PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

เว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ที่แตกต่างกันย่อมมีการใช้งาน จุดแข็ง และประโยชน์ที่แตกต่างกันไป ทวิตเตอร์ (Twitter) หรืออาจจะเรียกว่าเว็บไซต์ “สื่อสังคมออนไลน์แบบเรียลไทม์” เป็นสถานที่สำหรับแบ่งปันข้อมูล ณ เวลาที่เกิดขึ้นจริงๆ และเพื่อใช้เชื่อมต่อกับผู้อื่นตามเวลาจริง โดยมักจะก่อให้เกิดเพื่อนหรือเส้นสายที่ยั่งยืน การเรียนรู้วิธีใช้งานทวิตเตอร์เป็นเรื่องที่น่าสนุก มีประโยชน์ และไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งอาจจะใช้งานยากสำหรับผู้เริ่มต้น แต่อย่ายอมแพ้ แค่เพียงใช้เวลาและเรียนรู้เล็กน้อย “ปล่อยให้ความรู้สึกนำทาง” คุณจะสามารถใช้ทวิตเตอร์ได้อย่างคล่องแคล่ว และคุณอาจจะกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในโลกดิจิทัล

  1. ไปยังเว็บไซต์ Twitter .com [1] และลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้ฟรี. กรอกชื่อ อีเมล และรหัสผ่านที่ต้องการในช่องว่างที่กำหนดให้
    โฆษณา
ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ทวีตและรวบรวมผู้ติดตาม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. [2]
    • ทวีต (Tweet) เป็นการอัปเดตข้อมูลที่มีตัวอักษรไม่เกิน 280 ตัว ซึ่งอาจจะเขียน @Mention ไปยังผู้ใช้อื่น แฮชแท็ก ลิงก์เชื่อมต่อภายนอก หรือข้อความทั่วไป
    • รีทวีต (Retweet) หรือ "RT” เป็นการนำทวีตของคนอื่นมาโพสต์ในทวีตของตัวเอง โดยจะมีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลโดยอัตโนมัติ แล้วผู้ติดตามของคุณจะสามารถมองเห็นทวีตดังกล่าวได้ ลักษณะการรีทวีตแบบดั้งเดิมอาจจะเป็นการนำทวีตแล้วมาโพสต์ใหม่ผ่านบัญชีของคุณในรูปแบบดังต่อไปนี้: 'RT @(ชื่อผู้ใช้ที่เป็นเจ้าของทวีตที่คุณรีทวีต): (เนื้อหาของทวีต)' อย่างไรก็ตาม ระบบในปัจจุบันไม่ได้มีรูปแบบนี้แล้ว โดยจะโพสต์ทวีตใหม่โดยตรง และให้เครดิตเจ้าของทวีตด้านล่าง ยกตัวอย่างเช่น 'รีทวีต @username’
    • ทวีตอัพส์ (TweetUps) เป็นการใช้ทวิตเตอร์เพื่อพบปะกับผู้ใช้ทวิตเตอร์อื่นๆ
    • ประเด็นที่เป็นกระแส (Trending Topics) หรือ "Tts" เป็นรายการหัวข้อที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายรายพูดถึงพร้อมกัน เมื่อเริ่มต้นใช้ทวิตเตอร์ ประเด็นที่เป็นกระแสจะเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ระบบแบบใหม่ได้ออกแบบเพื่อค้นหากระแสสังคมได้อย่างรวดเร็ว และสามารถอ้างอิงประเด็นที่มีการกล่าวถึงล่าสุดได้ ในปัจจุบัน รายชื่อประเด็นที่เป็นกระแสจะเป็นการรวบรวมเรื่องราวที่ผู้คนนับพันในโลกทวิตเตอร์พูดถึงได้ในคราวเดียว เมื่อคุณคลิกที่ประเด็นที่เป็นกระแสในรายชื่อ ก็จะมีทวีตที่เกี่ยวข้องปรากฎขึ้นมามากมาย และในบรรดาประเด็นที่เป็นกระแสทั้งหมดนั้น ทวิตเตอร์จะเลือกประเด็น 3 ประเด็นที่เป็นที่นิยมสูงสุดมาเป็นไฮไลท์ ซึ่งจะเป็นทวีตที่กล่าวถึงประเด็นที่มีการรีทวีตมากกว่า 150 ครั้ง คุณสามารถดูรายชื่อประเด็นที่เป็นกระแสในพื้นที่ของคุณบริเวณคอลัมน์ทางขวามือของหน้าหลัก
    • รายชื่อ (Lists) ผู้ใช้งานสามารถจัดการผู้ติดตามของคุณเป็นรายชื่อ โดยจัดเรียงตามธุรกิจหรือบุคลิกที่สัมพันธ์กับตัวคุณ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้รายหนึ่งอาจจะรวมรายชื่อองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรและองค์กรการกุศลที่ติดตามไว้เป็นรายชื่อเดียว เพื่อให้สามารถเข้าถึงและกล่าวถึงได้ง่าย
    • ทวีตที่ได้รับการแนะนำ (Promoted Tweets) เป็นประเด็นที่หน่วยงานหรือบริษัทจ่ายเพื่อให้เป็น ‘กระแส’ เพื่อดึงดูดความสนใจและผู้ใช้ทวิตเตอร์ในทั่วทุกมุมโลก
  2. ถ้าคุณต้องการให้ผู้ติดตามรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ให้พิมพ์ไปในกล่องข้อความ 'มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง’ (What's happening?) และคลิกที่ปุ่ม 'ทวีต’ (Tweet) อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่าทวีตจำกัดให้คุณเขียนได้ไม่เกิน 280 ตัวอักษร มิฉะนั้น ปุ่ม 'ทวีต’ จะกลายเป็นติดลบ
    • เมื่อคุณพิมพ์ ระบบจะแสดงตัวนับถอยหลังจำนวนตัวอักษร ซึ่งจะช่วยให้คุณติดตามจำนวนตัวอักษรของทวีตของคุณได้ โดยตัวอักษรที่เขียนได้จะเป็นสีเทา จากนั้นเมื่อเหลือ 10 ตัวสุดท้าย ตัวเลขจะเป็นสีแดง และจากนั้นจะเป็นเครื่องหมายติดลบสีแดงปรากฎเมื่อตัวนับถอยหลังน้อยกว่า 0
  3. การเขียนคำตามหลังสัญลักษณ์ '#’ จะสร้างแฮชแท็กขึ้นมา แฮชแท็กจะทำให้คำบางคำเป็นคำที่ค้นหาได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของแฮชแท็ก ให้ศึกษาวิธีใช้แฮชแท็กกับทวิตเตอร์
    • ประเด็นที่เป็นกระแสบางประเด็นจะมีแฮชแท็กเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าสู่กระแสสนทนาได้ง่ายขึ้น
    • ตัวอย่างหลักๆ ของการใช้แฮชแท็กอาจจะเห็นในเบสบอลเมเจอร์ลีก ซึ่งใช้แฮชแท็กเป็นชื่อทีม (เช่น #Mets) เพื่อดึงรายชื่อของทวีตขึ้นมา แล้วรายชื่อจะปรากฎบนหน้าเว็บไซต์
  4. ทวิตเตอร์ของคุณอาจจะมีความเป็นส่วนตัวหรือใหญ่โตก็ได้ตามแต่ที่คุณจะเลือก ถ้าเป้าหมายของคุณคือการหาผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ดูให้ดีว่าโพสต์ของคุณมีความน่าสนใจและเกี่ยวข้องกับประเด็นในกระแส คุณไม่ควรดูถูกประโยชน์จากการติดตามคนอื่น เพราะคนที่คุณติดตามมักจะติดตามคุณกลับ สุดท้าย ติดต่อกับผู้ติดตามในบางครั้งบางคราว ซึ่งอาจจะใช้การทวีตโดยตรง บล็อก (ฺBlog) หรือใช้แฮชแท็ก #FF (#FollowFriday) ซึ่งแฮชแท็กนี้เป็นสถานที่ที่คุณสามารถทวีตรายชื่อผู้ติดตามของคุณที่คิดว่าคนอื่นน่าจะติดตาม และให้ใช้แฮชแท็ก #FF โดยรายชื่อจะถูกส่งออกไปในช่วงท้ายของสัปดาห์ แล้วผู้ติดตามจากแฮชแท็กนี้มักจะติดตามคุณกลับ อย่างไรก็ตาม แฮชแท็ก #FollowFridays อาจจะกลายเป็นแฟชั่นที่ทุกคนใช้กัน และนักวิจารณ์เป็นจำนวนมากก็ไม่แน่ใจในความคุ้มค่าของการใช้แฮชแท็ก เพราะอาจจะกลายเป็นนิสัยการทวีตซ้ำๆ จนเหมือนเป็นสแปม (Spam) อย่างไรก็ตาม การรีทวีตเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุดในการดึงดูดผู้ติดตาม การรีทวีตเป็นการยืนยันข้อความของคนอื่นตามเวลาจริงและมักจะได้รับการติดตามเป็นผลตอบแทน
  5. ตรวจสอบคำตอบกลับจากผู้ติดตามที่ส่งถึงคุณโดยตรง. คลิกที่ '@Mentions' เพื่อดูว่ามีคนตอบกลับทวีตของคุณหรือไม่ เมื่อคุณทวีต การใช้ '@' ตามด้วยชื่อผู้ใช้ (ไม่ต้องเว้นวรรค) ในทวีตของคุณจะเป็นการกล่าวถึงผู้ใช้ที่คุณเลือก ยกตัวอย่างเช่น '@username' จะส่งคำกล่าวถึงไปยัง 'ผู้ใช้' และทวีตของคุณจะแสดงในส่วน '@mentions'
  6. ทวิตเตอร์เหมือนกับแอพพลิเคชั่นสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอาจจะกลายเป็น สิ่งเสพติด และทำให้เสียเวลาได้ ดังนั้น ให้ตัดสินใจก่อนว่าคุณจะใช้เวลาในการใช้งานนานแค่ไหน และ “กลุ่ม” ผู้ติดตามของคุณใหญ่มากแค่ไหน หลีกเลี่ยงการคิดแต่จะตามหาผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เพราะจะเป็นการแข่งขันมากกว่าการหาคนที่เกี่ยวข้องกับเรา แล้วคุณจะท้อแท้ ดังนั้น ให้มุ่งเน้นที่การตามหาสายสัมพันธ์ที่ดีและการแบ่งปันข้อมูล นอกจากนี้ อย่าอารมณ์เสียเมื่อมีคนเลิกติดตามคุณ เพราะคุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ถ้าคุณคิดว่าทวิตเตอร์ทำให้คุณรู้สึกอึดอัด ก็ให้หยุดพักและกลับมาใช้งานใหม่เมื่อคุณรู้สึกดีขึ้น
    • งานวิจัยเชิงสังคมวิทยาและมานุษยวิทยายืนยันว่าเราสามารถรับมือกับคนได้เพียง 150-200 คนเท่านั้น ถ้ามากกว่านั้น เราจะรู้สึกสับสนและเสียความใกล้ชิดกับคนอื่นๆ ไปด้วย ให้จำข้อนี้เอาไว้เสมอเมื่อคุณมีผู้ติดตามมากเกินไป
    • ลองศึกษาวิธีการหลีกเลี่ยงการเสพติดทวิตเตอร์และวิธีจัดการกับการเสพติดทวิตเตอร์เมื่อคุณต้องการ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ค้นหาและจัดการกับคนที่คุณติดตาม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณพบว่าคุณรู้จักผู้คนในทวิตเตอร์เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ทวิตเตอร์จะแนะนำผู้คนที่มีชื่อเสียงให้คุณติดตาม แต่ตัวเลือกนี้ไม่ได้บังคับคุณ ให้ใช้เมนูบนหน้าทวิตเตอร์ของคุณให้คลิกที่ 'ติดตามใครดี' (Who to Follow) และจะมีวิธีที่จะช่วยให้คุณค้นหาผู้คนบนทวิตเตอร์ดังต่อไปนี้:
    • ใช้ลิงก์ 'ค้นหาเพื่อน' (Find Friends) เพื่อหาผู้คนที่คุณรู้จักผ่านบัญชี Gmail, AOL, MSN, Hotmail และ Yahoo!
