ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ความดีงามของสลัดก็คือ คุณสามารถใส่วัตถุดิบได้ตามความชอบ และสามารถผสมผสานในรูปแบบต่างๆ ได้หลายพันรูปแบบ โดยพื้นฐานแล้วคุณจะต้องเลือกผักยืนพื้น เช่น ผักกาดโรเมนสุดคลาสสิกหรือผักใบเขียวต่างๆ ผสมกัน หรือจะเป็นผักที่แปลกขึ้นมาสักหน่อยอย่างบีตรูตอบก็ยังได้ จากนั้นก็เลือกท็อปปิ้ง เช่น ผลไม้ ผักดิบ ถั่วเปลือกแข็ง หรือชีส เพิ่มโปรตีน เช่น เต้าหู้ ปลาทูน่า หรือเนื้อไก่ ตามด้วยน้ำสลัด (หรือจะไม่ใส่ก็ได้) ส่วนประกอบเพิ่มเติมที่แปลกใหม่อย่างฮัมมูส ถั่วเม็ดสน หรืออะโวคาโดก็เพิ่มสีสันให้กับการรับประทานสลัดได้ เลิกติดอยู่ในกรอบและอย่ากลัวที่จะลองผสมผสานวัตถุดิบในรูปแบบใหม่!

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

เลือกผักยืนพื้นสำหรับสลัด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกผักกาดแก้ว ผักสลัดบัตเตอร์เฮด หรือผักกาดโรเมนหากต้องการสลัดแบบคลาสสิก. ผักเหล่านี้เหมาะนำมาทำสลัดมากเพราะมันทำให้สลัดมีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบแถมยังมีวิตามินและแร่ธาตุอีกด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่กลบรสชาติวัตถุดิบอื่นๆ ในจาน อย่าลืมล้างผักกาดให้สะอาดก่อนนำมาทำอาหารทุกครั้ง [1]
    • ใช้ที่สลัดน้ำออกจากผักเพื่อล้างและสลัดน้ำจากผักกาดให้แห้ง หรือแค่ล้างผักใต้น้ำไหลและค่อยๆ ใช้กระดาษทิชชูอเนกประสงค์ที่สะอาดซับให้แห้ง
    • คุณอาจจะซื้อผักกาดหั่นสำเร็จจากซูเปอร์มาร์เก็ต หรือไม่ก็ซื้อมาทั้งหัว ถ้าคุณซื้อมาทั้งหัว ให้ล้างใบให้สะอาดและใช้มือฉีกให้ได้ขนาดพอดีคำ หรือใช้มีดสะอาดหั่นลงบนเขียงก็ได้
  2. เลือกผักใบเขียวอย่างเคล อารูกูลา หรือ ผักปวยเล้ง หากต้องการผักยืนพื้นที่ทั้งอร่อยและอุดมไปด้วยสารอาหาร. ถ้าคุณอยากได้ผักยืนพื้นที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุมากขึ้น ให้เลือกผักสีเขียวเข้ม เคล อารูกูลา ผักเบี้ยใหญ่ และผักปวยเล้งล้วนเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะกลายเป็นผักยืนพื้นหลักให้กับวัตถุดิบที่เหลือในสลัด [2]
    • อารูกูลาจะมีกลิ่นฉุน
    • ผักเคลดิบอาจเคี้ยวยาก คุณอาจจะใช้เบบี้เคลเพื่อให้เคี้ยวง่ายขึ้น หรือหั่นก้านใบเคลทิ้งไปเพื่อให้รับประทานง่ายขึ้น
  3. ทำสลัดกะหล่ำปลีหากต้องการผักยืนพื้นที่กรุบกรอบและสีสันสวยงามสำหรับสลัด. ใช้กะหล่ำปลีม่วงและกะหล่ำปลีขาว คุณจะซื้อแบบหั่นสำเร็จที่ซูเปอร์มาร์เก็ตหรือจะใช้มีดหั่นกะหล่ำปลีลงบนเขียงให้ได้ขนาด ¼ นิ้วก็ได้ ใส่กะหล่ำปลีลงในน้ำสลัดที่มีส่วนประกอบของน้ำส้มสายชู หรือจะไม่ใส่อะไรเลยก็ได้และเติมวัตถุดิบอื่นๆ ลงไป [3]
    • กะหล่ำปีที่ใช้กันมากที่สุดก็คือกะหล่ำปลีขาวและกะหล่ำปลีม่วง แต่คุณก็สามารถใช้ผักกวางตุ้ง ผักกาดขาว กะหล่ำปลีใบย่น และกะหล่ำปลีสายรุ้งได้เช่นกัน ลองไปแผนกผักในซูเปอร์มาร์เก็ตว่ามีผักอะไรขายบ้าง
  4. Watermark wikiHow to ทำสลัด
    เตรียมสลัดบร็อกโคลีกับแคร์รอตหากต้องการผักยืนพื้นเนื้อแข็งสำหรับสลัด. ใช้บร็อกโคลีและแคร์รอตสดแทนแบบนึ่งหรือแช่แข็ง ล้างให้สะอาดก่อนหั่น จากนั้นก็ใช้มีดหรือชุดมีดสไลด์ผักหั่นเป็นชิ้นบางๆ [4]
    • บร็อกโคลีและแคร์รอตเป็นตัวเลือกที่ดีถ้าคุณชอบรับประทานสลัดแต่ไม่ชอบเนื้อสัมผัสหรือรสชาติของผักกาดหรือกะหล่ำปลี
    • นอกจากนี้คุณยังสามารถใส่กะหล่ำดาวหั่นฝอยหรือแม้แต่แรดิชก็ยังได้ แล้วแต่ว่ามีอะไรอยู่ในตู้เย็น
  5. Watermark wikiHow to ทำสลัด
    ใช้บีตรูตสีม่วงเข้มเป็นผักยืนพื้นถ้าคุณชอบสลัดรสชาติหวาน. บีตรูตมีรสหวานเล็กน้อยและอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย เช่น วิตามินซี ใยอาหาร และโฟเลต ถ้าคุณอยากได้เนื้อสัมผัสกรุบกรอบให้ใช้บีตรูตดิบ หรือใช้บีตรูตอบรสชาติหวานหอมกลิ่นควันเป็นฐานให้กับวัตถุดิบที่เหลือ [5]
    • รสชาติของชีสแพะและอารูกูลาเข้ากับบีตรูตมากๆ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ใส่ท็อปปิ้ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ทำสลัด
    หน่อไม้ฝรั่ง พริกหวาน บร็อกโคลี กะหล่ำดาว แคร์รอต ข้าวโพด แตงกวา เห็ด ถั่วหวาน มะเขือเทศ และเทอร์นิปเป็นผักที่เหมาะใส่เพิ่มลงในสลัด เลือกผักที่ชอบ ล้างให้สะอาด และหั่นให้ได้ขนาดพอดีคำ [6]
    • คุณสามารถนำผักไปนึ่งหรืออบก็ได้ถ้าคุณอยากได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มลงและรสชาติที่เข้มข้นขึ้น แต่ถ้าเป็นผักดิบก็จะได้วิตามินมากที่สุด
  2. ใส่ผลไม้สดหรือแห้งลงในสลัดเพื่อเพิ่มรสหวาน. เบอร์รี แอปเปิล ส้ม แครนเบอร์รีแห้ง ลูกเกด แตงโม องุ่น มะม่วง หรือแม้แต่อะโวคาโดช่วยเพิ่มรสหวานอร่อยให้กับสลัด แถมยังมีสารต้านอนุมูสอิสระอีกเพียบ! [7]
    • ถ้าคุณใช้เบอร์รีหรือผลไม้สดที่รับประทานทั้งเปลือก ต้องล้างให้สะอาดก่อนใส่ลงในสลัด แต่ถ้าเป็นผลไม้ที่ต้องปอกเปลือกก่อน ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการล้างมากนัก
    • ระวังอย่าใส่ผลไม้แห้งลงในสลัดมากเกินไป เพราะมีน้ำตาลสูง
  3. Watermark wikiHow to ทำสลัด
    ขั้นตอนต่อไปก็ใส่พาร์เมซาน เชดดาร์ เฟต้า มอซซาเรลลา บลูชีส ชีสแพะ หรือชีสชนิดไหนก็ได้ที่คุณชอบ ใส่ชีส 30-60 กรัมต่อจานและฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ โรยบนผักที่ใส่ไปก่อนหน้านี้ [8]
    • ถ้าคุณซื้อชีสมาเป็นก้อน ใช้ให้ที่ขูดชีสขูดเป็นฝอยๆ
  4. Watermark wikiHow to ทำสลัด
    ใส่ถั่วเปลือกแข็งที่มีโอเมก้าสูงเพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสกรุบกรอบ. วอลนัต อัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ เมล็ดทานตะวัน พีแคน พิทาชิโอ และเมล็ดสนเป็นวัตถุดิบที่อร่อย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความกรุบกรอบแล้ว ยังมีไขมันที่ดีต่อสุขภาพและสารอาหารสำคัญอื่นๆ อีกด้วย [9]
    • นอกจากถั่วเปลือกแข็งรสดั้งเดิมแล้ว ยังมีถั่วเปลือกแข็งปรุงรสอีกมากมายให้คุณเลือก ตั้งแต่พีแคนรสหวานไปจนถึงพิทาชิโอรสเผ็ด
  5. ใส่ธัญพืช ถั่ว ถั่วเลนทิล หรือถั่วลูกไก่ลงในสลัดเพื่อให้หนักท้องยิ่งขึ้น. สลัดไม่จำเป็นต้องมีแค่ผักกาดกับผักเท่านั้น แต่คุณสามารถรับประทานสลัดเป็นจานหลักในมื้อถัดไปได้ด้วยผสมข้าว ควินัว คูสคูส ถั่วดำ ถั่วเลนมิล ถั่วลูกไก่ หรือถั่วอะไรก็ได้ที่คุณชอบลงไปเล็กน้อย [10]
    • วิธีนี้ยังช่วยกำจัดของเหลือได้ด้วย ถ้าคุณมีเส้นพาสต้า ข้าว หรือธัญพืชอะไรก็แล้วแต่เหลือจากมื้อก่อน ก็สามารถนำมาใส่สลัดได้ในครั้งต่อไป
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

เพิ่มโปรตีน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใส่ไก่ย่างหรือสเต๊กเพราะเป็นท็อปปิ้งที่ใส่ในอาหารได้หลากหลาย. ถ้ามีเหลืออยู่แล้วก็นำมาใส่สลัดเพื่อประหยัดเวลา หรือจะรับประทานแล้วค่อยเตรียมก็ได้ เนื้อไก่และสเต๊กมีโปรตีนสูงแถมยังราคาไม่แพงนัก ขึ้นอยู่กับว่าคุณซื้อเนื้อสเต๊กแบบไหน [11]
    • คุณจะใช้ไก่ฉีกหรือไก่อบก็ได้ แล้วแต่ว่าในบ้านมีอะไร
  2. Watermark wikiHow to ทำสลัด
    ใส่ปลาทูน่าเพื่อเพิ่มโปรตีนให้กับสลัดแบบง่ายๆ. ปลาทูน่ากระป๋องหรือแบบซองนั้นผ่านการทำให้สุกเรียบร้อยแล้ว จึงสามารถนำไปใส่สลัดเพื่อเพิ่มโปรตีนได้เลย ถ้าเป็นปลาทูน่าในน้ำมัน อย่าลืมกรองน้ำมันออกก่อนใส่ลงในสลัด [12]
    • คุณสามารถทำสลัดทูน่าได้อย่างรวดเร็วด้วยการใส่มายองเนส เซเลอรี และเครื่องปรุงรสลงไป
  3. คุณจะซื้อกุ้งพร้อมรับประทานจากซูเปอร์มาร์เก็ตหรือซื้อกุ้งดิบมาผัดในกระทะ 5-7 นาทีก็ได้ ใส่กุ้งลงในสลัด จับคู่กับท็อปปิ้งและน้ำสลัดที่ชอบเพื่อให้ได้มื้ออาหารแสนอร่อย [13]
    • ถ้าคุณใช้กุ้งแช่แข็ง คุณต้องปฏิบัติตามวิธีใช้บนบรรจุภัณฑ์เพื่อให้คุณละลายกุ้งได้อย่างปลอดภัยทั่วทั้งหมดก่อนนำมาใช้
  4. ใส่เต้าหู้หากต้องการสลัดมังสวิรัติที่อุดมไปด้วยโปรตีน. นำเต้าหู้ไปทอดสักครู่เพื่อให้มันกรอบ หรือคุณจะนำไปหมักกับซอสที่ชอบข้ามคืนเพื่อเพิ่มรสชาติก็ได้ [14]
    • เต้าหู้แข็งหรือแข็งพิเศษเหมาะจะนำไปผัดหรือทอดในกระทะมากที่สุด
    • เต้าหู้อ่อนจะนุ่มและเละง่าย จึงเหมาะใส่ในสลัดทั้งดิบๆ
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

เลือกน้ำสลัด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ทำสลัด
    ทำน้ำสลัดเองเพื่อกำหนดสิ่งที่คุณจะรับประทานเข้าไป. น้ำสลัดสำเร็จรูปแม้จะอร่อยและสะดวกก็จริง แต่ถ้าคุณแพ้อาหารหรือกังวลเรื่องสารเติมแต่งและสารกันบูด การทำน้ำสลัดเองก็เป็นวิธีที่ทำให้คุณรู้ว่า สิ่งที่คุณรับประทานเข้าไปมีส่วนผสมของอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำสลัดใสง่ายๆ หรือน้ำสลัดซีซาร์เนื้อข้น อย่ากลัวที่จะลองทำน้ำสลัดเอง [15]
    • ถ้าคุณทำน้ำสลัดเองตั้งแต่ต้น อย่าลืมจดสูตรลงไปด้วย! วันหลังคุณจะได้ทำตามสูตรเดิมได้ง่ายๆ
    • ทำน้ำสลัดใสไวน์แดงด้วยการผสมน้ำส้มสายชูหมักไวน์แดง ½ ถ้วย (120 มล.) น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ (40 มล.) น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา (10 มล.) น้ำมันมะกอก 1 ถ้วย (240 มล.) และเกลือพริกไทย จากนั้นก็แค่คนหรือเขย่าทุกอย่างรวมกัน
  2. Watermark wikiHow to ทำสลัด
    ถ้าการทำน้ำสลัดเองทำให้คุณต้องกลอกตา อย่าเพิ่งหมดหวัง! ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านมีน้ำสลัดมากมายหลากหลายยี่ห้อให้คุณเลือก อ่านข้อมูลด้านโภชนาการตรงด้านหลังของบรรจุถัณฑ์ หรือไม่ก็เลือกยี่ห้อที่คุณวางใจ [16]
    • เก็บน้ำสลัดสำเร็จรูปในตู้เย็นหลังเปิดใช้เสมอ
  3. ทำน้ำสลัดแบบเรียบง่ายด้วยน้ำมันมะกอกกับน้ำส้มสายชูบัลซามิก. ถ้าคุณอยากให้รสชาติวัตถุดิบอื่นๆ ในสลัดโดดเด่น คราวหน้าให้เหยาะน้ำมันมะกอกและน้ำส้มสายชูบัลซามิกลงไปเล็กน้อย น้ำมันมะกอกเพิ่มรสชาติอร่อยที่ลงตัว และน้ำส้มสายชูบัลซามิกก็เพิ่มความสดชื่นและรสเปรี้ยวในสลัด [17]
    • คุณจะโรยเกลือพริกไทยลงในสลัดก็ได้ถ้าคุณชอบ
  4. สลัดไม่จำเป็นต้องมีน้ำสลัดเสมอไป! ซอสหรือเครื่องจิ้ม เช่น ฮัมมูส กัวกาโมเล หรือทาฮินีช่วยเพิ่มความมันให้สลัดได้ ครั้งหน้าที่ทำสลัดลองไม่ใส่น้ำสลัด แล้วเปลี่ยนไปใส่เครื่องจิ้มหรือสเปรดแทน [18]
    • แม้แต่ซัลซาเองก็ใช้เป็น “น้ำสลัด” ได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่ากลัวที่จะใส่ผัก (และผลไม้!) ย่างลงในสลัด การนำวัตถุดิบไปอบหรือย่างทำให้รสชาติโดยรวมของสลัดเปลี่ยนไป และยังเปลี่ยนเนื้อสัมผัสของสลัดได้ด้วย
  • ถ้าคุณพยายามจะเปลี่ยนจากแซนด์วิชมาเป็นสลัด แต่ไม่สามารถหักดิบได้ ลองเปลี่ยนมาใช้แร๊พคาร์โบไฮเดรตต่ำแล้วใส่สลัดตามชอบลงไป วิธีนี้คุณจะยังได้ความรู้สึกเหมือนรับประทานแซนด์วิช แต่ก็ได้ประโยชน์จากสลัดที่อุดมไปด้วยสารอาหารและหนักท้องด้วย
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • มีด
  • เขียง
  • ที่สลัดน้ำออกจากผัก (ถ้ามี)
  • กระดาษทิชชูอเนกประสงค์
  • ชามหรือจาน

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 36,642 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา