PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

การพัฒนาตัวเองเป็นสิ่งที่ทุกคนคงอยากทำ เราล้วนแล้วแต่มีสิ่งที่อยากจะปรับเปลี่ยนในตัวเองกันทั้งนั้น บางคนอาจอยากลดน้ำหนัก อยากมีความสามารถพิเศษเพิ่มเติมในสิ่งที่ตัวเองสนใจ บางคนอาจจะอยากให้ตัวเองเข้ากับคนอื่นในสังคมได้ง่ายกว่านี้ อยากมีความสุขมากกว่านี้หรือทำตัวให้เป็นประโยชน์มากกว่าที่เป็นอยู่ การที่จะพัฒนาตัวเองให้สำเร็จตามที่ตั้งไว้ เราต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน ลงมือเปลี่ยนแปลงและตรวจสอบตัวเองสม่ำเสมอ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

กำหนดเป้าหมาย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. จดคุณสมบัติเหล่านั้นและให้ความสำคัญกับมันมาก่อน รวมทั้งย้อนอ่านอยู่เสมอ แล้วกำหนดเป้าหมายของคุณจากสิ่งที่มีเหล่านั้น
  2. ลองคิดดูว่าสิ่งที่ทำจะเป็นยังไงในอนาคต ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ทั้งที่ดีและไม่ดีจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเรา จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความคาดหวังที่จะประสบความสำเร็จในเป้าหมายและทำให้เรามุ่งมั่นกับการพัฒนาตัวเอง [1] การคิดถึงอนาคตที่สดใสจะช่วยให้เรารู้ว่าปัจจุบันเราต้องพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ชีวิตเป็นตามอนาคตที่วาดฝันไว้ ในขณะเดียวกันก็ต้องคิดถึงสิ่งไม่ดี สิ่งที่เราไม่พอใจในปัจจุบันเพื่อเป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาขึ้น เพื่อให้เราไม่อยู่ในจุดที่ปัจจุบันยืนอยู่อีกต่อไป
    • จินตนาการดูว่าปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้เพียงข้ามคืน และคุณตื่นขึ้นมาพบว่าคุณได้เป็นในสิ่งที่คุณใฝ่ฝันมาตลอด ทุกสิ่งที่คุณอยากพัฒนาตัวเองมาตลอดมันเกิดขึ้นกลางดึกเฉยเลย คุณคนใหม่นั้นเปลี่ยนไปมากแค่ไหนนะ มีความรู้สึกยังไง ใครอยู่รอบๆ ตัวคุณบ้าง แล้วคุณกำลังทำอะไรอยู่ ลองนึกภาพว่าชีวิตจะดีแค่ไหนที่ได้เป็นคุณคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม ทั้งหมดนี้ขึ้นกับภาพในหัวของคุณเอง คุณสามารถตั้งเป้าหมายไปเรื่อยๆ ตามที่ต้องการ คุณอาจจะอยากเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมากกว่านี้และมีหุ่นที่แข็งแรง สิ่งที่คุณอยากให้เกิดขึ้นเหล่านี้มันต้องทำยังไงถึงจะได้มา คุณก็รู้อยู่แล้วใช่ไหมล่ะ
  3. สิ่งสำคัญคือต้องรู้เป้าหมายของตัวเองและต้องจัดลำดับว่าเป้าหมายไหนสำคัญที่สุด [2]
    • ประเมินข้อดีของตัวเอง เช่น เป็นคนซื่อสัตย์ ขยันขันแข็ง อ่อนโยน ฯลฯ และประเมินจุดที่ต้องปรับปรุง เช่น ความขี้โมโห ความอ้วน ฯลฯ การประเมินตัวเองจะช่วยให้เราหาจุดที่ต้องการพัฒนาด่วนที่สุดเจอ
    • จัดลำดับความสำคัญของเป้าหมาย โดยการให้คะแนน 1-10 เป้าหมายที่ได้ 10 คะแนนคือเป้าหมายที่สำคัญเป็นอันดับแรก ให้พุ่งเป้าไปที่เป้าหมายนั้นเป็นอย่างแรก
  4. การได้ผลตอบรับเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองจะช่วยให้เราพัฒนาได้เร็วขึ้นและเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น [3] การถามผลตอบรับจากคนอื่นจะช่วยให้เราพัฒนาปรับปรุงตัวเองได้ตรงจุดมากขึ้นและเป็นแรงผลักดันให้พัฒนาตัวเองต่อไป
    • เริ่มจากการถามคนสนิทหรือสมาชิกในครอบครัวว่าเราต้องพัฒนาอะไรบ้าง ต้องแน่ใจว่าคุณเลือกถามคนที่ไว้ใจได้และใส่ใจความรู้สึกของคุณจริงๆ ไม่ใช่คนที่ชอบดูถูกหรือช่างติ [4] แล้วคุณจะประหลาดใจในผลตอบรับจากพวกเขา
    • คุยกับผู้ให้คำปรึกษาที่เชื่อใจได้ เช่น นักบำบัด ผู้นำทางศาสนา ฯลฯ การพูดคุยกับบุคคลที่ไม่ใช่คนสนิทช่วยลดแรงต่อต้านภายในใจและทำให้เรามองเห็นตัวเองชัดขึ้นจากสายตาผู้อื่น บางทีคนเราก็ใจดีหรือใจร้ายกับตัวเองมากเกินไป ดังนั้นการพูดคุยกับคนอื่นจะช่วยให้เราเห็นภาพตัวเองคนใหม่ได้ชัดเจนขึ้น เห็นข้อดีข้อด้อยตัวเองได้มากขึ้นว่าเราต้องพัฒนาส่วนไหน
    • นำคำแนะนำเหล่านั้นมาปรับใช้ ถ้าคำแนะนำบางอย่างไม่เหมาะกับเรา ให้ลองคำแนะนำอื่น เพราะไม่ใช่ทุกอย่างจะเหมาะสมกับทุกคน คุณต้องหาทางที่ใช่และเหมาะสมกับตัวเอง
  5. การตั้งเป้าอย่างฉลาดคือตั้งเป้าหมายชัดเจน เป็นรูปธรรม สามารถทำสำเร็จได้จริง อยู่บนพื้นฐานของความจริงและมีระยะเวลากำหนด [5] [6] ยกตัวอย่างเช่น เป้าหมายของคุณคือการลดน้ำหนัก 9 กิโลกรัม (ชัดเจน เป็นรูปธรรม สามารถทำได้จริง) ภายในระยะเวลา 3 เดือน (อยู่บนความเป็นจริง มีระยะเวลากำหนด)
    • ดูวิธีการตั้งเป้าหมายอย่างชาญฉลาดได้ที่เว็บไซต์นี้ GetSelfHelp.Co.UK. [7]
    • แบ่งเป้าหมายที่ตั้งไว้ออกเป็นเป้าหมายย่อยๆ เช่น หากคุณต้องการลดน้ำหนัก 9 กิโลกรัม คุณต้องวางแผนรายละเอียดของเป้าหมายย่อยไว้ด้วย เช่น ต้องลดปริมาณแคลอรี่ที่กินในแต่ละวันลง ต้องออกกำลังกาย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ กำหนดปริมาณน้ำตาล ฯลฯ
    • แทนที่จะตั้งเป้าหมายยิ่งใหญ่อลังการ ให้เริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายเล็กๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อไปสู่เป้าหมายใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น การลดน้ำหนัก 25 กิโลกรัม เป็นงานที่ยากมาก แต่การงดกินช็อกโกแลต 1 สัปดาห์ฟังดูเป็นงานที่หมูกว่ามาก
  6. ข้อมูลอาจหาได้จากหนังสือ บทความ เพื่อนฝูง ครอบครัวหรือผู้เชี่ยวชาญ เมื่อคุณพร้อมที่หาข้อมูล คุณจะพบว่าข้อมูลมีอยู่มากมายรอคุณอยู่เต็มไปหมด
    • ลองนึกถึงความสำเร็จจากการเปลี่ยนแปลงตัวเองในครั้งก่อนๆ ของคุณดู หากไม่มี ให้ลองคิดดูว่าคนที่ทำสิ่งที่คุณต้องการสำเร็จนั้นมันดีแค่ไหน [8] อาจคุยกับคนที่มีความต้องการเหมือนกันแล้วหาความช่วยเหลือดู [9] ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการลดน้ำหนัก คุณอาจสมัครคอร์สลดน้ำหนักแล้วหาเพื่อนไปลดน้ำหนักด้วยกัน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ลงมือทำ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเปลี่ยนแปลงมีอยู่ 4 ขั้นตอนตามหลักทฤษฎีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การดูว่าเราอยู่ในขั้นไหนช่วยให้เรารู้ว่าเราพร้อมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือยัง หรือว่ายังต้องการแรงจูงใจเพิ่มเติม
    • ขั้นยังไม่สนใจ: ในขั้นตอนนี้ คุณมีปัญหาแต่ยังไม่รู้ตัวหรือไม่ยอมรับมัน
    • ขั้นสนใจแต่รอฤกษ์: คุณมองเห็นปัญหาแล้วและสนใจที่จะเปลี่ยนแปลงมัน หลายๆ คนอาจติดอยู่ที่ขั้นนี้นานมากกว่าจะไปสู่ขั้นต่อไป ถ้าคุณกำลังตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ละก็ คุณอาจจะอยู่ในขั้นนี้
    • ขั้นเตรียมตัว: คุณมุ่งมั่นกับการปรับเปลี่ยนตัวเองและวางแผนอยู่ คุณอาจจะอยู่ในขั้นนี้ หากคุณกำลังตั้งเป้าหมายอยู่
    • ขั้นลงมือทำ: สร้างความเปลี่ยนแปลง คุณจะกำลังทำตามแผนตามที่ตั้งไว้ในทุกวัน คุณกำลังพุ่งชนเป้าหมายที่ตั้งไว้
    • ขั้นทำได้นาน: คุณพิชิตเป้าหมายได้สำเร็จและกำลังรักษาเป้าหมายนั้นให้ได้ระยะยาว
  2. ฝึกฝนตัวเองในทุกวันช่วยเพิ่มทักษะการพัฒนาตนเองได้ โดยเฉพาะเพิ่มภาวะความเป็นผู้นำ การตรวจสอบตัวเองในทุกวันช่วยให้คุณรู้ว่าคุณพัฒนาตนเองไปถึงไหนแล้วและอีกเท่าไหร่จะไปถึงเป้าหมาย
    • ตั้งคำถามกับตนเอง เช่น “วันนี้ทำตามเป้าหมายแล้วหรือยัง วันนี้มีทัศนคติดีหรือไม่ วันนี้เราใจดีกับตัวเองมั้ย ได้ทำตามแผนที่วางไว้หรือเปล่า วันนี้เราพัฒนาไปมากกว่าเมื่อวานแล้วหรือยัง”
    • ไม่ว่าคุณพยายามจะพัฒนาตรงไหน หาเวลาฝึกฝนมันเป็นประจำ
  3. ถ้าการเป็นครูตัวเองไม่เหมาะสำหรับคุณ ลองหาตัวช่วยภายนอก เช่น เข้าหลักสูตรโค้ชชีวิต ซึ่งจะช่วยสร้างพลังการเปลี่ยนแปลงและสอนให้คิดถึงเป้าหมายที่ต้องการ นอกจากนี้ นักบำบัดหรือจิตแพทย์ยังช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายได้เช่นกัน
  4. การเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นช้าๆ ยิ่งถ้าเราอยากปรับเปลี่ยนตัวเองครั้งใหญ่ ให้สู้ต่อไปจนกว่าเป้าหมายเกิดขึ้นจริง (คุณกลายเป็นคนใหม่)
    • ย้ำเป้าหมายกับตัวเองทุกวัน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

รับมือกับอุปสรรค

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าการเปลี่ยนแปลงมันเป็นไปตามลำดับที่วางแผนไว้ทั้งหมด การเปลี่ยนแปลงตัวเองคงง่ายมาก แต่ในความเป็นจริงการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่เป็นไปตามแผนเสมอไปและอาจมีอุปสรรคระหว่างทาง
    • ยกตัวอย่างเช่น การลดน้ำหนักนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้นได้ทุกวันอย่างต่อเนื่อง บางวันน้ำหนักคุณอาจจะไม่ได้ลดลงไปเลยก็ได้ บางวันน้ำหนักอาจจะขึ้นมา สิ่งสำคัญคืออย่าให้ความผันผวนที่ควบคุมไม่ได้นี้ทำให้คุณท้อแท้ล้มเลิกกลางคัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือในที่สุดแล้วคุณลดน้ำหนักลงได้ ท่องไว้เสมอว่าคุณสามารถทำได้ทุกอย่างถ้าคุณตั้งใจจะทำ!
    • ลองนึกถึงอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการพัฒนาตัวเอง และหาทางแก้ปัญหาสำหรับแต่ละอุปสรรคเผื่อไว้ด้วย
  2. การมัวแต่นั่งเสียใจกับสิ่งที่ทำผิดพลาดไปในอดีตไม่ช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายได้ แต่การมุ่งความสนใจไปที่อนาคตนั้นช่วยให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายได้ แทนที่จะให้อุปสรรคมาขัดขวางคุณ คุณลองก้าวข้ามมันมาและเรียนรู้ที่จะจัดการกับอุปสรรคในครั้งต่อไปดีกว่า คุณอาจจะเดินอ้อมสิ่งที่มากีดขวางทางที่จะไปสู่เป้าหมายของคุณหรือจะกระโดดข้ามมันมาเลยก็ได้นะ
    • ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการลดน้ำหนัก แต่พอผ่านวันหยุดมาน้ำหนักดันเพิ่มขึ้นมาครึ่งกิโลกรัม แทนที่จะมองว่าการลดน้ำหนักของเรามันไม่เวิร์คและยอมแพ้ ให้คุณมองว่า “น้ำหนักมันก็มีขึ้นมีลงแบบนี้แหละ ยังไงฉันก็จะกินแต่อาหารที่ดีต่อสุขภาพต่อไปให้น้ำหนักลดให้ได้!”
    • ต่างจากที่คนส่วนใหญ่คิด ความล้มเหลวนั้นไม่ใช่เรื่องชั่วร้ายไป "ทั้งหมดเสียทีเดียว" ในระยะสั้นมันอาจเป็นเรื่องที่แย่ แต่จะมีประโยชน์ในระยะยาว! นั่นขึ้นอยู่กับคุณล่ะ ฉะนั้นจงอย่ากลัวความล้มเหลวและมองมันว่าเป็นรากฐานสำหรับความเข้าใจใหม่ๆ และความแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม มันมีเหตุผลอยู่นะว่าทำไมคนเก่งของโลกถือล้มเหลวกันได้หลายครั้ง
  3. มีผลการวิจัยชี้ว่าคนที่ยอมรับความท้าทายนั้นมักจะกระตือรือร้นที่จะเข้าหาการเปลี่ยนแปลงที่ดี [10] นอกจากนี้ คนที่เชื่อมั่นและเห็นคุณค่าในตนเองมักจะคิดถึงความท้าทายหรือการเปลี่ยนแปลงที่ดีและรู้ตัวเองว่าต้องการอะไร [11]
    • รู้ข้อเด่นและข้อด้อยของตัวเอง อาจจะจดไว้ก็ได้
    • มองตัวเองแบบที่คนมองนอกเรา [12] ลองตั้งใจมองพฤติกรรมของตนเอง เช่น การพูด การกระทำ การคิดระหว่างที่อยู่กับคนอื่น
    • ประเมินตัวเองกบสิ่งที่คุณทำเป็นประจำ หาเวลาในช่วงวันหยุด บางคนอาจทำก่อนนอนแต่ละคืน ดูว่าตรงไหนต้องพัฒนาอีก ดูว่าจะพัฒนาอย่างไร จดมันไว้แล้วเอามาทุกครั้งที่ตื่นขึ้นในสัปดาห์ต่อมาจนกว่าจะทำมันได้สำเร็จ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ก่อนเข้านอนให้คุณคิดว่าวันนี้เราเข้าใกล้เป้าหมายเพิ่มขึ้นอีกก้าวแล้ว แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เปลี่ยนชีวิตในทันที แต่การได้พยายามทุกวันวันละหน่อยก็จะทำให้เราเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น
  • อดทน ตบบ่าตัวเองเบาๆ ให้กับความสำเร็จ และพักบ้างหากรู้สึกเหนื่อยเกินไป ถือคติที่ว่า “กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว” ให้พยายามเท่าที่คุณทำได้ ขอให้คุณโชคดีและทำตามเป้าหมายได้สำเร็จนะ!
  • เชื่อในวิธีที่ทำอยู่และเชื่อมั่นในตัวเองเสมอนะ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,169 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา