ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ซ็อคเกอร์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ฟุตบอล เป็นเกมการแข่งขันที่สนุกเร้าใจ เป็นกีฬาที่มีการเล่นมากที่สุดในโลก มันถูกยกให้เป็น "เกมกีฬาที่มีความสวยงาม” เนื่องด้วยทักษะของนักเตะที่น่าตื่นตาตื่นใจ กลยุทธ์ในการเล่นเป็นทีม และการประสานงานร่วมกันของนักเตะแต่ละคน หากคุณรู้สึกจริงจังกับการเล่นฟุตบอล จำไว้ว่าคุณต้องฝึกฝนให้หนัก นานขึ้น และเร็วขึ้นกว่าคู่แข่งของคุณ และจำเป็นต้องคลุกคลีอยู่กับลูกฟุตบอลอยู่เสมอๆ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

รู้กฎ และกติกาของกีฬาฟุตบอล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โดยวัตถุประสงค์ของเกม คือการทำประตูให้ได้มากกว่าคู่แข่ง การจะได้ประตู ลูกฟุตบอลต้องผ่านเส้นประตูเข้าไปทั้งใบ [1]
    • ผู้รักษาประตูเมื่ออยู่ในกรอบเขตโทษของตัวเองเป็นเพียงผู้เล่นคนเดียวที่สามารถใช้แขน และมือในการเล่นฟุตบอล ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่นสามารถใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกายในการเล่นฟุตบอล ยกเว้นการใช้แขน และมือ
    • เกมอย่างเป็นทางการจะใช้เวลา 90 นาที โดยแบ่งเป็น 2 ครึ่งๆ ละ 45 นาที
  2. ทีมที่ทำการแข่งขันจะมีผู้เล่นฝั่งละ 11 คนในตอนเริ่มเกม ถึงแม้ว่าตำแหน่งการเล่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามแผนการเล่นของผู้ฝีกสอน แต่โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู 1 คน กองหลัง 4 คน กลองกลาง 4 คน และศูนย์หน้า 2 คน [2]
    • กองหลัง. โดยทั่วไปกองหลังจะปักหลักอยู่หลังเส้นกึ่งกลางสนาม เพื่อช่วยในการป้องกันการทำประตูจากฝั่งคู่แข่ง ผู้เล่นในตำแหน่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมได้ดี และมีร่างกายที่ค่อนข้างใหญ่กว่าผู้เล่นในตำแหน่งอื่น
    • กองกลาง. โดยกองกลางเป็นผู้เล่นที่วิ่งมากที่สุดในสนาม เนื่องจากพวกเขาต้องทำหน้าที่ทั้งรุก และรับ โดยทั่วไปผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางจะเป็นผู้สร้างสรรค์เกม โดยพวกเขาจะเก่งในการครองบอล และการผ่านบอล
    • ศูนย์หน้า/หน้าเป้า ผู้เล่นในตำแหน่งนี้จะมีโอกาสในการยิงประตูมากที่สุด พวกเขาจำเป็นต้องมีความรวดเร็ว คล่องแคล่ว และสามารถยิงประตูได้อย่างน่าทึ่ง พวกเขายังต้องสามารถเล่นลูกโหม่งได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน
    • ผู้รักษาประตู: ผู้เล่นในตำแหน่งนี้ จะเป็นผู้ป้องกันกรอบ 18 หลา และเป็นผู้เล่นเพียงตำแหน่งเดียวในสนามที่สามารถใช้มือได้ในกรอบเขตโทษฝั่งตัวเอง ผู้รักษาประตูต้องมีความยืดหยุ่น มีปฏิกิริยาที่รวดเร็วในการคาดเดาทิศทางลูกฟุตบอล และมีไหวพริบในการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม
  3. รู้ว่าการเริ่มเขี่ยลูกฟุตบอลเป็นการเริ่มต้นเกมทั้งครึ่งแรก และครึ่งหลัง. ทีมใดทีมหนึ่งจะเป็นฝ่ายเขี่ยลูกฟุตบอลเริ่มเกมก่อน ในขณะที่อีกทีมจะเป็นฝ่ายเขี่ยลูกฟุตบอลในช่วงครึ่งหลัง ในขณะที่ทำการเขี่ยลูกฟุตบอลเริ่มเกม ผู้เล่นแต่ละทีมจำเป็นต้องอยู่ในครึ่งสนามฝั่งของตนทั้งหมด แต่ทันทีที่เสียงนกหวีดดังขึ้น และลูกฟุตบอลถูกเขี่ยเริ่มเกม ผู้เล่นทั้งสองฝั่งสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระทั้งในแดนตัวเอง รวมไปถึงฝั่งคู่แข่ง แต่ต้องไม่ผิดกฎการล้ำหน้า [3]
    • ทีมหนึ่งจะเริ่มเขี่ยลูกก่อน ฝ่ายตรงข้ามจะได้เริ่มก่อนในครึ่งหลัง
    • ทุกครั้งที่มีการยิงประตู จะกลับมาเริ่มเขี่ยบอลใหม่โดยทีมที่เป็นฝ่ายถูกยิงประตู
  4. การทุ่มจะเกิดขึ้น เมื่อลูกฟุตบอลถูกเตะออกด้านข้างสนาม โดยการครอบครองบอลจะเป็นของทีมที่ไม่ได้เป็นฝ่ายสัมผัสบอลเป็นคนสุดท้ายก่อนลูกฟุตบอลออกเส้นข้างสนาม ทีมที่ได้ครอบครองบอลจะเป็นฝ่ายทุ่มลูกฟุตบอลเข้ามาในสนามในจุดที่ลูกฟุตบอลถูกเตะออกเส้นข้างสนาม [4]
    • ผู้เล่นที่เป็นคนทุ่มลูกฟุตบอลสามารถวิ่งเพื่อเพิ่มแรงส่งในการทุ่มลูกฟุตบอลเข้ามาในสนาม แต่ต้องหยุดใกล้กับจุดที่ลูกฟุตบอลออกเส้นข้างสนาม
    • ผู้เล่นต้องทุ่มลูกฟุตบอลออกมาจากด้านหลังศีรษะด้วยมือทั้งสองข้าง และปล่อยลูกฟุตบอลเหนือศีรษะด้วยสองมือ
    • ผู้เล่นไม่สามารถยกเท้าข้างใดข้างหนึ่งจากพื้น ในขณะที่กำลังทุ่มลูกฟุตบอลเข้ามาในสนาม โดยเท้าทั้งสองต้องอยู่กับพื้น
  5. รู้ความแตกต่างระหว่างการเตะมุม และการตั้งเตะจากกรอบประตู. หากลูกฟุตบอลออกเส้นหลังประตู (แต่ไม่ใช่ในประตู) และถูกสัมผัสครั้งสุดท้ายโดยทีมที่เป็นฝ่ายป้องกัน โดยลูกฟุตบอลจะถูกนำกลับไปตั้งยังมุมธงฝั่งที่ใกล้กับจุดที่ลูกฟุตบอลออกเส้นหลัง และกลายเป็นลูกเตะมุมโดยทีมที่เป็นฝ่ายบุก [5]
    • หากลูกฟุตบอลออกเส้นหลังประตู (แต่ไม่ใช่ในประตู) และถูกสัมผัสครั้งสุดท้ายโดยทีมที่เป็นฝ่ายบุก ลูกฟุตบอลจะถูกนำมาตั้งเส้นกรอบ 6 หลาหน้าประตู และกลายเป็นลูกตั้งเตะจากกรอบประตูโดยทีมที่เป็นฝ่ายป้องกัน โดยทั่วไปผู้รักษาประตูจะเป็นคนเตะลูกฟุตบอลออกมาจากกรอบประตู
  6. โดยการล้ำหน้าเป็นกฎกติกาที่สำคัญในกีฬาฟุตบอล และถูกตั้งไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นฝั่งใดฝั่งหนึ่งยืนดักรออยู่ที่หน้าประตูของฝั่งคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา ผู้เล่นจะถูกจับล้ำหน้า เมื่อเขา หรือเธอทำดังต่อไปนี้: อยู่หน้าลูกฟุตบอลในฝั่งสนามของคู่แข่ง และอยู่ด้านหลังกองหลังคนสุดท้าย เมื่อลูกฟุตบอลถูกผ่านมาให้เขา [6]
    • การล้ำหน้าไม่มีผลเมื่อ:ทุ่มบอล,เตะมุม, ลูกตั้งเตะจากกรอบประตู
    • เมื่อถูกจับล้ำหน้า ฝ่ายตรงข้ามจะได้เตะลูกกินเปล่าขึ้นมา
  7. รู้จักความแตกต่างระหว่างลูกตั้งเตะจังหวะเดียว และลูกตั้งเตะสองจังหวะ. โดยลูกตั้งเตะจังหวะเดียวนั้น คุณสามารถเตะบอลเพื่อทำประตูได้โดยตรง โดยลูกฟุตบอลไม่จำเป็นต้องถูกสัมผัสโดยเพื่อนร่วมทีมคนอื่นก่อน และลูกตั้งเตะสองจังหวะนั้น จำเป็นที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นต้องสัมผัสถูกลูกฟุตบอลก่อนจึงสามารถนับเป็นประตูได้ หากลูกฟุตบอลเข้าประตู [7]
    • ลูกตั้งเตะจังหวะเดียวมักให้เมื่อมีการฟาวล์จากการเสียบปะทะหรือมีการใช้มือ ลูกตั้งเตะสองจังหวะนั้นกรรมการจะให้เมื่อเกิดการหยุดเกมในกรณีอื่นๆ
    • ระหว่างการเตะลูกตั้งเตะสองจังหวะ กรรมการจะชูมือขึ้นตลอดจนกว่าลูกบอลจะไปสัมผัสผู้เล่นคนที่สอง
  8. รู้ว่าการทำฟาล์วภายในกรอบเขตโทษ จะส่งผลให้เป็นลูกจุดโทษ. โดยลูกจุดโทษจะเกิดขึ้น เมื่อผู้เล่นที่เป็นฝ่ายป้องกันทำฟาล์วคู่แข่งในกรอบเขตโทษของเขา หรือเธอ ทั้งนี้ผู้เล่นคนอื่นๆ ยกเว้น ผู้รักษาประตู และผู้เตะจุดโทษ ต้องยืนเรียงแถวอยู่นอกกรอบเขตโทษ ผู้รักษาประตูต้องยืนอยู่บนเส้นประตู และไม่สามารถเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่ง ก่อนที่ลูกฟุตบอลจะถูกยิงออกจากจุดโทษ [8]
    • ลูกฟุตบอลจะถูกวางไว้ที่จุดโทษห่างจากเส้นประตู 12 หลา หลังจากลูกฟุตบอลถูกยิง หากผู้รักษาประตูปัดออกมาได้ หรือชนเสา ลูกฟุตบอลสามารถถูกเล่นต่อโดยทีมไหนก็ได้
    • ผู้เล่นคนไหนก็สามารถยิงลูกจุดโทษได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ถูกทำฟาวล์
  9. ผู้ตัดสินจะให้ใบเหลืองเพื่อเป็นการเตือนผู้เล่น การได้รับใบเหลือง 2 ใบ หมายถึงใบแดง ซึ่งผู้เล่นจะถูกส่งออกนอกสนามอย่างถาวร เหตุผลสำหรับการให้ใบเหลือง ได้แก่: [9]
    • การเล่นที่อันตราย เช่น เตะสูงเหนือศีรษะของผู้เล่นฝั่งตรงข้าม เป็นต้น
    • การเข้าสกัดที่ผิดกติกา เกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นตั้งใจเข้าขวางระหว่างลูกฟุตบอล และคู่แข่ง เมื่อผู้เล่นไม่ได้อยู่ในระยะที่สามารถเล่นลูกฟุตบอลได้
    • เข้าปะทะผู้รักษาประตูในกรอบเขตโทษ
    • จงใจถ่วงเวลาช่วงท้ายเกม
    • ถอดเสื้อแข่ง
    • การปะทะอื่นๆ
  10. โดยใบแดงสามารถถูกให้ได้ทันที ก่อนการให้ใบเหลือง ก็ต่อเมื่อมีการเล่นที่เป็นอันตรายรุนแรงเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าใบแดง โดยปกติจะถูกให้ก็ต่อเมื่อ ผู้เล่นคนเดียวกันได้รับใบเหลืองใบที่สอง ทั้งนี้เหตุผลของการให้ใบแดง ได้แก่: [10]
    • การจงใจทำฟาวล์บ่อยๆ
    • ถ่มน้ำลายใส่ผู้เล่น
    • ใช้มือปัดลูกฟุตบอล โดยไม่ใช่ผู้รักษาประตู
    • เข้าเสียบสกัดผู้เล่นอย่างจงใจเพื่อไม่ให้เสียประตู
    • ถ้าผู้เล่นต้องออกจากสนามเพราะได้รับ 2 ใบเหลืองหรือได้ใบแดง จะเปลี่ยนตัวคนนั้นออกไม่ได้ ทำให้ทีมนั้นมีจำนวนตัวผู้เล่นน้อยกว่า (เช่น 10-ต่อ-11)
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ทักษะที่จำเป็น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เรียนรู้วิธีการเลี้ยงลูกฟุตบอลเหมือนกับไลโอเนล เมสซี่. การเลี้ยงลูกฟุตบอล คือการควบคุมลูกฟุตบอลในขณะที่กำลังวิ่งอยู่ หากคุณต้องการเก็บลูกฟุตบอลไว้ในการครอบครองของทีมคุณ คุณจำเป็นต้องเลี้ยงลูกฟุตบอลให้คล่อง การเลี้ยงลูกฟุตบอล คือการใช้เท้าสัมผัสลูกฟุตบอลด้วยแรงที่เพียงพอในการพาลูกไปข้างหน้ากับคุณ และต้องเบาเพียงพอที่จะทำให้ลูกฟุตบอลไม่ออกห่างจากตัวคุณมากเกินไป [11]
    • คุณสามารถเลี้ยงลูกฟุตบอลด้วยด้านในของรองเท้าคุณ เหนือนิ้วโป้ง (โดยให้เท้าชี้ลงพื้น) หรือแม้แต่ด้านนอกของรองเท้า วิธีที่ง่ายที่สุดในการเลี้ยงลูกฟุตบอล อาจเป็นด้านในของรองเท้าคุณ
    • เรียนรู้การเลี้ยงลูกฟุตบอลด้วยความเร็วที่ต่างกัน เมื่อคุณกำลังวิ่งไต่เส้นข้าง และคุณเลี้ยงลูกฟุตบอลผ่านผู้เล่น การเลี้ยงลูกฟุตบอลของคุณจะดูแตกต่างเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับการเลี้ยงลูกฟุตบอลผ่านกองหลังที่อยู่ด้านหน้าคุณ
  2. Watermark wikiHow to เล่นฟุตบอล
    เรียนรู้วิธีการผ่านลูกฟุตบอลให้เพื่อนร่วมทีม. การผ่านลูกฟุตบอล คือการส่งบอลไปยังตำแหน่งที่คุณต้องการได้อย่างแม่นยำ ในการผ่านลูกฟุตบอล ให้เตะลูกฟุตบอลโดยใช้ข้างเท้าด้านใน หรือเรียกว่าการแปลูกฟุตบอล วิธีนี้ลูกฟุตบอลจะมีแรงไม่มาก แต่สิ่งที่ได้คือความแม่นยำ ทันทีที่คุณมีความชำนาญในการผ่านบอลขั้นพื้นฐาน คุณสามารถลองเตะลูกย้อย หรือเตะไซด์โค้งเพื่อผ่านลูกฟุตบอลให้กับเพื่อนร่วมทีมของคุณ [12]
    • ผ่านลูกบอลด้วยหัวแม่เท้าทิ่มไปข้างหน้าและส้นเท้าติดพื้น
    • คาดการณ์ตำแหน่งที่ผู้เล่นจะอยู่ หากเพื่อนร่วมทีมของคุณกำลังวิ่งอยู่ ให้คุณเตะลูกฟุตบอลไปตกข้างหน้าเพื่อนร่วมทีมของคุณ เพื่อที่พวกเขาสามารถวิ่งเข้าหาลูกฟุตบอลได้ทันที
    • จะเตะลูกย้อย ให้ใช้ด้านในของฝ่าเท้าแต่หันให้มันยื่นไปข้างหน้ามากขึ้น (มุม 45 องศาไปยังเป้าหมายแทนที่จะเป็นเกือบ 90 องศา) เวลาที่เตะบอล
    • การเตะไซด์โค้งต้งฝึกมากหน่อย เนื่องจากคุณต้องเตะโดยใช้เท้าด้านนอกโดยที่ขาจะกวาดไปในลักษณะเกี่ยวบอล
  3. Watermark wikiHow to เล่นฟุตบอล
    หากคุณเข้าใกล้ประตูมากจริงๆ และสิ่งที่คุณต้องทำ คือมีความแม่นยำในการยิงประตู คุณสามารถยิงประตูโดยใช้การแปลูกฟุตบอลด้วยข้างเท้าด้านใน เช่นเดียวกับการผ่านลูกฟุตบอล แต่โดยทั่วไป คุณมักจะอยู่ห่างจากกรอบประตู และจำเป็นต้องใช้พละกำลัง และความแม่นยำในการยิงประตู [13]
    • เตะลูกฟุตบอลในตำแหน่งกึ่งกลางที่ร้อยเชือกรองเท้า โดยให้เท้าของคุณชี้ลงพื้น และค้างเท้าไว้ในลักษณะนี้เมื่อคุณเตะลูกฟุตบอลออกไปแล้ว
    • ใช้สะโพกของคุณในการเหวี่ยงเท้าไปยังลูกฟุตบอล วาดเท้าไปด้านหลังหากจำเป็นเพื่อเพิ่มพลังในการยิงประตูให้มากขึ้น วิธีนี้จะทำให้เท้าทั้งสองข้างลอยขึ้นจากพื้นเล็กน้อย
  4. Watermark wikiHow to เล่นฟุตบอล
    การป้องกันการเสียประตูเป็นการบรรลุผลที่ถูกประเมินค่าต่ำ มันสามารถเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ในการประกบนักฟุตบอลฝั่งตรงข้าม หรือแย่งลูกฟุตบอลมาจากนักฟุตบอลฝั่งตรงข้าม มีกฎอยู่สามข้อที่คุณจำเป็นต้องจำไว้เมื่อประกบผู้เล่นในกีฬาฟุตบอล: [14]
    • อย่าหลงกลการหลอกล่อ เล่ห์เหลี่ยม หรือการหลบหลีกอย่างเหนือชั้น พวกเขาหวังใช้ร่างกายหลอกล่อคุณ ดึงความสนใจคุณ จากสิ่งที่เขากำลังจะทำกับลูกฟุตบอลต่อไป อย่าปล่อยให้จังหวะนี้เกิดขึ้น ให้คุณมองไปที่ลูกฟุตบอลอยู่ตลอดเวลา
    • ยืนอยู่ระหว่างลูกฟุตบอล และประตู หรือในอีกความหมาย คืออย่าปล่อยให้ลูกฟุตบอลอยู่ด้านหลังคุณ
    • เรียนรู้ที่จะเดาการเลี้ยงลูกฟุตบอล ทันทีที่ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเลี้ยงลูกฟุตบอล – นั่นเป็นเวลาที่ควรเข้าแย่งลูกฟุตบอลออกจากเท้า วิธีนี้นี้เรียกว่า การดักทาง และมันเป็นเรื่องที่จำเป็นในการสกัด หรือแย่งลูกฟุตบอลจากผู้เล่นฝั่งตรงข้ามที่กำลังบุกเข้าใส่
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

พัฒนาทักษะและสไตล์การเล่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คิดเกี่ยวกับการเคลื่อนที่โดยไม่มีลูกฟุตบอล. เป็นที่คาดกันว่า นักฟุตบอลอาชีพวิ่งตลอดเกม 90 นาที เป็นระยะทาง 9.66 – 12.87 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นระยะทางที่มาก ไม่ว่าใครก็คิดได้ว่า การวิ่งส่วนมากจะเกิดขึ้นเมื่อคุณไม่มีลูกฟุตบอล เรียนรู้วิธีหาพื้นที่ว่าง วิธีวิ่งไปยังตำแหน่งที่เพื่อนร่วมทีมของคุณคาดว่า หรือต้องการให้คุณอยู่ และวิธีสลัดหนีตัวประกบ [15]
  2. พยายามโหม่งลูกฟุตบอลด้วยหน้าผากของคุณ “อย่าใช้ด้านบนของศีรษะของคุณ” เมื่อพร้อมที่จะโหม่งลูกฟุตบอล อย่ายกศีรษะไปด้านหลัง แต่ให้แอ่นลำตัวไปด้านหลังแทน วิธีนี้จะช่วยให้การโหม่งลูกฟุตบอลมีพลัง และไม่ทำให้ลำคอตึงมากเกินไป [16]
    • ฟุตบอลเยาวชนหลายที่เริ่มแบนการโหม่งลูกบอลเพราะใส่ใจในปัญหาสมองถูกกระทบกระเทือนและอาการบาดเจ็บที่เกิดที่ศีรษะกับต้นคอ ถ้าคุณเล่นเอาสนุก ลองคิดดูว่าการโหม่งนั้นจำเป็นต่อการเล่นหรือเปล่า
  3. การเดาะลูกฟุตบอลเป็นเรื่องที่ยากมากในการฝึกฝนเพื่อให้เกิดความชำนาญ แต่ถือเป็นส่วนสำคัญของกีฬาฟุตบอล ในความเป็นจริง คุณไม่จำเป็นต้องเดาะลูกฟุตบอลบ่อยครั้งในเกม แต่การเรียนรู้วิธีการเดาะลูกฟุตบอลสามารถเป็นประโยชน์สำหรับการจับและควบคุมลูกบอล [17]
    • เช่น คุณอาจรับลูกบอลที่ส่งโด่งมาโดยใช้อกแตะแล้วเปลี่ยนลงมาเท้าข้างที่ถนัด แล้วควบคุมบอลได้ต่ออย่างรวดเร็ว
    • หากคุณรู้วิธีเดาะลูกฟุตบอล การสัมผัสลูกฟุตบอลของคุณจะเป็นธรรมชาติมากขึ้น จำไว้ว่าในกีฬาฟุตบอล การสัมผัสบอลแรกเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ
  4. มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ในการใช้เท้าข้างที่ไม่ถนัดของคุณในการเลี้ยงลูกฟุตบอล ผ่านบอล และยิงประตู กองหลังเก่งๆ จะบังคับให้คุณเล่นลูกฟุตบอลโดยใช้เท้าข้างที่ไม่ถนัดของคุณ หากคุณไม่สามารถใช้เท้าข้างที่ไม่ถนัดได้ คุณจะเอาชนะเขาได้ยาก [18]
    • ฝึกฝนโดยใช้เท้าข้างที่ไม่ถนัดเพียงเท่านั้น ในระหว่างฝึกซ้อม หรือเมื่อคุณซ้อมยิงประตู หรือเดาะลูกฟุตบอลเพียงลำพัง. ทำร่างกายของคุณให้คุ้นเคยกับการใช้กล้ามเนื้อของเท้าข้างที่ไม่ถนัด เป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาการใช้เท้าข้างที่ไม่ถนัดในการเล่นฟุตบอล
  5. ฝึกซ้อมการเตะมุม และลูกตั้งเตะกินเปล่า หรือฟรีคิก (free kicks). คุณต้องสามารถผ่านลูกเตะมุมไปยังตำแหน่งตรงกลางกรอบเขตโทษ ด้วยการผ่านบอลโด่ง เพื่อที่เพื่อนร่วมทีมของคุณจะสามารถโหม่งบอลส่งลูกเข้าประตูได้ง่าย ลูกฟรีคิกสามารถเป็นการตั้งเตะอย่างรวดเร็ว และการผ่านลูกฟุตบอลง่ายๆ ไปให้เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้ๆ หรือคุณสามารถจัด “การเล่นลูกตั้งเตะ” หรือเซ็ตเพลย์ (set play) โดยคุณสามารถเตะบอลไปยังพื้นที่ ที่เพื่อนร่วมทีมของคุณสามารถจบสกอร์ได้ [19]
    • ลูกเตะมุมจะเตะจากมุมทั้งสี่ของสนาม ขึ้นอยู่กับว่าลูกออกตรงด้านไหน ส่วนลูกเตะกินเปล่าเกิดขึ้นได้ทุกที่ในสนาม
    • ลูกเตะมุมมักเตะให้เป็นลูกย้อย (จากเท่าด้านใน) หรือเตะไซด์โค้ง (ใช้เท้าด้านนอก) ขึ้นกับคุณจะเล่นเท้าไหนและกำลังอยู่ด้านไหนของสนาม
    • ลูกเตะกินเปล่าจะเตะแบบตรงๆ ย้อยหรือไซด์โค้งได้ทั้งนั้น หรือแค่แตะให้เพื่อนร่วมทีม ขึ้นอยู่ว่าจะเล่นแผนไหน
  6. พยายามพัฒนารูปแบบการเล่นของตัวคุณเอง ที่เหมาะสมกับตัวคุณ ยกตัวอย่างเช่น คุณเป็นผู้เล่นมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ที่ชอบหลบหลีกผู้เล่นคนอื่นอย่างเหนือชั้นใช่ไหม? หรือ คุณเร็วมากพอที่จะวิ่งแซงทุกคนด้วยการเร่งฝีเท้าสุดกำลังใช่ไหม? หรือ คุณเก่งที่จะใช้ร่างกาย และพละกำลังในการระเบิดตาข่ายคู่ต่อสู้ใช่ไหม? หรือ คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสกัดกั้นฝ่ายตรงข้ามไม่ให้ยิงประตูใช่ไหม? ค้นหาลักษณะผู้เล่นที่คุณเป็น [20]
    • ค้นหาว่าคุณเล่นสไตล์ไหน แล้วตั้งเป้าหมายของตัวเองว่าจะเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถหลายด้านได้อย่างไร และไม่ลืมที่จะมีความสุขกับการเล่นฟุตบอล
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • รักษาสภาพความฟิต การวิ่งเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง สามารถทำให้คุณสูญเสียพลังงานได้เป็นอย่างมาก
  • เมื่อคุณจะยิงประตู ให้แกล้งทำเป็นจะเตะลูกฟุตบอล ผู้รักษาประตูโดยส่วนมากจะหลงทาง เมื่อถูกหลอก และเมื่อคุณจะยิงประตู ให้เล็งไปที่มุมประตู หากทำได้ดังนี้ คุณมีโอกาสที่จะได้ประตูสูง
  • ทำการฝึกฝนอย่างค่อยเป็นค่อยไป แล้วเพิ่มความเร็วขึ้นเพื่อปรับแต่งทักษะของคุณ
  • ห้ามสัมผัสลูกฟุตบอลด้วยมือของคุณ เว้นแต่คุณเป็นผู้รักษาประตู หรือกำลังจะทุ่มบอล!
  • รับประทานอาหารที่สมดุล จะช่วยให้คุณรักษาพลังงานที่จำเป็นเพื่อใช้ออกกำลังกายได้ [21]
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ลูกฟุตบอล
  • รองเท้าสตั๊ด
  • สนับแข้ง
  • ถุงเท้าฟุตบอล (แบบยาว)
  • กางเกงขาสั้น หรือกางเกงวอร์ม – กางเกงอะไรก็ได้ที่สามารถวิ่งได้สะดวก
  • ขวดน้ำดื่ม
  • พื้นที่โล่งกว้าง ที่ไม่มีสิ่งที่แตกหักง่ายอยู่ใกล้บริเวณ

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 204,625 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา