ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
หน้าที่ของผู้แทนยาคือการให้ความรู้แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เกี่ยวกับความก้าวหน้าใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมยาพร้อมทั้งนำเสนอการรักษาและยาที่ทันสมัย คุณกำลังมองหาอาชีพที่จะได้แสดงทักษะการขายในสภาพแวดล้อมที่เป็นมืออาชีพหรือเปล่า คุณสนใจวิทยาศาสตร์และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีล่าสุดหรือไม่ ถ้าใช่คุณก็เหมาะกับตำแหน่งผู้แทนยาที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนทูตแห่งอุตสาหกรรมยาที่ถ่ายทอดความรู้และตัวยาสำคัญไปสู่สถานพยาบาลและผู้บริโภคที่ต้องใช้ยานี้
ขั้นตอน
-
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี. การศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองคือคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้แทนยา และคุณยังสามารถเพิ่มโอกาสได้ด้วยการศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่เกี่ยวข้องอย่างชีววิทยาศาสตร์
- การสำเร็จการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์นอกจากจะให้เครื่องมือล้ำค่าที่ช่วยให้คุณเข้าใจการค้นพบใหม่ๆ แล้ว ยังช่วยให้คุณคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์รู้เรื่องด้วย
- รายวิชาสาขาธุรกิจก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่าแก่การลงทุนเพื่อให้ได้ทักษะการขายกลับมา
- โดยทั่วไปบริษัทยาส่วนใหญ่จะรับพนักงานที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาใดก็ได้ เพราะมันแสดงถึงความสามารถในการรับข้อมูลใหม่ๆ และความสามารถในการศึกษาในสาขาที่เรียนมาให้จบได้
-
สอบใบรับรอง. ในอเมริกาจะมีการออกใบรับรองตามความสมัครใจในฐานะผู้แทนยาแห่งชาติ (CNPR) [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ที่ออกโดยสมาคมผู้แทนยาแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันใบรับรองในลักษณะนี้ยังไม่มีในประเทศไทย แต่ถ้าหากคุณกำลังมองหางานผู้แทนยาในต่างประเทศ ก็ควรมีใบรับรองนี้ไว้ เพราะใบรับรองนี้ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาที่คุณต้องรู้หากจะไปทำงานขายให้กับบริษัทยา และทำให้คุณรู้กฎระเบียบและข้อกำหนดต่างๆ ในการขายผลิตภัณฑ์ด้วย นอกจากนี้คุณยังจะได้เรียนรู้ทักษะที่จะช่วยให้คุณได้ลับคมเทคนิคการขายของคุณด้วย
- แม้ว่าในประเทศไทยจะไม่ได้มีข้อกำหนดเรื่องใบรับรอง CNPR® แต่ใบรับรองนี้ก็จะช่วยเปิดโอกาสให้คุณได้ทำงานเป็นผู้แทนยาในต่างประเทศ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง โดยเฉพาะในประเทศที่กำหนดว่าผู้แทนยาจะต้องมีใบรับรองนี้
-
ติดต่อเครือข่ายของมหาวิทยาลัย. ขณะที่คุณกำลังเรียนอยู่ คุณก็เริ่มสร้างเครือข่ายและเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ได้ด้วยการใช้ประโยชน์จากแหล่งทรัพยากรต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยจัดให้
- ไปงานแนะแนวจัดหางาน บริษัทยาใหญ่ๆ บางทีจะมารับสมัครคนจากมหาวิทยาลัยโดยตรง แต่งตัวให้เป็นทางการและเตรียมตัวสัมภาษณ์ที่งานเลย พยายามลงทะเบียนให้เร็วที่สุด เพราะงานแนะแนวจัดหางานบางงานคนเต็มเร็วมาก
- ใช้ศูนย์จัดหางานของมหาวิทยาลัยให้เป็นประโยชน์ ทรัพยากรที่ทรงคุณค่านี้จะทำให้คุณได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับตลาดงาน และทำให้คุณได้เจอที่ปรึกษาด้านการจัดหางานที่จะช่วยให้คำแนะนำในการทำเรซูเม่หรือโอกาสการทำงานต่างๆ
-
หาประสบการณ์ด้านการขาย. ในฐานะผู้แทนยา งานของคุณหมุนรอบการขาย เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องสามารถพูดคุยกับลูกค้าแบบตัวต่อตัวหรือต่อหน้าคนหมู่มากขณะนำเสนอข้อมูลเพื่อปิดการขายได้อย่างสบายใจและเป็นมืออาชีพ การมีประสบการณ์ด้านการขายมาก่อนจะช่วยให้เรซูเม่ของคุณดูดีขึ้นมาก
- นายจ้างจะมองหาผู้สมัครที่มีความสามารถในการโน้มน้าวใจและมีทักษะการสื่อสารเป็นเลิศ เพราะฉะนั้นยิ่งคุณฝึกฝนทักษะด้านการขายมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งพร้อมกับการสัมภาษณ์มากขึ้นเท่านั้น
-
หาเครือข่าย. ติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญที่มหาวิทยาลัยอยู่เสมอ บอกเป้าหมายด้านอาชีพการงานให้ทุกคนที่คุณรู้จักฟัง การเข้าสู่วงการจำหน่ายยาค่อนข้างท้าทายเพราะว่าบางบริษัทจะเปิดรับสมัครก็ต่อเมื่อใช้วิธีบอกต่อแล้วยังได้คนไม่ครบ
- พูดคุยกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์อื่นๆ และถามว่าใครเป็นตัวแทนยาของเขา และถ้ามีโอกาสก็ให้พูดคุยกับตัวแทนยาและผู้จัดการเขตโดยตรง เพราะหนังสืออ้างอิงที่ดีจากตัวแทนยานั้นดูน่าเชื่อถือกว่าเรซูเม่
- มองหาผู้สรรหาพนักงานที่ทำงานในสาขาที่เกี่ยวข้องกับยา
- มองหางานแนะแนวจัดหางานในสาขาที่เกี่ยวข้องกับยา เพราะเป็นที่ๆ คุณสามารถสร้างเครือข่ายในอุตสาหกรรมได้
-
ติดตามข่าวสารในอุตสาหกรรมยา. อ่านรายงานประจำปี ข่าวประชาสัมพันธ์ และรายงานตลาดหุ้น อ่านทุกอย่างที่จะหาอ่านได้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริษัทที่กำลังแข่งขันกัน แหล่งข่าวที่น่าติดตามก็เช่นโฆษณา
-
เขียนเรซูเม่ให้โดดเด่น. บริษัทยาได้รับเรซูเม่วันละหลายร้อยฉบับ เพราะฉะนั้นเรซูเม่ของคุณจึงต้องโดดเด่นกว่าของคนอื่น ในการสมัครแต่ละบริษัทคุณควรเขียนเรซูเม่สำหรับบริษัทนั้นๆ ไปเลย พูดอีกอย่างคือคุณจะต้องปรับเรซูเม่ของคุณทุกฉบับ
- เรซูเม่ของคุณควรประกอบด้วยรายงานความสำเร็จ จำไว้ว่านี่คืองานขาย สุดท้ายแล้วคุณก็ต้องขายตัวเองให้กับนายจ้างในอนาคต
- นักเขียนเรซูเม่มืออาชีพมีบริการที่ช่วยทำให้เรซูเม่ของคุณโดดเด่นยิ่งขึ้น ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองมีปัญหากับการเขียนเรซูเม่ คุณก็สามารถจ้างเขามาช่วยได้
-
ทำหนังสืออวดอ้างสรรพคุณ. หนังสืออวดอ้างสรรพคุณโดยพื้นฐานแล้วก็คือพอร์ตโฟลิโอสำหรับผู้แทนยา ทำสำเนาเอกสารทุกอย่างที่คุณอยากจะใส่ไว้ในหนังสืออวดอ้างสรรพคุณและสแกนเอกสารต้นฉบับไว้ในคอมพิวเตอร์ ใช้เอกสารตัวสแกนทำเป็นไฟล์หนังสืออวดอ้างสรรพคุณฉบับสมบูรณ์ขึ้นมา 1 ไฟล์ คุณไม่ต้องส่งหนังสืออวดอ้างสรรพคุณทุกครั้งที่สมัครงาน แต่พอผู้จัดการฝ่ายคัดสรรพนักงานติดต่อคุณมา ก็บอกเขาว่าคุณมีเอกสารฉบับสแกนอยู่ ปรินท์เอกสารออกมาแล้วจัดเรียงให้เรียบร้อย หนังสืออวดอ้างสรรพคุณควรจะประกอบด้วยเอกสารและจดหมายที่เกี่ยวข้องที่แสดงถึงความสำเร็จในอาชีพการงานของคุณ ซึ่งได้แก่
- สารบัญ
- เรซูเม่
- รายงานการจัดลำดับบริษัท
- ผลประเมินการทำงาน
- ใบรับรองผลการเรียนจากมหาวิทยาลัย
- จดหมายรับรอง
- อีเมล์ที่มีเนื้อหาเชิงบวก
- สื่อการตลาด
- ใบรับรองการศึกษาต่อเนื่อง
- ภาพถ้วยรางวัล สำเนาโล่ประกาศเกียรติคุณ และใบประกาศนียบัตรรางวัลต่างๆ
-
เข้ารับการสัมภาษณ์. คุณสามารถสมัครงานได้ที่เว็บไซต์ของบริษัท แต่ถ้าจะให้ดีคุณควรติดต่อเครือข่ายของคุณและขอชื่อผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่คุณสามารถส่งเรซูเม่หาเขาได้โดยตรง
-
ใช้หนังสืออวดอ้างสรรพคุณในการสัมภาษณ์. นำหนังสืออวดอ้างสรรพคุณที่ปรินท์ออกมาไปด้วยและให้ผู้จัดการเก็บไว้ พยายามดึงความสนใจของคนสัมภาษณ์มาที่หนังสืออวดอ้างสรรพคุณด้วยการพูดถึงสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในนั้นตลอดการสัมภาษณ์ ซึ่งคุณจะทำอย่างนี้ได้ก็ต่อเมื่อคุณรู้ดีว่าอะไรอยู่ตรงไหนในหนังสือ
- เน้นไปที่หนังสืออวดอ้างสรรพคุณและใช้หนังสือเป็นหลักฐานสนับสนุนคำตอบปากเปล่าของคุณ เช่น คนสัมภาษณ์อาจถามคุณเรื่องยอดขาย ซึ่งคุณก็สามารถชี้ไปที่รายงานการจัดลำดับหรือผลการประเมินการทำงานในหนังสืออวดอ้างสรรพคุณได้เลย
- การที่คุณใช้หนังสืออวดอ้างสรรพคุณในระหว่างการสัมภาษณ์จะทำให้คุณโดดเด่นจากคู่แข่งคนอื่นๆ เพราะมันทำให้ผู้จัดการฝ่ายสรรหาพนักงานเห็นเทคนิคการขายของคุณ
-
สัมภาษณ์ผ่านฉลุย. ใช้ความรู้และความเข้าใจในอุตสาหกรรมมาสนับสนุนคำตอบปากเปล่าของคุณ บางคำถามอาจจะทดสอบความรู้เกี่ยวกับตัวงาน แต่บางคำถามก็อาจจะเป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับการขายหรือผลิตภัณฑ์
- แสดงความกระตือรือร้นว่าคุณว่าอยากทำงานนี้จริงๆ เล่าเรื่องส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับวงการแพทย์ที่อาจสร้างความประทับใจให้เขาฟัง
-
ขอเข้าทำงาน. แสดงความสามารถในการขายที่เหนือชั้นด้วยการขอเข้าทำงานเมื่อจบการสัมภาษณ์ เมื่อจบการสัมภาษณ์ให้พูดว่า “มีอะไรเกี่ยวกับคุณสมบัติของดิฉันที่คุณลังเลไม่อยากให้ดิฉันเข้าสู่กระบวนการสมัครขั้นต่อไปไหมคะ”
- ถ้าเขาไม่บอก ให้ถามว่าคุณจะทราบข่าวจากเขาอีกทีเมื่อไหร่
- เขียนจดหมายขอบคุณผู้จัดการฝ่ายสรรหาพนักงานทุกคนที่เรียกคุณไปสัมภาษณ์ เพราะถึงเขาจะไม่ได้จ้างคุณ แต่เขาก็อาจจะรู้จักคนอื่นๆ ในอุตสาหกรรมที่อาจจะจ้างคุณ เพราะฉะนั้นการรักษาความสัมพันธ์แบบมืออาชีพกับทุกคนที่คุณเจอจึงเป็นหัวใจสำคัญ
โฆษณา
-
รู้เงินเดือนและสวัสดิการ. ผู้แทนยาจากหลายบริษัทกล่าวว่า [8] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Bureau of Labor Statistics ไปที่แหล่งข้อมูล รายได้ผู้แทนยาที่เป็นเด็กจบใหม่จะอยู่ที่ 60,000 - 70,000 บาทต่อเดือน และเมื่อทำไปสักระยะจะได้กว่า 100,000 บาทต่อเดือน
- ผู้แทนยาที่ทำงานในบริษัทใหญ่ๆ มักจะได้สวัสดิการเป็นรถยนต์บริษัท ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่าย สิทธิ์ในการซื้อหุ้นของบริษัท โบนัส ประกันสุขภาพและประกันชีวิต สิทธิ์ในการเบิกค่าเล่าเรียน และแผนการเกษียณ
- อย่าลืมสอบถามบริษัทเรื่องสวัสดิการที่คุณสามารถเลือกเองได้ด้วย
-
แสดงความสามารถในช่วงฝึกอบรม. บริษัทยาส่วนใหญ่จะมีการฝึกอบรมในงานให้แก่ผู้แทนยาหน้าใหม่ บางบริษัทถึงกับมีนโยบายให้พนักงานเบิกค่าเล่าเรียนสำหรับรายวิชาในสาขาเภสัชวิทยาและสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่ยังเรียนไม่จบได้ด้วย
- ในฐานะผู้แทนยา คนอื่นคาดหวังว่าคุณจะต้องเข้ารับการศึกษาอย่างต่อเนื่องตลอดการทำงานของคุณ
-
รู้หน้าที่และความรับผิดชอบของตัวเอง. ผู้แทนยาส่วนใหญ่ทำหน้าที่ขายยาในส่วนภูมิภาคและได้รับค่าจ้างตามยอดขาย คุณจึงมีหน้าที่จัดตารางนัดหมายและเข้าร่วมประชุมการขายกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และผู้ให้บริการสาธารณสุข ติดตามโอกาสในการขาย และหาลูกค้าใหม่ๆ มาให้บริษัท นอกจากนี้คุณยังต้องเข้าร่วมการประชุมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยา เป็นตัวแทนขึ้นพูดในงานของบริษัท และศึกษาต่อในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์
- นอกจากงานขายแล้ว คุณอาจจะต้องทำวิจัยภาคสนามในฐานะตัวแทนของบริษัท ซึ่งก็คือการสำรวจรูปแบบการออกใบสั่งยาและติดตามปฏิกิริยาของการรักษาแบบใหม่
- งานของผู้แทนยาเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่กำลังก้าวหน้าในสภาพแวดล้อมที่หมุนเร็ว พยายามเอาชนะความท้าทายทางสติปัญญาที่คุณจะต้องเจอ และภูมิใจที่ได้บอกเล่าความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่น่าตื่นเต้นให้ผู้บริโภคฟัง คุณจะได้มีโอกาสเผยแพร่การรักษาแบบใหม่ที่อาจช่วยชีวิตคนได้ให้กับชุมชนของคุณ
- คุณจะต้องจัดตารางเองและทำงานคนเดียว และเนื่องจากว่ารายได้ของคุณขึ้นอยู่กับยอดขาย ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือช่วงเย็นคุณอาจจะต้องสร้างและพัฒนาเครือข่ายเพื่อยอดขายในอนาคต
-
ก้าวหน้าในอุตสาหกรรม. ด้วยเวลาและประสบการณ์ คุณจะมีโอกาสก้าวสู่ตำแหน่งงานธุรการที่คุณจะได้ดูแลการทำงานของผู้แทนยาคนใหม่ๆ ตั้งใจทำงาน ทำตามเป้าหมาย และศึกษาต่อเพื่อปีนบันไดสู่ตำแหน่งงานที่สูงขึ้นในอุตสาหกรรมยาโฆษณา
เคล็ดลับ
- จังหวัดใหญ่ๆ ในแต่ละภูมิภาคจะมีสถานพยาบาลต่างๆ มากมาย เพราะฉะนั้นผู้สมัครที่ต้องการตำแหน่งแรกเข้าที่อยู่ตามจังหวัดเหล่านี้จึงได้เปรียบ
- คนที่มีพื้นฐานการศึกษาในสาขาชีววิทยาศาสตร์ ธุรกิจ และสถิติอย่างชัดเจนก็เป็นที่หมายปองของนายจ้างเช่นกัน
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.napsronline.org/page.asp?page=2578
- ↑ http://www.napsronline.org/jobs/
- ↑ https://www.tci-thaijo.org/index.php/TJPP/index
- ↑ http://http://www.wongkarnpat.com/magazineya.php
- ↑ https://www.tci-thaijo.org/index.php/fdajournal/index
- ↑ http://www.thaipharmacies.org/about/magazine.html
- ↑ https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/dic/
- ↑ http://www.bls.gov
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 14,139 ครั้ง
โฆษณา