ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ความมั่นใจในตัวเองของคุณค่อย ๆ ฝ่อลงหรือเปล่า ไม่แน่ว่าคุณอาจจะแค่เหนื่อยและท้อกับการรอให้มีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้น เลิกรอได้แล้ว มาฝึกฝนเพื่อสร้างทัศนคติที่ทำให้คุณกล้าหาญและมั่นใจ สร้างโอกาสให้กับตัวเอง และเรียนรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการกันดีกว่า

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ทำตัวกล้าหาญ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มีอะไรที่คุณอยากจะทำหรือพยายามจะทำแต่ก็ไม่กล้าสักทีหรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นการชวนคนรู้จักออกไปหาอะไรดื่ม ขอโทษคนที่คุณรักหลังจากเข้าใจผิดกันมานาน หรือแค่เป็นมิตรกับเพื่อนร่วมงาน เลิกคิดว่าจะทำแล้วลงมือทำจริง ๆ สักที [1]
    • ความกล้าหาญตรงข้ามกับความลังเล เมื่อไหร่ก็ตามที่ลังเลที่ปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นหรือตัดสินใจเรื่องของตัวเอง เรียนรู้ที่จะซ่อนอัตตาเอาไว้ข้างในแล้วลงมือทำเลย
  2. คนที่กล้าหาญไม่กลัวการลองสิ่งใหม่ ๆ และเหตุผลที่เราอยู่ใกล้คนพวกนี้ทีไรเป็นต้องตื่นเต้นทุกทีก็เพราะว่าคุณไม่เคยเดาทางพวกเขาออกเลย ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ที่คุณไม่คาดคิดว่าจะทำ เช่น เรียนเต้นซัลซ่าหรือสกีน้ำ [2] แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร ขอให้เป็นสิ่งที่คุณทำเพื่อตัวเองจริง ๆ ไม่ใช่เพื่อคนอื่น
    • การทำสิ่งใหม่ ๆ และสิ่งที่ไม่คาดคิดอาจทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นคงหรือกลัว อย่ายอมแพ้ให้กับความรู้สึกเหล่านี้เด็ดขาด แต่ให้เปิดใจยอมรับทักษะใหม่ ๆ และอย่ากลัวตัวเอง [3]
  3. สุดท้ายแล้ว ความกล้าหาญก็คือการเข้าใจจุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเองแล้วก้าวผ่านสิ่งเหล่านั้นไปให้ได้ อย่าพยายามปกปิดปัญหาหรือความล้มเหลว แต่ให้ยอมรับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ การยอมรับจะทำให้คุณเดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจและเห็นคุณค่าในตัวตนที่ไม่เหมือนใครของคุณ [4]
    • แต่การค้นหาตัวตนไม่ใช่การทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าที่ไม่ใช่จริตของตัวเอง อย่าเปลี่ยนตัวเองเพราะแค่อยากทำให้คนอื่นประหลาดใจ ซื่อสัตย์กับตัวเองให้มาก
  4. ถ้าคุณสลับร่างกับคนที่คุณชื่นชมในความกล้าหาญและความกล้าแสดงออกของเขา คุณคิดว่าเขาจะแสดงออกอย่างไรในร่างของคุณ ถ้าคุณรู้จักใครที่กล้าหาญอยู่แล้ว ลองจินตนาการดูว่าถ้าเป็นเขาเขาจะทำอย่างไร
    • แรงบันดาลใจที่ทำให้คุณกล้าหาญไม่จำเป็นต้องมีตัวตนจริง ๆ อาจจะเป็นตัวละครในภาพยนตร์หรือหนังสือที่กล้าได้กล้าเสียและกล้าหาญ แล้วลองจินตนาการความกล้าหาญของเขาในชีวิตจริงของคุณ
  5. ถ้ามีคนขอให้คุณทำในสิ่งที่คุณไม่อยากทำ ปฏิเสธไปเลย การพูดว่า "ไม่" จะเพิ่มพลังความเป็นตัวของตัวเองให้กับคุณและช่วยให้คุณรู้สึกกล้าหาญ มั่นใจว่าคุณพร้อมและเต็มใจที่จะเดินหน้าเพื่อให้ได้ในสิ่งที่คุณต้องการ อย่ารู้สึกว่าตัวเองจะต้องแก้ตัวหรือหาคำอธิบาย คนอื่นต้องเรียนรู้ที่จะเคารพความซื่อสัตย์และความกล้าหาญของคุณ และคุณก็จะได้ในสิ่งที่คุณต้องการ [5]
    • แต่ถ้าสิ่งนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของคุณ คุณก็ควรจัดการให้สำเร็จลุล่วง แล้วคุณจะรู้สึกเคารพตัวเองมากขึ้นเหมือนที่คนอื่นก็เคารพคุณมากขึ้นเช่นกัน [6]
  6. แค่พูดว่าจะทำอย่างโน้นอย่างนี้มันไม่พอหรอก ต้องลงมือทำจริง ๆ ด้วย ไม่อย่างนั้นคนเขาจะพูดเอาได้ว่าคุณเป็นพวกปากว่าแต่ไม่ลงมือทำ แต่ถ้าคุณพูดว่าจะทำอะไรดี ๆ แล้วทำออกมาได้จริงด้วย เมื่อนั้นแหละคนจะเชื่อใจคุณและชื่นชมคุณว่าเป็นคนกล้าหาญ พึ่งพาได้ และลึกซึ้ง [7]
    • ถ้าคุณรับปากว่าจะทำในสิ่งที่คุณไม่อยากทำ ก็ควรจะทำให้เสร็จไปเพราะอย่างไรก็รับปากเขาไว้แล้ว แต่จำไว้ว่ามีครั้งหน้าเมื่อไหร่ให้ปฏิเสธอย่างหนักแน่น
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ได้ในสิ่งที่ต้องการ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แทนที่จะรอให้มีใครมาเห็นค่าความพยายามหรือหวังว่าจะมีใครเข้าใจความต้องการของคุณบ้าง เดินหน้าแล้วพูดเลย การบอกว่าคุณต้องการอะไรไม่ได้หมายความว่าคุณจะไปสั่งคนอื่นหรือก้าวร้าว แต่ให้พูดอย่างมั่นใจและเลือกคำพูดให้ดี [8]
    • อย่าสับสนระหว่างความกล้าหาญกับความก้าวร้าว ความก้าวร้าวมักรวมถึงการยัดเยียดความเห็นหรือการกระทำของตัวเองให้กับผู้อื่น ในขณะที่ความกล้าหาญไม่ได้เกี่ยวกับคนรอบข้าง แต่เป็นการเอาชนะความกลัวและลงมือทำ
  2. ประโยคเด็ดอย่าง "คุณช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม" เป็นวิธีที่จะแบ่งความรับผิดชอบของคุณไปให้อีกคนหนึ่งที่ง่ายและทรงพลังมาก แม้ว่าคำตอบแรกจะเป็น "ไม่" ก็เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายนานที่สุดเผื่อเขาจะเปลี่ยนใจ
    • วางแผนข้อเสนอให้อีกฝ่ายก่อนเริ่มต่อรอง เช่น ถ้าคุณคิดว่าหัวหน้าต้องไม่ให้คุณลางานแน่เพราะไม่มีใครทำงานแทนคุณ ให้บอกว่าคุณจะทำควบสองกะตอนกลับมาหรือจะทำงานให้เสร็จในช่วงเวลาว่างแม้ว่าคุณจะไม่ได้เข้าออฟฟิศก็ตาม
  3. อีกวิธีที่จะทำให้คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการก็คือลดแนวทางแก้ไขปัญหาลง แล้วคุณจะมั่นใจได้ว่าคุณจะได้ในสิ่งที่ต้องการแน่
    • แม้ว่าปัญหานั้นจะมีทางออกที่เป็นไปได้มากมาย ก็ให้ลดแนวทางการแก้ปัญหาลงเฉพาะที่ส่งผลดีกับคุณ วิธีนี้จะช่วยลดความยุ่งยากในการแก้ปัญหาและรับรองว่าผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาในแบบที่คุณต้องการ
  4. คนที่ประมาทกับคนที่กล้าเสี่ยงนั้นต่างกัน คนที่ประมาทไม่ได้กล้าเสี่ยงเพราะพวกเขาไม่ได้นึกถึงความเสี่ยงตั้งแต่แรก ในมุมกลับกันคนที่กล้าหาญนั้นรู้ว่าเขาต้องเสี่ยงกับอะไรแต่ก็ยังตัดสินใจทำอยู่ดี พร้อมและเต็มใจที่จะรับผลที่ตามมาถ้าทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ [9]
    • การไม่ทำอะไรเลยหรือความลังเลนั่นแหละคือความเสี่ยง เพราะคุณกำลังเสี่ยงที่จะพลาดโอกาสดี ๆ นี่ต่างหากคือความเสี่ยงที่คุณควรหลีกเลี่ยง เป้าหมายของคุณคือการสร้างโอกาสที่ดีที่สุดเพื่อรอรับความสำเร็จ ไม่ใช่ค่อย ๆ ปล่อยให้โอกาสเหลือน้อยลงทุกที ๆ ถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะทำ ก็อย่ากลัว
  5. การมะงุมมะงาหราอยู่ในสถานการณ์ที่คุณจับต้นชนปลายไม่ถูกและไม่ฟังคำแนะนำนั้นไม่ถือเป็นความกล้าหาญ ถ้าคุณไม่เข้าใจว่าคุณต้องทำอะไรกับงานที่ได้รับมอบหมายหรือหัวข้อไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานหรือที่โรงเรียน ถามออกไปเลย เพราะความกล้าหาญคือการยืดอกยอมรับว่าคุณสับสนและกล้าถามเพื่อหาคำอธิบาย
    • อย่ากลัวที่จะกล้าขอความช่วยเหลือ ถ้าไปหาคนนั้นแล้วเขาไม่ช่วย ก็ไปหาคนใหม่ การไม่ยอมแพ้ที่จะหาคำตอบนี่แหละคือสิ่งที่แสดงถึงความกล้าหาญของคุณ [10]
  6. แม้ว่าความกล้าหาญคือพลังในการทำสิ่งใหม่ ๆ หรือพยายามได้ในสิ่งที่ต้องการ มันก็มีโอกาสที่คุณจะพลาด ยอมรับความล้มเหลวของตัวเองเพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ตรงข้ามกับความสำเร็จ แต่เป็นองค์ประกอบที่จำเป็น ถ้าไม่มีโอกาสเสี่ยงที่จะพลาด คุณก็ไม่มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน [11]
    • อย่ากังวลกับการถูกปฏิเสธ คุณต้องเอาใจออกห่างจากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น อย่าปล่อยให้การถูกปฏิเสธมาทำลายความมั่นใจและความกล้าหาญของคุณได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าปล่อยให้คนอื่นมาลดทอนกำลังใจเวลาที่คุณเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ คนพวกนั้นเป็นพวกที่หวังว่าตัวเองจะกล้าหาญได้บ้างแต่ก็ไม่เคยที่กล้าพอที่จะทำในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่
  • ความกล้าหาญไม่แปลว่าไม่กลัว ให้คนอื่นรู้ว่าคุณกลัวแต่ก็ยังเลือกที่จะเดินหน้าต่อ เดินต่อไปแล้วอย่าหันกลับมามอง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 31,714 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา