ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เมื่อใกล้ถึงวันเกิด คุณก็อาจจะมีตัวเลือกของขวัญที่อยากได้ในใจมากมาย แล้วถ้าคุณยายโทรมาถามว่าคุณอยากได้อะไร คุณจะตอบยังไงดีล่ะ วิธีหนึ่งก็คือเขียนรายการของขวัญที่เหมาะกับคุณและความสนใจของคุณ ถ้าคุณตัดสินใจไม่ได้จริงๆ ว่าคุณอยากได้อะไรเป็นของขวัญมากที่สุด บทความนี้ก็มีคำแนะนำดีๆ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้!

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ระดมความคิดเรื่องของขวัญ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เขียนเรื่องสนุกๆ ที่คุณชอบทำลงไป จากนั้นเขียนสิ่งที่คุณใช้ในการทำงานอดิเรกนั้นๆ เลือกของในรายการมาสักหนึ่งอย่างที่คุณชอบมากจริงๆ และเพิ่มเข้าไปในรายการของที่อยากได้ ลองอ่านไอเดียด้านล่างนี้เผื่อคุณจะเริ่มเขียนรายการออกมาได้
    • ถ้าคุณชอบระบายสีหรือวาดภาพ คุณอาจจะอยากได้ดินสอกราไฟต์แท่งใหม่ พู่กัน หรือสี ถ้าคุณวาดสีน้ำมัน คุณอาจจะต้องใช้น้ำมันเมล็ดฝ้ายหรือน้ำมันสน ใช้ความคิดสร้างสรรค์หน่อย!
    • ถ้าคุณอยากแสดงออกว่าคุณสนับสนุนทีมกีฬาทีมโปรด อย่าจำกัดตัวเองแค่เสื้อยืด เสื้อกีฬา กับหมวกที่มีโลโก้ทีมโปรดอย่างเดียว การไปดูการแข่งขันก็เป็นวิธีแสดงการสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน และยังเป็นประสบการณ์ที่ดีด้วย
    • ถ้าคุณชอบฟังเพลง ทำไมไม่เลือกของขวัญที่เกี่ยวกับวงดนตรีที่คุญชอบล่ะ เขาออกอัลบั้มใหม่หรือเปล่าหรือมีอัลบั้มไหนที่คุณยังไม่มีมั้ย แล้วโปสเตอร์หรือเสื้อล่ะมีหรือยัง
    • ถ้าคุณชอบการ์ตูนมังงะหรือหนังสือการ์ตูน ดูว่าเรื่องโปรดของคุณออกเล่มใหม่หรือยัง ถ้าคุณชอบอนิเมะ ดูว่ามีฟิกเกอร์ใหม่ๆ ตัวไหนที่คุณอาจจะพลาดไปบ้าง
    • ลองอ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับของขวัญพิเศษเผื่อจะได้ไอเดียใหม่ๆ
  2. คุณเพิ่งไปดูละครเพลงที่คุณชอบมากๆ หรือเปล่า ถึงการแสดงนั้นอาจจะไม่ได้แสดงแล้วในช่วงใกล้วันเกิดของคุณ แต่ก็อาจจะมีการแสดงอื่นๆ ที่คุณชอบก็ได้ เข้าไปที่เว็บไซต์ของบริษัทเจ้าของการแสดงนั้นๆ และดูว่ามีการแสดงที่กำลังจะจัดขึ้นเรื่องไหนบ้างที่คุณสนใจ บัตรเข้าชมการแสดงอย่างโอเปร่า ละครเวที และละครเพลงเป็นของขวัญที่ยอดเยี่ยมและจะตราตรึงอยู่ในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน
    • ถ้าคุณไม่ชอบละครเวที ลองนึกถึงอะไรก็ได้ที่คุณชอบดู อาจจะเป็นการแข่งขันกีฬา คอนเสิร์ต หรือแม้แต่สวนสนุกก็ได้ ลองหาบทความเกี่ยวกับไอเดียของขวัญที่มอบประสบการณ์ดูเผื่อจะได้ไอเดียใหม่ๆ
  3. บางครั้งการนึกถึงของที่จำเป็นต้องมีก็ง่ายกว่าการคิดว่าคุณอยากได้อะไร ลองนึกถึงช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาว่ามีช่วงไหนมั้ยที่คุณจำเป็นต้องใช้อะไรแต่คุณไม่มี คุณอาจจะเริ่มจาก
    • ถ้าคุณทำอาหารบ่อยๆ หม้อ กระทะ และเครื่องครัวอื่นๆ อาจจะต้องซื้อใหม่หรือต้องเปลี่ยนไปใช้อันที่ดีกว่าเดิม คุณอาจจะขอเครื่องครัวชุดใหม่หรือเครื่องปั่นเป็นของขวัญวันเกิด แต่ถ้าอุปกรณ์ครัวของคุณยังใหม่เอี่ยม ก็อาจจะดูเป็นเครื่องเทศแปลกๆ แทน ถ้าคุณมือเย็นปลูกต้นไม้งาม คุณอาจจะเลือกอุปกรณ์สำหรับปลูกสมุนไพรด้วยตัวเอง แล้วคุณก็จะได้กระถาง ดิน และสมุนไพรที่ใช้ในการทำอาหาร เช่น กะเพรา โหระพา และสะระแหน่
    • ถ้าคุณเล่นกีฬาหรือดนตรี ก็ดูว่าอุปกรณ์ของคุณต้องอัปเดตหรือซื้อใหม่มั้ย อุปกรณ์พวกนี้ราคาแพง วันเกิดจึงเป็นโอกาสดีที่คุณจะได้อัปเกรดของสักที
    • ถ้าวันเกิดของคุณใกล้กับหน้าหนาว อาจจะดูว่าเสื้อผ้ากันหนาวยังใส่ได้อยู่หรือเปล่า ถ้าใส่ไม่ได้แล้ว อาจจะขอเสื้อแจ๊กเก็ตหรือผ้าพันคอใหม่เป็นของขวัญก็ได้
  4. ดูตามร้านค้า เว็บไซต์ และแคตตาล็อกเพื่อหาไอเดีย. คุณมีร้านโปรดที่คุณชอบไปชอปหรือเปล่า เข้าไปที่เว็บไซต์ของร้านค้าและดูว่ามีอะไรใหม่ๆ จากครั้งล่าสุดที่คุณแวะไปมั้ย บางทีการเข้าไปดูในร้านค้า เปิดดูแคตตาล็อก หรือการเล่นเน็ตก็ทำให้คุณได้ไอเดียเหมือนกัน
    • ถ้าสุดสัปดาห์นี้คุณว่าง ลองไปห้างใกล้บ้าน อย่าลืมจดไว้ด้วยว่ามีอะไรบ้างที่คุณสนใจ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

เลือกสิ่งของเป็นของขวัญ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณเป็นศิลปิน ลองดูอุปกรณ์ทำงานศิลปะหรือเซ็ต/ชุดทำงานศิลปะ. เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะสนใจมากกว่าหนึ่งอย่าง เช่น วาดภาพ ระบายสี และ ถักนิตติ้ง และอาจจะกลายเป็นว่าคุณอยากได้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการประดิษฐ์ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งมันอาจจะเยอะเกินไปได้ง่ายๆ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น คุณอาจจะให้เขาซื้อเป็นเซ็ตหรือชุดก็ได้ เพราะมันมักจะมีทุกอย่างที่คุณต้องใช้ในการทำงาน 1 หรือ 2 งานให้เสร็จ ซึ่งง่ายสำหรับเพื่อนๆ และครอบครัวมากกว่าด้วยเวลาที่เขาไปเลือกซื้อของขวัญ เพราะเขาจะได้ไม่ต้องกังวลว่าซื้ออุปกรณ์ถูกมั้ยหรือไม่ได้ซื้อของสำคัญไปหรือเปล่า คุณอาจจะเริ่มจาก
    • ถ้าคุณชอบร้อยลูกปัด คุณก็อาจจะชอบเซ็ตลูกปัด หลายเซ็ตจะมีทุกสิ่งที่คุณต้องใช้ในการทำสร้อยคอ ต่างหู 1 คู่ และกำไลข้อมือ ซึ่งจะมาพร้อมกับเส้นเอ็นสำหรับร้อย ตะขอกับคีมหนีบ และลูกปัด คุณอาจจะอยากได้ดินโพลีเมอร์เพื่อทำลูกปัดเองด้วยก็ได้
    • ถ้าคุณชอบประดิษฐ์ของใช้เอง คุณอาจจะชอบอุปกรณ์ทำสบู่หรือเทียน นอกจากนี้คุณอาจจะบอกให้เขาซื้ออุปกรณ์สำหรับทำงานประดิษฐ์พื้นฐานอย่างสีชอล์ก ขวดโหล ผ้าป่าน เชือก และพู่กันก็ได้
    • ถ้าคุณชอบวาดภาพ คุณอาจจะให้เขาซื้อดินสอกราไฟต์หรือดินสอถ่าน สมุดสเก็ตช์ภาพ และหนังสือสอนวาดรูป หนังสือพวกนี้จะสอนวาดทุกอย่างตั้งแต่คน พืชกับต้นไม้ ไปจนถึงสัตว์ บางเล่มอาจจะเน้นสัตว์บางอย่าง เช่น นก แมว สุนัข หรือม้า ถ้าคุณชอบสิ่งมีชีวิตในจินตนาการ ก็จะมีหนังสือสอนวาดนางเงือก ภูต เอลฟ์ และมังกร หรือแม้แต่หนังสือสอนวาดการ์ตูนอนิเมะก็ยังมี
    • ถ้าคุณชอบระบายสี ก็อาจจะเลือกเซ็ตสี ร้านขายของศิลปะและงานประดิษฐ์หลายที่ขายเซ็ตสีที่มาในกล่องไม้หรือกล่องโลหะ คุณอาจจะได้สีอะคริลิก สีน้ำมัน หรือสีน้ำเกรดที่ศิลปินใช้กัน บางเซ็ตก็อาจจะมีหนังสือสอนวาดภาพ กระดาษอาร์ต หรือผ้าใบมาให้ด้วย
    • ถ้าคุณชอบถักนิตติ้งหรือโครเชต์ คุณไม่จำเป็นต้องจำกัดตัวเองอยู่กับไหมเก่าๆ ธรรมดาๆ แต่คุณต้องทำให้ตัวเองมีความสุขด้วยไหมที่สวยและแพงกว่าเดิมที่มีเส้นใยและเนื้อสัมผัสที่ต่างไปจากของที่มีอยู่ นอกจากนี้ยังมีหนังสือแพตเทิร์นการถักที่คุณอาจจะชอบด้วย
  2. นึกถึงของตกแต่งสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์. ของจำพวกคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตเป็นของที่ออกใหม่อยู่เรื่อยๆ ของที่เพิ่งออกปีนี้ถึงปีหน้าก็เชยแล้ว แต่ของตกแต่งอย่างเคสกับหูฟังนั้นไม่เก่าเร็วเท่าและสามารถอยู่ได้นานกว่ามาก ตัวอย่างไอเดียก็เช่น: [1]
    • ถ้าคุณมีโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต ให้ขอเป็นเคส เคสมือถือกับแท็บเล็ตมักจะมีแบบที่ออกแบบเองได้ด้วยโดยเราสามารถใส่ชื่อ ดีไซน์ หรือภาพลงไปได้
    • หูฟังแบบสวมหัว สปีกเกอร์ และของชิ้นเล็กๆ อื่นๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่คุณมีอยู่แล้วได้
    • หรือคุณอาจจะชอบของเก่าๆ เช่น เครื่องเล่นแผ่นเสียงเครื่องใหม่ที่คุณจะไว้ใช้เล่นแผ่นเสียงของคุณ
  3. มองหาเครื่องประดับหรือของตกแต่งถ้าคุณชอบแฟชั่น. เครื่องประดับอาจจะแพง แต่ก็ไม่เสมอไปหรอก คุณสามารถหาเครื่องประดับสวยๆ ทำมือได้จากเว็บไซต์ของศิลปินอย่าง Pinkoi และที่งานขายของทำมือ ดูเซ็ตเครื่องประดับต่างๆ และดูว่ามีอะไรที่คุณอยากได้เพื่อทำให้ลุคดูสมบูรณ์ขึ้นอย่างเข็มกลัด กำไล หรือสร้อยคอหรือเปล่า ถ้าคุณไม่ชอบเครื่องประดับ คุณก็อาจจะขอเป็นหมวกหรือกระเป๋าพิเศษก็ได้ ตัวอย่างไอเดียก็เช่น
    • เวลาขอให้ใครซื้อเครื่องประดับให้ ให้ขอแบบยกเซ็ตอย่างสร้อยคอและต่างหูที่เข้ากัน
    • ถ้าคุณมีเครื่องประดับเยอะแล้วแต่ไม่มีที่เก็บ ก็อาจจะขอเป็นกล่องเก็บเครื่องประดับแทนก็ได้
    • ถ้าคุณเป็นผู้ชาย คุณก็อาจจะขอเป็นเข็มกลัดเนกไท กระดุมข้อมือเสื้อ หรือนาฬิกาเรือนใหม่ก็ยังได้
    • เข็มขัดกับกระเป๋าสตางค์ก็เป็นของขวัญที่ดีเช่นเดียวกัน ถ้าคุณได้เข็มขัดหรือกระเป๋าสตางค์หนัง คุณก็อาจจะให้เขาทำเป็นแบบเฉพาะของคุณเลยก็ได้ เพราะหนังบางอย่างสามารถปั๊มลายหรือตัวหนังสือได้
  4. ถ้าคุณอยากปรนเปรอตัวเอง ลองคิดถึงเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำ และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม. แค่อย่าลืมเขียนรายการสี เฉด และกลิ่นที่ชอบลงไปเพราะมันเป็นเรื่องที่มีแต่เจ้าตัวที่รู้ เครื่องสำอางไม่ได้ใช้พื้นที่จัดเก็บมากเช่นเดียวกับเครื่องประดับและสามารถใช้ได้เกือบทุกวัน ตัวอย่างไอเดียที่คุณสามารถเก็บไปคิดได้ก็คือ
    • บริษัทเครื่องสำอางหลายบริษัทมีชุดของขวัญที่มีทั้งกระเป๋าเครื่องสำอาง อายแชโดว์ ลิปสติก และบลัชออน
    • ร้านขายผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำและผลิตภัณฑ์เสริมความงามมักจะมีตะกร้าของขวัญที่มีโลชั่นกับสบู่อยู่ข้างใน บางที่อาจจะมีบาธบอม เกลือ และสบู่ทำฟองในอ่างมาให้ด้วย
    • ถ้าคุณอยากใช้มอยซ์เจอไรเซอร์หรือน้ำหอม วันเกิดถือเป็นโอกาสดีที่คุณจะขอให้คนอื่นซื้อได้คุณได้
  5. ทีมกีฬาส่วนใหญ่จะมีร้านของขวัญออนไลน์ ซึ่งเป็นที่ที่เหมาะแก่การเริ่มหาของขวัญ ถ้าทีมโปรดของคุณกำลังจะเล่นใกล้จังหวัดของคุณในช่วงวันเกิด ดูว่าคุณสามารถซื้อบัตรไปดูการแข่งขันได้มั้ย ตัวอย่างไอเดียก็เช่น
    • ขอของขวัญเป็นเสื้อยืดกีฬา หมวก หรือเสื้อกีฬาแขนยาวที่คุณสามารถใส่ไปดูการแข่งขันได้เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมโปรด
    • ถ้าคุณอยากจะแสดงการสนับสนุนทีมกีฬาโปรดในที่ทำงาน ลองหาเป็นเสื้อผ้าที่เหมาะใส่ไปทำงานแทน เช่น เนกไท ถุงเท้า กระดุมข้อมือ หรือผ้าพันคอ
    • ถ้าคุณอยากจัดงานปาร์ตี้ดูการแข่งขันกีฬา ให้ขอเป็นชามที่มีสัญลักษณ์ทีมกีฬาทีมโปรด ซึ่งจะเพิ่มความรู้สึกประทับใจแบบเป็นส่วนตัวให้กับปาร์ตี้ของคุณ