    • ใช้ลิงก์ 'ดูคำแนะนำ' (View suggestions) เพื่อค้นหาเพื่อนในมุมมองที่กว้างขึ้น ซึ่งอาจจะสัมพันธ์กับความสนใจของคุณหรือไม่ก็ได้ (ทวิตเตอร์ยังสามารถปรับเปลี่ยนผู้ติดตามที่แนะนำตามบุคคลได้ ดังนั้น ระวังคุณสมบัตินี้ให้ดีๆ)
    • ใช้แท็บ 'ค้นหาจากความสนใจ' (Browse Interests) เพื่อหาผู้คนตามความสนใจ
  2. มองหาผู้คนจากหน่วยงานที่คุณทำงานอยู่หรือคนที่มีความสนใจเหมือนกัน. มีธุรกิจ บริษัท ผู้มีชื่อเสียง และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรมากมายบนทวิตเตอร์ โดยมีตั้งแต่ Stephen Fry (@stephenfry) ไปจนถึง Greenpeace (@greenpeace)
  3. ถ้าคุณติดตามผู้คนเป็นจำนวนมาก การตรวจสอบทวีตทั้งหมดอาจจะทำได้ยาก คุณสามารถจัดระเบียบคนที่คุณติดตามเป็นรายชื่อเพื่อให้ค้นหาได้ง่าย ในการเพิ่มผู้คนในรายชื่อนั้น ให้ไปยังโปรไฟล์ของพวกเขา จากนั้น คลิกที่ไอคอนบนแถบเครื่องมือ แล้วเลือก "เพิ่มในรายชื่อ" (Add to List) แล้วจะมีเมนูรายชื่อของคุณแสดงขึ้นมา คุณสามารถเลือกที่จะสร้างรายชื่อใหม่หรือเพิ่มเข้าไปในรายชื่อที่มีอยู่แล้วได้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

เตรียมทำโปรไฟล์ของคุณ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. รูปโปรไฟล์จะแสดงคู่กับชื่อบนเว็บไซต์ ซึ่งอาจจะเป็นไฟล์นามสกุล JPG GIF หรือ PNG และจะต้องมีขนาดเล็กกว่า 700 KB ในการอัปโหลดนั้น คลิกที่ "ตั้งค่า" (Settings) บนเมนูใต้ชื่อผู้ใช้ของคุณ แล้วคลิกที่ "เลือกไฟล์" (Choose File) เพื่อเลือกไฟล์จากคอมพิวเตอร์
  2. ใต้รูปโปรไฟล์ของคุณ คุณจะมีตัวเลือกในการใส่ชื่อเต็ม การใส่ชื่อเต็มจะช่วยให้โปรไฟล์ของคุณดูเป็นมืออาชีพ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใส่ที่อยู่เพื่อให้ผู้คนรู้ว่าคุณกำลังทวีตจากที่ใด และใส่ลิงก์ไปยังหน้าของคุณหรือบล็อกได้คุณต้องการ
  3. พยายามเขียนประวัติให้น่าอ่านและน่าสนใจ ถ้าคุณสามารถเขียนได้อย่างเหมาะสม ประวัติจะช่วยให้คุณมีผู้ติดตามมากขึ้นได้ เพราะผู้คนที่คิดจะติดตามคุณจะอ่านประวัติส่วนนี้ก่อนเพื่อดูว่ามีเหตุผลมากพอที่จะติดตามคุณหรือไม่ แต่จำไว้ว่าคุณจะเขียนประวัติบนทวิตเตอร์ได้ไม่เกิน 160 ตัวอักษร ดังนั้น คุณจะต้องเขียนให้สั้นและตรงประเด็น อย่ากังวลเรื่องการใส่ชื่อเต็มและที่อยู่เว็บไซต์ในส่วนนี้ เพราะจะมีส่วนให้ใส่แยกออกมา (ตามที่ได้กล่าวไปในขั้นตอนก่อนหน้า)
  4. ตัดสินใจดูว่าคุณต้องการให้ทวีตโพสต์ลงเฟซบุ๊กหรือไม่. วิธีนี้จะช่วยให้ผู้คนเห็นทวีตของคุณมากขึ้น ถ้าคุณต้องการ ให้คลิกที่ปุ่ม "โพสต์ทวีตของคุณบนเฟซบุ๊ก" (Posts your Tweets to Facebook) บริเวณล่างสุดของหน้าทวีตของคุณ
  5. ใต้แท็ปตั้งค่า "บัญชี" (Account) คุณจะสามารถเปลี่ยนภาษาและเขตเวลาในการใช้งานทวิตเตอร์ได้ ทำได้ด้วยการเลือกภาษาและเขตเวลาที่ต้องการจากเมนู นอกจากนี้ คุณยังสามารถเปลี่ยนชื่อผู้ใช้และที่อยู่อีเมลได้ที่นี่
  6. กดเครื่องหมายถูกในกล่องหน้าแท็บความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเพื่อเพิ่มที่อยู่ของทวีตแต่ละอัน. ที่อยู่ในทวีตต่างกับที่อยู่ของโปรไฟล์ เพราะจะเป็นการกำหนดที่อยู่เฉพาะของแต่ละทวีต ซึ่งอาจจะเป็นที่อยู่ทั่วไป เช่น ในเมือง หรืออาจจะเป็นที่อยู่เฉพาะเลยก็ได้ แม้ว่าคุณจะเปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ คุณยังสามารถเปิดหรือปิดการกำหนดตำแหน่งในแต่ละทวีตของคุณได้ด้วยตัวเอง
  7. ตรวจทานการตั้งค่าสื่อและความเป็นส่วนตัวของทวีต. การตั้งค่าสื่อและความเป็นส่วนตัวของทวีตเป็นรายชื่ออยู่ใต้แท็บ "บัญชี" ในการตั้งค่า ตรวจสอบกล่องข้อความที่เขียนใหม่ได้แล้วกดบันทึก
  8. ปกป้องบัญชีของคุณด้วยการเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นช่วงๆ ในการเปลี่ยนรหัสผ่านั้น คลิกที่แท็บ "รหัสผ่าน" (Password) ในเมนูการตั้งค่า ใส่รหัสผ่านเก่าลงไป จากนั้นให้ใส่รหัสผ่านใหม่ 2 ครั้ง แล้วกด "บันทึกการเปลี่ยนแปลง" (Save change)
  9. ตัดสินใจดูว่าคุณต้องการรับอีเมลจากทวิตเตอร์ในช่วงใด. เปิดแท็บ "การแจ้งเตือนทางอีเมล" (Email notifications) ซึ่งจะเป็นรายการกิจกรรมของคุณในทวิตเตอร์ แล้วกดเครื่องหมายถึงที่ช่องถัดจากกิจกรรมที่คุณต้องการรับอีเมลแจ้งเตือน
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

การใช้คุณสมบัติอื่นๆ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การส่งข้อความโดยตรง (Direct message) หรือ "DM" เป็นข้อความที่ส่งถึงผู้คนที่ต้องการได้โดยตรง โดยคุณสมบัติ DM นั้นจะใช้ระบบข้อความเข้าและข้อความออก แต่ก็ยังจำกัดอยู่ที่ 280 ตัวอักษร และคุณก็ยังถูกจำกัดการส่งข้อความไปยังคนที่ติดตามคุณอีกด้วย ระบบ DM จะเห็นได้เฉพาะคุณและคนที่คุณเลือกให้เห็นเท่านั้น ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง ในการส่ง DM นั้น ให้ไปยังหน้าของผู้ติดตามที่คุณต้องการส่งข้อความ แล้วคลิกที่กล่อง "ข้อความ" (Message)
    • จำไว้ว่าบางคนก็ไม่ชอบระบบ DM ในทวิตเตอร์ เพราะพวกเขาคิดว่าทวิตเตอร์เป็นบทสนทนาแบบเปิดเผยและรวดเร็ว ไม่ใช่ที่ในการคุยกับใครเป็นการส่วนตัว นอกจากนี้ คนส่วนใหญ่ยังไม่ชอบ DM ที่มีเนื้อหาในแง่การตลาดและการโฆษณา
  2. 2
    ใช้แอพพลิเคชั่นจากบุคคลที่สามเพื่อแบ่งปันข้อมูลและใช้งานได้ง่าย. แอพพลิเคชั่นจากบุคคลที่สาม เช่น TweetDeck และ Twitter for iPhone (iPhone/iPod Touch/iPad) หรือ Twidroid (Android) สามารถช่วยคุณจัดการกับบัญชีทวิตเตอร์ได้ดียิ่งขึ้น ถ้าคุณมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากและถ้าคุณติดตามผู้คนเป็นจำนวนมาก การตรวจสอบทุกอย่างในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ก็อาจทำได้ยาก คุณอาจจะต้องใช้โปรแกรมที่ขั้นสูงขึ้นไปอีก เช่น Hootsuite
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าคุณคิดถึงเรื่องความเป็นส่วนตัง ทวิตเตอร์ก็มีตัวเลือกที่ช่วยให้ทวีตของคุณมองเห็นได้สำหรับคนที่คุณอนุมัติไปแล้วเท่านั้น สามารถตั้งค่าได้ที่ ตั้งค่า > บัญชี > ความเป็นส่วนตัวของทวิต (Settings > Account > Tweet Privacy)
  • การใช้แฮชแท็กเป็นจำนวนมากจะช่วยเพิ่มจำนวนคนดูทวีตของคุณ ดังนั้น ใช้แฮชแท็ก (อย่างมีเหตุผล) ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในทวีตของคุณแต่ไม่ถึงกับใช้ทุกคำ การทำแบบนี้จะช่วยให้ข้อความของคุณถูกค้นหาและเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น
  • ใช้ประเด็นที่เป็นกระแสเพื่อให้ผู้คนมาดูทวีตของคุณมากยิ่งขึ้น
  • ตัวย่อที่อยู่เว็บไซต์ (URL shorteners) เป็นตัวช่วยที่คุณจะหลงรักในฐานะผู้ใช้ทวิตเตอร์ เพราะจะช่วยย่อที่อยู่เว็บไซต์ยาวๆ ให้สั้นลงพอที่จะเขียนได้ภายใน 280 ตัวอักษร
  • เข้าชมเว็บไซต์ที่คุณเข้าบ่อยผ่านบัญชีทวิตเตอร์ วิธีนี้จะช่วยให้จักรวาลของผู้ใช้ทวิตเตอร์ (Twitterverse) ของคุณได้รับความนิยม และช่วยดึงดูดผู้คนที่มีแนวคิดและความคิดที่คุณสนใจ
  • ถ้าคุณกำลังมองหาผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ให้มองหาจุดเด่นของบัญชีทวิตเตอร์ของคุณ ทวิตเกี่ยวกับการเมือง แฟชั่น หรือเรื่องที่คุณสนใจ
  • เปลี่ยนรหัสผ่านทวิตเตอร์บ่อยๆ เพื่อปกป้องบัญชีของคุณ
  • คอยทวีตไฟล์สื่อ เช่น รูปภาพหรือวีดิโอ เพื่อให้ความบันเทิงแก่ผู้ติดตาม
  • พยายามใช้ทวีตเป็นในการสื่อความหมายเพียงทวีตเดียวในการสื่อสารแต่ละครั้ง ถ้าต้องใช้หลายทวีตในการเขียน ก็ควรย่อให้เขียนได้ภายในทวีตเดียว
  • ถ้าคุณมีสมาร์ทโฟน ดาวน์โหลดทวิตเตอร์เพื่อให้คุณสามารถใช้งานที่ใดก็ได้
โฆษณา

คำเตือน

  • เช่นเดียวกับเครือข่ายสังคมออนไลน์อื่นๆ ให้ระวังการแบ่งปันข้อมูลกับคนอื่นอยู่เสมอ อย่าเขียนเรื่องส่วนตัวมากเกินไป
  • การทวีตที่มากเกินไป (เช่น ทวีตมากกว่า 100 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 1000 ครั้งต่อวัน) อาจทำให้คุณอยู่ใน "คุกทวิตเตอร์" เป็นเวลา 2-3 ชั่วโมงได้ เมื่อคุณอยู่ในคุกทวิตเตอร์ คุณจะเข้าใช้งานได้ตามปกติ แต่จะทวีตอะไรไม่ได้เลย
  • อย่าเข้าใช้งานทวิตเตอร์กับเว็บไซต์ที่เป็นสแปม เพราะบัญชีของคุณอาจจะถูกบล็อกได้
  • การละเมิดข้อตกลงการใช้งานทวิตเตอร์จะทำให้บัญชีของคุณถูกระงับการใช้งาน การโพสต์เนื้อหาที่สุ่มเสี่ยงและละเมิดผู้อื่นอาจจะทำให้คุณถูกชาโดวแบน (Shadowbanned) ได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 32,364 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา