PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

หากคุณชอบใครสักคน คุณมักจะเวิ่นเว้อกับความหวังสำหรับอนาคตและมันเจ็บปวดเมื่อคุณรู้ว่ามันจะไปไม่รอด คนที่คุณชอบอาจจะคบคนอื่นอยู่ หรือคุณแค่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ การปล่อยบางคนไปและเดินหน้าคือกระบวนการหนึ่งแต่คุณจะทำมันได้ก็ต่อเมื่อคุณตั้งใจที่จะลืมคนที่ชอบและเดินหน้าต่อไปในชีวิต

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การยอมรับความรู้สึก

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. มันยากที่จะหาทางออกเมื่อคุณกำลังชอบใครสักคนแต่หลายคนเผชิญเรื่องนี้มาแล้วก่อนคุณ การหาว่าพวกเขาทำอย่างไรเพื่อที่จะผ่านมันมาได้สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คุณเพื่อเดินหน้าต่อไป
    • ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนหรือครอบครัว หลายๆ คนสามารถปลอบคุณด้วยความรักในระดับหนึ่งและพวกเขาอาจจะเล่าประสบการณ์ตรงของพวกเขาในการลืมคนที่ชอบให้คุณฟัง แม้พวกเขาจะไม่มีประสบการณ์ตรงกับปัญหาแบบนี้พวกเขาก็ยังสามารถให้คำปรึกษาที่ดีกับคุณได้
    • เปิดตามองหาตัวอย่าง เมื่อคุณเริ่มมองคุณก็จะเห็นตัวอย่างมากมายที่ผู้คนประสบ หนังสือ ภาพยนตร์ เพลงและแม้แต่ข่าวมักจะสื่อถึงเรื่องของคนที่ไม่สมหวังในความรัก คุณต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องของคนที่สามารถลืมคนที่ชอบได้และเรียนรู้จากพวกเขา
  2. ก่อนที่จะแก้ปัญหาคุณต้องรับรู้ว่ามันมีอยู่จริง พูดออกมาว่าคุณกำลังชอบคนๆ หนึ่งและเผชิญหน้ากับอารมณ์ที่สับสนต่างๆ
    • ลองเขียนเกี่ยวกับความรู้สึกของคุณสักสองสามหน้ากระดาษ การใช้เวลาระบายอารมณ์สามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น เขียนเหตุผลว่าทำไมคุณถึงชอบคนๆ นั้นและทำไมมันถึงไปไม่รอด เขียนในสมุดบันทึกส่วนตัว ในโปรแกรมเวิร์ดที่ใส่รหัสผ่านป้องกันไว้หรือบนการะดาษเปล่าสักสองสามแผ่นและเผามันทิ้งทีหลัง
    • บอกความรู้สึกออกมาดังๆ คุณไม่ต้องบอกคนอื่นว่าคุณรู้สึกอย่างไรแต่การพูดปัญหาออกมาดังๆ สามารถช่วยให้มันดูสมจริงและเข้าถึงได้ แม้จะมีคุณอยู่แค่คนเดียวในห้องก็ตาม คุณอาจจะแค่พูดว่า “ฉันชอบสตีฟและฉันเกลียดที่ต้องรู้สึกแบบนี้”
  3. หากคุณมั่นใจว่าเขาเป็นผู้ใหญ่มากพอและจะเข้าใจว่าคุณกำลังเผชิญกับอะไรก็ลองหาเวลาคุยกับเขาเรื่องนี้ ส่วนที่ยากที่สุดส่วนหนึ่งของการลืมคนที่ชอบคือการทิ้งความหวังในรัก หากคุณยอมแพ้คุณอาจจะโดนความคิดที่ว่า “ถ้าฉัน...” ตามหลอกหลอน การบอกคนที่ชอบยังมีโอกาสเล็กๆ ว่าเขาอาจจะชอบคุณเช่นกัน แต่ถึงแม้เขาจะไม่ชอบคุณก็ยังสามารถเดินหน้าลืมเขาต่อไป คุณจะไม่รู้สึกว่าคุณทิ้งโอกาสของความสุขไป
    • อย่าทำตัวเรียกร้องหรือชวนแขยง พยายามเลี่ยงการพูดเกี่ยวกับด้านที่เป็นวัตถุของความรู้สึกเพราะมันไม่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณอยากรู้จริงๆ เพียงบอกเขาว่าคุณแคร์เขาแค่ไหนและคุณแค่อยากรู้ว่าเขารู้สึกเหมือนกันหรือเปล่า ทำให้ชัดเจนว่าคุณยังอยากเป็นเพื่อนกับเขา (ถึงแม้คุณอาจจะต้องใช้เวลาลำพังในการเยียวยาความรู้สึก) และคุณอยากให้เขาจริงใจกับคุณ
    • การเขียนจดหมายหาคนที่ชอบอาจจะดีกว่าด้วยหลายเหตุผล มันง่ายต่อคุณในการอธิบายความรู้สึกโดยไม่ติดขัดและกดดันเขาน้อยลง ให้จดหมายอธิบายความรู้สึกกับคนที่ชอบและขอให้เขาอ่านมันเมื่อเขาอยู่ตามลำพัง อย่าติดต่อเขาหนึ่งวันเพื่อให้เวลาเขาในการคิดเรื่องที่คุณได้บอกเขา ลองคุยกับเขาในวันต่อมาเมื่อคุณอยู่ตามลำพังกับเขา หากเขาเลี่ยงคุณก็จงเข้าใจว่าเขาอาจจะรู้สึกถูกรุกและสับสน ลองให้พื้นที่กับเขาและพยายามใหม่ในภายหลัง
  4. บางทีคนที่คุณชอบอาจจะกำลังคบใครอยู่แล้วก็ได้หรือคุณอยู่ห่างกันเป็นพันไมล์ บางทีอีกฝ่ายอาจจะไม่รู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรและคุณพูดมันออกมาไม่ได้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตามคุณต้องยอมรับว่ามีอุปสรรคในหนทางและคุณเลือกที่จะเดินจากไป
    • อย่าคิดว่านี่คือความล้มเหลวส่วนบุคคล การที่คุณคบกับคนที่ชอบไม่ได้ไม่เกี่ยวกับคุณค่าในตัวของคุณ ความสัมพันธ์ล้มเหลวได้ด้วยเหตุผลมากมายและส่วนใหญ่คือปัญหาที่เปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงไม่ได้ บางสิ่งอยู่เหนือการควบคุมของคุณ
    • ยอมรับสิ่งต่างๆ ของตัวคุณที่กั้นไม่ให้เขามีความรู้สึกต่อคุณ การอกหักเริ่มจากการปฏิเสธ เพราะฉะนั้นคุณควรก้าวข้ามขั้นตอนนี้ ยอมรับว่าบางทีคุณอาจจะเข้ากันไม่ได้ เปิดใจกับการแก้ไขจุดบกพร่องในตัวเองหากคุณอยากเพิ่มโอกาสในอนาคต แต่อย่าสับสนระหว่างจุดบกพร่องกับความแตกต่าง การมีสุขอนามัยที่ไม่ดีคือจุดบกพร่องและสามารถแก้ไขได้ การชอบดนตรีคนละแนวหรือเป็นคนที่ชอบเก็บตัวมากกว่าไม่ใช่จุดบกพร่องและคุณไม่ควรพยายามบังคับตัวเองให้เปลี่ยนแปลง มันอาจดูเหมือนว่าคุณยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อคบกับคนๆ นี้ แต่ลึกๆ แล้ว สิ่งที่คุณปรารถนามากกว่าสิ่งใดคือให้เขารักคุณในแบบที่คุณเป็น ถึงแม้การเปลี่ยนแปลงเพื่อเขาอาจทำให้เขาตกหลุมรักในตัวตนใหม่ของคุณ แต่ความสัมพันธ์อาจจะไม่ยืดยาว
