ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
หากคุณชอบปลูกผักผลไม้ หนีไม่พ้นที่คุณจะคิดถึงการปลูกมะเขือเทศดู ความที่มันมีหลากหลายสายพันธุ์ มีรสชาติเอร็ดอร่อย แถมมีสรรพคุณมากมาย ใครเล่าจะไม่ชอบ? เพียงใส่ใจในขั้นตอนการปลูก การบำรุงดูแลและตอนเก็บเกี่ยว คุณก็จะสามารถสนุกไปกับการเก็บผลผลิตตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปีต่อๆ ไปได้เลย คุณสามารถเรียนรู้การปลูกมะเขือเทศตั้งแต่เริ่มต้นหรือตอนเป็นต้นอ่อนโดยทำตามขั้นตอนง่ายๆ ต่อไปนี้
ขั้นตอน
-
ถ้าเป็นไปได้ให้ปลูกลงบนดิน. คุณสามารถจะปลูกได้เกือบทุกพันธุ์ และไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อยเท่าพวกที่ปลูกในกระถาง นี่ยังเป็นวิธีถ้าคุณอยากได้มะเขือเทศผลใหญ่ๆ
- คุณจะต้องหาตำแหน่งที่ได้รับแสงแดด 6 ถึง 8 ชั่วโมงในแต่ละวัน หากมีโรคที่แพร่ตามดินระบาด คุณจะประสบปัญหาในการฆ่าเชื้อทั่วทั้งบริเวณหรือเปลี่ยนดินใหม่ สวนแบบนี้จะเสี่ยงต่อการถูกตัวตุ่น กระรอก นก หรือกวางมาทำลาย [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
สร้างกระบะแปลงผัก. นี่เป็นทางเลือกที่ดีถ้าคุณเป็นกังวลเรื่องมลภาวะในดิน คุณสามารถเปลี่ยนถ่ายดินหากเกิดโรคระบาดได้ เม็ดดินขนาดใหญ่ช่วยในการระบายน้ำและถ่ายเทอากาศมากกว่าสวนบนดิน และถ้าคุณปวดหลังหรือปวดขาเป็นประจำ นี่ก็ช่วยไม่ให้คุณต้องก้มมากเกินไป
- ส่วนข้อเสียนั้น คุณจำต้องเหลือพื้นที่ระหว่างกระบะแปลงผักมากพอสำหรับการดูแลรักษาและเก็บเกี่ยวอย่างได้ผล คุณยังต้องจ่ายเพิ่มสำหรับวัสดุที่ใช้อย่างท่อนไม้หรือดิน [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ดินในแปลงกระบะนั้นยังแห้งเร็วกว่าปลูกในดินมาก
-
ใช้กระถางถ้าคุณมีพื้นที่จำกัด. กระถางบางแบบก็เคลื่อนย้ายได้ดีกว่าแบบอื่น มันเหมาะถ้าคุณไม่มีพื้นที่สวนมากพอ อย่างไรก็ดี มันจำเป็นต้องรดน้ำบ่อยเนื่องจากดินจะแห้งอย่างไว คุณยังอาจต้องจ่ายค่าโครงค้ำยันเพิ่มถ้าอาศัยในบริเวณที่มีลมแรง กระถางแบบที่ได้รับความนิยมก็เช่น:
- ถังที่แปลงจากเศษวัสดุของเสียนั้นมีราคาถูกและหาได้ง่าย มันมีน้ำหนักเบาพอเคลื่อนย้ายสะดวก แต่คุณต้องเจาะรูระบายน้ำ กระถางที่เป็นพลาสติกเข้มสามารถกักความร้อนสูงเกินและปล่อยสารเคมีเป็นพิษสู่ดินได้ ถังโลหะสามารถขึ้นสนิมและกลายเป็นคราบติดพื้นได้
- ถังไม้นั้นสวยงามและมีพื้นที่ให้รากได้เติบโต แต่ต้องจำไว้ว่ามันขนย้ายลำบากและจะผุพังไปในที่สุด คุณจำต้องเจาะรูระบายน้ำด้วยเช่นกัน
-
ติดตั้งรางกระบะตรงหน้าต่างถ้าอยู่ชั้นบน. คุณสามารถรดน้ำและเก็บเกี่ยวผลมะเขือเทศได้โดยแค่เปิดหน้าต่างออก ยิ่งปลูกที่สูงก็ยิ่งไม่เจอปัญหาแมลงศัตรูพืช แต่ให้ปลูกแต่มะเขือเทศพันธุ์เล็กอย่างมะเขือเทศราชินีเพื่อไม่ให้หนักจนรางล้ม คุณจะต้องยึดรางกระบะเข้ากับหน้าต่างด้วย [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
แขวนต้นไม้. เลือกวิธีนี้ถ้าคุณไม่ต้องการก้มดูแลต้นไม้ เพราะมันจะไม่อยู่ใกล้พื้นดินเลย คุณจึงต้องรดน้ำบ่อยกว่าเดิม และยังต้องการโครงแข็งแรงสำหรับเกี่ยวให้เข้าที่ได้
- ตะกร้าแขวนสามารถปรับให้เข้ากับห้องชั้นบนโดยการแขวนกับกรอบหน้าต่าง แต่จำไว้ว่าตัวเลือกจะจำกัดแค่พันธุ์ขนาดเล็กอย่างมะเขือเทศราชินี
- การปลูกแบบห้อยหัวสามารถทำได้กับกระถาง แต่ในขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นต้องยึดต้นมะเขือเทศให้แน่น จะไม่มีปัญหาเรื่องนกมาขโมยกินผลมะเขือเทศเพราะไม่มีพื้นที่ให้มันเกาะ อย่างไรก็ตาม น้ำที่ไม่ได้ซึมลงดินอาจหยดลงตามใบและผลจนเพิ่มโอกาสติดโรค การแขวนห้อยหัวยังให้ผลที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
ซื้อต้นไม้. คุณสามารถหาต้นมะเขือเทศได้ตามศูนย์ขายต้นไม้หรือกระทั่งตามตลาดการเกษตร เลือกต้นที่ดูมีสุขภาพดีและให้แน่ใจว่าได้ซื้อต้นมะเขือเทศใกล้เวลาที่คุณต้องการจะปลูกมัน
-
เติมปุ๋ยลงไปในดินเยอะๆ. มะเขือเทศต้องการดินที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอินทรียสารในการเจริญเติบโต หากคุณทำปุ๋ยเองไม่เป็น ให้ใช้ปุ๋ยที่ซื้อสำเร็จรูปที่มีขี้เถ้ากับดินชั้นบนผสมด้วย คุณจำเป็นต้องใช้ราว 25 ถึง 40 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ใส่ปุ๋ยลงไปชั้นบนดินหนา 3 นิ้ว (6 ถึง 8 ซม.) [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ก่อนจะเพาะเมล็ดหรือปลูกต้นลงไปในดิน ให้โยนอินทรียสารหรือเปลือกไข่สักสองสามกำมือลงไปใต้หลุมปลูก เพราะเมื่อรากเติบโตและเจาะดินลึกขึ้น มันจะพบกับชั้นสารอาหารพอเหมาะพอดีกับเวลาที่จะออกดอกออกผลให้คุณ
-
ตรวจดูค่า pH ของดิน . มะเขือเทศชอบดินที่มีสภาพเป็นกรดเล็กน้อย ดินที่มีความเป็นกรดสูงเกินไปจะดึงแคลเซียมออกจากต้นทำให้ต้นเหี่ยวเน่า ให้รักษาค่า pH ในดินให้อยู่ระหว่าง 6.0 กับ 6.8 หากทดสอบดินแล้วได้สูงกว่า 6.8, ให้รดต้นมะเขือเทศด้วยสารผสมที่เท่ากันระหว่างกาแฟกับน้ำ คุณยังสามารถเติมผงลูกสนป่น ส่วนถ้าดินทดสอบแล้วต่ำกว่า 6.0, ให้ใช้ปูนขาวโดโลไมต์หรือแหล่งแคลเซียมอย่างเปลือกไข่บดหรือแคลไซต์ใส่ลงไป [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เลือกจุดที่มีแสงแดดส่อง. ปลูกมะเขือเทศกลางแดด หากคุณอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีอากาศเย็น เลือกให้ถูกแสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน หากอยู่ในบริเวณอากาศอบอุ่นหรือร้อน ให้เลือกจุดที่ร่มในช่วงบ่าย [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จำไว้ว่าต้นมะเขือเทศสามารถรับแดดจ้าแม้ในเขตอากาศอบอุ่น คุณแค่ต้องให้ดินนั้นร่วนและรดน้ำเพียงพอ
-
ปลูกให้ห่างกัน 18 ถึง 36 นิ้ว (45 ถึง 90 ซม. ) จะเป็นพื้นที่ว่างพอให้คุณได้เข้าไปรดน้ำ กำจัดวัชพืช และเก็บผลได้ระหว่างต้น หากคุณอาศัยอยู่ในเขตร้อน ให้ปลูกห่างจากกัน 9 ถึง 18 นิ้ว (22 ถึง 45 ซม.) ระยะห่างเท่านี้จะช่วยให้มันขึ้นเป็นกลุ่มคอยบังผลให้กันและกัน ช่วยไม่ให้ผลถูกแดดจนสุก [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ปลูกต้นอ่อนให้ลึกๆ. ฝังต้นอ่อนลงในดินราว 50 ถึง 80 เปอร์เซนต์ของลำต้น กลบดินรอบรากให้แน่น ให้แน่ใจว่ารากฝังอยู่ใต้ดินจนหมด [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ให้แน่ใจว่าได้เล็มใบที่อยู่ล่างๆ ของลำต้นไม่ให้ถูกดินกลบ ถ้าปล่อยให้ดินกลบ มันจะเน่าในที่สุด
- เวลาย้ายต้นอ่อนออกจากกระถางนั้น ให้เคาะท้ายกระถางและพยายามเอารากและดินออกมาเป็นก้อนทีเดียวพร้อมกัน ตรงนี้สำคัญมากเพราะการแยกรากออกจากกันจะทำให้พืชบอบช้ำ
โฆษณา
-
ทำกรงหรือไม้ค้ำให้ต้นมะเขือเทศ. นี่จะช่วยค้ำเถาอ่อนของต้นมะเขือเทศ ให้ทำในตอนที่ปลูก อย่ารอเกินกว่า 14 วัน [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง คุณสามารถทำกรงมะเขือเทศเองก็ได้ถ้าชอบอย่างนั้น
- กรงควรสูงอย่างน้อย 48 นิ้ว (1.2 ม.) กรงต้องสามารถงอได้ถ้าต้นไม้เริ่มมีน้ำหนักมากและบางครั้งอาจล้มในเวลาเกิดพายุฤดูร้อน กำจัดใบกับข้อปล้องรองออกเมื่อมันเติบโตขึ้น [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ไม้ค้ำควรกว้างอย่างน้อย 0.5 x 2 นิ้ว (1.3 x 5 ซม.) และยาว 6 ถึง 8 ฟุต (1.8 ถึง 2.4 เมตร). ตอกเสาให้ลึกราว 12 ถึง 24 นิ้ว (30 ถึง 60 ซม.) ให้ห่างจากต้นมะเขือเทศอย่างน้อย 2 นิ้ว (5 ซม.) หาผ้าหรือเชือกมาผูกต้นมะเขือเทศให้ยึดกับเสาอย่างหลวมๆ ไม้ค้ำสามารถทำจากไม้ไผ่ เศษไม้ ท่อร้อยสายไฟ หรือเหล็กเส้นก็ได้ [12] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Missouri Extension ไปที่แหล่งข้อมูล
-
รดน้ำทุก 7 ถึง 10 วัน. ทำเช่นนี้หลังจากสัปดาห์แรก รดน้ำอุ่นประมาณ 500 มล. ต่อต้นทุกวัน การรดน้ำแบบหยดหรือฝังท่อส่งน้ำที่มุ่งเน้นตรงรากจะดีกว่าการรดด้านบน ซึ่งอาจทำให้เกิดโรค [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เพื่อป้องกันโรคเชื้อรา ให้รดน้ำในตอนเช้า
- ลดการรดน้ำลงเมื่อผ่านไป 10 วัน. ให้แน่ใจว่าต้นไม้ได้รับน้ำฝน 1 ถึง 3 นิ้ว (2.5 ถึง 7.6 ซม.) ต่อสัปดาห์ ถ้าไม่ได้ตามนั้น ให้รดน้ำเพิ่มราว 7.5 ลิตรต่อต้นต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่สิ้นสัปดาห์ที่สองของการปลูก [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เพิ่มน้ำเมื่อมะเขือเทศเติบใหญ่ขึ้นและเมื่ออากาศร้อนขึ้น รดน้ำราว 3 ถึง 4 ลิตรสัปดาห์ละ 2 ถึง 3 ครั้ง ให้แน่ใจว่าดินนั้นชื้น แต่ไม่ถึงกับชุ่มนอง [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
คลุมด้วยหญ้า. หลังหนึ่งหรือสองสัปดาห์ ให้นำหญ้าแห้งหรือฟางมาคลุมรอบต้น นี่จะช่วยป้องกันวัชพืชและทำให้ดินกักเก็บความชื้นไว้ในระหว่างที่อากาศแห้ง หญ้าแห้งควรคลุมหนาสักหนึ่งนิ้ว (2.5 ซม.) และล้อมรอบในรัศมีเส้นผ่าศูนย์กลางอย่างน้อย 12 นิ้ว (ราว 30 ซม.) รอบลำต้น [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เลือกปุ๋ย. มะเขือเทศจะเติบโตได้ดีหากดินอุดมด้วยอินทรียสาร หากคุณเลือกปุ๋ยเคมี ให้มองหาปุ๋ยใส่ผัก ใช้ปุ๋ยเคมีครึ่งหนึ่งของความเข้มข้นตามที่แนะนำต่อลิตร (ใช้ตามคำแนะนำข้างถุง) [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่า ใช้ปุ๋ยสำหรับสนามหญ้า อัตราส่วนของแร่ธาตุในปุ๋ยใส่สนามหญ้านั้นสำหรับให้พืชแตกหน่อและใบ
- การใส่ปุ๋ยมากจนเกินไปจะทำให้ต้นโตเร็วเกินไป ทำให้มันเสี่ยงติดโรคและถูกแมลงกัดกิน
-
เขย่ากรงกับไม้ค้ำเบาๆ. นี่จะช่วยเพิ่มปริมาณการออกผลโดยเป็นการกระจายละอองเกสรออกไปให้เท่าๆ กัน ทำสัปดาห์ละครั้งสองครั้งสัก 5 วินาที เริ่มทำเมื่อเริ่มผลิดอก [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ตรวจหา "หน่อ". นี่คือแขนงที่งอกออกมาตรงปล้องระหว่างลำต้นหลักกับกิ่งก้านอื่นๆ พวกมันใช้สารอาหารของต้นเพื่อเติบโต การไม่เด็ดหน่อเหล่านี้ทิ้งจะทำให้ได้ผลดกขึ้นแต่ลูกจะเล็ก เด็ดออกถ้าอยากได้ผลใหญ่ๆ [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เอาชนะความร้อน. หากคุณอาศัยอยู่ในเขตร้อน ให้เลือกปลูกมะเขือเทศพันธุ์ทนร้อนอย่างฟีนิกซ์ ฮีทมาสเตอร์หรือโซลาร์ไฟร์ หาตำแหน่งที่จะได้รับแดดเต็มที่ในตอนเช้า และเจอแดดเบาๆ ในตอนบ่าย ส่วนระหว่างเวลา 10:00 ถึง 14:00 น. ให้หาผ้าใบมาขึงเป็นร่มเงาให้ต้นไม้
- หากผลเริ่มจะสุกระหว่างช่วงอากาศร้อนที่กลางคืนยังมีอุณหภูมิสูงเกิน 23 องศาเซลเซียส และตอนกลางวันร้อนเกิน 35 องศาเซลเซียส ให้รีบเก็บผลก่อนเวลา มันจะหยุดสุกในความร้อนสูง [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ควบคุมความชื้น. ต้นมะเขือเทศต้องการความชื้นสัมพัทธ์สูง (80-90 เปอร์เซนต์) ในตอนกลางวัน และความชื้นปานกลาง (65-75 เปอร์เซนต์ในตอนกลางคืน) เพื่อออกผล ความชื้นที่สูงกว่า 90 เปอร์เซนต์และต่ำกว่า 65 เปอร์เซนต์สามารถกระตุ้นให้เกิดโรคปลายผลเน่าดำ หากคุณปลูกมะเขือเทศในเรือนกระจก ให้ใช้สลิงไซโครมิเตอร์ในการวัดความชื้นสัมพัทธ์ ถ้าจะเพิ่มความชื้นกลางแจ้งหรือในเรือนกระจก ให้ลองฉีดพ่นละอองน้ำ ส่วนถ้าจะลดความชื้นในเรือนกระจกก็ให้เพิ่มการระบายอากาศ [21] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณอาศัยอยู่ในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง ทางเลือกที่แน่นอนสุดสำหรับปลูกมะเขือเทศกลางแจ้งคือเลือกปลูกพันธุ์ที่ทนต่อความชื้นอย่างเฟอร์ไลน์ เลเจนด์ และแฟนตาสิโอ [22] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Royal Horticultural Society ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ป้องกันโรคปลายผลเน่าดำ. โรคปลายผลเน่าดำคือการเกิดจุดสีดำกัดกินตรงปลายผลมะเขือเทศ ลองถ้าคุณเห็นมันเกิดขึ้น แสดงว่าสายเกินกว่าจะรักษาต้นนั้นแล้ว การป้องกันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด การขาดแคลเซียมทำให้เกิดโรคปลายผลเน่าดำ [23] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ให้:
- นำน้ำ 4 ลิตรกับน้ำมะนาวหนึ่งช้อนโต๊ะ (15 มล.) มาต้ม
- เติมผงกระดูก 6 ช้อนโต๊ะลงไปในน้ำ คนให้เข้ากัน อย่าห่วงว่ามันต้องละลายจนหมดหรือไม่
- ต้มสัก 30 นาที
- ทิ้งไว้ให้เย็น
- รดสารละลายนี้ 1 ลิตรที่รากและใบของแต่ละต้น
- ทำการรักษานี้ซ้ำภายใน 3 ถึง 5 วัน [24] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณสามารถโรยเปลือกไข่บดรอบต้นเพื่อเพิ่มแคลเซียมให้แก่ดิน
-
ทำที่ไล่นก. หาเครื่องประดับสีแดงมาตกแต่งรอบด้านบนของกรง นกจะคิดว่ามันเป็มะเขือเทศและจะจิกกิน ผิวเครื่องประดับที่แข็งและไร้รสชาติจะทำให้นกสับสน นี่จะทำให้มันไม่มายุ่งกับมะเขือเทศของคุณ [25] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ตระหนักว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลเพียงชั่วคราว ก่อนที่ผลมะเขือเทศจะสุก ให้หาตาข่ายมากางกันนกดีกว่า
-
เอาเป็ดไก่เข้ามาในสวน. คุณสามารถทำได้ถ้าอาศัยในชนบทหรือถ้าได้รับอนุญาต เป็ดไก่นั้นชอบกินทากและหนอนมะเขือ ถ้าไม่ควบคุมเอาไว้ พวกมันมีสิทธิกัดกินใบจนเกลี้ยง [26] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ควบคุมทากด้วยแผ่นกระดาษแข็ง. ใช้ม้วนกระดาษแข็งที่เป็นแกนกระดาษชำระมาวางใต้หน่อในตอนที่ต้นยังเล็ก พื้นผิวของกระดาษแข็งทำให้ทากไม่สามารถปีนขึ้นไปได้ [27] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ปลูกพืชที่ดึงดูดผู้ล่าที่มีประโยชน์. ตัวเลือกที่ดีคือต้นเรืองหม้อ ต้นบานชื่น ต้นดาวเรือง และต้นแนสเตอร์ชัม มันจะดึงดูดแมลงเต่าทองกับแตนเบียฬให้มากินเพลี้ยกับหนอนมะเขือที่จะเป็นตัวทำลายมะเขือเทศของคุณ [28] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
เคล็ดลับ
- หน่อที่ถูกเด็ดออกมาสามารถนำมาฝังในดินชื้นๆ เพื่อเติบโตเป็นมะเขือเทศต้นใหม่ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ต้องใช้หน่อใหญ่ๆ ให้ทำเฉพาะเมื่อคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีฤดูเพาะปลูกยาวนาน เนื่องจากพืชเหล่านี้จะเติบโตเต็มวัยช้ากว่าที่เหลือ [29] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณตัดสินใจจะตัดหน่อบนต้นมะเขือเทศที่ "ยังไม่โตเต็มที่"ลองอย่าเด็ดทั้งหน่อ ปล่อยให้มันโตพอที่จะแตกใบแล้วค่อยเด็ดยอดออก นี่จะช่วยไม่ให้มันพยายามเติบโตเป็นกิ่งยาว
- หากลำต้นหรือรากเกิดเสียหาย คุณยังอาจช่วยต้นนั้นได้โดยการฝังส่วนลำต้นเหนือพื้นเกือบทั้งหมดลงดินแล้วเล็มใบที่อยู่ด้านล่างออกอีกครั้ง เหมือนกับตอนที่คุณปลูกมันลงบนดิน 75 เปอร์เซนต์ในทีแรก ขนอ่อนตามลำต้นและกิ่งก่นจะกลายมาเป็นรากแทน
- ใช้น้ำสกัดจากมูลสัตว์เป็นปุ๋ย หากคุณมีมูลสัตว์เน่าเสีย เปลี่ยนมันมาเป็นปุ๋ยได้เอง เอามูลมาใส่ในถุงน่องหรือถุงชีส วาง"ถุงชามูลสัตว์"นี้ในถังขนาด 20 ลิตรแล้วเติมน้ำ แช่"ชา"นี้ไว้สักสองสามวัน ละลายชามูลสัตว์นี้กับน้ำในอัตราส่วน 1:1
- คุณสามารถปลูกมะเขือเทศที่ชอบได้โดยการเก็ยเมล็ดมันเอาไว้ อย่างไรก็ดี คุณต้องแช่มันไว้ในถ้วยน้ำอุ่นที่ผสมน้ำมะเขือเทศสักเล็กน้อยไว้สักหนึ่งสัปดาห์ก่อน จากนั้นเทน้ำออกและทิ้งไว้จนเมล็ดนั้นแห้ง เก็บเมล็ดเหล่านั้นไว้สำหรับปลูกใหม่ในปีหน้า
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://bonnieplants.com/library/9-ways-to-grow-tomatoes/
- ↑ https://bonnieplants.com/library/9-ways-to-grow-tomatoes/
- ↑ https://bonnieplants.com/library/9-ways-to-grow-tomatoes/
- ↑ https://bonnieplants.com/library/9-ways-to-grow-tomatoes/
- ↑ http://www.growingagreenerworld.com/tips-for-growing-great-tomatoes-starting-off-right/
- ↑ http://www.grow-it-organically.com/changing-soil-ph.html
- ↑ http://www.almanac.com/plant/tomatoes
- ↑ http://www.harvesttotable.com/2011/06/vegetable_crop_yields_plants_p/
- ↑ http://pallensmith.com/tag/tomatoes/
- ↑ https://www.almanac.com/plant/tomatoes
- ↑ http://www.tomato.org/Growing-Tomatoes.html
- ↑ http://extension.missouri.edu/p/G6461
- ↑ http://www.motherearthnews.com/organic-gardening/drip-irrigation-secrets-of-a-professional-grower-zbcz1405
- ↑ https://garden.org/learn/articles/view/368/
- ↑ http://www.tomatodirt.com/watering-tomatoes-faqs.html
- ↑ https://www.thisoldhouse.com/ask-toh/mulching-tomato-garden
- ↑ http://orgprints.org/24273/7/24273.pdf
- ↑ http://garden.org/articles/articles.php?q=show&id=1217
- ↑ https://bonnieplants.com/library/how-to-prune-tomatoes/
- ↑ https://bonnieplants.com/library/how-to-grow-tomatoes-in-hot-weather/
- ↑ https://cals.arizona.edu/hydroponictomatoes/system.htm
- ↑ https://www.rhs.org.uk/advice/profile?PID=217
- ↑ http://www.motherearthnews.com/organic-gardening/blossom-end-rot-prevention-and-treatment-zbcz1502
- ↑ http://extension.umd.edu/sites/extension.umd.edu/files/_images/programs/hgic/Publications/HG42_Soil_Amendments_and_Fertilizers.pdf
- ↑ http://www.vegetablegardener.com/item/11124/question-help-birds-are-eating-my-tomatoes
- ↑ http://www.motherearthnews.com/organic-gardening/pest-control/organic-pest-control-zm0z11zsto
- ↑ http://lifehacker.com/plant-basil-with-tomatoes-for-a-natural-pest-repellant-1771745856
- ↑ http://www.motherearthnews.com/organic-gardening/pest-control/organic-pest-control-zm0z11zsto?pageid=4# PageContent4
- ↑ http://www.caes.uga.edu/newswire/story.html?storyid=4790
โฆษณา