    • นอกจากนี้คุณก็อาจจะขอของขวัญที่คุณสามารถนำไปใช้ในการเล่นกีฬาได้ เช่น เสื้อผ้ากีฬา รองเท้าสำหรับเล่นกีฬานั้นๆ โดยเฉพาะแร็กเก็ต หรือลูกบอล
  6. เพิ่มพูนการอ่านให้กว้างขึ้นถ้าคุณเป็นหนอนหนังสือ. ถ้าคุณมีนักเขียนหรือประเภทหนังสือที่ชอบ ให้ขอหนังสือเล่มล่าสุดจากซีรีส์นั้นเป็นของขวัญ รายการหนังสือขายดีที่สุดอย่าง The New York Times bestseller อาจช่วยให้คุณเจอหนังสือที่ดังที่สุดในหลายๆ ประเภทด้วยกัน อย่าลืมบอกคนให้ด้วยว่ารสนิยมการอ่านของคุณเป็นอย่างไร เขาหรือเธออาจจะเคยอ่านอะไรที่คุณน่าจะชอบมาแล้วก็ได้ ตัวอย่างไอเดียก็เช่น
    • ขอเป็นอีบุ๊ก เพราะคุณจะได้พกหนังสือเล่มโปรดทั้งหมดติดตัวไปด้วยได้ทุกที่ [2]
    • ถ้าคุณมีหนังสือเล่มนั้นเวอร์ชันอีบุ๊กแล้ว ให้ขอของขวัญเป็นหนังสือแบบเล่มที่เป็นหน้าปกพิเศษ หรือคุณจะขอเป็นบัตรของขวัญเพื่อที่คุณจะได้ไปซื้ออีบุ๊กเพิ่มก็ได้
    • ถ้าคุณมีหนังสือเล่มโปรด คุณอาจจะหาถุงผ้าใบหรือโปสเตอร์ที่เป็นรูปปกหนังสือเล่มนั้น หรือคุณอาจจะไปเจอเสื้อ แก้วมัค หรือแม้แต่แผ่นรองเม้าส์ที่เป็นรูปปกหนังสือเล่มนั้นก็ได้
    • ถ้าคุณมีคำพูดที่ชอบจากหนังสือหรือจากนักเขียนคนโปรด ลองดูในอินเทอร์เน็ตว่ามีโปสเตอร์ แก้วมัค หรือของอื่นๆ ที่สกรีนคำพูดนั้นหรือเปล่า
  7. ขอเป็นของเล่นและเกมถ้าคุณเป็นเด็กหรือเป็นผู้ใหญ่หัวใจเด็ก. ถ้าคุณมีฟิกเกอร์การ์ตูน 2-3 ตัวจากเซ็ตนั้นๆ แล้ว ให้ขอของขวัญเป็นฟิกเกอร์เพิ่มเพื่อให้มันครบทั้งเซ็ต ถ้าคุณชอบเล่นเกม คุณอาจจะชอบเกมกระดานหรือการ์ดเกมอย่าง Uno Clue หรือ Apples to Apples ก็ได้ [3]
    • คนเล่มเกมที่มีอายุหน่อยอาจจะชอบเกมวางกลยุทธ์อย่าง Ticket to Ride หรือเกมในร่มอย่าง Cards Against Humanity
    • หรือคุณอาจจะชอบชุดต่อโมเดลก็ได้ บางเซ็ตก็เป็นเซ็ตง่ายๆ แค่เอาส่วนต่างๆ มาประกอบกันเฉยๆ ไม่ต้องใช้กาวหรือทาสี แต่บางชุดก็จะยากหน่อยคือต้องทากาวเพื่อประกอบส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันแล้วก็ระบายสีด้วย คุณอาจจะซื้อชุดต่อโมเดลรถ เครื่องบิน เรือ เฮลิคอปเตอร์ และมอเตอร์ไซค์ หรือจะซื้อยานอวกาศจากหนังวิทยาศาสตร์ดังๆ อย่าง Star Wars และ Star Trek ก็ได้
  8. ถ้าคุณชอบการแสดง ซีรีส์หนังสือ หรือวิดีโอเกม คุณอาจจะขอสินค้าที่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณชอบก็ได้ เช่น คุณอาจจะขอไม้กายสิทธิ์จาก Harry Potter ฟิกเกอร์หรือโมเดลจาก Lord of the Rings หรือเสื้อยืดจากวิดีโอเกมที่คุณชอบ และคุณอาจจะซื้อ DVD หรือหนังสือเพื่อเก็บสะสมเพิ่มก็ได้ ไอเดียอื่นๆ ก็เช่น [4]
    • แฟนวิดีโอเกมอาจจะชอบกระเป๋า Minecraft หรือชุดนอนลาย the Crest of Hyrule จาก Legend of Zelda
    • ถ้าคุณชอบแต่งคอสเพลย์ คุณอาจจะขอเป็นวิกหรือของตกแต่งเพื่อทำให้ชุดคอสเพลย์ล่าสุดของคุณสมบูรณ์แบบ คุณอาจจะขอเป็นบัตรของขวัญจากร้านขายผ้าหรือร้านขายของอุปกรณ์ศิลปะและงานประดิษฐ์ร้านโปรดเพื่อที่คุณจะได้นำไปซื้ออุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำชุดคอสเพลย์ได้ [5]
    • ขอเป็นโปสเตอร์หรือฟิกเกอร์ตัวละคร หนังสือการ์ตูน ภาพยนตร์ หรือวิดีโอเกมที่คุณชื่นชอบ
    • ถ้าคุณชอบอ่านการ์ตูนมังงะ ให้ขอเป็นหนังสือเล่มล่าสุดในซีรีส์นั้น ถ้าคุณชอบอนิเมะ ให้ขอเป็น DVD ภาคล่าสุด นอกจากนี้บางสตูดิโออาจจะสร้างภาพยนตร์จากซีรีส์ด้วย
    • คุณอาจจะขอเป็นหนังสือที่มีอาร์ตเวิร์กและงานศิลปะที่เป็นความคิดรวบยอดจากวิดีโอเกม หนังสือการ์ตูน การ์ตูนมังงะ หรืออนิเมะที่คุณชอบ
  9. ของขวัญพวกนี้มักจะเป็นส่วนตัวกว่าและพิเศษกว่าของขวัญที่ซื้อมา คนๆ นั้นอาจจะรู้สึกเหมือนได้รับคำชมที่คุณคิดว่าพรสวรรค์ของเขาควรค่าแก่การเป็นของขวัญ ของขวัญทำมือทั้งพิเศษและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และต้องโดดเด่นไม่เหมือนใครแน่นอน ของที่คุณอาจจะขอให้เขาทำเป็นของขวัญให้ก็เช่น
    • ถ้าคุณรู้จักใครที่ชอบถักไหมพรม ดูว่าเขายินดีจะถักผ้าพันคอหรือหมวกให้คุณมั้ย
    • ถ้าคุณรู้จักใครที่ชอบเย็บผ้า ดูว่าเขายินดีที่จะทำกระเป๋าใบใหม่ให้คุณมั้ย
    • ถ้ามีเพื่อนที่ชอบทำสบู่หรือเทียน ให้ดูว่าเขาทำสบู่หรือเทียนให้คุณสักชุดได้หรือเปล่า
  10. บางครั้งร้านโปรดของคุณอาจจะยังไม่มีของที่คุณชอบในตอนนี้ แต่ถ้าคุณมีบัตรของขวัญคุณจะสามารถแบ่งเงินไว้ซื้อของที่ร้านตอนที่เจอของถูกใจจริงๆ ได้ [6]
    • บางคนก็ไม่ชอบให้บัตรของขวัญ ถ้าเป็นกรณีนี้ให้ถามเขาว่าเขาจะไปที่ร้านกับคุณเพื่อซื้อของขวัญพิเศษเมื่อถึงวันเกิดของคุณได้หรือเปล่า
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

เลือกประสบการณ์เป็นของขวัญ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้างบมากพอ คุณอาจจะขอไปเที่ยวในที่ที่คุณไม่เคยไปมาก่อน แต่ถ้างบค่อนข้างจำกัด ก็ให้ขอของขวัญเป็นการใช้เวลากับคนที่ให้ของขวัญแทน อาจจะเป็นอะไรง่ายๆ อย่างการไปรับประทานอาหารด้วยกันหรือไปพิพิธภัณฑ์ในจังหวัด ไอเดียอื่นๆ ก็เช่น [7]
    • ไปประเทศหรือจังหวัดที่คุณอยากไปมาตลอด แต่ถ้าคุณไม่รู้จะไปไหน คุณก็อาจจะหลับตาแล้วเอานิ้วจิ้มลงบนแผนที่ จากนั้นลืมตาแล้วนิ้วจิ้มไปโดนที่ไหนก็ไปที่นั่น
    • ไปล่องเรือ การล่องเรือส่วนใหญ่มักจะมีการท่องเที่ยวบนบกและการท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วย เพราะฉะนั้นคุณจะไม่ได้ติดแหง็กอยู่บนเรืออย่างเดียวแน่นอน
    • ไปสวนสาธารณะ อาจจะเป็นสวนสาธารณะทั่วไปอย่างสวนสาธารณะในละแวกบ้าน หรืออุทยานประจำจังหวัดหรืออุทยานแห่งชาติก็ได้
    • ไปตั้งแคมป์ แต่อย่าลืมว่าการไปตั้งแคมป์คนเดียวไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นคุณอาจจะต้องเอาเพื่อนไปด้วยสักคนสองคน
  2. ขอกิจกรรมที่ได้ใช้พลังเยอะๆ ถ้าคุณเป็นคนชอบความตื่นเต้น. ประสบการณ์ประเภทนี้ต้องวางแผนล่วงหน้าก่อนเช่นเดียวกับการท่องเที่ยว และหลายครั้งที่อาจจะต้องเตรียมอุปกรณ์ไปด้วย แต่กิจกรรมเหล่านี้ก็อาจจะรวมกับการท่องเที่ยวไว้ด้วย เช่น ถ้าคุณไปเที่ยวเกาะในเขตร้อนชื้น คุณก็อาจจะไปดำน้ำแบบสกูบาด้วย ถ้าคุณเลือกไปตั้งแคมป์ คุณก็อาจจะลองไปถ้ำหรือไปเดินป่า กิจกรรมอื่นๆ ที่คุณอาจจะเก็บไปพิจารณาก็คือ
    • บันจี้จัมป์
    • สำรวจถ้ำ
    • เดินป่าหรือเดินทางแบบแบ็กแพ็ก
    • ขี่ม้า
    • พายเรือคายัก
    • ปีนหน้าผา
    • ดำน้ำแบบสกูบา
  3. ร้านสปาหลายที่มีบริการสุดพิเศษ เช่น การทำเล็บเท้าแบบหรูหราที่มีการใช้เกลือ น้ำมัน และนวดเท้านานเป็นพิเศษ ถ้าคุณไม่ชอบทำเล็บเท้า คุณอาจจะไปนวดหรือไปมาส์กหน้าด้วยโคลน แต่อย่าลืมนัดก่อนล่วงหน้า เพราะร้านสปาดังๆ จะคิวเต็มเร็วมาก
  4. ดูว่าคุณสามารถเรียนทักษะใหม่ๆ ในวันเกิดได้มั้ย. ร้านต่างๆ หลายที่มีบัตรของขวัญที่ให้คุณได้เรียนทักษะใหม่ๆ เช่น การเต้น ศิลปะการป้องกันตัว การวาดภาพ หรืองานช่างไม้ นอกจากนี้คุณอาจจะใช้เวลาในวันเกิดเรียนทักษะพิเศษจากคนในครอบครัวก็ได้ คุณยายอาจจะดีใจที่ได้สอนคุณทำขนมทองหยิบทองหยอดหรือทำอาหารจานโปรด ซึ่งส่วนที่ดีที่สุดของการทำกิจกรรมนี้ก็คือการที่คุณจะได้รับประทานอาหารหลังจากคุณทำเสร็จแล้ว ไอเดียอื่นๆ ก็เช่น
    • ถ้าคุณชอบร้อยลูกปัด แต่งหน้าเค้ก ถักโครเชต์ ถักนิตติ้ง หรือวาดภาพ ให้ไปที่ร้านขายอุปกรณ์ศิลปะและงานประดิษฐ์ เพราะหลายที่มีเปิดสอนทักษะเหล่านี้ด้วย
    • ในศูนย์บริการชุมชนก็เปิดสอนวิชาต่างๆ เช่น การทำเครื่องปั้นดินเผา การทอผ้า และดนตรี
  5. การไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์เป็นของขวัญยอดเยี่ยมสำหรับคนที่ชอบศิลปะหรือประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์หลายๆ ที่จะมีหัวข้อชัดเจนและเน้นไปที่ประวัติศาสตร์ประเภทใดประเภทหนึ่ง (เช่น พิพิธภัณฑ์สมัยสุโขทัยหรืออยุธยา) หรือเน้นไปที่ศิลปะประเภทใดประเภทหนึ่ง (เช่น ศิลปะไทยร่วมสมัยหรือศิลปะเพื่อการออกแบบ) ลองนึกดูว่าคุณสนใจอะไร และดูว่าพิพิธภัณฑ์ไหนที่ตรงกับความสนใจของคุณ
    • ถ้าประวัติศาสตร์หรือศิลปะไม่ใช่สิ่งที่คุณสนใจ คุณอาจจะอยากไปหอเกียรติยศ หรือคุณอาจจะไปพิพิธภัณฑ์อื่นๆ แทน เช่น คุณอาจจะชอบพิพิธภัณฑ์แพทย์ศิริราชหรือพิพิธภัณฑ์ที่เน้นเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรม
  6. ไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหรือสวนสัตว์ถ้าคุณชอบสัตว์ป่า. ส่วนใหญ่แล้วคุณจะต้องจ่ายแค่ค่าเข้า จากนั้นจะใช้เวลาอยู่ในนั้นนานแค่ไหนก็ได้ สวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางที่อาจจะอนุญาตให้คุณเข้าใกล้และใกล้ชิดกับสัตว์บางตัวโดยมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ถ้าคุณอยากทำกิจกรรมแบบนี้ ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ของสวนสัตว์หรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในท้องที่แล้วดูว่ามีกิจกรรมแบบนี้ให้ทำหรือเปล่า
  7. ขอบัตรคอนเสิร์ตเป็นของขวัญถ้าคุณชอบดนตรีหรือการแสดง. บางครั้งความทรงจำของเหตุการณ์ก็อยู่นานกว่าของขวัญที่เป็นสิ่งของ โรงละครและฮอลล์จัดคอนเสิร์ตหลายที่จะมีร้านขายของที่ระลึกที่ขายโปสเตอร์ ซีดี และเสื้อที่คุณสามารถซื้อของเพื่อช่วยให้คุณจดจำประสบการณ์ในวันนั้นได้ดียิ่งขึ้น
    • ดูว่าวงดนตรีที่คุณชอบจะมาเล่นใกล้ๆ บ้านคุณมั้ย และขอของขวัญเป็นบัตรคอนเสิร์ตวงนี้ คุณสามารถทำให้ประสบการณ์นี้พิเศษกว่าเดิมได้ด้วยการขอเป็นบัตร VIP เพื่อที่คุณจะได้พบสมาชิกของวงดนตรีที่คุณชอบและให้เขาเซ็นลายเซ็นให้คุณด้วย
    • ถ้าคุณชอบดนตรีคลาสสิก คุณอาจจะอยากไปดูคอนเสิร์ตการแสดงสดออร์เคสตรา
    • ถ้าคุณชอบการร้องเพลงและการเต้น คุณอาจจะชอบดูละครเพลง ถ้าคุณชอบการแสดงที่ไม่มีการร้องหรือการเต้น ให้ไปดูละครเวทีแทน
  8. ขอบัตรไปงานอนิเมะหรืองานหนังสือการ์ตูนเป็นของขวัญ. แต่จำไว้ด้วยว่าถ้างานนี้จัดที่จังหวัดอื่นและคุณจะค้างที่จังหวัดนั้นด้วย คุณอาจจะต้องวางแผนว่าจะนอนที่ไหน หลายโรงแรมที่จัดงานเหล่านี้จะมีห้องพักให้บริการในราคาพิเศษ
    • ถ้าคุณไม่ได้ชอบอนิเมะหรือหนังสือการ์ตูน คุณอาจจะอยากไปงานย้อนรอยตลาดโบราณแทนซึ่งมักจะจัดเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ คุณจึงไม่ต้องค้างคืนที่นั่น และยังเป็นวิธีที่ดีที่คุณจะได้ซึมซับประวัติศาสตร์และโลกจินตนาการด้วย
    • ถ้าคุณมีนักเขียนหรือนักวาดภาพประกอบคนโปรด ดูว่าเขาหรือเธอจัดเสวนาหนังสือหรือมีแจกลายเซ็นในที่ที่ไม่ไกลจากบ้านของคุณหรือเปล่า เพราะคุณไม่เพียงแต่จะได้เจอคนที่คุณชอบเท่านั้น แต่คุณยังอาจจะได้เดินออกมาพร้อมลายเซ็นด้วย
  9. ฉลองวันเกิดด้วยการไปรับประทานมื้อค่ำที่ร้านอาหารร้านโปรด. ประสบการณ์ไม่จำเป็นต้องเป็นกิจกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจเสมอไป แต่อาจจะเป็นอะไรง่ายๆ อย่างการได้รับประทานอาหารอร่อยๆ กับเพื่อนๆ และครอบครัว เลือกร้านอาหารที่คุณชอบหรือร้านที่คุณอยากไปมานานแล้ว
  10. บางครั้งของขวัญที่เป็นการให้อาจทำให้หัวใจชุ่มชื่นกว่าของขวัญที่เป็นการได้รับ ลองคิดถึงสิ่งที่คุณอินกับมันมากๆ และพยายามหาองค์กรที่สนับสนุนสิ่งนั้น ตัวอย่างประเภทขององค์กรที่คุณอาจจะนำไปพิจารณาก็เช่น
    • สัตว์และธรรมชาติ
    • คนไร้บ้าน
    • บรรเทาภัยพิบัติ
    • การศึกษา
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

จำกัดรายการสิ่งที่อยากได้ให้แคบลง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เขียนรายการข้อดีข้อเสียของของขวัญแต่ละชิ้น. ถ้าคุณมีของที่อยากได้ 2-3 อย่างแล้วเลือกไม่ได้ ให้เขียนรายการข้อดีข้อเสีย เขียนข้อดีและข้อเสียของของขวัญแต่ละชิ้นลงไปในรายการ เลือกของที่มีข้อดีมากที่สุดและมีข้อเสียน้อยที่สุด เช่น เสื้อแจ๊กเก็ตอาจจะไม่ใช่ของขวัญที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่มันก็ใส่ได้กับหลายชุด และยังช่วยให้คุณอุ่นเวลาอากาศหนาวด้วย
  2. เรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณอาจจะเป็นโรงเรียน งาน กีฬา หรืออย่างอื่นไปเลยก็ได้ ถ้าการเล่นกีฬาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ อุปกรณ์ใหม่ก็อาจจะมีประโยชน์มากกว่าวิดีโอเกมใหม่ที่คุณอาจจะไม่มีเวลาเล่นในช่วงฝึกซ้อมก็ได้
  3. บางครั้งสิ่งที่คุณต้องการตอนนี้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากได้ (หรือใช้) ในวันข้างหน้า ถ้าคุณมีรายการของขวัญที่อยากได้ 2-3 อย่างแล้วเลือกไม่ได้ พยายามคิดถึงชีวิตในอีก 2-3 เดือนข้างหน้าที่ไม่มีมัน แล้วเลือกของที่คุณจะยังคงใช้อยู่หรือยังชอบอยู่แม้ว่าจะหมดช่วงเห่อไปแล้ว
    • คุณอาจจะลองคิดว่ามันจะเป็นยังไงถ้าไม่ได้ของชิ้นนั้น แล้วเลือกของที่ถ้าคุณไม่ได้แล้วจะหงุดหงิดที่สุด
  4. ไม่ใช่ทุกคนที่จะซื้อของขวัญราคาแพงๆ ได้ ถ้าคุณอยากได้ของที่แพงมากๆ ให้ลองถามคนให้ก่อนว่าเขามีงบเท่าไหร่ก่อนบอกว่าของที่คุณอยากได้คืออะไร เพราะถ้าคุณขอในสิ่งที่เขามีเงินไม่พอที่จะซื้อให้ เขาหรือเธออาจจะรู้สึกอับอายได้ เพราะฉะนั้นทางเลือกอื่นๆ ก็คือ
    • ถ้าคุณไม่กล้าถามว่าเขามีงบเท่าไหร่ ให้เขียนทั้งของที่แพงและไม่แพง 2-3 อย่างลงไปในรายการของที่คุณอยากได้ วิธีนี้จะทำให้เขาสามารถซื้อของในงบที่เขาตั้งไว้ได้
    • ขอให้รวมกลุ่มกันซื้อของขวัญ วิธีนี้จะทำให้ทุกคนในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนได้ลงขันกันเมื่อต้องซื้อของขวัญราคาแพง
    • ขอของขวัญที่รวบทั้งสองเทศกาลไว้ด้วยกัน เช่น ถ้าวันเกิดของคุณใกล้กับช่วงปีใหม่ คุณอาจจะขอของขวัญสำหรับวันเกิดและวันปีใหม่ในชิ้นเดียวไปเลย
    • เสนอช่วยจ่ายค่าของขวัญนั้นด้วย การรวมเงินของคุณกับเขาด้วยกันจะทำให้คุณได้ของขวัญแพงๆ ที่คุณอยากได้จริงๆ
  5. ถ้าคุณมีของขวัญที่อยากได้ 2-3 อย่างแล้วเลือกไม่ได้ ให้ขอให้คนอื่นเลือกให้ เอารายการของที่อยากได้ให้เขาแล้วขอให้เขาหรือเธอเลือกมาสักอย่างจากรายการนั้น บางคนอาจจะชอบที่เขาได้เลือกของขวัญให้คุณมากกว่าก็ได้
  6. คิดถึงสิ่งที่คุณอยากได้จริงๆ มากกว่าสิ่งที่คุณควรจะได้. ถ้าคุณพยายามตอบสนองความคาดหวังของคนอื่น สุดท้ายคนที่เครียดก็คือคุณ และคุณก็อาจจะไม่ได้ในสิ่งที่คุณอยากได้จริงๆ ด้วย [8]
    • ถ้าการไปเที่ยวทะเลคือสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขจริงๆ ก็บอกให้ครอบครัวรู้ คุณไม่จำเป็นต้องเลือกของขวัญวันเกิดแพงหูฉี่ให้ตัวเองแค่เพราะว่าเพื่อนๆ เขาได้ของขวัญแพงๆ กันทุกคน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าลืมทำรายการของขวัญที่อยากได้ ขณะที่ไอเดียของขวัญที่อยากได้เริ่มพรั่งพรู ให้เขียนลงไปในสมุด คุณอาจจะใช้อินเทอร์เน็ตเขียนรายการของขวัญที่อยากได้ขึ้นมาก็ได้ เว็บไซต์ชอปปิ้งหลายเว็บไซต์มีที่ให้คุณใส่รายการของที่อยากได้ คุณก็เพิ่มของที่คุณอยากได้เข้าไปไว้ในรายการ จากนั้นก็ส่งลิงก์ไปให้เพื่อนๆ และครอบครัว
  • เวลาหาของขวัญ ให้ค้นหาคำว่า "_______ที่ดีที่สุด" หรือ "________ที่ทนทานที่สุด ต่ำกว่า [ราคา]" นอกจากนี้ให้มองหาคำแนะนำการซื้อในกระทู้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับของที่คุณกำลังมองหา
  • ขั้นตอนเหล่านี้สามารถใช้กับการให้ของขวัญในเทศกาลอื่นๆ ได้ด้วย เช่น วันปีใหม่!
  • ลองขอของขวัญเป็นสีไม้ระบายน้ำ สีฝุ่นผสมขี้ผึ้ง หรือผ้า ลองศึกษาวัสดุชนิดต่างๆ ดู
  • เวลาไปที่ร้านค้า ให้สอดส่ายสายตาหาของที่คุณอยากได้แต่ยังซื้อไม่ได้ในตอนนั้น มันช่วยได้จริงๆ นะถ้าคุณไม่รู้จะเลือกอะไรดี!!!
  • อย่าเขียนรายการยาวๆ เพราะถ้าคุณเขียนรายการสั้นๆ คุณจะได้ของที่คุณอยากได้จริงๆ มากกว่า พยายามจำกัดรายการอย่าให้ยาวเกินไป
  • ลองนึกถึงสิ่งที่คนอื่นได้ในวันเกิดของเขาที่คุณเองก็อยากได้มากๆ เหมือนกัน แล้วขอสิ่งนั้นเป็นของขวัญวันเกิด
  • ถ้าคุณมีของสะสม เช่น ฟิกเกอร์ตัวละคร ให้ขอฟิกเกอร์ตัวละครเป็นของขวัญเพื่อมาเพิ่มในคอลเลกชั่นสะสมของคุณ
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่ารอจนนาทีสุดท้าย ยิ่งคุณรอนานเท่าไหร่ เพื่อนๆ และครอบครัวก็จะยิ่งมีเวลาซื้อของขวัญให้คุณน้อยลงเท่านั้น บางครั้งของที่คุณอยากได้อาจจะขายไปก่อนที่คุณจะตัดสินใจได้ พยายามให้รายการของที่อยากได้แต่เนิ่นๆ วิธีนี้จะทำให้เพื่อนๆ และครอบครัวของคุณมีเวลาวางแผนซื้อของและซื้อของที่คุณอยากได้มากขึ้น
  • กลับไปย้อนดูรายการของขวัญถ้าคุณเขียนไว้ตั้งแต่ต้นปี เพราะของที่คุณอยากได้เมื่อ 2-3 เดือนที่แล้วตอนนี้คุณอาจจะไม่อยากได้แล้วก็ได้
  • ถ้าคุณมีของที่อยากได้ ก็อย่าไปกดดันให้คนอื่นซื้อให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันแพง พวกเขาอาจจะไม่มีเงินมากพอจะซื้อให้คุณหรืออาจจะซื้อของขวัญให้คุณไว้แล้ว เพราะฉะนั้นเวลาขอของขวัญก็ต้องนึกถึงความเป็นจริงด้วย
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,002 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา