PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

หลังจากที่คุณเพิ่งเลิกรากับคนรักเก่า เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณจะคิดเปิดรับใครสักคนเข้ามาในชีวิตโดยเร็ว แต่อีกนานเท่าไหร่ที่คุณจะต้องรอกับการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ และหากไม่มีการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน คุณคงสงสัยว่ามีเหตุผลใดที่ทำให้คุณไม่สามารถกลับมามีความรักอีกครั้งได้ในทันที ในบทความนี้เราจะมาแชร์คำแนะนำดีๆ จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อไขข้อสงสัยว่าควรรอนานเท่าไหร่ก่อนที่คุณจะกลับมาคบหาดูใจกับใครสักคนอีกครั้ง พร้อมรวบรวมสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณพร้อมจะมูฟออนจากความรักครั้งเก่าแล้ว

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

แนวทางทั่วไปในการก้าวผ่านความเสียใจหลังการเลิกรา

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. รออย่างน้อย 3 เดือนก่อนเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่. ไม่มีสูตรคำนวณใดที่จะบอกคุณได้ว่าคุณควรรอนานแค่ไหน [1] อย่างไรก็ตาม หลายๆ คนต้องใช้เวลาทำใจสักพักหลังการเลิกรากับคนรักเก่า ดังนั้นลองให้เวลาตัวเองสัก 2-3 เดือนในการเยียวยาแผลใจและก้าวผ่านความเจ็บปวดจากความรักครั้งเก่าที่ไม่สมหวัง
    • หากคุณเลิกรากับคนรักเก่าที่คบกันมานาน คุณอาจต้องใช้เวลานานมากขึ้นในการทำใจ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคนเราจะใช้เวลาราว 6 เดือนถึง 1 ปีในการทำใจเมื่อยุติความสัมพันธ์ที่ยาวนานเป็นปี
    • ไม่มีปัญหาหากคุณรู้สึกว่าต้องการเวลามากกว่านั้น แต่ละคนย่อมมีความรู้สึกที่แตกต่างกันไป และคุณไม่จำเป็นต้องรีบร้อนไม่ว่าจะเรื่องใดๆ ถ้ายังไม่พร้อม
  2. ทำใจไว้ว่าคุณอาจต้องใช้เวลานานกว่านี้หากความรู้สึกที่มีต่อคนรักเก่ามีความลึกซึ้ง. การเลิกรากับใครคนหนึ่งอาจสร้างความเจ็บปวดให้กับคุณมากกว่าครั้งที่ผ่านมา หากคุณกับคนรักเก่าระหองระแหงกันมาแล้วสักพัก คุณอาจไม่ต้องการเวลามากนักในการทำใจหลังการเลิกรา ในทางกลับกัน หากคุณเพิ่งอกหักจากคนที่คุณรักหมดใจ มันก็สมเหตุสมผลที่คุณจะเสียใจกับการเลิกราครั้งนี้ไปอีกนาน ก่อนที่คุณจะเปิดรับใครสักคนเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง ลองถามตัวเองว่าการเลิกราครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของคุณมากน้อยแค่ไหน [3]
    • ระยะเวลาในการทำใจของคุณยังอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น การจบความสัมพันธ์ระยะไกลอาจทำให้คุณมูฟออนได้ง่ายกว่าการเลิกรากับคนรักที่อยู่ใกล้กันตลอด [3]
  3. ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเสียใจกับความผิดหวังในสัมพันธ์ครั้งก่อนสักพัก. การเร่งเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่โดยเร็วอาจทำให้คุณรับมือกับความเจ็บปวดจากการเลิกราได้ยากขึ้นในท้ายที่สุด [5] แต่ละคนต่างมีวิธีจัดการกับความรู้สึกเศร้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหลายคนเลือกจัดการกับความเศร้าที่เกิดขึ้นด้วยวิธีการเหล่านี้: [5]
    • ปล่อยให้ตัวเองได้โมโหกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังการเลิกรากับคนรักเก่า เป็นเรื่องปกติที่อารมณ์ต่างๆ จะหลั่งไหลเข้ามาในคราวเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นความเศร้า ความโกรธ ความผิดหวัง ความรู้สึกผิด ความสับสน หรือความงงงวย ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้อาจมาๆ หายๆ ไปอีกสักพัก
    • ดูแลตัวเองให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้เวลาอยู่กับเพื่อนหรือครอบครัว นอนหลับให้เพียงพอ ทานอาหารอร่อยๆ ทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ หรือทำงานบ้านที่ต้องรับผิดชอบในแต่ละวัน
    • สร้างกิจวัตรใหม่ๆ ในชีวิตประจำวันของคุณ
    • ขอกำลังใจจากคนรอบข้างเมื่อคุณรู้สึกแย่ หรือหากคุณไม่มีเพื่อนหรือคนในครอบครัวที่คอยรับฟังหรือให้คำปรึกษา ลองพูดคุยกับผู้ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตหรือเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนผู้ที่ผิดหวังในความรัก
  4. ทบทวนดูว่าทำไมความสัมพันธ์ครั้งก่อนจึงไม่สมหวัง. การเรียนรู้จากประสบการณ์ความรักที่ผ่านมาสามารถช่วยให้ความสัมพันธ์ครั้งต่อไปแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นก่อนที่คุณจะเปิดรับคนใหม่เข้ามาในชีวิตอีกครั้ง ลองใช้เวลาคิดทบทวนดูว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณกับคนรักเก่าเลิกรากัน [7] คุณอาจลองถามตัวเองว่า “เราเรียนรู้อะไรได้บ้างจากสิ่งที่เกิดขึ้น” หรือ “เราจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้หลังจบความสัมพันธ์มาสร้างความมั่นคงให้กับความสัมพันธ์ครั้งต่อไปได้อย่างไรบ้าง”
    • ลองนึกดูว่ามีสิ่งใดบ้างที่คุณได้ทำผิดพลาดไปและคุณจะแก้ไขมันอย่างไรได้บ้างในครั้งต่อไป ยกตัวอย่างเช่น คุณควรเปิดใจคุยกับคนรักมากขึ้นหรือเข้าใจความรู้สึกของคนรักมากกว่านี้หรือไม่ [7]
    • และอย่าลืมพิจารณาถึงบทบาทการเป็นคนรักในส่วนของคนรักเก่าด้วยเช่นกันว่ามีสัญญาณอันตรายใดๆ ที่คุณอาจมองข้ามไปหรือไม่ เช่น การกระทำที่ไม่ซื่อสัตย์หรือพฤติกรรมจอมบงการ จงจำไว้เพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าควรระวังอะไรในความสัมพันธ์ครั้งต่อไป
    • คุณอาจต้องการเวลาสักพักก่อนที่คุณจะพร้อมปล่อยวางความสัมพันธ์ที่จบลงและมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นเหตุเป็นผล และเมื่อไรก็ตามที่คุณสามารถมองย้อนกลับไปถึงความสัมพันธ์ครั้งก่อนได้โดยไม่มีอคติ คุณก็จะมีสภาวะจิตใจที่สมบูรณ์และพร้อมที่จะเปิดรับใครสักคนเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง
  5. คุณอาจต้องการเวลาในการฟื้นฟูสภาพจิตใจตัวเองหลังจากที่เพิ่งเลิกรากับคนรักเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังพยายามมูฟออนจากความสัมพันธ์ที่ยาวนานหลายปี ใช้เวลาเหล่านี้ในการทำสิ่งต่างๆ ที่คุณสนใจและสนุกกับมันโดยที่ไม่ต้องกังวลกับความคิดหรือความรู้สึกของคนอื่น ซึ่งนี่จะช่วยให้คุณสร้างความมั่นใจในตัวเองและเรียนรู้ที่จะเข้าใจและเคารพตัวเองมากขึ้น เป็นการเตรียมตัวเองให้พร้อมขึ้นสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ครั้งใหม่ในอนาคต [8] คุณอาจลองทำกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่น:
    • ทำอาหารจานโปรดโดยไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะชอบรสชาติอย่างไร
    • เปลี่ยนไปดูรายการทีวีที่คุณชื่นชอบแทนรายการเดิมที่คุณกับคนรักเก่าเคยดูด้วยกัน
    • ทำงานอดิเรกที่คุณไม่มีเวลาทำตอนที่คบกับคนรักเก่า
    • ทำกิจกรรมที่คุณชอบแต่คนรักเก่าไม่ได้สนใจมากนัก เช่น เดินป่า เล่นวิดีโอเกม เที่ยวเดินดูของตามร้านไปเรื่อยๆ หรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์
  6. กำหนดความคาดหวังในความสัมพันธ์ครั้งใหม่ให้ชัดเจน. หากคุณรู้อย่างชัดเจนถึงสิ่งที่คุณต้องการในตัวคนรักใหม่ มันก็ง่ายขึ้นสำหรับคุณที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่อบอุ่นและเติมเต็มซึ่งกันและกันระหว่างคุณกับคนรัก ก่อนที่คุณจะกลับมาคบกับใครสักคนอีกครั้ง ลองถามตัวเองว่าคุณกำลังมองหาอะไรในความสัมพันธ์ครั้งใหม่และต้องการกำหนดขอบเขตในความสัมพันธ์อย่างไรบ้าง อย่ากลัวที่จะพูดถึงความต้องการและเป้าหมายในความสัมพันธ์กับคนที่คุณกำลังคุยอยู่ในช่วงที่คุณทั้งสองคนกำลังพยายามทำความรู้จักกันมากขึ้น [10]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจกำหนดไว้ว่าคุณทั้งสองคนจะใช้เวลาบางช่วงร่วมกันในทุกๆ สัปดาห์ หรือจะจับมือเพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ติดขัดในความสัมพันธ์ (เช่น การสื่อสารหรือการแสดงความรักทางกาย)
    • อย่าลืมนึกถึงข้อจำกัดและขอบเขตในความสัมพันธ์ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจบอกให้คนรักใหม่รู้ว่าคุณคาดหวังให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้พิเศษกว่าที่ผ่านมา หรือคุณต้องการช่วงเวลาที่อยู่คนเดียวบ้างในแต่ละวัน
  7. ปล่อยให้ลูกๆ ใช้เวลาจมอยู่กับรู้สึกเศร้าจากการเลิกราของพ่อแม่สักพัก. ปัญหาอาจซับซ้อนขึ้นหากคุณกับคนรักเก่ามีลูกด้วยกัน อย่างไรก็ตาม การคำนึงถึงความรู้สึกของพวกเขาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็กแนะนำว่าหลังจากเลิกรากันแล้ว พ่อหรือแม่ควรเว้นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือนก่อนเริ่มคบหาดูใจกับใครสักคนอีกครั้ง หากคุณพร้อมเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่เร็วกว่าที่ว่าไว้ก็ไม่ได้เป็นปัญหา แต่คุณอาจรอสักระยะหนึ่งก่อนเปิดตัวคนรักใหม่ให้รู้จักกับลูกของคุณ [10]
    • ลูกของคุณอาจไม่ยินดีที่คุณคบหาดูใจกับคนรักใหม่ และนั่นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันสำคัญที่เด็กๆ จะต้องมองความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของพ่อหรือแม่บนพื้นฐานความเป็นจริง
    • ลองพูดคุยกับเขาทำนองว่า “พ่อเข้าใจดีว่าลูกอาจทำใจยอมรับเรื่องนี้ได้ยาก แต่ลูกจะต้องเข้าใจว่าแม่ของลูกกับพ่อคงไม่มีโอกาสได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกแล้ว แต่แม้ว่าพ่อจะมีคนรักใหม่ แต่แม่ของลูกก็ยังคงเป็นแม่ของลูกตลอดไป”
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

สัญญาณที่บอกว่าคุณพร้อมแล้วกับการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ประเมินว่าคุณตื่นเต้นกับการกลับมามีความรักอีกครั้งมากน้อยเพียงใด. หากคุณไม่สามารถหยุดคิดถึงเรื่องการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ได้ คุณอาจพร้อมแล้วที่จะเปิดรับใครสักคนเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง ลองนึกภาพในใจว่าตัวเองกำลังคบหาดูใจกับคนรักใหม่ และประเมินดูว่าความคิด ความรู้สึก และการตอบสนองทางร่างกายของคุณเป็นอย่างไร หากคุณรู้สึกตื่นเต้นและยินดี นั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณพร้อมแล้วกับการเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ ในทางกลับกัน คุณอาจต้องการเวลามากกว่านี้หากความคิดที่จะกลับมาคบหาดูใจกับใครสักคนอีกครั้งทำให้คุณรู้สึกเครียดและเป็นกังวล [11]
    • ไม่มีปัญหาหากคุณยังไม่มีความคิดริเริ่มที่จะเริ่มต้นความรักครั้งใหม่โดยทันทีแม้ว่าคุณจะเลิกรากับคนรักเก่ามาแล้วสักพัก คุณสามารถใช้ช่วงเวลานี้อยู่กับตัวเองสักพักและสนุกกับชีวิตโสดโดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับใคร
  2. หลังจากเลิกรากันแล้ว ความรู้สึกต่อคนรักเก่าอาจยังคงหลงเหลืออยู่ในใจของคุณไปอีกสักระยะหนึ่ง หากคุณยังคงรู้สึกเศร้า โกรธ หรือเจ็บปวดทุกครั้งที่คิดถึงคนรักเก่า คุณอาจต้องการเวลาอีกสักพักในการฟื้นฟูสภาพจิตใจจากความสัมพันธ์ที่จบลง เมื่อไรก็ตามที่คุณสามารถปล่อยวางความสัมพันธ์ครั้งก่อนและทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณก้าวผ่านความผิดหวังจากความรักครั้งก่อนได้แล้ว [12]
    • เมื่อนึกถึงคนใหม่ ลองสังเกตดูว่าคุณเปรียบเทียบเขาหรือเธอกับคนรักเก่าบ้างหรือไม่ หากคุณสามารถมุ่งความสนใจไปที่ตัวคนใหม่ได้โดยที่ไม่มีเรื่องของคนรักเก่าผ่านเข้ามาในความคิดอีก แสดงว่าคุณพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่อีกครั้ง [13]
  3. คิดหาเหตุผลที่ทำให้คุณอยากกลับมามีความรักอีกครั้ง. คุณอาจตัดสินใจคบหาดูใจกับใครสักคนเพราะคุณทั้งสองคนพูดคุยกันถูกคอ หรือพร้อมเปิดรับใครสักคนเข้ามาในชีวิตอีกครั้งเมื่อคุณตื่นเต้นยินดีกับการพบปะและพูดคุยกับคนใหม่ๆ ในทางกลับกัน คุณอาจต้องการเวลาอีกสักพักหากการที่คุณกลับมาคบหาดูใจกับใครสักคนอีกครั้งเป็นเพียงเพราะความรู้สึกที่คุณมีต่อความสัมพันธ์ครั้งก่อนหรือการเลิกรากับคนรักเก่า ดังนั้นลองตั้งคำถามกับตัวเองอย่างเช่น: [14]
    • “เราแค่กำลังพยายามทำให้คนเก่าหึงอยู่หรือเปล่า”
    • “เราอยากคบกับคนนี้เพราะชอบเขาจริงๆ หรือเพียงแค่ต้องการใครสักคนมาทำให้ตัวเองรู้สึกว่าเป็นที่รักและที่ต้องการอีกครั้งกันแน่”
    • “เราอยากกลับมาคบใครสักคนจริงๆ หรือแค่ลองคุยกับเขาเพราะเรารู้สึกเหงาและต้องการให้ใครสักคนมาแทนความว่างเปล่าที่คนเก่าทิ้งเอาไว้กันแน่”
  4. ลองถามตัวเองว่าคุณมั่นใจในตัวเองมากพอหรือยัง. ความรู้สึกดีต่อตัวเองเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่อีกครั้ง เป็นเรื่องปกติที่คุณจะรู้สึกแย่กับตัวเองหลังจากเลิกรากับใครสักคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณโทษตัวเองกับความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว ดังนั้นก่อนที่คุณจะเปิดรับใครสักคนเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง อย่าลืมเรียกความมั่นใจของคุณให้กลับมาเสียก่อน เพราะความมั่นใจในตัวเองถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีและน่าพึงพอใจระหว่างคุณกับคนรักใหม่ในอนาคต [15] แต่หากคุณยังคงมีความรู้สึกด้านลบกับตัวเองก็ไม่เป็นไร มีหลายสิ่งที่คุณสามารถลงมือทำเพื่อ เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง ได้ดังนี้:
    • ฝึกการเจริญเมตตาภาวนาในทุกๆ วัน [16]
    • เขียนรายการสิ่งที่คุณทำสำเร็จหรือสิ่งที่คุณชอบในตัวเอง [17]
    • ตั้งเป้าหมายที่สมเหตุสมผลและทำได้จริงให้กับตัวเองแล้วไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้
    • ลองทำงานอดิเรกที่ไม่เคยทำมาก่อนหรือเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ
    • ทำสิ่งที่คุณรู้สึกว่ามีคุณค่าและช่วยเติมเต็มชีวิตของคุณมากขึ้น เช่น การเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือผู้คนในชุมชน
  5. มองหาคนที่พร้อมอยู่เคียงข้างคุณเสมอในยามที่คุณทุกข์. การเลิกรากับคนรักเก่าอาจทำให้คุณรู้สึกโดดเดี่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณแทบไม่มีใครที่จะคอยอยู่เคียงข้างคุณ การก้าวผ่านความเสียใจหลังการเลิกราจะทำได้ง่ายขึ้นหากคุณมีเพื่อนหรือคนในครอบครัวคอยรับฟังทุกปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตของคุณ แต่หากคุณไม่มีใครสักคนในชีวิตที่ไว้วางใจได้และคอยให้พึ่งพิง ลองใช้เวลาสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาเหล่านั้นก่อนจะเปิดรับใครสักคนเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง [18]
    • กลุ่มสนับสนุนสำหรับผู้ที่กำลังเผชิญกับการเลิกรากับคนรักหรือปัญหาความสัมพันธ์เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้คุณได้พบปะผู้คนใหม่ๆ ที่พร้อมเข้าใจปัญหาที่คุณกำลังเผชิญ
    • การมองหากิจกรรมทางสังคมทำสักอย่างเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้คุณได้สร้างความสัมพันธ์กับผู้คนใหม่ๆ ลองเข้าร่วมชมรม กลุ่มกิจกรรม หรือคลาสเรียนที่คุณชื่นชอบใกล้บ้านคุณ
    • การมีเพื่อนดีๆ อยู่เคียงข้างไม่เพียงช่วยเรียกความมั่นใจของคุณให้กลับคืนมาได้เท่านั้น แต่คุณยังมีคนที่คอยรับฟังและสนับสนุนคุณอยู่เสมอไม่ว่าคุณจะผิดหวังในความรักอีกกี่ครั้งก็ตาม
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ระมัดระวังในเรื่องของการมีความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดหรือความสัมพันธ์แบบข้ามคืนทันทีหลังจากที่เพิ่งเลิกรากับคนรักเก่า เพราะแม้แต่ความสัมพันธ์ระยะสั้นก็สามารถก่อให้เกิดความยุ่งยากซับซ้อนขึ้นได้ ซึ่งหากคุณยังคงรู้สึกสับสนหลังการเลิกรา คุณคงไม่อยากให้มีปัญหาอื่นๆ เข้ามาสร้างความวุ่นวายใจเพิ่มขึ้นอีก [19]
  • แต่ละคนใช้เวลาไม่เท่ากันในการจัดการกับความเศร้าโศก และบางคนอาจพร้อมที่จะเปิดรับคนรักใหม่เข้ามาในชีวิตเร็วกว่าคนอื่นๆ [20] แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านความรักส่วนใหญ่จะแนะนำให้ทิ้งช่วงไปสักระยะหนึ่งก่อนที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ แต่นั่นเป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้นและไม่ใช่ข้อบังคับที่ต้องทำตาม จงเชื่อในสัญชาตญาณตัวเองและทำในสิ่งที่คุณสบายใจ
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

  1. https://www.nbcnews.com/better/lifestyle/how-mourn-breakup-so-you-can-truly-move-ncna1034181
  2. Sarah Schewitz, PsyD. นักจิตวิทยาคลินิก. การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ. 15 เมษายน 2019.
  3. https://www.nbcnews.com/better/lifestyle/how-mourn-breakup-so-you-can-truly-move-ncna1034181
  4. Sarah Schewitz, PsyD. นักจิตวิทยาคลินิก. การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ. 15 เมษายน 2019.
  5. https://health.clevelandclinic.org/grieving-after-a-break-up-6-strategies-to-help-you-heal/
  6. Sarah Schewitz, PsyD. นักจิตวิทยาคลินิก. การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ. 15 เมษายน 2019.
  7. https://www.psychologytoday.com/us/blog/lifetime-connections/201912/after-breakup-when-should-you-begin-dating-again
  8. https://www.nbcnews.com/better/lifestyle/how-mourn-breakup-so-you-can-truly-move-ncna1034181
  9. Sarah Schewitz, PsyD. นักจิตวิทยาคลินิก. การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ. 15 เมษายน 2019.

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 752 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา