ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการสร้างและแก้ไขไฟล์ text ด้วยแอพ Terminal ใน Linux หลังจากนั้นก็เอาไปใช้กับโปรแกรม text editor อื่นๆ ของ Linux ได้เลย
ขั้นตอน
-
เปิด Terminal. โดยคลิก Menu พอเจอแอพ Terminal ที่เป็นกล่องสีดำ มี ">_" สีขาวอยู่ข้างใน ก็คลิกเลย ปกติ Terminal จะอยู่ในแถบซ้ายมือของหน้าต่าง Menu
- หรือคลิกแถบค้นหาที่ด้านบนของหน้าต่าง Menu แล้วพิมพ์ terminal ก็ได้
- Linux Distros ส่วนใหญ่จะเปิด Terminal ได้เช่นกันเมื่อกด Ctrl + Alt + T
-
พิมพ์ ls ใน Terminal แล้วกด ↵ Enter . Terminal จะเปิด home directory ขึ้นมา แต่คำสั่ง ls จะแสดงทุกโฟลเดอร์ใน directory ปัจจุบัน ถ้าจะสร้างไฟล์ text ใน directory พวกนี้ ก็ต้องเปลี่ยน directory ปัจจุบันก่อน
-
หา directory ที่จะสร้างไฟล์ text ไว้. ชื่อ directory ไหนที่อยู่ใต้คำสั่ง ls (เช่น "Desktop") คือตำแหน่งปลายทางของคุณ
- คุณสามารถสร้างและปรับแต่งไฟล์นอก directory นี้ได้ แต่โปรดตระหนักว่านี่อาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงได้ หากคุณมั่นใจที่จะทำ ให้ใช้คำสั่ง ls / เพื่อดูและค้นหาไปตามราก directory และเติมหน้าคำสั่งด้วย sudo เมื่อเปิดโปรแกรมแก้ไขข้อความ เดี๋ยวจะมีเพิ่มเติมอีกในภายหลัง
-
พิมพ์ cd directory . ให้แทนที่ "directory" ด้วยชื่อ directory ที่ต้องการ คำสั่งนี้จะเปลี่ยนจุดหมายของ Terminal จาก directory ปัจจุบันเป็น directory ใหม่ที่คุณตั้งชื่อ
- เช่น ให้พิมพ์ cd Desktop เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งคำสั่งของ Terminal ไปที่หน้า Desktop
- ถ้าจะสร้างไฟล์ text ในโฟลเดอร์เฉพาะของ directory ที่เลือก ให้พิมพ์ "/" ต่อท้าย directory แล้วพิมพ์ชื่อโฟลเดอร์ลงไป เช่น ถ้าโฟลเดอร์ชื่อ "Misc" อยู่ใน Documents ให้พิมพ์ cd Documents/Misc
-
กด ↵ Enter . เพื่อใช้คำสั่ง เปลี่ยน directory ปลายทางของ Terminal จาก home directory เป็น directory ที่คุณกำหนด
-
เลือกโปรแกรม text editor ที่ต้องการ. คุณสร้างไฟล์ text ง่ายๆ แบบทันใจได้ (เลื่อนไปอ่านส่วนถัดไป) หรือใช้ Vim หรือ Emacs สร้างและแก้ไขไฟล์ขั้นสูงแทน (อ่านส่วนที่ 3 และ 4) ตอนนี้พออยู่ใน directory ที่จะสร้างไฟล์ text แล้ว ก็ถึงเวลาสร้างไฟล์จริงๆ สักทีโฆษณา
-
พิมพ์
cat > filename.txt
ใน Terminal . ให้คุณแทนที่ "filename" ด้วยชื่อไฟล์ text ที่ต้องการ (เช่น "sample")- เช่น ถ้าจะสร้างไฟล์ชื่อ "kitty" ก็ให้พิมพ์ cat > kitty.txt
-
กด ↵ Enter . เพื่อสร้างไฟล์ text ใหม่ตามชื่อที่ต้องการ ใน directory ปัจจุบัน โดยเคอร์เซอร์จะไปโผล่ที่บรรทัดว่างของ Terminal
-
พิมพ์เนื้อหา. พิมพ์ไปตามปกติเหมือนที่พิมพ์เอกสารทั่วไปได้เลย ถ้าจะเซฟบรรทัดเดิมแล้วขึ้นบรรทัดใหม่ ก็ให้กด ↵ Enter
- ถ้าเปิด directory ของไฟล์ text นั้นอยู่ ให้ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ text เพื่อทำขั้นตอนนี้ได้เลย
-
กด Ctrl + Z . เพื่อเซฟไฟล์ แล้วกลับไปที่บรรทัดสำหรับพิมพ์คำสั่งใน Terminal เพื่อพิมพ์คำสั่งต่อ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พิมพ์
ls -l filename.txt
ใน Terminal . ให้คุณแทนที่ "filename" ด้วยชื่อไฟล์ text คำสั่งนี้จะระบุตำแหน่งไฟล์ ให้แน่ใจว่าไฟล์จะเซฟลง directory ที่ต้องการ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง- เช่น ถ้าจะเปิดไฟล์ชื่อ "textfile" ให้พิมพ์ ls -l textfile.txt
- ที่เห็นในคำสั่งนี้จะเป็นตัว "L" เล็ก ไม่ใช่ "i"
-
กด ↵ Enter . เพื่อแสดงเวลา วันที่ และชื่อไฟล์ในบรรทัดถัดมา ใช้ดูว่าไฟล์ถูกสร้างและเซฟลง directory ที่คุณเลือกเมื่อไหร่โฆษณา
-
พิมพ์
vi filename.txt
ใน Terminal . ส่วนที่เป็น "vi" ของคำสั่งนี้ จะเลือก Vim เป็นโปรแกรม text editor ที่ใช้ ให้แทนที่ "filename" ด้วยชื่อไฟล์ใหม่ที่ต้องการ- เช่น ถ้าไฟล์ชื่อ "tamins" ให้พิมพ์ vi tamins.txt
- ถ้าใน directory ปัจจุบันมีไฟล์ชื่อเดียวกันอยู่แล้ว คำสั่งนี้จะเปิดไฟล์นั้นแทน
-
กด ↵ Enter . เพื่อสร้างไฟล์ใหม่ แล้วเปิดไฟล์ที่ว่าใน Vim คุณจะเห็นหน้าต่าง Terminal ว่างๆ มี tilde (~) ทุกบรรทัด รวมถึงชื่อไฟล์ที่ล่างหน้าต่าง
-
กดปุ่ม i . เพื่อเปลี่ยนเอกสารเป็นโหมด "Insert" ให้พิมพ์เนื้อหาได้ตามต้องการ
- คุณจะเห็น -- INSERT -- โผล่ขึ้นมาที่ล่างหน้าต่างตอนกดปุ่ม I
-
พิมพ์เนื้อหา. พิมพ์ไปตามปกติเหมือนที่พิมพ์เอกสารทั่วไปได้เลย ถ้าจะเซฟบรรทัดเดิมแล้วขึ้นบรรทัดใหม่ ก็ให้กด ↵ Enter
-
5กดปุ่ม Esc . ปกติจะอยู่ที่มุมซ้ายบนของคีย์บอร์ด ปุ่มนี้จะหยุดโหมดเพิ่มเนื้อหา
-
กดปุ่ม : (colon). เพื่อเปลี่ยน Vim เป็นโหมด "Command"
- คุณจะเห็นเคอร์เซอร์โผล่มาที่ล่างหน้าต่าง
-
พิมพ์
:w
ใน Terminal แล้วกด ↵ Enter . เพื่อเซฟเนื้อหาไฟล์ปัจจุบัน -
พิมพ์
:q
ใน Terminal แล้วกด ↵ Enter . เพื่อออกจาก Vim แล้วกลับไปที่หน้าหลักของ Terminal เท่านี้ไฟล์ text ของคุณก็จะอยู่ใน directory ที่ต้องการ- คุณเช็คไฟล์ text ได้โดยพิมพ์ ls ใน Terminal แล้วกด ↵ Enter จากนั้นก็มองหาชื่อไฟล์ที่ต้องการ
- หรือพิมพ์ :wq เพื่อเซฟแล้วปิดไฟล์ในคำสั่งเดียว
-
เปิดไฟล์ขึ้นมาใหม่จากหน้าต่าง Terminal. ก็เหมือนตอนสร้างไฟล์ ให้พิมพ์ vi filename.txt เพื่อเปิดไฟล์ คราวนี้พอเปิดไฟล์ขึ้นมาใหม่ จะเห็นเนื้อหาที่คุณแก้ไขและเซฟไปแล้วโฆษณา
-
พิมพ์
emacs filename.txt
ใน Terminal . ให้แทนที่ "filename" ด้วยชื่อไฟล์ใหม่ที่ต้องการ -
กด ↵ Enter . ถ้าไม่มีไฟล์ text ชื่อเดียวกันใน directory ปัจจุบันอยู่แล้ว คำสั่งนี้จะเปิดไฟล์ text ใหม่ขึ้นมาในโปรแกรม Emacs
- เช่น ไฟล์ชื่อ "newfile" ให้พิมพ์ emacs newfile.txt
- ถ้าใน directory ปัจจุบันมีไฟล์ชื่อเดียวกันอยู่แล้ว คำสั่งนี้จะเปิดไฟล์นั้นแทน
-
คำสั่งที่ควรรู้ของ Emacs. Emacs มาพร้อมสารพัดคำสั่งที่มีประโยชน์ทั้งนั้น ใช้ทำอะไรในเอกสารได้ต่างๆ นานา ให้ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ลองปรับแต่ง และเรียนรู้โค้ดต่างๆ ไว้ คำสั่งที่ว่ามี 2 ประเภทด้วยกัน คือ Control commands กับ Meta commands
- Control commands จะเขียนว่า C-<letter> ใช้เปิด Control command โดยกด Ctrl ค้างไว้ แล้วกดปุ่มตัวอักษรที่ต้องการในเวลาเดียวกัน (เช่น Ctrl กับ A )
- Meta (หรือ Escape ) commands จะเขียนว่า M-<letter> หรือ ESC <letter> โดย "M" คือปุ่ม Alt หรือ Esc ของคอม เพราะบางเครื่องก็ไม่มีปุ่ม Alt
- คำสั่งที่เขียนว่า C-a b (หรือ M-a b ) คุณต้องกด Ctrl (หรือ Alt หรือ Esc ) ค้างไว้ แล้วกดปุ่มแรก (เช่น a จากนั้นปล่อยทั้ง 2 ปุ่ม แล้วกดปุ่มที่ 2 ตามทันที (เช่น b )
-
พิมพ์เนื้อหา. พิมพ์ไปตามปกติเหมือนที่พิมพ์เอกสารทั่วไปได้เลย ถ้าจะเซฟบรรทัดเดิมแล้วขึ้นบรรทัดใหม่ ก็ให้กด ↵ Enter
-
กด Ctrl + X แล้วกด S . เพื่อเซฟไฟล์
-
กด Ctrl + X แล้วกด Ctrl + C . เพื่อออกจาก Emacs แล้วกลับไป directory ของคุณใน Terminal เท่านี้ไฟล์ text ของคุณก็จะถูกเซฟลงใน directory นี้ตามชื่อที่คุณกำหนด
-
เปิดไฟล์ text ขึ้นมาใหม่. โดยพิมพ์ emacs filename.txt ใน Terminal ถ้าอยู่ใน directory ที่มีไฟล์แล้ว ไฟล์ text ก็จะเปิดขึ้นมาใน Emacs คุณก็กลับไปเนื้อหาที่แก้ไขค้างไว้ได้เลยโฆษณา
เคล็ดลับ
- ปกติคุณใช้ Vim ได้ใน Linux ทุกเวอร์ชั่น ส่วน Emacs นั้นใช้ง่ายกว่า เหมาะกับมือใหม่
- คุณเรียกหน้าจอ "Help" ของ Emacs ได้โดยกด Ctrl + H แล้วปล่อยทั้ง 2 ปุ่ม จากนั้นกด T เมนู Help จะแสดงคีย์ลัดเพิ่มเติม รวมถึงฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่มีประโยชน์ของ Emacs
โฆษณา
คำเตือน
- ถ้าลืมเซฟไฟล์ก่อนปิด ระวังจะไม่มีขึ้นเตือน โดยเฉพาะใน Vim ให้หมั่นเซฟไฟล์ก่อนปิดเสมอ
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา