ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การทำเสต็กนั้นไม่ได้จำเป็นที่จะต้องย่าง ใช้เวลาหมักถึง 6 ชั่วโมง หรือต้องมาใส่ผ้ากันเปื้อนลายหวานแหววอะไรนั่นหรอก แม้ว่าคุณจะไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำเสต็กมาก่อนเลย ก็สามารถมาเรียนรู้ผ่านวิกิฮาวในการอบสเต็กในเตาอบได้อย่างแน่นอน
ส่วนประกอบ
- เนื้อเสต็ก
- เกลือ
- พริกไทย
ขั้นตอน
-
อบเตาอบโดยตั้งไฟไว้ที่ 232 องศาเซลเซียส. คุณต้องใช้เตาอบที่ร้อนมากๆ ในการอบเสต็กชั้นเลิศออกมา [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เริ่มด้วยเสต็กเนื้อหนา. เสต็กที่หนาสักนิ้วหรือนิ้วครึ่งได้ผลดีกับวิธีนี้เชียวล่ะ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ก็เพราะว่าชิ้นเนื้อเสต็กนั้น ยิ่งหนาเท่าไรก็จะยิ่งทำให้ขอบผิวข้างหน้าเป็นสีสวยก่อนที่เนื้อข้างในจะแห้งได้เท่านั้น ส่วนชิ้นเนื้อเสต็กที่ยิ่งบางก็จะยิ่งแห้งง่ายและนำมาทำอาหารค่อนข้างยาก
- การซื้อเสต็กชิ้นใหญ่ๆ 2 ชิ้นมากินย่อมง่ายกว่าซื้อเสต็กชิ้นเล็กๆ 4 ชิ้นมากินเสียอีก ถ้าเนื้อเสต็กของคุณทำมาจากสัตว์ใหญ่ ไม่ต้องกลัวที่จะหั่นเนื้อเสต็ก (หลังจากที่ปรุงสุกแล้วนะ) ก่อนที่จะเสิร์ฟเลย เมื่อพวกเขาได้ลิ้มลองรสชาติแล้ว แขกของคุณจะไม่สนใจเลยว่าเนื้อสองชิ้นนี้เคยเป็นชิ้นเดียวมาก่อน เพราะรสชาตินั่นแหละสำคัญที่สุด!
-
เช็ดน้ำที่อยู่รอบเสต็กออก. น้ำส่วนเกินที่อยู่บนผิวเสต็กจะทำให้เกิดไอน้ำ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เสต็กอบไอน้ำนี่ฟังยังไงก็ดูไม่น่ากินใช่ไหมล่ะ? ใช้ผ้าหรือกระดาษซับให้น้ำหายไปก่อนที่จะนำมันไปเจอกับไฟ
-
ทาเกลือลงบนเนื้อเสต็ก. มีข้อคิดเห็นมากมายเกี่ยวกับการที่จะใส่เกลือลงไปเมื่อไรและอย่างไร [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง และความแตกต่างระหว่างการเก็บรักษา ความแห้ง กระบวนการทางโภชนาการต่างๆ ก็จะขึ้นอยู่กับการใส่เกลือลงในเสต็กนี่แหละ
- ถ้าคุณไม่มีเวลามากนัก ให้โรยเกลือลงไปบนเนื้อเสต็ก ทันที ก่อนที่จะใส่ลงไปในกระทะร้อนฉ่า ทำไมล่ะ? เพราะการใส่เกลือลงไปจะทำให้ความชุ่มชื้นภายในเนื้อเสต็กออกมาข้างนอก อย่างที่บอกไปตอนแรก น้ำที่ออกมานอกเนื้อเสต็กนั้นดูไม่ค่อยดีเท่าไรอยู่แล้ว [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณมีเวลามากกว่า 45 นาทีในการเตรียมตัว ให้หมักเกลือสัก 3 ใน 4 ของชั่วโมงเป็นอย่างนานที่สุด เกลือจะไปดึงน้ำออกมาบนผิวหน้าของเสต็ก แต่หลังจากผ่านไป 30-40 นาที เนื้อเสต็กจะดูดซึมน้ำเค็มๆ กลับเข้าไป อย่างที่เรียกกระบวนการนี้ว่าการออสโมซิส แล้วจะทำให้เนื้อเสต็กมีรสชาติที่แสนอร่อย และยังดูนุ่มขึ้นอีก [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใส่น้ำมันลงไปในกระทะเหล็กหล่อ หรือกระทะที่สามารถใส่ในเตาอบได้ ด้วยน้ำมันที่มีรสเป็นกลาง และจุดไฟให้ร้อน. ใช้แล้ว เนื้อเสต็กของคุณต้องรับความร้อนเข้าไปก่อน แต่การปรุงนี้จะเสร็จสิ้นก็ต่อเมื่อนำออกจากเตาอบแล้วเท่านั้น วิธีนี้เชฟใช้กันหลากหลายทั่วโลก ฉะนั้นให้ทำตามนี้ซะ! [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ใช้น้ำมันที่รสเป็นกลาง เช่น น้ำมันถั่วสน น้ำมันดอกคาโนลา แทนที่จะใช้น้ำมันกลิ่นฉุนอย่างน้ำมันมะกอก เพราะรสจะได้ไม่ไปสู้กับรสของเสต็กนั่นเอง [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จะรู้ได้ว่ากระทะพร้อมที่จะใส่เนื้อเสต็กลงไปก็ต่อเมื่อเริ่มมีควันขึ้นจากน้ำมัน
โฆษณา
-
สะเด็ดน้ำออกจากเนื้อเสต็กเป็นครั้งสุดท้ายแล้ววางลงบนกระทะเหล็กหล่อ. [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เพื่อกันไม่ให้น้ำมันกระเด็นใส่ ให้เอียงกระทะเบาๆ ด้วยการขยับกระทะขึ้น แล้วน้ำมันจะไปไหลรวมกันตรงขอบด้านในของกระทะ วางเนื้อเสต็กตรงกลางก่อนจะวางกระทะกลับลงเหมือนเดิม
- ใช้ที่คีบกลับเนื้อเสต็กให้มีสีเท่ากันทั้งสองด้าน (เพื่อขอบนอกที่ดูดี) แต่ ห้าม ใช้ที่คีบกดเนื้อเสต็กลงกระทะเพื่อเร่งความสุกเด็ดขาด เนื้อเสต็กจะสุกดีของมันเอง ให้เวลามันหน่อย การที่ไปกดมันจะทำให้ความชุ่มชื้นในเสต็กเหือดหายไปหมด
-
ทอดด้วยไฟแรงต่อประมาณ 2-3 นาที. ทอดจนกว่าจะได้สีที่สวยงาม (หมายถึงรสชาติที่ดี) ในด้านแรก
-
กลับด้านเนื้อเสต็กแล้วทอดต่ออีกประมาณ 1-2 นาที. ไม่ต้องใช้เวลามากสำหรับเนื้ออีกด้านหนึ่ง เพราะมันจะไปเปลี่ยนสีต่อในเตาอบเอง [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใส่เนยลงไปเล็กน้อยในกระทะก่อนที่จะย้ายเสต็กไปในเตาอบ. ขั้นตอนนี้เป็นเพียงแค่ขั้นตอนเสริม แต่ถ้าได้ตักเนยสัก 1-2 ช้อนชาใส่ลงไปจะช่วยให้เสต็กชุ่มฉ่ำ รสชาติดี และยังมี น้ำเสต็ก ไหลออกมาข้างๆ เสต็กตอนที่เสิร์ฟอีกด้วย
-
ยังคงปล่อยเนื้อเสต็กไว้ในกระทะเดิม ย้ายกระทะเข้าไปในเตาอบและใช้เวลาอบประมาณ 6-8 นาที. แน่นอนว่าเวลาในการอบขึ้นอยู่กับความหนาของชิ้นเนื้อเสต็ก (เสต็กยิ่งหนายิ่งต้องใช้เวลาในการอบนาน) และระดับความสุกที่ต้องการ (หลังจากผ่านไป 6 นาที เสต็กอาจยังอยู่ในระดับมีเดียมแรร์ หลัง 8 นาทีจะเริ่มเป็นระดับมีเดียม) [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิอาหารวัดทันทีหลังจากนำเสต็กออกจากเตาอบแล้ว. เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิอาหารนี่เปรียบได้กับเพื่อนคนหนึ่งของคุณเลยล่ะ มันทั้งถูก ถนัดมือ และวัดผลได้เที่ยงตรง เมื่อมีเทอร์โมมิเตอร์นี้อยู่ในมือ จะไม่มีคำว่ายังไม่สุกหรือสุกเกินไปอีกเลย! แค่เสียบตัวเทอร์โมมิเตอร์ลงไปตรงกลางของเสต็ก และ โอ้! นี่คือตารางที่จะบ่งบอกว่าอุณหภูมิเท่าไรอยู่ที่ระดับความสุกเท่าไร
- 48.8° C = แรร์ (ดิบ)
- 54.4° C = มีเดียม แรร์
- 60° C = มีเดียม
- 65.5° C = มีเดียม เวล
- 71.1° C = เวล ดัน (สุก)
-
ปล่อยพักเสต็กประมาณ 7-10 นาทีหลังจากนำออกจากเตาอบแล้ว. [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แล้วผิวนอกของเนื้อจะเกิดการหดตัว ซึ่งจะเป็นการส่งน้ำในเสต็กไปตรงกึ่งกลางของเสต็กซึ่งเป็นจุดที่เอาไว้สะสมน้ำ ถ้าคุณหั่นเสต็กออกทันทีหลังจากนำออกจากเตาอบ น้ำจะไหลออกมาหมดทันที แต่ถ้าหากปล่อยให้เสต็กได้"พัก"ประมาณ 8-9 นาทีหลังจากที่สุกแล้ว ผิวนอกของเนื้อจะคลายและปล่อยให้น้ำกลับไปอยู่บริเวณ ทั่วๆ ชิ้นเนื้อเลยล่ะ ซึ่งจะทำให้เนื้อเสต็กชุ่มฉ่ำมากขึ้นนั่นเอง
- พักสเต็กของคุณด้วยการใช้อลูมิเนียมฟอยล์ห่อเอาไว้เพื่อรักษาความร้อนระหว่างที่เนื้อเสต็กกำลังนุ่มขึ้นอยู่ ในเวลานี้เสต็กจะสุกต่อขึ้นอีกนิดหนึ่งด้วยตัวของมันเอง [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
รับประทานเสต็กอันแสนเอร็ดอร่อย. เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงเสต็กที่กินกันทั่วไป เช่น มันฝรั่งอบ หน่อไม้ฝรั่ง และสลัดธรรมดาๆ วางข้างๆ จานโฆษณา
เคล็ดลับ
- คุณอาจต้องการที่จะทดสอบอุณหภูมิที่เหมาะกับการอบเสต็กด้วยเตาอบ ของคุณ ก่อน ฉะนั้นให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์ (และดุลพินิจ ) ระหว่างทำอาหารด้วยล่ะ
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.delish.com/cooking/a21566115/how-to-cook-steak-in-the-oven/
- ↑ https://www.gimmesomeoven.com/cook-steak-oven/
- ↑ https://www.seriouseats.com/2017/03/how-to-reverse-sear-best-way-to-cook-steak.html
- ↑ https://www.seriouseats.com/2011/03/the-food-lab-more-tips-for-perfect-steaks.html
- ↑ https://www.seriouseats.com/2011/03/the-food-lab-more-tips-for-perfect-steaks.html
- ↑ http://www.seriouseats.com/2011/03/the-food-lab-more-tips-for-perfect-steaks.html
- ↑ https://www.seriouseats.com/2017/03/how-to-reverse-sear-best-way-to-cook-steak.html
- ↑ https://www.thedailybeast.com/a-top-chefs-secret-to-cooking-the-perfect-steak
- ↑ https://www.seriouseats.com/2017/03/how-to-reverse-sear-best-way-to-cook-steak.html
- ↑ https://www.fifteenspatulas.com/how-to-properly-sear-a-steak/
- ↑ https://www.fifteenspatulas.com/how-to-properly-sear-a-steak/
- ↑ https://www.seriouseats.com/2009/12/how-to-have-juicy-meats-steaks-the-food-lab-the-importance-of-resting-grilling.html
- ↑ https://www.seriouseats.com/2013/07/ask-the-food-lab-does-resting-under-foil-ruin-meat.html
โฆษณา