาเฉียงๆ ต้นเลยเอียงตาม ให้พยายามหมุนกระถางทุก 2 - 3 วัน จะได้งอกขึ้นตรงๆ
- ว่านหางจระเข้ที่ปลูกในบ้านจะไม่ใหญ่มาก เว้นแต่รดน้ำสม่ำเสมอและโดนแดดเยอะๆ ถ้าดูแลดีๆ ว่านหางจระเข้ที่ปลูกในร่มอาจโตได้ถึง 2 ฟุตหรือประมาณครึ่งเมตรเลยทีเดียว
- บ้านเราเมืองร้อน แดดจัด ต้องคอยสังเกตดีๆ ว่าดินแห้งหรือยังจะได้คอยรดน้ำ
โฆษณา
คำเตือน
- อย่ารดน้ำว่านหางจระเข้เยอะไป ให้รอจนดินแห้งสนิทก่อน
- มีดที่ใช้ตัดใบหรือหน่อว่านหางจระเข้ ต้องคมและฆ่าเชื้อจนสะอาดหมดจด
- ถ้ามีใบแห้งตายให้ตัดด้วยมีดคมๆ สะอาดๆ จะได้ไม่เน่าคาต้นหรือขึ้นรา
- เวลาตัดและปลูกใบหรือหน่อว่านหางจระเข้ต้องระวังให้ดี เพราะค่อนข้างคม บาดมือได้
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- กระถางที่มีรูระบายน้ำ
- ดินปลูกต้นกระบองเพชร
- มีดคมๆ ที่ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อแล้ว
- ว่านหางจระเข้
- ฮอร์โมนเร่งโต (root growth hormone) (ไม่จำเป็น)
- น้ำสะอาด
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.gardeningknowhow.com/houseplants/aloe-vera/aloe-plant-propagation.htm
- ↑ http://www.aloeplant.info/how-to-propagate-your-aloe-vera-plant/
- ↑ http://www.therural.co.nz/country-living/how-to-propagate-an-aloe-vera-plant-from-a-leaf-cutting
- ↑ http://www.therural.co.nz/country-living/how-to-propagate-an-aloe-vera-plant-from-a-leaf-cutting
- ↑ http://www.houseplantsexpert.com/propagating-an-aloe-vera-plant-and-repotting.html
- ↑ http://www.aloeplant.info/how-to-propagate-your-aloe-vera-plant/
- ↑ http://www.houseplantsexpert.com/propagating-an-aloe-vera-plant-and-repotting.html
- ↑ http://preparednessmama.com/willow-rooting-hormone/
- ↑ http://www.howtogrowstuff.com/how-to-grow-aloe-vera/
- ↑ http://www.gardeningknowhow.com/houseplants/aloe-vera/aloe-plant-propagation.htm
- ↑ http://www.howtogrowstuff.com/how-to-grow-aloe-vera/
- ↑ http://www.gardeningknowhow.com/houseplants/aloe-vera/aloe-plant-propagation.htm
- ↑ http://www.gardeningknowhow.com/houseplants/aloe-vera/aloe-vera-plant-care.htm
- ↑ http://pioneerthinking.com/gardening/how-to-preserve-and-regrow-an-aloe-vera-leaf
- ↑ http://www.gardeningknowhow.com/houseplants/aloe-vera/aloe-vera-plant-care.htm
- ↑ http://www.gardenista.com/posts/diy-how-to-propagate-aloe-vera-the-plant-of-immortality
- ↑ http://www.gardeningknowhow.com/houseplants/aloe-vera/aloe-vera-plant-care.htm
- ↑ https://www.joyusgarden.com/plant-purpose-care-tips-aloe-vera/
- ↑ http://www.howtogrowstuff.com/how-to-grow-aloe-vera/
โฆษณา