    • ไม่ทำตัวงี่เง่าน่าอาย คุณอาจจะไม่อยากยอมรับว่าคุณทำอะไรบางอย่างไม่ได้ และในสถานการณ์ส่วนใหญ่ ความมานะอุตสาหะคือลักษณะนิสัยที่น่ายกย่อง แต่บางครั้งความมานะก็หลอมรวมกับความอยากและความโง่เขลา การไล่ล่าคนที่ชอบที่เป็นไปไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น เพราะฉะนั้นจงปล่อยมันไป
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การตีตัวออกห่าง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณทำได้ก็ควรทิ้งระยะห่างจากคนที่คุณชอบ คนที่ชอบหลายคนมาจากความใกล้ชิดหรือการอยู่ใกล้คนที่น่ารัก หากคุณอยู่ห่างจากคนๆ นี้บ่อยๆ ความชอบจะค่อยๆ หายไป
    • หากคุณชอบเพื่อนสนิทคุณควรทำตัวให้ว่างน้อยลง หากคุณพยายามจะรักษามิตรภาพเอาไว้ก็พยายามใช้เวลากับคนที่ชอบให้น้อยลงเท่าที่จะทำได้ โดยไม่ทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่าย หรือหากคุณไว้ใจเพื่อนว่าเขาจะไม่ทำตัวแปลกไป ก็จงอธิบายปัญหาและบอกเขาว่าคุณต้องการระยะห่างในตอนนี้
    • หากคุณชอบเพื่อนของเพื่อน หากเพื่อนของเพื่อนคือปัญหาก็ลองออกจากกลุ่มนั้น หากจำเป็นก็ควรอธิบายปัญหาให้เพื่อนของคุณฟังเพื่อที่เขาจะได้ไม่คิดมาก
    • หากคุณชอบคนที่โรงเรียน ให้ใช้โอกาสนี้ตั้งใจเรียนมากขึ้น และดึงความสนใจออกจากคนที่ชอบ เปิดหนังสืออ่านทุกครั้งที่คุณแอบคิดถึงเขา ลองใช้อีกเส้นทางไปยังห้องเรียน หรือนั่งทานข้าวกลางวันที่อื่นหากจำเป็น
    • หากคุณชอบเพื่อนร่วมงานให้คุณตั้งใจทำงานมากกว่าเดิม เลี่ยงการทานมื้อเที่ยงเป็นกลุ่ม สังสรรค์ช่วงพักกลางวันและแฮปปี้ อาวสำหรับตอนนี้
    • หากคุณชอบคนที่เลี่ยงไม่ได้ ให้ตีใจออกห่างแทน การอยู่ในห้องดียวกับคนบางคนไม่ได้แปลว่าคุณต้องนึกถึงเขาเสมอไป คิดถึงเรื่องที่กำลังทำอยู่หรือฝันกลางวันเกี่ยวกับสิ่งดีๆ ที่คุณอยากทำโดยไม่มีคนที่ชอบ
  2. หากคนที่ชอบมักเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนเดิมๆ ให้ลองขยายวงสังคมบ้าง การมีเพื่อนใหม่จะทำไม่ให้คุณนึกถึงความทุกข์ในปัจจุบัน เพิ่มความมั่นใจและอาจพาคุณไปเจอคนที่เหมาะกับคุณมากกว่า วิธีเริ่มต้นมีดังนี้:
    • หาคนที่มีงานอดิเรกเหมือนกัน ชอบเกมส์ตอบคำถามมั้ย? ลองไปผับแถวบ้านและถามถึงคืนที่มีเกมส์ตอบคำถาม ชอบการเขียนมั้ย? ลองหากลุ่มนักวิจารณ์ในอินเทอร์เน็ตหรือตามโรงเรียนแถวบ้าน ชอบเล่นกีฬามั้ย? หาการแข่งขันกีฬาในอินเทอร์เน็ตหรือแถวบ้าน โอกาสมีอยู่มากมาย!
    • เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครที่มูลนิธิท้องถิ่น หรือติดต่อองค์กรที่รณรงค์เรื่องที่คุณสนใจ เช่น ศูนย์บำบัดสำหรับสัตว์หรือสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมงานอาสาและลองพูดคุยกับอาสาสมัครคนอื่นๆ
    • ใช้ประโยชน์จากกลุ่มของโรงเรียนหรือโบสถ์ หากคุณไปโรงเรียนหรือโบสถ์อยู่แล้วก็สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่น คณะกรรมการจัดงานสังสรรค์ (งานพร็อมหรืองานเต้นรำของโบสถ์) กลุ่มนักร้องประสานเสียง กลุ่มงานช่วยเหลือสังคมหรือกิจกรรมกีฬาต่างๆ
  3. ใช้เวลานี้ถอยไปตั้งหลักและประเมินวิธีการปรับปรุงชีวิตของคุณแทนการอุทิศสมองและจิตใจให้กับคนที่ชอบ คุณจะมีสิ่งต่างๆ ซึ่งดึงความสนใจให้ทำและคุณจะทำสถานการณ์ให้ดีขึ้นในเวลาเดียวกัน
    • หาเวลาทำสวยให้ตัวเองสักเล็กน้อย (แม้คุณจะเป็นผู้ชายก็ตาม!) เสื้อผ้าเริ่มล้าสมัยหรือยัง? ไว้ผมทรงนี้มานานแล้วหรือยัง? ลองหาสิ่งของเพื่อเพิ่มความมั่นใจสำหรับเสื้อผ้าหรือทำทรงผมหรือสีผมใหม่ หากคุณไม่มั่นใจว่าจะเลือกสิ่งไหนก็ลองปรึกษาเพื่อนหรือครอบครัวที่มีสไตล์ได้เช่นกัน
    • จัดการให้เรียบร้อย หากคุณไม่ได้จัดตู้เสื้อผ้า รถ โรงรถ ห้องใต้ดินมานานแล้วก็ทำเลย! การรื้อของเก่าสามารถเป็นวิธีทำสมาธิและคุณจะรู้สึกผ่อนคลายและปลื้มใจเมื่อทำเสร็จ
    • ออกกำลังกาย การออกกำลังกายช่วยให้สมองปลอดโปร่ง เมื่อคุณมุ่งความสนใจไปที่การผลักดันร่างกาย คุณไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นนอกจากการหายใจและการเคลื่อนไหว ลองไปวิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยานหรือทำกิจกรรมอื่นที่สามารถพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจของคุณได้
    • ฝึกการพูดในแง่บวกกับตัวเอง มันอาจจะฟังดูงี่เง่าแต่มันได้ผล ลองมองตัวเองในกระจกสองสามครั้งต่อวันและพูดอะไรก็ได้ที่คุณต้องการจะได้ยิน เช่น “เธอจะเจอคนที่ดีกว่า” หรือ “ฉันไม่ควรเสียน้ำตาให้ใคร” พูดซ้ำๆ จนคุณเริ่มเชื่อ
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

เดินหน้าต่อไป

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การลืมคนที่ชอบเป็นงานหนัก และคุณใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะทำได้ คุณจึงอาจจะต้องใช้เวลาในการกลับมาเป็นตัวเองเหมือนเดิม คุณต้องยอมรับว่านี่คือขั้นตอนหนึ่งและวางแผนล่วงหน้าเพื่อที่คุณจะได้ไม่กลับไปสู่สภาพเดิมอีก วิธีมีดังนี้:
    • พึงไว้ว่าคุณไม่เจอคนๆ นี้จริงๆ การเพ้อรักหรือความรู้สึกที่คุณมีเวลาอยู่ใกล้คนที่ชอบสามารถทำให้คุณหยุดคิดอย่างมีเหตุผลและมโนว่าคนๆ นั้นเป็นแบบนั้นแบบนี้ [1] . ย้ำกับตัวเองว่าไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร “ไม่มีใคร” สมบูรณ์แบบ แม้แต่คนที่คุณชอบและสังเกตว่าคุณตั้งใจมองข้ามข้อเสียของคนๆ นั้น
    • ทำเหมือนมันเป็นอาการเสพย์ติดบางอย่าง คุณคงไม่แนะนำให้คนติดเหล้าไปที่บาร์เพราะฉะนั้นจงอย่าพาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่คุณจะเพ้อถึงคนที่ชอบ อยู่ให้ห่างจากสถานการณ์ที่ใกล้ชิดและหลีกเลี่ยงการติดต่อไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความหรือแชทและไม่ได้เจอกันแบบเผชิญหน้า
    • อย่าส่งต่อความรู้สึกไปยังเป้าหมายใหม่ การหาคนใหม่มาผูกพันความรู้สึกคืออีกรูปแบบหนึ่งของการกลับไปสู่สภาพเดิม คุณอาจจะไม่ชอบคนเดิมแต่คุณรู้สึกแบบเดิม การใช้คนอื่นมาเป็นตัวแทนไม่ยุติธรรมสำหรับคนๆ นั้น เพราะคุณไม่มองเขาเพราะตัวของเขา และมันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับคุณ เพราะคุณปล่อยให้ตัวเองกลับไปสู่วงจรเดิม
  2. การทำให้คนที่ชอบดูไม่ดีอาจจะช่วยให้คุณลืมเขาในระยะสั้นแต่มันไม่ใช่วิธีแก้ไขในระยะยาว ปัญหาคือแบบนี้: การคิดว่าคุณเกลียดคนบางคนคือวิธีของการหมกมุ่นเรื่องของเขา คุณจึงติดอยู่กับที่เดิม
    • อย่าใช้คนอื่นเพื่อความสุขของตัวเอง แน่นอนว่าคนที่คุณชอบอาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณหวังไว้ เขาอาจจะทำให้มันแย่ลงโดยการแหย่หรือหยอกคุณโดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าคุณรู้สึกอย่างไร แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คุณก็คือคนที่ต้องรับผิดชอบในความสุขของตัวเอง คุณต้องพาตัวเองออกจากสถานการณ์ที่ย่ำแย่และเดินหน้าต่อไปเพราะฉะนั้นอย่าทำให้ตัวเองเศร้าโดยการรั้งเขาไว้
    • พยายามขอให้เขาโชคดี หากคุณแคร์ใครจริงๆ คุณจะอยากเห็นเขามีความสุขแม้จะไม่ใช่กับคุณ คุณต้องไม่โกรธหรือเปรียบเทียบหากคนที่ชอบไปคบคนอื่น ลองฝึกฝนจิตใจให้มีความสุขเมื่อคนที่คุณชอบมีความสุข
  3. วิธีนี้ซับซ้อนแต่ได้ผลเมื่อทำเสร็จและเข้าใจได้ทันที คุณเห็นแต่สิ่งดีๆ ของเขาและตอนนี้คือเวลาที่ต้องมองอีกด้าน คุณอาจคิดว่าคนที่ชอบนั้น “สมบูรณ์แบบ” เหลือเกินแต่ทุกคนย่อมมีข้อเสียและคุณต้องจำเอาไว้ เลิกฝันได้แล้ว
    • คิดให้ลึกเกี่ยวกับคนที่ชอบและหาข้อที่ไม่ดีของเขาให้เจอ เขียนบนกระดาษและอ่านออกมาซ้ำๆ เมื่อคุณเห็นเขาก็อย่ามองแต่ข้อดี จำสิ่งที่คุณเขียนเอาไว้และอย่าเสียสมาธิ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จำไว้ว่าการที่เขาไม่ชอบคุณคือโชคร้ายของเขาและมีคนซึ่งคู่ควรและชอบคุณรอคุณอยู่
  • ให้เกียรติตัวเอง รู้ว่าตัวเองมีค่าและเพียงเพราะความสัมพันธ์ไปไม่รอดไม่ได้แปลว่าไม่มีคนรอคุณอยู่
  • จำไว้ว่าคนที่ชอบคือสิ่งชั่วคราว ไม่ใช่ว่าคุณกำลังจะแต่งงานกับเขา ในอนาคตคุณจะเจอคนที่ดีกว่าและเข้ากับคุณได้มากกว่า คนที่แคร์คุณมากกว่าและแสดงออกว่าชอบคุณ คนที่คุณชอบอาจจะเป็นคนห่วยๆ และคุณไม่คู่ควรกับเขาก็ได้ เพราะฉะนั้นรอคนใหม่ดีกว่า
  • อย่าโทษตัวเองที่มันไปไม่รอด หากเขาไม่มองคุณแบบนั้นก็ไม่ใช่ความผิดของคุณ มันคือความรู้สึกของเขา อย่ารู้สึกไร้ค่าเพียงเพราะความรู้สึกที่เขามีต่อคุณ จำไว้ว่ามีคนที่รักคุณรอคุณอยู่
  • อย่าบอกรักเขาเด็ดขาดหากคุณรู้ว่าเขาแค่อยากเป็นเพื่อน การทำแบบนี้อาจทำลายมิตรภาพแบบกู่ไม่กลับได้
  • หากคุณไม่เคยคุยกับคนที่ชอบให้รวบรวมความกล้าและคุยกับเขา มันอาจจะช่วยความรู้สึกของคุณเพราะอีกฝ่ายอาจจะรู้สึกแบบเดียวกัน อย่างน้อยมันจะช่วยเพิ่มโอกาสให้มันไปรอด
  • อย่าทิ้งมิตรภาพ หากคุณพัฒนาความชอบจากการเป็นเพื่อนก็อย่าทำลายมิตรภาพที่ดี เป็นเพื่อนกันต่อไปและเมื่อคุณหายดี คุณจะดีใจที่ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ จงดีใจกับมิตรภาพที่สวยงามที่มีแทนที่จะหมกมุ่นกับสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้น
  • ให้โอกาสคนอื่นในการเดทกับคุณ เขาไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวบนโลก แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคืออย่าให้เขาพรากความสุขไปจากคุณ
  • เลี่ยงการเจอเขาบ่อยๆ และรักษาระยะห่างเพื่อที่คุณจะไม่กลับไปสู่สภาพเดิม
  • เลี่ยงความสัมพันธ์ที่จริงจังในทันทีทันใด ออกเดทเพื่อความสนุก เดทคนที่ไม่เคยคิดจะเดทและสนุกกับการเป็นโสด อาจจะมีคนที่ “ต้องการ” คุณอยู่ มันจะช่วยให้คุณเดินหน้าต่อไปและรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น อย่าปล่อยให้ตัวเองติดอยู่กับอดีต การคบคนอื่นก็อาจช่วยได้
  • รู้ความแตกต่างระหว่างความรักกับความชอบผิวเผิน บางครั้งคุณควรยึดติดกับความสัมพันธ์แต่คุณต้องปล่อยให้ตัวเองสังเกตเมื่อมันถึงเวลาเดินหน้าต่อไปและเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ๆ
  • อย่าพูดกับเพื่อนๆ ในเรื่องของเขา หากคุณพูดถึงเขาว่าคุณชอบเขาแค่ไหนคุณก็อาจจะชอบเขาจริงๆ
  • บอกตัวเองถึงสิ่งที่คุณไม่ชอบเกี่ยวกับเขา
  • ลืมเขาและเดินต่อไป
  • แผ่เมตตาและสวดมนต์บอกว่าชาติหน้าไม่ต้องเจอกันอีก ทุกวันมองหน้าเขาด้วยยิ่งดีจะได้ตัดใจได้
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าลงโทษตัวเองเพื่อทำให้แผลชา คุณคงไม่อยากทานมากเกินไป ดื่มหรือทำร้ายตัวเองเพียงเพราะคนที่คุณชอบไม่ชอบคุณกลับ
  • อย่าโทรหาคนที่ชอบตอนเมา คุณจะทำให้เขาไม่สบายใจและขายหน้าตัวเองอีกด้วย
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 37,639 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา