ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไม่ใช่ทุกคนจะเกิดมามีผมสลวยสวยเก๋ตามธรรมชาติเหมือนเพเนโลเป้ ครูซ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งสังเกตเห็นว่าผมตัวเองบางลงจากอายุที่มากขึ้นหรือปกติผมจะบางอยู่แล้ว ขั้นตอนด้านล่างนี้จะช่วยให้ทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงรู้ว่าจะฟื้นฟูสุขภาพผมได้อย่างไรเพื่อที่จะได้มีผมหนาและดูสุขภาพดี

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

เปลี่ยนวิธีการดูแลผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การดูแลผมให้สะอาดอยู่เสมอน่ะถูกแล้ว แต่ถ้าคุณสระผมบ่อยเกินไปเพื่อที่ผมจะได้สะอาด สุดท้ายแล้ว ผมคุณอาจจะบางแทน การสระผมแต่ละครั้งจะไปชะล้างสารบำรุงผมที่หนังศีรษะจนทำให้ผมเปราะบางและแตกแห้ง ดังนั้น แทนที่จะสระผมทุกวัน คุณควรสระผมแค่ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น
    • ซื้อแชมพูแบบดรายมาใช้ในช่วงที่เว้นจากการสระผมเพื่อที่ผมของคุณจะได้สะอาดอยู่เสมอ
    • ใช้ครีมนวดผมทุกครั้งที่สระผมเพื่อฟื้นฟูความชุ่มชื้น
  2. แชมพูและครีมนวดผมส่วนมากมีสารทำความสะอาดฤทธิ์รุนแรงที่ทำให้ผมแตกและแห้ง ดังนั้น นอกจากจะสระผมให้น้อยลงแล้ว คุณควรเลือกใช้แชมพูที่ปราศจากสารซัลเฟตด้วย พยายามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบออแกนิกหรือมาจากธรรมชาติให้มากที่สุดนะ
  3. อุปกรณ์ที่ให้ความร้อนทั้งหลายจะทำให้ปลายผมไหม้ซึ่งทำให้ผมแตกปลายและทรุดโทรม ดังนั้น พยายามหลีกเลี่ยงไดร์เป่าผม เหล็กหนีบผม หรือที่ม้วนผมหากทำได้ พยายามใช้อุปกรณ์เหล่านี้แค่สัปดาห์ละหนึ่งครั้งพอ
    • หากเป็นไปได้ ปล่อยให้ผมแห้งเอง ใช้พวกอุปกรณ์แต่งผมต่างๆ เฉพาะในโอกาสสำคัญเท่านั้น
    • หากคุณไม่ชอบผมตัวเองเวลาที่ปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ ชโลมผลิตภัณฑ์ป้องกันผมชี้ฟูขณะผมเปียก ผมของคุณจะได้ตรงสลวยตอนแห้ง
    • ถ้าคุณต้องใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมเป็นประจำ ชโลมผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อน เช่น น้ำมันอาร์แกน ลงบนผมก่อนที่จะจัดแต่งทรงผมนะ
  4. ใครๆ ก็ชอบทำสีผม แต่สีย้อมผมและสารเคมีอื่นๆ อาจทำให้ผมแห้ง ยิ่งใช้ร่วมกับเครื่องมือที่ให้ความร้อน ผมของคุณอาจจะเสียหายรุนแรงเลยก็ได้นะ ดังนั้น หลีกเลี่ยงไม่ทำสีผมโดยใช้สารเคมีแรงๆ โดยหันไปใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผมจากธรรมชาติหรือลองใช้สีย้อมผมที่ปราศจากสารเคมีดู อย่างของยี่ห้อแมนิคแพนิคก็โอเคนะ
  5. การแปรงผมเป็นประจำนั้นดีต่อสุขภาพผมโดยรวมเพราะจะช่วยให้น้ำมันที่หนังศีรษะสร้างขึ้นตามธรรมชาติกระจายไปจนจรดปลายผมและช่วยทำให้ผมของคุณแข็งแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม การแปรงผมอย่างผิดวิธีอาจทำลายเส้นผมได้ คุณควรใช้หวีพลาสติกซี่ห่างเพื่อแปรงผมแทนที่จะใช้แปรงขนสัตว์ทรงกลมหรือแบนนะ
    • หลีกเลี่ยงไม่แปรงผมขณะผมเปียกเพราะผมของคุณจะเปราะบางและแตกง่ายที่สุดในช่วงนี้
    • พยายามแปรงผมให้ได้วันละครั้งเพื่อกระจายน้ำมันในผมและกระตุ้นการทำงานของหนังศีรษะ [1]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

ดูแลผมด้วยวิธีที่ทำได้ที่บ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผมของคุณถูกสร้างมาจากโปรตีน ดังนั้น จะมีอะไรดีไปกว่าการเพิ่มโปรตีนให้เส้นผมล่ะ? ผสมไข่1-2 ฟอง (ขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผม) กับเจลว่านหางจระเข้สดนิดหน่อย หมักเกลียวผมให้ทั่วและทิ้งค้างไว้ประมาณ 10-15 นาทีแล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น
  2. นอกจากดีต่อสุขภาพแล้ว เมล็ดฟรีนูกรีกยังสามารถขจัดรังแคและทำให้ผมหนาขึ้นได้ แช่เมล็ดฟรีนูกรีก (โดยกะปริมาณให้เหมาะสมกับความยาวของผม) ไว้ในน้ำประมาณ 8-10 ชั่วโมง จากนั้นนำไปปั่นจนได้ครีมเนื้อหนา หมักทิ้งไว้บนหัวประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำที่ใช้แช่เมล็ดในตอนแรก
  3. น้ำมันจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันโจโจบานั้นช่วยทำให้ผมแข็งแรงและยาวได้ ส่วนการนวดหนังศีรษะจะช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมในหนังศีรษะในการสร้างผม ผสมผสานคุณประโยชน์จากน้ำมันและการนวดเข้าด้วยกันด้วยการอุ่นน้ำมันจนอุณหภูมิพอเหมาะและนวดให้ทั่วหนังศีรษะ ปล่อยทิ้งไว้บนหัวประมาณ 30-60 นาทีแล้วล้างออก
  4. เมล็ดป่านนั้นอุดมไปด้วยกรดไขมันที่ช่วยให้ผมคุณหนาอย่างเป็นธรรมชาติ แช่เมล็ดป่านใส่ชามไว้ซัก 5 วัน จากนั้นนำน้ำที่ได้มาหมักค้างไว้บนหนังศีรษะซัก 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาดและรอดูผมที่จะหนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติได้เลย
  5. สารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระในผลไม้นั้นไม่ได้มีไว้สำหรับรับประทานเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผมหนาขึ้นได้ด้วย ทำครีมหมักผมจากผลไม้สดด้วยการผสมอะโวคาโด กล้วย เปลือกส้ม โดยกะจากความยาวของเส้นผม ชโลมครีมหมักผมให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ซัก 20-30 นาที จากนั้นสระผมด้วยแชมพูและครีมนวดผมตามปกติ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สารอาหารที่ได้จากการรับประทานสามารถช่วยทำให้ต่อมในผมแข็งแกรงและเร่งให้ผมยาวได้ คุณควรรับประทานอาหารที่อุดมโปรตีน วิตามินบี ซี ดี และ อี และสังกะสี โดยเพิ่มการรับประทานผักและผลไม้สด เมล็ดพืช ถั่ว และธัญพืชเพื่อที่ผมของคุณจะได้หนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
    • ตัวอย่างของอาหารที่ช่วยทำให้ผมแข็งแรง ได้แก่ วอลนัท ผักโขม เมล็ดป่าน ถั่วเลนทิล และบลูเบอรี่
  2. ที่เค้าว่ากันว่าเครียดแล้วทำให้ผมบางน่ะเป็นเรื่องจริงเลยนะ ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายดึงทึ้งผมตัวเองหรือผมจะร่วงลงมาเอง ความเครียดก็คือสาเหตุที่ทำให้ผมบางนั่นแหละ ดังนั้น พยายามลดความเครียดลงแล้วคุณก็จะเห็นเองว่าสุขภาพผมคุณเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน
  3. การออกกำลังกายคือวิธีการลดความเครียดที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง การออกกำลังกายวันละ 30 นาทีเป็นประจำทุกวันจะช่วยให้ต่อมต่างๆ ในร่างกายแข็งแรงและลดฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียดลง นอกจากผมจะหนาขึ้นแล้ว คุณจะเห็นเลยว่าสุขภาพด้านอื่นๆ ของคุณก็ดีขึ้นตามไปด้วย
  4. การได้รับสารอาหารครบถ้วนเพื่อบำรุงผมให้หนานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น คุณอาจจะต้องรับประทานอาหารเสริมเสียหน่อย อาหารเสริมบางอย่างสามารถช่วยให้ผมยาวไวขึ้น หนาขึ้นและยาวขึ้นได้ ลองรับประทานไบโอติน อาหารเสริมยี่ห้อวีวิสคอล หรือน้ำมันตับปลาทุกวันดู เมื่อผ่านไปหลายเดือน ผมคุณจะดูดีขึ้นเอง
  5. ถึงอาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป แต่ยาบางตัวสามารถทำให้ฮอร์โมนขาดสมดุลจนผมร่วงได้ ยาที่มักทำให้ผมบางได้แก่ยาคุมกำเนิดหรือยาใดๆ ก็ตามที่ส่งผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย พูดคุยกับแพทย์ดูว่าคุณสามารถรับประทานยาตัวอื่นแทนตัวที่ทำให้ผมคุณเสียได้หรือไม่ [2]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

รักษาผมอย่างจริงจัง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าผมคุณร่วงแบบฉุดไม่อยู่ ลองไปหาซื้อครีมรักษาอาการหัวล้านที่ร้านขายยาแถวบ้านอยู่ เมื่อใช้เป็นประจำ ครีมพวกนี้จะช่วยเร่งการโตของเส้นผมในหัวที่ล้านหรือมีผมบางได้
  2. ถ้าผมคุณบางสุดๆ หรือหัวล้าน ลองไปปลูกผมดู การปลูกผมนี้มักใช้รักษาผู้ชายหัวล้านโดยจะย้ายขนจากส่วนอื่นของร่างกายไปอยู่ที่ศีรษะที่ล้านแทน ลองปรึกษาแพทย์ดูว่าวิธีนี้ปลอดภัยไหมและคุณทำได้หรือเปล่า
  3. ฟังดูไฮเทคใช่ไหม? หวีเลเซอร์คือนวัตกรรมใหม่ที่ใช้เลเซอร์มาช่วยเร่งการโตของเส้นผม แต่เจ้าหวีที่ช่วยให้ผมยาวนี้มีราคาสูงอยู่ซักหน่อย โดยราคาประมาณสองหมื่นกว่าบาทเลยล่ะ ถ้าคุณเบื่อที่ผมบางหรือหัวล้าน ลองลงทุนซื้อหวีเลเซอร์มาใช้สิ เพียงเวลาไม่นาน ผมของคุณยาวยาวสลวยเชียวล่ะ
  4. การต่อผมคือการต่อผมจริงหรือปลอมชั่วคราวเข้ากับศีรษะด้วยด้ายหรือกาว ผมที่ต่อมาอาจดูเป็นธรรมชาติได้อย่างเหลือเชื่อ โดยราคาอาจจะอยู่ที่ชุดละสามพันจนถึงสามหมื่นกว่าบาทเลยนะ แล้วคุณก็ต้องเปลี่ยนผมต่อทุกๆ สามเดือนด้วยเพื่อที่ผมต่อของคุณจะได้คงความเป็นธรรมชาติไว้ได้
  5. คุณสามารถบำรุงผมด้วยเคราตินได้ตามร้านทำผมชั้นนำ โดยเคราตินจะช่วยให้ผมยาว หนา และเปล่งประกาย โดยคุณสามารถบำรุงผมด้วยเคราตินได้ทุกๆ สองเดือน แต่ก็ต้องควักเงินหน่อยนะ เพราะการบำรุงผมแต่ละครั้งอาจแพงถึงพันห้าร้อยกว่าบาทหรือกว่านั้น เคราตินจะช่วยให้ผมคุณสุขภาพดีขึ้น ดูสดชื่นและปราศจากข้อบกพร่องใดๆ เลยล่ะ [3]
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

แอ๊บว่าผมหนา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถึงคุณจะไม่สามารถควบคุมพันธุกรรมได้ คุณสามารถหลอกตาคนให้เชื่อว่าผมคุณหนาได้ ปรึกษาช่างผมดูว่าจะตัดผมทรงไหนดีเพื่อที่ผมจะได้ดูหนาและมีมิติ
    • ซอยไล่ระดับผมเพื่อที่ผมจะได้ดูหนา โดยเฉพาะถ้าคุณมีผมตรง
    • ถ้ากล้าพอ ลองตัดผมม้าดู ความแตกต่างของผมม้ากับผมส่วนที่เหลือจะทำให้ผมคุณดูยาวกว่าเดิม
    • เล็มปลายผม เมื่อผมตรงปลายกระดก ผมจะดูบางและไม่แข็งแรง ดังนั้น เล็มปลายผมให้เท่ากันอยู่เสมอ ผมของคุณจะได้ดูสุขภาพดีและมีชีวิตชีวา ผมจะได้ไม่แตกปลายด้วย ดูแลผมให้ดูดีเหมือนเพิ่งออกมาจากร้านเสมอด้วยการเล็มปลายผมทุกๆ 6-8 สัปดาห์นะ
  2. ทำไฮไลท์เพื่อที่ผมจะได้ดูมีมิติและหนาขึ้น อย่างไรก็ตาม การกัดสีมากเกินไปอาจทำให้ผมแห้งแตกได้ ดังนั้น เลือกสีที่ใกล้เคียงกันสีผมจริงไว้นะ
  3. ถ้าคุณยังไม่พร้อมควักเงินเพื่อต่อผมแบบเต็มรูปแบบ ลองซื้อผมต่อแบบคลิปหนีบมาสิ ผมต่อแบบนี้ราคาถูกกว่ากันเยอะเลย (ถึงจะดูไม่เหมือนผมจริงเท่าก็เถอะ) แถมยังหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เสริมสวยในท้องถิ่นอีกด้วย เลือกผมต่อที่มีสีและลักษณะผมใกล้เคียงกับคุณและนำมาหนีบผมทุกวันเพื่อที่คุณได้ดูผมเยอะขึ้น [4]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การใช้คลิปหนีบผมและสวมหมวกทุกวันอาจทำร้ายและทำให้ผมแตกได้
  • ใส่ใจอ่านคำเตือนเกี่ยวกับผลข้างเคียงของผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่หาซื้อได้ตามเคาน์เตอร์ยา ถ้าคุณอยากรู้หรือสงสัยอะไรก็ถามเภสัชกรหรือแพทย์ดู
  • พูดคุยกับแพทย์ก่อนเริ่มรับประทานยาใหม่ๆ หรือวิตามินเสริมเพื่อที่จะได้แน่ใจว่ายาเหล่านี้ปลอดภัยสำหรับคุณ
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณสังเกตว่าจู่ๆ ผมก็ร่วงเยอะขึ้นโดยไม่ได้เกี่ยวกับอายุที่มากขึ้น ลองปรึกษาแพทย์ดูว่าอาการผมร่วงเป็นสัญญาณปัญหาสุขภาพอย่างอื่นหรือเปล่า
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,131 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา